สนามบินซิดนีย์ปรับโฉมโซนใหม่ SYD X ใช้แบรนด์หรูดึงดูดนักช็อป - Forbes Thailand

สนามบินซิดนีย์ปรับโฉมโซนใหม่ SYD X ใช้แบรนด์หรูดึงดูดนักช็อป

สนามบินซิดนีย์ปรับโฉมใหม่ในโซน SYD X ใช้แบรนด์หรูระดับไฮเอนด์ถึง 20 แบรนด์ เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจขาช็อปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์ดังและยังได้สิทธิพิเศษซื้อสินค้าแบบปลอดภาษี


    โซนแกลเลอรี่ของแบรนด์สุดหรูระดับไฮเอนด์ภายในสนามบินซิดนีย์ ออสเตรเลีย ใกล้จะก่อสร้างตกแต่งให้เสร็จสมบูรณ์ได้ในไม่ช้า โดยร้านบูทีคของเหล่าแบรนด์ดัง อาทิ Tiffany&Co. Catier และ Versace ก็กำลังจะแล้วเสร็จด้วยเช่นกันเพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการได้ทันในช่วงกลางปี 2023

    SYD X คือชื่อเรียกของโซนพื้นที่ใหม่ระดับไฮเอนด์ซึ่งมีขนาด 30,000 ตารางฟุต ตั้งอยู่ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศของสนามบินซิดนีย์ โดยจะเป็นที่ตั้งของเหล่าบรรดาแบรนด์ดังสุดหรูจำนวนทั้งสิ้น 20 แบรนด์ ภายใต้พื้นที่ในโซนหลังคาเดียวกัน 

    เหล่าแบรนด์ดังที่ทยอยพาเหรดมาเปิดตัวร้านแบบบูทีคสแตนด์อโลน ได้แก่ Balenciaga, Burberry, Bvlgari, Dior, Gucci, Hermes, Louis Vuitton, Moncler, Rolex และ Valentino เป็นต้น ซึ่งพื้นที่จํานวนมากภายในตัวอาคารยังได้รับการปรับปรุงโฉมใหม่หลังจากได้รับข้อเสนอจากแบรนด์ต่างๆ เมื่อห้าปีก่อน

    การเปิดตัวอีกครั้งของแบรนด์ Tiffany เกิดขึ้นพร้อมกับการปรับปรุงข้อเสนอในการซื้อสินค้าปลอดภาษีในสนามบินที่มีมายาวนานโดยบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Gebr. Heinemann ที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าวมานับตั้งแต่ปี 1879 และยังขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความสวยงามมาอย่างต่อเนื่อง 

    เห็นได้จากการมีประเภทของสินค้าเครื่องประดับแฟชั่นเพิ่มขึ้นในโซนร้านค้าปลอดภาษีมากมาย ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด จากการมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเป็นทางเลือกให้แก่เหล่าผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ชอบท่องเที่ยวและรักการเดินทาง อาทิ Chloe, Kenzo และ Lanvin

    เมื่อเหล่าบรรดานักช็อปผู้มีไลฟ์สไตล์และชื่นชอบการเดินทางได้เดินผ่านโซนการตรวจสอบเอกสารและตรวจเช็ครายละเอียดต่างๆ ตามระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ถัดมาจะเป็นโซนสินค้า Luxury สุดหรู SYD X ที่ออกแบบมาเป็นรูปวงรี มีทางเดินแบ่งออกเป็นสองข้างทางให้สามารถเลือกเดินชมและเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้อย่างหลากหลายก่อนจะไปถึงโซนประตูทางออกก่อนขึ้นเครื่อง 

    การพัฒนาปรับปรุงโซน SYD X นี้ ยังได้รับการสนับสนุนจาก Gab Waller ผู้ประกอบการและในฐานะผู้เชี่ยวชาญคนดังที่มีทักษะด้านแฟชั่นในการจัดหาสิ่งของต่างๆ มาตกแต่งได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งเธอยังมีประสบการณ์การทำงานให้กับเซเลบริตี้คนดังระดับ A-List มากมาย เช่น ครอบครัวตระกูล Kardashian, Rosie Huntington-Whiteley รวมทั้ง Hailey Bieber เป็นต้น


คุ้มค่าที่จะมาช้อปก่อนขึ้นเครื่องหรือไม่?

    Gab Waller ในฐานะ Ambassador ของ SYD X อธิบายแบบสั้นๆ ว่า “เมื่อเกมการแข่งขันธุรกิจได้เปลี่ยนไป” โดยเธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "ฉันสามารถช็อปปิ้งได้ทั้งหมดก่อนที่จะขึ้นไฟลต์บิน เพื่อหลีกเลี่ยงการรอต่อคิวซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าในเมืองและยังได้รับบริการสุดพิเศษระหว่างการเดินทางด้วยการช็อปแบบไม่ต้องเสียภาษีซึ่งมีเฉพาะที่สนามบินเท่านั้น" 

Gab Waller ในฐานะ Ambassador ของ SYD X

    Mark Zaouk ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการพาณิชย์ของสนามบินซิดนีย์ กล่าวว่า "เรามีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ของสนามบินซิดนีย์ให้มีความหรูหรามากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งการทํางานอย่างพิถีพิถันได้นําไปสู่การสร้างแหล่งช็อปปิ้งใหม่สุดหรูที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และยังมีแบรนด์หรูอีกมากที่กำลังจะตามมา" นี่จึงเป็นการอ้างอิงถึงร้านบูทีคแบรนด์ดังระดับไฮเอนด์อย่าง Cartier และ Versace ที่กำลังจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ด้วย

    นับเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ เพราะกลุ่มผู้บริโภคจากประเทศจีนที่นิยมการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวในออสเตรเลียได้ตามปกติอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ตัวเลขดังกล่าวยังได้ทยอยเพิ่มขึ้นถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีที่กลุ่มผู้บริโภคจากจีนจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติในอนาคต

    Geoff Culbert ซีอีโอของสนามบินซิดนีย์ กล่าวว่า "การเปิดพรมแดนสู่ประเทศจีนอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทำให้คาดการณ์ได้ว่าจํานวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากตลอดปี 2023 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลายเส้นทางการบินหลักสามารถกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ”

    แต่ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของตัวเลขดังกล่าวยังคงเป็นประเด็นสำคัญ เห็นได้จากเดือนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการครบรอบ 1 ปีแรกที่สนามบินซิดนีย์เริ่มกลับมาเปิดพรมแดนการบินระหว่างประเทศอีกครั้ง 

    ซึ่งตัวเลขผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นมีเพียง 3 ล้านราย ถือเป็นการฟื้นตัว 79% เทียบกับช่วงก่อนโควิดในเดือนมกราคมปี 2019 โดยแยกเป็นตัวเลขของผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 1.23 ล้านราย และยังถือเป็นการฟื้นตัวที่น้อยกว่า 74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019

ตัวเลขเป้าหมายยังคงท้าทาย

    สนามบินหลักของออสเตรเลียต้องใช้เวลากว่า 1 ปีเต๋็มในการกลับมาเปิดให้บริการแก่นักเดินทางจากต่างประเทศได้อีกครั้ง ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการฟื้นตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีนที่จะมีอิทธิพลสำคัญต่อความสำเร็จในการให้บริการโซนช็อปปิ้งสินค้าสุดหรูแบบปลอดภาษีนั้นจะเป็นอย่างไร

    ปัจจุบันมีกลุ่มสัญชาติของนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสนามบินซิดนีย์มากที่สุดได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ ตามลำดับ โดยตัวเลขของ 2 ประเทศดังกล่าวนอกเหนือจากออสเตรเลีย มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมกราคมปี 2019 อยู่ที่ 16% และ 25% ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีนมีการปรับตัวลดลงมากสุดถึง 77% ส่วนประเทศที่มีการฟื้นตัวกลับมาท่องเที่ยวได้ไวสุดคือ อินเดีย ซึ่งมีการปรับตัวลดลงเพียง 11%

    ทั้งนี้ Culbert ซีอีโอของสนามบินซิดนีย์ ยังกล่าวเสริมว่า "ถือเป็นปีที่ท้าทายสําหรับสนามบินซิดนีย์นับตั้งแต่ออสเตรเลียได้เปิดพรมแดนอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เราได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจํานวนมากมีความกระตือรือร้นที่จะออกเดินทางไปสํารวจโลกกันมากขึ้น 

    แต่ก็ยังน่าเสียดายที่การฟื้นตัวดังกล่าวอาจจะยังไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากหลายเส้นทางการบินที่สำคัญในต่างประเทศยังคงได้รับผลกระทบและยังไม่สามารถกลับมาให้บริการทั้งหมดได้ตามปกติ”

    โดยข้อมูลดังกล่าวยังสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขให้เห็นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษลดลงเหลือ 75% เทียบจากช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เคยเดินทางหนาแน่นในก่อนหน้านี้ อย่าง เยอรมีและฝรั่งเศสก็ยังปรับลดน้อยลงตามไปด้วยเช่นกัน


แปลจากบทความ Cartier And Versace Will Soon Follow Tiffany To Complete Sydney Airport’s Luxury Makeover ซึ่งเผยแพร่บน forbes.com

อ่านเพิ่มเติม:Tony Fernandes บอสใหญ่ AirAsia สยายปีกบินทั่วอาเซียน ท่ามกลางการฟื้นตัวหลังโรคระบาด


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine