อากาศที่หนาวเย็นขึ้น และช่วงวันหยุดยาวปลายปี ทำให้ฤดูหนาวเป็นเวลาที่เหมาะจะ “ไล่อ่าน ‘กองดอง’ หรือหนังสือที่ซื้มากองไว้” ตาม Bill Gates มหาเศรษฐีและนักอ่านตัวยงกล่าวไว้
“บรรยากาศเงียบสงบในช่วงวันหยุด ทำให้นั่งอ่านหนังสือดีๆ ได้ง่ายขึ้น” Gates เขียนในบล็อกล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร พร้อมเผยลิสต์หนังสือแนะนำประจำฤดูกาล
รายชื่อ “หนังสือโปรดช่วงหลังๆ” ของเขามีทั้งนักเขียนและแนวเรื่องที่หลากหลาย ตั้งแต่งานของนักจิตวิทยาจากฮาร์วาร์ดที่เจาะลึกแนวคิดเรื่อง “ความรู้ร่วมกัน (common knowledge)” ไปจนถึงนวนิยายที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองของภารโรงวัยชราในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ลิสต์หนังสือแนะนำของเขารอบนี้ยังรวมถึงไดอารี่ของเจ้าพ่อสื่อ, หนังสือแนววิเคราะห์ภาวะโลกร้อนที่เขาบอกว่าเป็น “ภาพรวมที่มีข้อมูลจริงและให้ความหวัง” รวมทั้งหนังสือ nonfiction ด้านการเมืองที่พูดถึงกฎระเบียบภาครัฐและนวัตกรรมในอเมริกา
“หนังสือแต่ละเล่มเปิดม่านให้เราเห็นว่าสิ่งสำคัญต่างๆ ทำงานจริงอย่างไร ตั้งแต่ผู้คนค้นหาความหมายของชีวิตเมื่อเข้าสู่บั้นปลายอย่างไร เราควรมองเรื่องโลกร้อนแบบไหน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์พัฒนาไปอย่างไร มนุษย์สื่อสารกันอย่างไร ไปจนถึงเหตุผลที่อเมริกาสูญเสียความสามารถในการสร้างสิ่งใหญ่ๆ และจะเอากลับคืนมาได้อย่างไร” Gates เขียน
นี่คือ 5 หนังสือที่ Bill Gates แนะนำให้อ่านในช่วงวันหยุดนี้:
1.Remarkably Bright Creatures โดย Shelby Van Pelt

นวนิยายปี 2022 เรื่องนี้ เล่าเรื่องบางส่วนผ่านมุมมองของปลาหมึก ตรงตามเงื่อนไขสำคัญของ Gates สำหรับงาน fiction: “ผมอยากอ่านเรื่องราวของตัวละครที่น่าสนใจและทำให้ผมมองโลกในมุมใหม่”
Gates ซึ่งเพิ่งอายุครบ 70 ปีในเดือนตุลาคม บอกว่าตนเชื่อมโยงกับตัวละครหลักของมนุษย์ในเรื่องได้ดี เธอคือTova หญิงม่ายวัย 70 ปีที่ทำงานเป็นภารโรงกะกลางคืนในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีมาร์เซลลัส ปลาหมึกผู้ฉลาดอาศัยอยู่ เรื่องราวชวนติดตามความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ก่อตัวของทั้งคู่ Gates มองว่านี่เป็นการสำรวจเรื่อง “ความสัมพันธ์และความแก่ชรา” ที่กระตุ้นความคิด โดยเฉพาะประเด็นความโดดเดี่ยวและการค้นหาความหมายในบั้นปลายชีวิต
“เรื่องของ Van Pelt ทำให้ผมคิดถึงความท้าทายหลังเกษียณ เราจะเติมเต็มวันเวลาอย่างไร และชุมชนสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุค้นพบบทบาทและความหมายได้แบบไหน” Gates ระบุ ซึ่งเขาเคยบอกก่อนหน้านี้ว่า การเกษียณ “ฟังดูแย่มาก”
2.Clearing the Air โดย Hannah Ritchie

Hannah Ritchie นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เป็นคนที่ Gates เคยกล่าวชมหลายครั้งว่าให้มุมมองที่ “มองโลกในแง่ดีอย่างน่าประหลาดใจ” ของการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนังสือเล่มล่าสุดของเธออย่าง which ซึ่งวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร 18 กันยายน และจะขายในสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคม 2026 เป็น “คำอธิบายที่ชัดเจนที่สุดเรื่องปัญหาโลกร้อนที่ผมเคยอ่าน” Gates กล่าว
ใน “Clearing the Air” Ritchie ตั้งคำถามสำคัญ 50 ข้อเกี่ยวกับวิกฤตภูมิอากาศ เช่น พลังงานทางเลือกแพงเกินไปที่จะใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือเราสายเกินไปที่จะจำกัดภาวะโลกร้อนและหลีกเลี่ยงภัยพิบัติหรือเปล่า เธอตอบด้วยข้อมูลจริงที่ “ยอมรับความเสี่ยง แต่แสดงให้เห็นความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นจริง”
Gates และ Ritchie มีมุมมองคล้ายกันเรื่อง “ความก้าวหน้า” เช่น พลังงานแสงอาทิตย์-ลมที่เพิ่มขึ้น ยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม และไม่เห็นด้วยกับทัศนคติ “วันสิ้นโลก” ที่อาจทำให้เราเสียสมาธิจากประเด็นสำคัญอื่นๆ
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา Gates ลงทุนมหาศาลกับการแก้ปัญหาโลกร้อน และไม่นานมานี้ยังถูกนักวิทยาศาสตร์บางส่วนวิจารณ์ เพราะเสนอว่าทรัพยากรบางส่วนควรถูกนำไปแก้ปัญหาความเป็นอยู่และความยากจนมากกว่า
“ถ้าคุณอยากได้ภาพรวมที่มีข้อมูลแน่นและให้ความหวังว่าสถานะของโซลูชันด้านภูมิอากาศอยู่ตรงไหน หนังสือเล่มนี้เหมาะมาก” Gates กล่าว
3.Who Knew โดย Barry Diller

Barry Diller มหาเศรษฐีประธาน IAC และ Expedia รวมถึงผู้ร่วมก่อตั้ง Fox Broadcasting ออกหนังสือไดอารี่ของตัวเองในเดือนพฤษภาคม 2025 แม้ Gates จะเป็นเพื่อนสนิทมายาวนาน แต่เขาเขียนว่าหนังสือของ Diller “ยังสามารถทำให้ผมประหลาดใจและสอนอะไรผมเกี่ยวกับตัวเขา อาชีพ และอุตสาหกรรมมากมายที่เขาเปลี่ยนแปลง”
Diller เป็นคนคิดค้นรูปแบบภาพยนตร์และซีรีส์ที่ผลิตสำหรับโทรทัศน์ ในช่วงที่ทำงานด้านบันเทิง ต่อมาเขามองเห็นศักยภาพของอินเทอร์เน็ตตั้งแต่เริ่มต้น และกล้าเดิมพันเมื่อคนอื่นยังไม่เห็น รวมถึงการซื้อ Expedia จากไมโครซอฟท์ในปี 2001 และสร้าง IAC ให้เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสื่อและอินเทอร์เน็ตรายแรกๆ
Gates บอกว่าหนังสือมีมุมลึกซึ้งเกี่ยวกับเส้นทางสู่อำนาจของ Diller และ “ตรงไปตรงมา” เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา รวมถึงการเปิดตัวว่าเป็นเกย์เมื่อช่วงต้นปีนี้ขณะมีอายุ 83 ปี
4.When Everyone Knows That Everyone Knows โดย Steven Pinker

“มีคนไม่กี่คนที่อธิบายความลึกลับของพฤติกรรมมนุษย์ได้ดีกว่า Steven Pinker” Gates กล่าวถึงศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากฮาร์วาร์ดผู้ศึกษาการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ หนังสือเล่มล่าสุดของเขาออกเมื่อ 23 กันยายน เป็น “หนังสือที่ต้องอ่าน สำหรับใครก็ตามที่อยากเข้าใจการสื่อสารของผู้คนให้มากขึ้น”
หนังสือสำรวจว่า “ความรู้ร่วมกัน (common knowledge)” สร้างรูปแบบการสื่อสารและการทำงานร่วมกันของมนุษย์ในหลายมิติอย่างไร และ Gates บอกว่า “ผู้คนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์จากการเข้าใจว่าความรู้ร่วมกันเป็นฐานรองรับทุกบทสนทนาของเราอย่างไร” รวมถึงวิธีใช้ความเข้าใจนั้นเพื่อร่วมงานกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้หัวข้อจะซับซ้อน แต่ Gates บอกว่าหนังสืออ่านง่าย ใช้งานได้จริง และทำให้เขามองปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันในมุมใหม่
5.Abundance โดย Ezra Klein และ Derek Thompson

หนังสือเล่มนี้เขียนโดยนักข่าวสองคน คือ Thompson นักเขียนประจำ The Atlantic และ Klein คอลัมนิสต์แห่ง The New York Times ผู้ร่วมก่อตั้ง Vox โดยเสนอ “ภาพคมชัดว่าทำไมอเมริกาดูเหมือนสร้างอะไรใหม่ๆ ได้ยาก และต้องทำอย่างไรถึงจะแก้ได้” Gates ระบุ
Klein และ Thompson โต้แย้งว่ากฎระเบียบ โดยเฉพาะกฎที่ผลักดันโดยนักการเมืองสายก้าวหน้า เป็นตัวขัดขวางการพัฒนาในด้านต่างๆ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน บ้านราคาเอื้อมถึง ไปจนถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนเสนอแนวคิด “วาระแห่งความอุดมสมบูรณ์ (abundance agenda)” ที่ส่งเสริมการลงทุนพัฒนา และลดขั้นตอนราชการเพื่อเร่งสร้างโครงการใหม่
หนังสือถูกวิจารณ์จากทั้งซ้ายและขวา และ Gates บอกว่ามัน “ไม่ได้มีคำตอบทุกอย่าง” แต่ “ตั้งคำถามที่ถูกต้อง” ซึ่งสอดคล้องกับประสบการณ์ของเขาในการทำงานกับหน่วยงานรัฐด้านสุขภาพโลกและเทคโนโลยีด้านภูมิอากาศ
“ผมเห็นด้วยตนเองว่าอุปสรรคแบบที่พูดถึงใน Abundance ชะลอความก้าวหน้าด้านสุขภาพโลก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพันธุ์พืช การออกแบบส้วมที่ดีกว่า หรือการกำจัดโปลิโอ บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็ยาก แต่หลายครั้งเรื่อง ‘ระบบและการปฏิบัติจริง’ ยากยิ่งกว่า” Gates ระบุ
แปลและเรียบเรียงจาก Bill Gates: Read these 5 books—each one ‘sparks your curiosity’ and reveals ‘how something important really works’
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : จดหมายสุดท้ายของปีจาก Buffett เสียงที่เงียบลง ... สู่มรดกที่ยังดังก้อง การส่งต่อสู่บทใหม่ของ Berkshire Hathaway
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

