เคล็ดวิชาการลงทุนจาก 8 เซียนมหาเศรษฐี - Forbes Thailand

เคล็ดวิชาการลงทุนจาก 8 เซียนมหาเศรษฐี

คุณจะสร้างความมั่งคั่งให้ติดทำเนียบ 400 อันดับชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดของ Forbes ได้อย่างไร? แปดเซียนนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลพร้อมแบ่งปันกลยุทธ์และบทเรียนชีวิตของพวกเขาเพื่อใช้เป็นแนวทาง

    

    กว่า 105 ปีที่ Forbes คอยนำเสนอแนวคิดด้านธุรกิจอันชาญฉลาดและเรื่องราวของสุดยอดนักลงทุนจากทั่วโลก ในปี 1969 นิตยสาร Forbes จารึกชื่อของ Warren Buffett เป็นครั้งแรกซึ่งในตอนนั้นกลุ่ม Buffett Partnership ในเมืองโอมาฮามีอายุเพียง 12 ปี แต่มูลค่าสูงถึง 100 ล้านเหรียญและผลตอบแทนรายปีรวม 31%

    ในบทความนั้น Buffett อธิบายตลาดหุ้นว่าเหมือนกับมี “สหายคนสนิทที่อารมณ์สวิงเหมือนเป็นไบโพลาร์ (Manic-Depressive Partner)” โดยยืนกรานว่านักลงทุนไม่ควรซื้อหรือขายหุ้น ณ ช่วงเวลานั้นๆ แต่ควรลงทุนเฉพาะตอนราคาของเป็นที่ยอมรับได้สำหรับพวกเขา อ้างอิงจากงานวิจัยพื้นฐาน

    ในปี 2023 ที่ผ่านมานี้ ตลาดไบโพลาร์เพื่อนรักของเขามีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 16% หลังผ่านช่วงเวลาอันมืดมนในปี 2022 ซึ่งมูลค่าตกลง 19% อิงจากดัชนี S&P 500 ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ที่หนักไปทางเทคโนโลยีนั้นเติบโต 31.7% ในครึ่งแรกของปี 2023 สืบเนื่องมาจากความสนใจอย่างล้นหลามเกี่ยวกับเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบริษัทผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกทั้งหลายอย่าง Nvidia, Microsoft และ Alphabet ในปีนี้ดัชนี Nasdaq Composite มีช่วงครึ่งแรกของปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1983 โดยปีที่แล้วดัชนีดังกล่าวตกลงถึง 33%

    แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในครึ่งหลังของปี 2023 กันล่ะ? แม้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะไต่สูงขึ้นกอปรกับภารกิจในการชะลอเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ จีดีพีของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งโดยเติบโต 2% ในไตรมาสแรกสอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ยังคงต่ำ บรรดาธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศต่างก็ดำเนินงานด้วยดีแม้ต้องเผชิญบททดสอบแสนตึงเครียดจาก Fed ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการที่ธนาคารส่วนภูมิภาคทั้งหลายก็ดูจะหวนคืนสู่ความมั่นคงกันแล้ว

    ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าความต้องการเงินลงทุนที่สูงขึ้นซึ่งเชื่อมโยงกับผลขาดทุนในงบดุลที่หลายร้อยธนาคารต้องประสบจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจนี้อย่างไรในท้ายที่สุด นอกจากนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่าความหวั่นวิตกของผู้คนในโซเชียลเกี่ยวกับข่าวร้ายในแวดวงธนาคารจะกระตุ้นให้เกิดการแห่ถอนเงินจนถึงขั้นวิกฤตกันอีกเมื่อไหร่

    การสร้างพอร์ตจากการคาดการณ์เศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลาคือทางเลือกที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพทั้งหลาย เหล่าผู้มีประวัติประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในวงการนี้ชี้ว่ากลยุทธ์ที่ชาญฉลาดยิ่งกว่าคือไล่ตามเป้าหมายระยะยาว

    ในปีที่ผ่านมา Forbes ได้เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนรายเดือน Forbes Billionaire In-vestor ซึ่งไม่เพียงแค่คอยติดตามบรรดาหุ้นตัวโปรดจากทั่วโลกและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงสุด แต่ยังมีบทสัมภาษณ์เชิงลึกและข้อมูลจากกลุ่มคนสุดพิเศษเหล่านี้
ในโอกาสอันดี Forbes ได้เลือกสรรปรัชญาด้านการลงทุนและการดำเนินชีวิตจากบทสัมภาษณ์ต่างๆ ของแปดบุคคลผู้เป็นดั่งตำนานการลงทุน ดังนี้


David Rubenstein 
ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร Carlyle Group 
ความมั่งคั่งสุทธิ: 3.1 พันล้านเหรียญ


คณิตศาสตร์และการบริหารจัดการระดับย่อย

    “นี่คือสิ่งที่เหล่าสุดยอดนักลงทุนแต่ละคนมีเหมือนกัน นั่นก็คือ พวกเขามักจะมาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่ประกอบอาชีพใช้แรงงาน ได้รับการศึกษาที่ดี ไม่ได้ออกจากโรงเรียนกลางคัน มีหัวด้านคณิตศาสตร์ และกระหายที่จะเรียนรู้อย่างแรงกล้า พวกเขารักการอ่านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้จะไม่ใช่เรื่องในขอบเขตการลงทุนของตัวเองก็ตาม พวกเขาเป็นเหมือนฟองน้ำที่ซึมซับข้อมูลข่าวสาร พวกเขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่ต้องการให้ใครมาตัดสินใจแทน และเมื่อพวกเขาตัดสินใจผิดพลาด ก็ยอมรับและก้าวต่อไป”

    

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่

    “สิ่งสำคัญที่สุดคือการอ่าน เข้าใจในสิ่งที่กำลังทำ และห้ามคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะเพราะรอบรู้ไปแทบทุกเรื่อง จงวางความคาดหวังอัตราผลตอบแทนไว้บนพื้นฐานความเป็นจริง ข้อสำคัญที่สุดที่ต้องตระหนักคือ ความผิดพลาดใหญ่หลวงที่คนมักทำกันคือการขายตอนตลาดขาลง และซื้อตอนตลาดขาขึ้น”


Warren Buffett
ซีอีโอและประธาน Berkshire Hathaway
ความมั่งคั่งสุทธิ: 1.125 แสนล้านเหรียญ

    

ความหวังและภัยคุกคามจากปัญญาประดิษฐ์

    “เทคโนโลยีใหม่นี้สามารถทำเรื่องมหัศจรรย์ได้หลายอย่าง Bill Gates เอาเวอร์ชั่นล่าสุดมาให้ผมดู หรืออาจจะไม่ล่าสุดก็ได้แต่คงเป็นอันที่เขาคิดว่าผมจะใช้ได้ซึ่งมันก็ทำเรื่องน่าทึ่งมากมาย แต่ก็ไม่สามารถเล่าให้เป็นเรื่องตลกได้นะ เพราะเมื่อมีสิ่งๆ หนึ่งเกิดขึ้นมาแล้วมันสามารถทำทุกอย่างได้ ผมก็เริ่มกังวลขึ้นมานิดหน่อย เพราะผมรู้ว่าเราไม่มีทางย้อนเวลากลับไปตอนที่ยังไม่สร้างมันขึ้นมาได้เลย เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เราสร้างนิวเคลียร์ขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ดี แต่มันจะยังดีต่อไปในอีก 200 ปีข้างหน้าหรือเปล่า Einstein กล่าวเกี่ยวกับนิวเคลียร์ว่ามันเปลี่ยนทุกสรรพสิ่งในโลกยกเว้นวิธีคิดของมนุษย์ ผมขอพูดแบบเดียวกันกับกรณีของปัญญาประดิษฐ์ มันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างยกเว้นวิธีคิดและการกระทำของมนุษย์ และนั่นคือก้าวที่ใหญ่มาก”

    

โอกาสมากมาย    

    “โลกกำลังเปลี่ยนแปลงแต่สิ่งใหม่ๆ ไม่ได้พรากโอกาสต่างๆ ไปด้วย โอกาสของคุณคือเมื่อคนอื่นทำเรื่องบ้าๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งผมขอบอกเลยว่าตลอดระยะเวลา 58 ปีที่ทำงานกับ Berkshire มา มีจำนวนคนที่คิดทำเรื่องบ้าบอแบบนี้เพิ่มขึ้นเยอะมาก และเขาก็ยังทำเรื่องเหล่านี้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย สาเหตุหนึ่งที่พวกเขาทำก็เพราะได้เงินจากคนอื่นง่ายกว่าตอนที่เราเริ่มต้นมาก ดังนั้นคุณสามารถเริ่มต้นบริษัทประกันสุดบ้าบอ 10 หรือ 15 แห่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และคุณก็ยังร่ำรวยได้ถ้ามีความเชี่ยวนาญ ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม”

    

เผ่าพันธุ์นิยม VS สหรัฐฯ  

     “ผมคิดว่าปัญหาที่เรามีตอนนี้น่าจะเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือแบ่งแยกในเรื่องของลัทธิชนเผ่านหรือเผ่าพันธุ์นิยมซึ่งก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องเท่าไหร่ และอาจนำไปสู่การรวมกลุ่มประท้วง แต่หากเลือกเกิดที่ใดก็ได้ในโลก ผมอยากเกิดในสหรัฐฯ และอยากเกิดในยุคนี้ด้วย เป็นโลกที่ดีกว่าที่เราเคยมีมาก่อน เราจำเป็นต้องคิดหาวิธีการที่แตกต่างกันในการแก้ปัญหาสำคัญต่างๆ ตอนนี้มันอาจดูไม่ค่อยมีความหวังมากนัก แต่ผมเชื่อว่าหาก Lincoln มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นสมัยสงครามกลางเมือง เขาคงไม่รู้สึกมีหวังเหมือนกัน ความท้าทายยิ่งใหญ่นัก แต่ผมคิดว่าสหรัฐฯ มีความสามารถพอที่จะทำเรื่องยอดเยี่ยมต่างๆ ได้ และผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าเราทำมันอีก”


Ron Baron
ซีอีโอและประธาน Baron Funds
ความมั่งคั่งสุทธิ: 4.9 พันล้านเหรียญ


จากการลงทุนเน้นคุณค่าสู่การเติบโต

    “ตอนผมเริ่มต้นครั้งแรก มันเกี่ยวกับว่าธุรกิจมีมูลค่าเท่าไหร่ ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าผมคิดว่าธุรกิจนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่แล้วก็ซื้อมันตอนที่มีส่วนลด ผมซื้อหุ้นมากมายแบบนั้น ส่วนใหญ่ก็ออกมาดี แต่ส่วนที่ไม่ดีก็เป็นการลงทุนที่เลวร้ายมาก และผมก็ไม่ได้อะไรเลย ผมเลยบอกว่า นั่นไม่ใช่วิธีการที่ดีมากเท่าไหร่ วิธีการที่ดีกว่าคือการลงทุนในธุรกิจที่ยอดเยี่ยม มีศักยภาพในการเติบโต มีเหล่าคนเก่งคอยบริหาร และความได้เปรียบในการแข่งขัน ผมให้ความสำคัญกับการเติบโตของยอดขายมากกว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้น”

    

คำแนะนำถึงตัวเองในวัย 20    

    “เหนือสิ่งอื่นใด คุณต้องรักในสิ่งที่ทำ ตั้งใจทำงานหนัก และปกป้องชื่อเสียง สิ่งเหล่านั้นที่คุณทำตอนที่ไม่มีใครเห็น คุณต้องถามตัวเองว่าภาคภูมิใจหรือเปล่า คนหนึ่งที่ช่วยผมในช่วงแรกของชีวิตการทำงานคือ Jay Pritzker ครั้งหนึ่งเขาบอกผมว่า “Ron ถ้าคุณต้องลงนามในสัญญา แสดงว่าคุณทำธุรกิจด้วยผิดคนแล้วล่ะ” คุณต้องอยู่และตายด้วยคำพูดของตัวเอง สิ่งใดที่คุณบอกว่าจะทำ ก็ต้องรักษาให้มั่น ซึ่งมันเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่มาก ทั้งการใช้ชีวิตตามที่ตัวเองพูดและการทำสัญญาปากเปล่า”

    

​ความสำเร็จครั้งใหญ่ในการลงทุน    

    “ความสำเร็จที่ว่าก็น่าจะเป็น Tesla (TSLA) เพราะนั่นคือตัวที่เราได้ผลประโยชน์มหาศาล และผมยังคิดว่าเราจะได้ประโยชน์อีกมากในอนาคต...ดังนั้นเราจึงลงทุนไป 380 ล้านระหว่างปี 2014 และ 2016 ซึ่งก่อให้เกิดผลตอบแทนหลายพันล้านเหรียญแก่ลูกค้าของเราตลอดหลายปี ผมคิดว่าเรากำลังจะได้ผลตอบแทนการลงทุนห้า หก หรือเจ็ดเท่าอีกครั้งในอีกสิบปีข้างหน้า ตอนนี้เรากำลังลงทุนอย่างหนักใน SpaceX”


Sam Zell 
ผู้ก่อตั้ง Equity Group Investments 
ความมั่งคั่งสุทธิ: 5.2 พันล้านเหรียญ

    

อำนาจสูงสุดของค่าเงินเหรียญ    

    “สิ่งที่ผมกังวลเป็นอันดับหนึ่งตอนนี้คือความเสื่อมถอยของเงินเหรียญในฐานะสกุลเงินสำรอง ผมไม่คิดว่าจะมีใครเข้าใจจริงๆ ถึงผลประโยชน์อันเหลือเชื่อที่มันมีต่อสหรัฐฯ และต่อมาตรฐานความเป็นอยู่ของเรา ซึ่งว่ากันตามจริงเราคือสกุลเงินสำรอง และเราสามารถพิมพ์เงินได้ แต่ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ถ้าคุณทำเกินไป ถ้าคุณปรับฐานสกุลเงินที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนจนถึงจุดที่ผู้คนสูญเสียความมั่นใจในสกุลเงินสำรอง จะตามมาด้วยผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญยิ่งต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั้งหมด”

    

การลดคาร์บอน    

     “คณะบริหารของ Biden ก้าวเข้ามาและทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อยับยั้งการเติบโตของเชื้อเพลิงฟอสซิล พวกเขากำลังดำเนินการภายใต้สิ่งที่ผมมองว่าเป็นสมมติฐานวิบัติ เช่นว่าอีกไม่นานจากนี้ แคลิฟอร์เนียจะไม่มีรถที่ใช้น้ำมันและปล่อยคาร์บอนภายในปี 2035 ผมแค่ไม่เห็นว่าเราจะหย่าขาดจากพลังงานคาร์บอนในระยะเวลาเพียงเท่านี้ได้อย่างไร ผมไม่คิดว่ามันเข้าใกล้ความเป็นจริงด้วยซ้ำ”

    

สภาพคล่องนั้นสำคัญไฉน    

    “สภาพคล่องเท่ากับมูลค่า เราจึงสนับสนุนให้ทุกบริษัทของเรารักษาสภาพคล่องไว้ในระดับสูง เพราะท้ายสุดแล้ว ทุกช่วงของความตึงเครียดทางเศรษฐกิจจะจบลงด้วยเหตุการณ์ด้านสภาพคล่องหรือไม่ก็ความท้าทายด้านสภาพคล่องโดยแท้จริง และมันก็ทำให้เห็นว่าใครสามารถเติบโตและยังเด็กอยู่จากประสบการณ์ในการรักษาสภาพคล่องไว้ได้นั่นเอง”


Leon Cooperman 
ผู้ก่อตั้ง Omega Advisors 
ความมั่งคั่งสุทธิ: 2.5 พันล้านเหรียญ

    

ทำไมต้องลงทุนเน้นคุณค่า    

    “ผมให้ความสำคัญกับการตัดสินคุณค่าเสมอ ผมชอบได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินที่จ่ายไป ผมเฝ้าสังเกตว่าเทคโนโลยีเป็นเหมือนดาบสองคม นวัตกรรมของคนหนึ่งอาจเป็นความล้าสมัยของอีกคนหนึ่ง ดังนั้นผมจึงไม่เคยเข้าใจการจ่ายเงินมากขึ้นหลายเท่าเพื่อลงทุนในธุรกิจที่อาจมีช่วงชีวิตสั้นเลยดูอย่าง Meta เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ตอนนี้ TikTok เหมือนจะมาชิงตลาดพวกเขาไปเสียแล้ว”

    

คำแนะนำสำหรับคนอายุ 20 กว่าๆ    

    “คำแนะนำที่สำคัญที่สุดที่ผมขอมอบให้คนวัยเยาว์ หนทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จคือทำสิ่งที่คุณรักและรักสิ่งที่คุณทำ ผมทำงาน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ผมไม่เคยมองว่ามันเป็นงานเลย ผมสนุกกับสิ่งที่ทำ”


Mario Gabelli 
ซีอีโอ Gamco Investors 
ความมั่งคั่งสุทธิ: 1.6 พันล้านเหรียญ

    

การวิจัยเพื่อการลงทุนโดยตรง    

    “ปกติคุณจะได้รับรายงานประจำปีแล้วก็พร่ำอ่านมัน คุณก็เลยสนใจมัน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเพราะว่าคุณติดตามอุตสาหกรรมนั้นๆ คุณจึงศึกษาและอ่านนิตยสารการซื้อขายต่างๆ เข้าร่วมงานประชุม และไปดูบริษัทห้าหรือหกแห่ง...คุณได้รับผลย้อนกลับมา ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีบริษัทชื่อ Snap-on Tools แล้วพวกเขาก็ผลิต Safety Clean ผมก็เลยบอกตัวเองว่า ลองไปหาคุยกับใครสักคนที่ปั๊มใกล้ๆ ดูซิ แล้วถามว่า เขากำลังจะซื้ออะไร เราเลือกที่จะศึกษาธุรกิจจากล่างขึ้นบน”

    

คำแนะนำสำหรับคนอายุ 20 กว่าๆ    

     “ปกติแล้วสำหรับนักลงทุนมือใหม่ หากคุณอายุ 20 ปีและโตมากับเกม Fortnite คุณจะติดใจผลตอบแทนระยะสั้น ลองหันมามองผลตอบแทนระยะยาวดูบ้าง มันเป็นการมองมูลค่าโดยรวมเหนือกาลเวลาที่ผันผ่านไป ผมมีตารางไว้ตอนไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยว่าด้วยการมาเป็นมหาเศรษฐี นั่นคือลดกาแฟลงสักแก้ว แล้วเอาเงินค่ากาแฟไปลงทุน กาแฟหายไปหนึ่งแก้วต่อวัน คุณเอาเงิน 35 เหรียญนั้นไปลงทุนในแต่ละสัปดาห์ และทำให้มันเติบโต 4, 6, 8, 10 เปอร์เซ็นต์ตลอด 40 ปี แล้วคุณจะกลายเป็นอะไรได้ละ ดังนั้นถ้าคุณอยากจะสร้างเนื้อสร้างตัวจริงๆ ลองลดเบียร์หรือ White Claw ลงสักขวดสิ”


Glenn Dubin
ผู้ก่อตั้ง Dubin & Co.
ความมั่งคั่งสุทธิ: 2.8 พันล้านเหรียญ

    

ขี่เทรนด์ เดิมพันกับสิ่งที่ดีที่สุด    

    “ผมกำลังมองหากลยุทธ์ ภูมิภาค ห้องเรียนการลงทุน ที่ตัวเองได้เปรียบ ซึ่งอาจเป็นตลาดใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักทีในวัฏจักรการลงทุน อะไรก็ตามที่คุณได้เปรียบ จากนั้นก็มองหาและคว้าตัวคนที่มีความสามารถ อาจจะเป็นผู้จัดการพอร์ตลงทุน เทรดเดอร์ นักวิเคราะห์ หรือนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ ให้ชัดคือขึ้นกับว่าคุณใช้กลยุทธ์ไหนและกำลังทำธุรกิจอะไร เมื่อมีสองสิ่งนี้ด้วยกัน สิ่งที่คุณได้เปรียบและบุคลาการมากความสามารถ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็เพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว”

    

ความสำคัญของประสบการณ์    

     “ผู้คนมากมายที่บริหารจัดการเงินในวันนี้ก็ทำแค่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์นั่นคือสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในวัฏจักรที่รัดกุม เราเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากศูนย์สู่ 5% ในระยะเวลาแสนสั้น และสร้างรอยร้าวขึ้นมาในระบบ หากคุณไร้ซึ่งประสบการณ์การบริหารในวัฏจักรของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น คุณก็กำลังเสียเปรียบอย่างแรงเลย”


Thomas James
ประธาณกิตติคุณ Raymond James Financial
ความมั่งคั่งสุทธิ: 2.3 พันล้านเหรียญ

    

มุ่งหาคนเก็บค่าผ่านทาง    

    “ผมอยากเป็นคนเก็บค่าผ่านทางที่สะพานและได้รับเงินมากขึ้นทุกปีเมื่อมีคนมาข้ามสะพานมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นแหละคือหุ้นบริษัทที่ผมอยากเป็นเจ้าของ ตอนนี้ผมกำลังซื้อ Verizon (VZ) พวกเขามีอัตราผลตอบแทนสวยงาม (7%) และทำราคาต่ำสุดตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (อัตราส่วน P/E คือ 7) ผมไม่กังวลว่าพวกเขาจะถังแตกหรอก”

    

ลงทุนให้ช่วงเวลาในตลาด    

     “หากคุณมองช่วงเวลาสิบปีใดก็ตาม ราคาหุ้นจะขึ้น ผู้คนต่างก็สาละวนอยู่กับการกำหนดจุดต่ำสุดและสูงสุด ผมชอบการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยและเติมเงินเข้าไปในตลาดนานหลายปี หากคุณเดินเข้ามาในห้องทำงานของผมพร้อมเงินมหาศาล ผมจะบอกว่าหากต้องการลงทุนตลอดสองปีข้างหน้า เราจะแบ่งมันออกเป็นแปดครั้งตามแต่ละไตรมาส คุณเอาชนะตลาดระยะยาวไม่ได้หรอก”

    

หลบเลี่ยงข้อมูลวงใน    

    “จงหกเลี่ยงใครก็ตามที่เข้ามาแนะนำหุ้นให้คุณเพราะมันกำลังไปได้สวย แม้คุณจะไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในบริษัทและมันฟังดูเป็นขาขึ้นเอามากๆ ย้อนกลับไปสมัยตลาดขาลงปี 1974 ผมได้เข้าโรงเรียนธุรกิจที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อันมีนามว่าประสบการณ์แสนเจ็บแสบ หากอยากเคาะความทะนงตนออกจากหัว ก็เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาแบบนั้นได้เลย คุณต้องเสี่ยงก็จริง แต่มันมีจังหวะเวลาที่คุณควรทำและไม่ควรทำ นักลงทุนรายย่อยต่างก็ไม่ต้องการลงทุน ณ จุดต่ำสุดของตลาด ทว่าผมต้องการลงทุน ณ จุดต่ำสุดนั้น”



    ทั้งนี้สามารถกล่าวโดยสรุปได้ว่า เหล่าเซียนนักลงทุนต่างก็มีกลยุทธ์และแนวคิดเป็นของตัวเอง ขึ้นกับปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะประสบการณ์ มุมมองต่อการลงทุน จุดอ่อน จุดแข็ง และอื่นๆ กอปรกับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ยุคสมัย และสังคม ทำให้ไม่มีกลยุทธ์ใดที่ตายตัวเป็นสูตรสำเร็จ การศึกษาเรื่องราวของผู้มาก่อนเพื่อเป็นข้อมูลและปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับแต่ละคน

    สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน



    แปลและเรียบเรียงจากบทความ Money Wisdom And Life Lessons From Billionaire Investors ซึ่งเผยแพร่บน Forbes

    

    อ่านเพิ่มเติม : CGV Ventures ผู้นำการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางอาหาร

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine