10 อันดับมหาเศรษฐีอินเดีย ประจำปี 2022 - Forbes Thailand

10 อันดับมหาเศรษฐีอินเดีย ประจำปี 2022

FORBES THAILAND / ADMIN
17 Oct 2022 | 06:09 PM
READ 6437

อินเดียหลังการแพร่ระบาดได้รวบรวมสรรพกำลังฟื้นคืนเศรษฐกิจชาติ ก้าวขึ้นสู่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจลำดับที่ 5 ของโลกแซงหน้าสหราชอาณาจักรได้สำเร็จ แต่ด้านอัตราการทำกำไรของตลาดหลักทรัพย์อินเดียกลับลดลงจากปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากสกุลเงินรูปีที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง


เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดอันดับมหาเศรษฐีอินเดียที่ร่ำรวยที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมา เงินสกุลรูปีอ่อนค่าลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การจัดอันดับ 100 มหาเศรษฐีอินเดีย ประจำปี 2022 มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีทั้ง 100 คนรวมกันเพิ่มขึ้น 2.5 หมื่นล้านเหรียญ เกือบแตะ 8 แสนล้านเหรียญ


10 อันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในอินเดีย ประจำปี 2022 มีดังนี้


รูปโดย Adani Group


อันดับ 1

Gautam Adani และครอบครัว

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.50 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 60 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์และโครงสร้างพื้นฐาน


ในปี 2022 Adani เข้าซื้อหุ้นบริษัทสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ Holcim ในมูลค่า 1.05 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้เขาได้กลายเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับสองของอินเดีย นอกจากนี้ เขายังคุม Mundra Port ท่าเรือซึ่งอยู่ในรัฐ Gujarat บ้านเกิดของเขา และเป็นผู้ให้บริการสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย

ด้วยความต้องการขึ้นมาเป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาดรายใหญ่ที่สุดของโลก มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของอินเดียคนนี้กล่าวว่า เขาได้ทำการลงทุนเงินกับโปรเจ็กต์พลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นจำนวนเงินถึง 7 หมื่นล้านเหรียญ


รูปโดย RITAM BANERJEE


อันดับ 2

Mukesh Ambani

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 8.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 65 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจหลากหลาย


Mukesh Ambani เป็นประธานกรรมการและผู้บริหารบริษัท Reliance Industries ซึ่งสร้างรายได้ที่ 1.04 แสนล้านเหรียญจากการประกอบธุรกิจปิโตรเคมี, น้ำมันและก๊าซ, โทรคมนาคมและค้าปลีก

Reliance ซึ่งแรกเริ่มเป็นบริษัทผู้ผลิตผ้าทอรายเล็กถูกก่อตั้งในปี 1996 โดย Dhirubhai Ambani หลังจากปี 2002 ที่ Dhirubhai เสียชีวิตลง Mukesh ซึ่งเป็นลูกชายคนโตได้สืบทอดกิจการโดยแบ่งสัดส่วนกับน้องชาย Anil Ambani บริหารธุรกิจ

ปัจจุบัน บริษัท Reliance กำลังเตรียมพร้อมเปิดให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ 5 G และมีผู้ใช้บริการมากกว่า 420 ล้านคน นอกจากนี้ Ambani ​ได้วางแผนเปลี่ยนให้บริษัท Reliance หันมาสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด โดยจะเริ่มลงทุนเงินจำนวน 8 หมื่นล้านเหรียญแก่พลังงานหมุนเวียนและการสร้างฐานการผลิตอันใหม่ข้างโรงกลั่นปัจจุบัน ภายในระยะเวลา 10-15 ปีข้างหน้า

รูปโดย RADHAKISHAN DAMANI


อันดับ 3

Radhakishan Damani และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.76 หมื่นล้านเหรียญ

อายุ: 67 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจค้าปลีกและการลงทุน

สุดยอดนักลงทุนของอินเดีย Radhakishan Damani ได้กลายเป็นราชาแห่งการค้าปลีกแห่งอินเดีย หลังจากที่เขาได้นำธุรกิจแฟรนไชส์ซูเปอร์มาร์เก็ต Avenue Supermart ของเขาเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนมีนาคมของปี 2017

Damani เข้าทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2002 โดยเริ่มจากร้านค้าเพียงร้านเดียวในย่านของเมืองของกรุง Mumbai ปัจจุบัน DMart ร้านสะดวกซื้อของเขาได้ขยายสาขาถึง 294 แห่งทั่วประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Damani ยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท ตั้งแต่ VST Industries บริษัทยาสูบ จนถึงผู้ผลิตปูนซีเมนต์อย่าง India Cements

รูปโดย SANJIT DAS/BLOOMBERG


อันดับ 4

Cyrus Poonawalla

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 81 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจอุตสหากรรมยา

Cyrus Poonawalla ลูกชายของผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมพันธุ์ม้า ได้ก่อตั้งบริษัท Serum Institute of India ในปี 1966 และกลายเป็นผู้ผลิตวัคซีนโดสใหญ่ที่สุดของโลก โดยวัคซีนยาจำนวนกว่า 1.5 พันล้านโดสที่บริษัท Serum ได้ทำการผลิตนั้นครอบคลุมโรคหัด, โปลิโอ และไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ผลิต Covishield วัคซีนที่พัฒนาโดย AstraZeneca และมหาวิทยาลัย Oxford University รวมถึงได้ลงทุนเงินจำนวน 800 ล้านเหรียญไปกับการสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อผลิตวัคซีนโควิด-19


รูปโดย RITESH SHARMA/THE INDIA TODAY GROUP/GETTY IMAGES


อันดับ 5

Shiv Nadar

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.14 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 77 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจให้บริการด้านซอฟต์แวร์


ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดีย Shiv Nadar ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท HCL ภายในโรงรถเมื่อปี 1976 เพื่อผลิตเครื่องคิดเลขและไมโครโปรเซสเซอร์

ปัจจุบัน บริษัท HCL Technologies ซึ่งมีรายได้ถึง 1.15 หมื่นล้านเหรียญได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย บริษัทมีลูกจ้างกว่า 211,000 คน และมีสาขาทำการใน 52 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทยังได้ทำการจ้างเด็กนักเรียนมัธยมปลายเพื่อฝึกงานกับบริษัท

Nadar นับเป็นหนึ่งในเศรษฐีใจบุญแนวหน้าของอินเดีย เขาได้บริจาคเงินจำนวน 662 ล้านเหรียญให้แก่มูลนิธิ Shiv Nadar Foundation ซึ่งช่วยเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา


รูปโดย RAJKUMAR/MINT VIA GETTY IMAGES

อันดับ 6

Savitri Jindal และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.64 ​หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 72 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก


หลังจากที่ Om Prakash Jindal ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Jindal Group ได้เสียชีวิตลงในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อปี 2005 ภรรยาของเขา Savitri Jindal ได้ขึ้นมาเป็นประธานกรรมการกลุ่มบริษัท Jindal ในขณะที่ลูกๆ ทั้ง 4 คนได้แบ่งกันบริหารบริษัทในเครือ

กลุ่มบริษัท Jindal ทำธุรกิจเกี่ยวกับเหล็ก, ปูนซีเมนต์, และโครงสร้างพื้นฐาน โดยทรัพย์สินที่มีสัดส่วนมากที่สุดของบริษัทอยู่ภายใต้การจัดการของ Sajjan Jindal ซึ่งเป็นผู้บริหารธุรกิจเหล็กในเครืออย่างบริษัท JSW Steel


รูปโดย KANISHKA SONTHALIA/BLOOMBERG


อันดับ 7

Dilip Shanghvi และครอบครัว

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.55 ​หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 67 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจอุตสาหกรรมยา


ตอนก่อตั้งบริษัท Sun Pharmaceutical Industries ในปี 1983 Dilip Shanghvi ได้ขอยืมเงินทุนจากบิดาจำนวน 200 เหรียญเพื่อนำมาสร้างธุรกิจผลิตยารักษาโรคจิตเภช ปัจจุบัน Sun Pharmaceutical ได้กลายเป็นบริษัทผลิตยาที่มีมูลค่ามากที่สุดของอินเดีย โดยมีรายได้ต่อปีอยู่ที่ 4.5 พันล้านเหรียญ


รูปโดย SIMON DAWSON/BLOOMBERG


​อันดับ 8

พี่น้องตระกูล Hinduja

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.52 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: - ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจหลากหลาย


สี่พี่น้องจากตระกูล Srichand, Gopichand (ในรูป), Prakash และ Ashok เป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัทข้ามชาติ Hinduja Group กิจการที่บริษัทได้ประกอบนั้นมีหลากประเภท ได้แก่ รถบรรทุก, น้ำมันหล่อลื่น, ธนาคาร​, รวมถึงโทรทัศน์เคเบิล

เมื่อเดือนมิถุนายนของปี 2020 ที่ผ่านมา เกิดการฟ้องร้องคดีระหว่างพี่คนโตสุดและน้องชายอีกสามคนซึ่งเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของในธนาคาร Geneva


รูปโดย DHIRAJ SINGH/BLOOMBERG


​อันดับ 9

Kumar Birla

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: 55 ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์


Kumar Birla เป็นมหาเศรษฐีผู้บริหารรุ่นที่สี่ของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group ซึ่งมีรายได้มูลค่า 4.5 หมื่นล้านเหรียญ กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลายประเภท อันได้แก่ ปูนซีเมนต์, เหล็กอะลูมิเนียม, โทรคมนาคมและการเงิน Birla สืบทอดอาณาจักรธุรกิจจากครอบครัวเมื่ออายุได้ 28 ปี หลังจากที่บิดาของเขา Aditya Birla เสียชีวิตในปี 1995


รูปโดย SUJIT JAISWAL/GETTYIMAGES


อันดับ 10

ตระกูล Bajaj

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ:1.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

อายุ: - ปี

แหล่งที่มารายได้: ธุรกิจหลากหลาย


ตระกูล Bajaj เป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัท Bajaj Group ​ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 96 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะของบริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Bajaj Auto และบริษัทให้บริการด้านการเงิน Bajaj Finserv

Rahul Bajaj (ในรูป) เคยนั่งเป็นประธานบริหารกลุ่มบริษัท Bajaj ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อปี 2022 ด้วยอายุ 83 ปี ในส่วนของบริษัท Bajaj Finserv ซึ่งมีสัดส่วนทรัพย์สินมากที่สุดของตระกูลอยู่ภายใต้การบริหารของ Rajul Bajaj ลูกชายคนเล็ก


แปลและเรียบเรียงโดย สิรินนรี อ๋องสกุล จากบทความ India 100 Richest 2022 เผยแพร่บน Forbes.com


อ่านเพิ่มเติม:


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON