Rare Item "SLR Stirling Moss" ปี 2010 เปิดประมูล 31 มกราคมนี้ - Forbes Thailand

Rare Item "SLR Stirling Moss" ปี 2010 เปิดประมูล 31 มกราคมนี้

รถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น SLR Stirling Moss ปี 2010 ที่สุดแห่งของสะสมหายากที่เหล่าคนรักรถและหลงใหลในซูเปอร์คาร์ต่างจับตาเตรียมเปิดให้มีการประมูลผ่าน Sothebys วันที่ 31 มกราคมนี้


    หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในเรื่องของความเร็วและอยู่ในแวดวงการรถซูเปอร์คาร์ก็คงจะรู้ดีว่าเครื่องยนต์ที่มีพลังแรงและดีไซน์แบบใดที่จะทำให้คุณมีความสนใจจนถึงขั้นเอ่ยวาจาออกมาได้ว่า “ฉันไม่เคยเห็นอะไรที่ควรค่าแก่การสะสมเช่นนี้มาก่อน” หลังจากนั้นก็จะมีคนอื่นๆ ที่สนใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าในแบบเช่นเดียวกันจนคุณเองยังรู้สึกตื่นตะลึงจนหัวใจเต้นระรัว งั้นเรามาเริ่มเจรจากันเลยดีกว่า "ตกลงว่ารถคันนี้ราคาเท่าไร"

    รถหรูแบรนด์ดัง อย่าง Mercedes-Benz รุ่น SLR Stirling Moss ปี 2010 คันนี้คือหนึ่งในเจ็ดสิบห้าคันทั่วโลกที่เหล่านักสะสมไม่ควรพลาดและยังถือเป็นหนึ่งใน Ultra rare ที่สุดแห่งความหายากซึ่งจะมีการเปิดให้ประมูลผ่านบริษัท Sothebys ในวันที่ 31 มกราคมนี้

    สิ่งแรกที่คุณควรรู้ก่อนที่จะมีการเปิดประมูล คือ รถยนต์รุ่น SLR หรือ Sport Light-Racing ที่มีน้ำหนักเบาแบบ 2 ที่นั่ง เวอร์ชั่นนี้มีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2009 ในงาน American International Auto Show ณ เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา และยังถือเป็นหนึ่งในยานพาหนะที่มีความสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมากโดยปราศจากความสงสัย



    รถคันดังกล่าวถูกผลิตขึ้นโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า “จะเป็นพาหนะที่พุ่งทะยานไปด้วยความเร็วสูงสุดและยังสร้างความสนุกเร้าใจไปตลอดเส้นทางขับขี่นับตั้งแต่มีการผลิตรถยนต์เปิดประทุนรุ่น CLK และ GTR เป็นต้นมา" และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองแห่งชัยชนะของรถ Mercedes-Benz รุ่น 300 SLR Uhlenhaut Coupe ที่มีความเร็วประดุจบินได้ด้วยกำลังแรงสูงสุดถึง 302 แรงม้า อีกทั้งยังทำลายสถิติด้วยการคว้าแชมป์ Mille Miglia และแชมป์ Grand Prix ในปี 1955 จากฝีมือการขับขี่ของนักแข่งรถ Formula One ชื่อดังชาวอังกฤษ อย่าง Stirling Moss และผู้ช่วยของเขา Denis Jekinson

    หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ได้กระแสตอบรับที่ดีในทันที ยกตัวอย่าง เช่น นิตยสารรถยนต์ที่ได้ทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวในปี 2009 และยังเปรียบเทียบให้เห็นถึงประสบการณ์การความเร็วจากการเหยียบคันเร่งว่า “เสมือนยืนอยู่บนปลายปีกของเครื่องบินโบอิ้ง 747 ซึ่งถือเป็นเครื่องบินโดยสารที่มีความเร็วสูงและใหญ่ที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น 

    อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วได้ 0-100 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ 3.5 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 219 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งผู้ที่สามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงประหนึ่งเครื่องบินเหาะขนาดนี้ได้จะต้องมีกล้ามเนื้อคอที่แข็งแรงด้วย



    ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของความเร็วดังกล่าวมาจากเครื่องยนต์ AMG V-8 ซูเปอร์ชาร์จ 641 bhp ขนาด 5.5 ลิตร แบบเดียวกับที่ขับเคลื่อนรถรุ่น SLR 722 Edition นอกจากนี้ รถยังมีขนาดน้ำหนักเบาขึ้นถึง 440 ปอนด์ เป็นผลจากการลดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในตัวรถที่ไม่จำเป็นทิ้งไปซึ่งรวมถึงกระจกรถและหลังคารถ รวมถึงการบุกเบิกนำสไตล์ Speedster เข้ามาใช้และนำคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นส่วนประกอบของโครงรถด้านนอกและด้านล่างตามหลักการของ aerodynamic เพื่อการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์แบบและเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับกว่าถึงสิบเท่า

    รถยนต์ SLR Stirling Moss คันนี้ได้รับการจดทะเบียนครั้งแรกในประเทศเยอรมนี ปี 2010 หลังจากนั้นได้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเสมือนใหม่โดยเจ้าของเพียงรายเดียวซึ่งมีใช้งานน้อยมากเพราะมีระยะทางขับขี่เพียงแค่ 93 ไมล์เท่านั้น โทนสีของตัวรถคือ สีเงินเมทาลิกทั้งคันตามแบบฉบับรุ่น 300 SLR ที่ทำลายสถิติจนโด่งดังในปี 1955 ขณะที่ภายในตัวรถตกแต่งด้วยหนังแท้สีแดงและดำให้ความโฉบเฉี่ยวทันสมัย



    ซูเปอร์คาร์แบรนด์ดังต่างได้รับแรงบันดาลใจจาก SLR Stirling Moss หลายราย โดยหันมาผลิตรถยนต์สไตล์ "Speedster" ตามแบบต้นฉบับ Mercedes-Benz ยกตัวอย่าง เช่น McLaren Elva, Ferrari SP1 และ SP2 และ Aston Martin V12 Speedster

    บริษัทผู้เปิดประมูล Sothebys คาดการณ์ว่ารถหรูสมรรถนะเยี่ยมที่ผ่านการใช้งานมาน้อยมากและสภาพยังดูเสมือนใหม่ควรค่าแก่การสะสมเช่นนี้จะสามารถสร้างรายได้จากการประมูลอยู่ที่ 3.26 - 4.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


แปลและเรียบเรียงจากบทความ Ultra-Rare 2010 Mercedes-Benz SLR Stirling Moss Up For Auction เผยแพร่บน forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: Tesla เทเงินอีก 3.6 พันล้านเหรียญ ยกระดับการผลิต Tesla Giga Nevada


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine