Forbes Travel Guide 2022: เที่ยว พัก ทาน อย่างเหนือระดับ - Forbes Thailand

Forbes Travel Guide 2022: เที่ยว พัก ทาน อย่างเหนือระดับ

Forbes Travel Guide พร้อมเป็นเครื่องนำทางสำหรับผู้ต้องการการพักผ่อนที่เหนือระดับกว่าใคร เพราะการท่องเที่ยวเป็นประดุจการเติมพลังให้คุณก้าวเดินต่อไป

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง Forbes Travel Guide ก็อยากจะกรตุ้นให้คุณออกไปท่องโลกให้ไกลกว่าเคย

การเปิดประเทศที่โดนเลื่อนออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แผนการเดินทางที่ต้องปาทิ้งไป อีกทั้งงานสัมมนา และทริปเฉลิมฉลองที่อดไปเหล่านี้ทำให้ทางโรงแรมและรีสอร์ทมีเวลาปรับปรุงการบริการ แต่งเติมสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้าง จนไปถึงสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมให้กับแขกได้อย่างเหลือเฟือ

และเมื่อนักเดินทางทั้งหลายแวะกลับไปเยือนสถานที่โปรดของพวกเขา หรือเสาะหาสถานที่ใหม่ๆ ทาง Forbes Travel Guide ก็ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะ 2022 Star Awards ที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหารและสปาที่เหนือกว่าใครในโลก

Dolder Grand

สำหรับ Star Awards ครั้งที่ 64 ทาง Forbes Travel Guide เองก็ได้ไปเยี่ยมเยือนสถานที่ใหม่ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะคะแนรี กรีก อิบิซา และมอลตา โดยในบรรดาผู้ชนะเหล่านี้ มีโรงแรม 5 ดาวถึง 323 แห่ง โรงแรม 4 ดาวอีก 558 แห่ง และโรงแรมที่เราแนะนำอีก 401 แห่ง รวมถึงมีร้านอาหารระดับ 5 ดาว 74 แห่ง ร้านอาหาร 4 ดาว 112 แห่ง และร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำอีก 67 แห่ง อีกทั้งยังมีสปาระดับ 5 ดาว ถึง102 แห่ง และระดับ 4 ดาวอีก 193 แห่งทั่วโลกอีกด้วย

เพื่อค้นหาที่สุดแห่งความสุดยอด เหล่าผู้ตรวจการเครื่องแบบของ Forbes Travel Guide ได้เข้าพักในฐานะแขกธรรมดาๆ ตามโรงแรมต่างๆ เป็นเวลา 3 วัน 2 คืนด้วยกัน และทดสอบโรงแรมเหล่านั้นอย่างหฤโหดว่าสามารถผ่านเกณฑ์ทั้ง 900 ข้อของพวกเรา

ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานความหรูหราสุดโมเดิร์นอย่างการตกแต่งห้องให้หลับง่ายสบายกว่าที่อื่นหรือไม่ หรือตัวเลือกอาหารและเครื่องดื่มของทางโรงแรมเหล่านั้นดีต่อสุภาพหรือเปล่า จนไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกแสนธรรมดาอย่างคุณภาพของการตกแต่ง และมารยาทพนักงาน โดยร้อยละ 75 ของการให้คะแนนขึ้นอยู่กับการบริการ และอีกร้อยละ 25 ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวก

สามารถดูรายชื่อผู้ชนะ Star Awards ประจำปี 2022 ได้ที่นี้

จุดหมายปลายทาง 5 ดาวแห่งใหม่

มีจุดหมายปลายทางที่มีชื่อปรากฎ ณ ที่นี่เป็นครั้งแรกถึง 9 แห่งด้วยกัน โดย Madrid ก็ตบเท้าเข้ามาอย่างสวยงามด้วยสถานที่ระดับ 5 ดาว 2 แห่ง ซึ่งก็คือ Four Seasons Hotel Madrid โรงแรมที่คุณสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างอิ่มเอิบ ณ สปา 4 ชั้น และไปอิ่มอร่อยที่ Dani ร้านอาหารสไตล์ Andalusia ของเชฟคนดัง Dani Garcia

และ Bless Hotel Madrid ที่พึ่งปรับปรุงภายในให้เข้ากับบ้านชนชั้นสูงในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่รายล้อมตัวโรงแรมอยู่ อีกทั้งทาง Bless ก็ยังได้รางวัล 5 ดาวเป็นครั้งแรกสำหรับโรงแรมใน Ibiza ที่พร้อมให้คุณได้ลิ้มรสอาหารฝีมือ Martin Berasategui เชฟมากประสบการณ์ที่ร้าน Etxeko อีกด้วย

Katikies Mykonos

ในยุโรปยังมีโรงแรม 5 ดาวอีกมากมายทั้ง Hotel de Rome ใน Berlin แลนมาร์คสไตล์ Italian Renaissance ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงใน Bebelplatz และเมื่อข้ามมาที่ประเทศเนเธอแลนด์ก็จะพบกับ Waldorf Astoria Amsterdam โรงแรมซึ่งนำพระราชวังสมัยศตวรรษ 17-18 6 หลังมาเรียงรายกันริม Herengracht Canal อีกทั้งยังมีโรงแรมแนวบูทิคที่มาพร้อมห้องพักดีไซน์สุดแปลกตา 23 ห้อง อย่าง Iniala Harbour House ณ มอลตา อีกด้วย

ที่พลาดไม่ได้ในฝั่งยุโรปยังมี Katikies Mykonos โรงแรมสีขาวสะอาดตาให้คุณได้ชมวิวทะเลอันสวยงามของกรีก, Dolder Grand บนยอดเขา ณ เมือง Zurich ที่มาพร้อมวิวแบบพาโนรามาให้คุณได้ชมทั้งเมือง แม่น้ำ และเทือกเขา Alps ไปพร้อมๆ กัน

Halekulani Okinawa

ส่วนบนยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขา Amman ณ ประเทศจอร์แดนก็มีโรงแรมสีขาวสูง 15 ชั้นอย่าง Four Seasons Hotel Amman เจ้าของรางวัลเบอร์ 1 แห่งตะวันออกกลางตั้งตระหง่านอยู่

ในฝั่งเอเชีย โรงแรมริมหาดอย่าง Halekulani Okinawa ก็พร้อมให้คุณไปว่ายน้ำเล่นในสระว่ายน้ำที่ปูด้วยกระเบื้องโมเสกกว่า 1.5 ล้านแผ่นประกอบกันเป็นรูปดอกกล้วยไม้แคทลียาอันสวยงามจนได้รับรางวัลระดับพรีเมี่ยม

ท่องอเมริกา

ในฝั่งสหรัฐอเมริกา โรงแรมในเครือ Auberge Resorts Collection ก็ได้รางวัลระดับ 5 ดาวมาครองถึง 3 แห่งด้วยกัน ทั้ง  The Lodge at Blue Sky อันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการผจญภัยกว้าง 3,500 เอเคอร์ใกล้กับเมือง Park City รัฐ Utah, Madeline Hotel and Residences ที่พักสุดหรูหรา ณ เขา Telluride ที่พึ่งปรับปรุงใหม่ไปเมื่อปี 2021 และ White Barn Inn ที่พักแถบ New England สุดคลาสสิกที่มีร้านอาหาร 5 ดาวครองใจสายชิมทั้งหลาย ณ เมือง Kennebunkport รัฐ Maine

ทางรัฐ Massachusetts เองก็มีรีสอร์ทที่คว้ารางวัลไว้เช่นกัน โดย Encore Boston Harbor นั้น นับเป็นรีสอร์ทการพนันนอกเมือง Las Vegas ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ที่ได้รับคะแนนสูงเช่นนี้ อีกทั้งยังมี Four Seasons Hotel One Dalton Street, Boston โรงแรมบนตึกสูงเฉียดฟ้าสุดทันสมัยบริเวณ Back Bay และ Chatham Inn ที่พักสุดแสนน่ารัก 18 ห้องให้คุณได้ไปหลบซ่อนจากความวุ่นวายที่ Cape Cod

ห้องพัก ณ The Chanler at Cliff Walk

ส่วนผู้ชนะฝั่ง East Coast มีทั้ง The Towers at Lotte New York Palace โรงแรมเอ็กซ์คลูซีฟที่อยู่ในโรงแรมอีกทีบริเวณ Midtown Manhattan และ The Chanler at Cliff Walk คฤหาสน์สไตล์ยุค Gilded Age ริมน้ำ เมือง Newport รัฐ Rhode Island

Rosewood Miramar Beach ที่มาพร้อมกับ สปาระดับ 5 ดาวแห่งเดียวในเมือง Santa Barbara และตั้งอยู่แนวชายฝั่งเมือง Montecito รัฐ California ก็เป็นโรงแรมหน้าใหม่ในทำเนียบ Star Awards ของ FTG และเมื่อข้ามมายัง Hawaii ก็จะพบกับ Espacio Waikiki สุดหรูที่แต่ละชั้นของโรงแรมจะมีห้องพักเพียงห้องเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังมีบัทเลอร์ให้บริการตลอดเวลาอีกด้วย

โบกมืออำลาสหรัฐฯ และข้ามมายังเมือง Toronto ก็จะพบกับ Hazelton Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมอิสระแนวบูติกโรงแรมแรกในแคนาดาที่ได้รางวัลระดับ 5 ดาว ส่วนในเม็กซิโกนั้น โรงแรมหน้าใหม่ที่ติดโผมาในปีนี้ประกอบไปด้วย Hotel Esencia โรงแรมแนวทรอปิคสุดชิคใน Tulum ซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของภรรยาท่านดยุกชาวอิตาเลียนมาก่อน และ Banyan Tree Mayakoba ที่โดดเด่นด้วยห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้อง 

หากคุณสนใจไปพักผ่อนในแถบแคริบเบียนล่ะก็ ห้ามพลาด Cap Juluca ที่ปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นโรงแรมสีขาวสง่าสไตล์ Greco-Moorish บนเกาะ Anguilla ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาวเพียงแห่งเดียวบริเวณแคริบเบียน

หยิบหนังสือเดินทางขึ้นมา

เมืองหลวงแห่งอังกฤษ London กลายเป็นเมืองที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาวมากที่สุดในโลกด้วย 2 โรงแรมใหม่ในโผอย่าง Pan Pacific London โรงแรม 43 ชั้นอันเรียบหรู และ The Prince Akatoki London โรงแรมกลิ่นอายญี่ปุ่นอันเงียบสงบ

ส่วนหมู่เกาะมัลดีฟส์ได้เปิดตัวโรงแรม 5 ดาวแห่งใหม่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น  Four Seasons Resort Maldives at Landaa Giraavaru, Joali Maldives, Kudadoo Maldives Private Island และ Waldorf Astoria Maldives Ithaafushi

Emerald Tower at MGM Cotai

นอกจากมัลดีฟส์แล้ว มาเก๊าเองก็มีโรงแรม 5 ดาวเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยโรงแรมเหล่านั้นได้แก่ Emerald Tower at MGM Cotai, Grand Suites at Four Seasons Hotel Macao, Cotai Strip, Hotel Okura Macau และ Skylofts at MGM Cotai.

นอกจากจุดหมายปลายทางข้างต้นแล้ว เมื่อหยิบหนังสือเดินทางออกมาทั้งที่ก็ควรไปเยือนโรงแรมซึ่งเป็นสุดยอดแห่งการพักผ่อนอีกมากมาย เช่น Airelles Courchevel, Les Airelles, Gardena Grödnerhof และ Park Hotel Vitznau เทือกเขา Alps, Casa Angelina Amalfi Coast และ Mandarin Oriental Bosphorus Istanbul 

ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็ดูเหมือนว่า Caesars Palace Bluewaters Dubai และ Conrad Abu Dhabi Etihad Towers จะเป็น 2 โรงแรมที่นำรางวัลและนักท่องเที่ยวมาสู่จุดหมายแห่งนี้ 

ย้อนกลับมาสู่ทวีปเอเชีย ในปีนี้ Bulgari Hotel Shanghai, Hotel The Mitsui Kyoto และ The Murray Hong Kong คือเหล่าบรรดาโรงแรมที่เตะตา Forbes Travel Guide มากที่สุด

ร้านอาหารอันโอชา

ฮ่องกงเปิดประตูร้านอาหาร 5 ดาวแห่งใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น L’Envol ร้านอหาร fine-dining สไตล์ฝรั่งเศส, Sushi Saito Hong Kong ที่มีเชฟ Takashi Saito เป็นผู้คัดเลือกอาหารทะเลสดๆ เองทุกเช้าที่ Toyosu Market ที่ Tokyo ก่อนจะถูกนำส่งมาให้ร้านภายในวันนั้นทันที และ Tempura Uchitsu ร้านอาหารสไตล์โอมากาเสะที่ชำนาญการเสิร์ฟโอมากาเสะแบบเทมปุระ 

เมนูกุ้ง ณ Imperial Court

มาเก๊า 2 ภัตตาคารจีนคว้ารางวัลสูงสุดไปครองไว้ โดย Five Foot Road ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารเสฉวนครบรส และ Imperial Court ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารกวางตุ้งรูปแบบโมเดิร์นอันแปลกใหม่ (อย่าลืมไปแอบส่องเสามังกรที่ห้องอาหารล่ะ)

ทบต้ายด้วย La Dame de Pic at Raffles Singapore ที่เชฟชาวฝรั่งเศส Anne-Sophie Pic พร้อมแสดงเสน่ห์ปลายจวักให้คุณได้ชื่นชมแล้ว

สปาสุดสบาย

เที่ยวจนเหนื่อย ก็มาหยุดพักผ่อนนวดตัวให้สบาย ไม่ว่าจะที่ The Bulgari Spa Dubai โอเอซิสแห่งความผ่อนคลายสุดเรียบหรู หรือ The Spa at Mandarin Oriental, Doha  สปาซึ่งนำส่วนผสมท้องถิ่นในกาตาร์อย่างผงไข่มุก และทรายมาปรนเปรอให้คุณสบายตัวก็ตาม สปาทั้ง 2 แห่งนี้ก็ได้รับการการันตีระดับ 5 ดาวเป็นแห่งแรกในเมืองของพวกเขา และในภูมิภาคตะวันออกกลางอีกต่างหาก

Asaya

สปาอื่นๆ ที่คว้ารางวัลมามีทั้ง Asaya ณ ฮ่องกง ซึ่งเป็น Wellness Center ที่ให้บริการตั้งแต่ศิลปะบำบัดจนไปถึงการดูแลผิวหน้า และ SE Spa at Grand Velas Riviera Nayarit สปา ณ เมือง Puerto Vallarta ที่พร้อมให้บริการธาราบำบัดท่ามกลางความผ่อนคลายของทิวทัศน์อันสวยงาม อีกทั้ง Banyan Tree Spa Mayakoba ที่นำการบำบัดสไตล์เอเชียมาผสานวัฒนธรรมเม็กซิกันให้คุณได้เข้าใช้บริการท่ามกลางป่าอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ก็ได้คว้ารางวัลมาครองไว้เช่นกัน

บทความแปลและเรียบเรียงจากบทความ From Amman To Zurich, Forbes Travel Guide’s 2022 Star Award Winners เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: กลุ่มโรมแรม เอ-วัน ทุ่มงบ 250 ล้านบาท รีโนเวท "โรงแรมเอ-วัน พัทยา" เปิดโซน ‘Kids Club’ เจาะกลุ่มตลาดครอบครั


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine