ทศวรรษใหม่ฮ่องกงดิสนีย์ เดินหน้ารุกตลาดเอเชีย - Forbes Thailand

ทศวรรษใหม่ฮ่องกงดิสนีย์ เดินหน้ารุกตลาดเอเชีย

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Mar 2016 | 11:12 AM
READ 3200
เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท จากสภาวการณ์ขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2548 ท่ามกลางเศรษฐกิจของเอเชียที่ทรุดหนัก และการเผชิญหน้ากับคู่แข่งท้องถิ่นที่แข็งแกร่งอย่างโอเชียนปาร์ค ทำให้สวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ที่มีหุ้นส่วนใหญ่เป็นรัฐบาลฮ่องกง (ดิสนีย์ถือหุ้น 43% ที่เหลือเป็นของรัฐบาลฮ่องกง) แทบจะหมดหวังในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อปัญหาอยู่ที่ความน่าสนใจและขนาดของสวนสนุกที่ไม่สามารถเทียบได้กับดิสนีย์แลนด์ในประเทศอื่น รัฐบาลฮ่องกงจึงอนุมัติขยายพื้นที่ 25% และเพิ่มจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวในปี 2552 ด้วยแผนโครงการ 5 ปีสร้างสวนสนุก themed land ใหม่อีก 3 โซน ได้แก่ Toy Story Land เปิดให้บริการปี 2554 Grizzly Gulch ในปี 2555 รวมทั้ง Mystic Point ปี 2556 เฉพาะที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ภายใต้การบริหารของ  แอนดรูว์ แคม กรรมการผู้จัดการ ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ซึ่งดูแลทั้งสวนสนุกและโรงแรม 2 แห่งรวมจำนวน 1,000 ห้องพัก และพนักงานมากกว่า 7,800 คน ในที่สุดฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ สามารถพลิกฟื้นผลขาดทุน 8 ปีติดต่อกัน ด้วยการทำกำไรครั้งแรกจำนวน 109 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 2555 สร้างรายได้ 4,300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง พร้อมจำนวนผู้เข้าชม 6.7 ล้านคน และเติบโตอย่างต่อเนื่องสู่รายได้จำนวน 5,466 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (2.84 หมื่นล้านบาท) และทำกำไรได้ 322 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.72 พันล้านบาท) ในปี 2557 นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวจีนจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้กับฮ่องกงดิสนีย์แลนด์แล้ว นักท่องเที่ยวไทยยังเป็นหนึ่งในตลาดหลักตามแผนการขยายตลาด ตามกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมองตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครองสัดส่วนนักท่องเที่ยวประมาณ 22% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด 7.5 ล้านคนเมื่อปี 2557 รองจากตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ 48% และตลาดฮ่องกง 30% แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะซบเซาหรือชะลอตัวลง แต่การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวในภูมิภาคสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้ 5.5% โดยเฉพาะประเทศไทยมีการเดินทางไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น 7% หรือคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยว 5% เนื่องจากการขยายตัวด้านรายได้ ดีมานด์การท่องเที่ยวของชนชั้นกลางที่มีฐานะมีจำนวนมากขึ้น และสายการบินต้นทุนต่ำที่ช่วยให้การเดินทางสะดวก และลดต้นทุนการเดินทางลง “ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วถึงปัจจุบันจำนวนคนไทยเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เพิ่มขึ้น 23% โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเทศกาลเพิ่มขึ้นถึง 70% ขณะที่คนไทยเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุดเทียบกับนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับหนึ่งของยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน เราไม่มีตัวเลขชัดๆ แต่ที่เห็นคือ คนไทยชอบซื้อของแต่งบ้าน จาน ชาม เสื้อผ้า ของเล่น เราเห็นยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกปี รองลงมาเป็นประเทศอินโดนีเซีย” แอนดรูว์กล่าวถึงนักท่องเที่ยวไทยที่ครองแชมป์การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลยุทธ์สร้างการเติบโตของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ในปีนี้จึงเดินหน้ารุกหนักในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น  นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงต้นปีนี้กับแคมเปญฉลองครบรอบ 10 ปี ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือกับเซ็นทรัลเวิลด์จัดงาน A Happy Fairytale ให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกลิ่นอายของโชว์และกิจกรรมต่างๆ ที่มีขึ้นอย่างอลังการในฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการนำเสนอประสบการณ์แห่งเทพนิยายของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ให้กับตลาดประเทศไทย นอกจากนั้น ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ยังนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งลดราคาพิเศษในแพ็คเกจตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง บัตรเข้าชมสวนสนุก 1 วันและคูปองอาหารราคา 6,996 บาท หรือประมาณ 40% ของราคาปกติพร้อมกิมมิกพิเศษลดราคา 90% เหลือเพียง 699.50 บาทสำหรับ 10 คนแรก และลดราคา 80% เหลือ 1,399 บาท สำหรับ 20 คนแรก นอกเหนือจากลดดราคาห้องพัก 30% ในโรงแรมฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ และโรงแรมดิสนีย์ฮอลลีวู้ด แอนดรูว์กล่าวถึงความพิเศษที่มีให้เฉพาะประเทศไทยว่า “แต่ละประเทศไม่เหมือนกัน อย่างจีนกวางตุ้งเราให้เป็นบัตรเข้าชมสวนสนุกและอาหาร ไม่จำเป็นต้องค้าง แต่ถ้าไกลขึ้นอาจจะบวกโรงแรมให้ แล้วแต่ตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีระยะเวลาพักในฮ่องกงประมาณ 3.5 คืน จึงสนใจ 1 day ticket และ 2 day ticket เพราะจ่ายเพิ่มไม่มาก และเข้าวันที่ 2 ไม่จำเป็นต้องติดกับวันแรกจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้” ไม่เพียงการแสดงที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ยังเพิ่มสีสันด้วยการตกแต่งถนน Mainstreet USA สำหรับงานฉลองครบรอบ 10 ปี รวมทั้งการเปิดตัว Fairytale Forest ในแฟนตาซีแลนด์ ด้วยการจำลองฉากจากเรื่องราวของเจ้าหญิงของดิสนีย์แห่งเทพนิยาย 5 เรื่อง พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องเล่น Iron Man ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ดิสนีย์นำฮีโร่จากค่าย Marvel มาเสริมความสนุกในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ “เรายังผลิตสินค้าร่วมกับแบรนด์อื่นๆ ในรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ผสมผสานดีไซน์ของดิสนีย์ เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี เช่น จี้จาก PANDORA หรือช่อดอกไม้ผ้าที่หอมอบอวลไปด้วยน้ำหอมจาก Crabtree and Evelyn” แอนดรูว์เพิ่มเติมความพิเศษในการผลิตสินค้าร่วมกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Coca-Cola, Crabtree and Evelyn, Dooney & Burke และ PANDORA นอกเหนือจากสินค้าจำนวนกว่า 220 ไอเท็ม ซึ่งจะมีสินค้าที่ระลึกฉลองครบรอบ เช่น เข็มกลัดลิมิเต็ด อิดิชั่น และคอลเล็คชั่น Castle Skyline พร้อมเพิ่มจำนวนสินค้าฉลองการฉายรอบปฐมทัศน์ของ “Star Wars: The Force Awakens” หลากหลายประเภทกว่า 250 ชนิด แอนดรูว์ประเมินภาพรวมการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับญี่ปุ่นและสิงคโปร์ที่มีสวนสนุกขนาดใหญ่ว่า “ฮ่องกงมีความ unique มากในเอเชีย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในเอเชียรองจากญี่ปุ่นและเกาหลี รวมถึงโอเชียนปาร์ค แต่ในแง่แบรนด์ของดิสนีย์ยังคงแข็งแกร่งครองตลาดเอเชีย โดยการเดินทางจากไทยไปฮ่องกงสามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วประมาณ 2 ชั่วโมง เหมือนรถติดในเมืองไทย 2 ชั่วโมงก็สามารถถึงฮ่องกงได้แล้ว”
อ่านฉบับเต็ม "ทศวรรษใหม่ฮ่องกงดิสนีย์ เดินหน้ารุกตลาดเอเชีย" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ FEBRUARY 2016 ในรูปแบบ E-Magaizne