แม้ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงชะลอตัว แต่ทว่าการจัดงานเทศกาลแห่งศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี และธรรมชาติ ของแบรนด์ไทย อย่าง 'Wonderfruit 2025' ที่ครบรอบ 10 ปีในปีนี้ มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด และยังคงมีนักท่องเที่ยวจาก 140 ประเทศทั่วโลกเดินทางมาร่วมงาน ระหว่าง 11-15 ธันวาคม 2568 ณ The Fields ณ สยาม คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 10% หรือคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 27,500 คน

Wonderfruit (วันเดอร์ฟรุ๊ต) เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม ศิลปะ ดนตรี และธรรมชาติ ประจำปีของประเทศไทย ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยในปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 10 ปี ที่งานจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และมีไฮไลต์ที่โดดเด่นต่างๆ มาดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจาก 140 ประเทศทั่วโลกให้มาร่วมงานกัน ระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคม 2568 ณ The Fields ณ สยาม คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี กันเหมือนเช่นเคย

นอกเหนือจากการจัดงานที่ยังคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องการค้นหาความหมายของ จิตใจ (Mind) ธรรมชาติ (Nature) และ เสียง (Sound) ผ่านความคิดสร้างสรรค์และความเป็นมนุษย์ ให้ผู้เข้าร่วมงานและศิลปินได้ค้นพบวัฒนธรรมและแนวคิดใหม่ๆ ที่น่าสนใจแล้ว

การจัดแสดงดนตรียังคงอัดแน่นมาแบบจัดเต็มด้วย 40 เวทีสุดอลังการ นับตั้งแต่โรงละครธรรมชาติไปจนถึงฟลอร์เต้นรำลับในป่า ได้แก่ เวทีสุดฮิตอย่าง The Quarry, Forbidden Fruit, Solar Village, Enfold โดยในส่วนของเวที Living Village จะมีการขยายให้ใหญ่ขึ้นรองรับได้มากกว่า 2,000 คน พร้อมด้วยแนวดนตรีอันหลากหลาย จากศิลปินชื่อดังอย่าง FKJ, Kerala Dust, Colleen ‘Cosmo’ Murphy, Hatis Noit & Orly Anan, múm, Shubostar, A Guy Called Gerald, Pearson Sound, Tristan Perich & ensemble 0, Vanishing Twin, Dawn of Midi, DOTT, JPBS x DuckUnit, Red-i, Minyo Crusaders และอีกมากมาย

นอกจากนี้ Wonderfruit ยังได้เปิดตัวเวทีใหม่ล่าสุดอย่าง Baan Bardo ที่ออกแบบโดย วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ ซึ่งมาพร้อมไอเดียกับเขาวงกตที่เคลื่อนไหวได้ และการคัดสรรศิลปินแบบ Multi-dimensional จาก ROVR, Dhyana และ Erased Tapes เป็นต้น

พีท-ประณิธาน พรประภา ผู้ก่อตั้ง Wonderfruit กล่าวถึงการจัดงานครบรอบ 10 ปีในครั้งนี้ว่า Wonderfruit กำลังจะก้าวไปไกลกว่าการเป็นงานเทศกาลที่จัดปีละครั้ง แต่จะกลายเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ตลอดทั้งปี เรากำลังพัฒนา The Fields ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ การทดลอง และระบบหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชผักด้วยตัวเอง การฟื้นฟูพื้นที่ธรรมชาติ และการเป็นเจ้าภาพจัดงานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับ จิตใจ ธรรมชาติ และ เสียง ได้อย่างแท้จริง

"ประเทศไทยเรามีศิลปะ วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่หลากหลายและโดดเด่น ถือเป็นสิ่งดึงดูดใจและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยก็ชื่นชอบมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศิลปะแขนงต่างๆ ดนตรีหมอลำ ต่อเนื่องไปถึงอาหาร ซึ่งในปีนี้เราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจาก 140 ประเทศทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย ยุโรป และอเมริกา เดินทางมาร่วมงานเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีอยู่ 25,000 คน หรือคิดเป็นจำนวนผู้เข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นเป็น 27,500 คน ในปีนี้ ขณะที่สัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานยังคงเป็นต่างชาติมากกว่าในอัตรา 70% และไทย 30%"

ทั้งนี้ ภายในพื้นที่จัดงานที่มีขนาดใหญ่กว่า 500 ไร่ ยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมด้าน Wellness ช่วยเสริมสุขภาพกาย-ใจให้ดียิ่งขึ้น กิจกรรมบันเทิงจากศิลปินนานาชาติ นักดนตรีจากทั่วภูมิภาคของไทย หรือแม้แต่ตำนานหมอลำอย่าง รุ่งฟ้า กุลาชัย และ Paradise Bangkok MolamInternational Band รวมถึงกิจกรรมเวิร์กช็อป ทอล์ก และการเรียนรู้ในหัวข้อที่หลากหลาย โดยทุกกิจกรรมจะจัดขึ้นในพื้นที่ธรรมชาติ ในสถานที่ๆ ออกแบบด้วยคอนเซปต์ต่างๆ โดยคำนึงถึงแนวคิดการหมุนเวียนและความยั่งยืนในทุกรายละเอียด

สำหรับเรื่องของอาหาร ปีนี้ Wonder Kitchen จะกลับมาพร้อมที่นั่งกว่า 120 ที่นั่ง มีตั้งแต่คอร์สเมนูจากเชฟหญิงล้วนไปจนถึงเชฟระดับมิชลินสตาร์ นำโดยเชฟชื่อดังจากร้าน Haoma (ฮาโอม่า) ที่ได้รับดาวมิชลินและมิชลินกรีนสตาร์ พร้อมประสบการณ์อาหารเมดิเตอร์เรเนียน-ไทย ฟิวชั่น โดย Modern Biology x Electric Sheep ที่จะมานำเสนออาหารไทยแบบ Comfort food ที่ผสานกับความถี่ของเสียง

Lady GooGoo กับการมาเปิดตัว Ma’s Kitchen ครั้งแรกที่ชั้นบนของ Open Kitchen เสิร์ฟอาหารพม่าต้นตำรับ พร้อมวิวที่สวยที่สุดใน The Fields ส่วนในชั้นล่าง Pa Chan’s Life’s Market ก็จะมาพร้อมอาหาร งานฝีมือ และเวิร์กช็อปการทำอาหารจาก 5 ภูมิภาคของไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเกษตรและวัฒนธรรมท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของงาน Wonderfruit ในปีนี้ มีการเพิ่มประเภทบัตรเพื่อรองรับผู้คนทุกกลุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว เยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 25 ปี และผู้เข้าร่วมงานครั้งแรก เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึง Wonderfruit 2025 ได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อบัตรได้ในรอบต่อไป โดยจะมีการเปิดขายเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 2-4 กันยายน 2568 เวลา 18.00 น. หรือ ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wonderfruit.co

ภาพ : Wonderfruit

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ท่องเที่ยวไทยเจอศึกหนัก แต่ยังไปต่อได้! ‘เที่ยวเชิงสุขภาพ’ กับ ‘เที่ยวในประเทศ’ คือโอกาสสำคัญในการพลิกเกม

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine