ครั้งหนึ่ง Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple เคยซื้อกิจการส่วนหนึ่งมาจาก Lucasfilm ก่อนสร้างเป็นสตูดิโอแอนิเมชั่นอันโด่งดังในนาม Pixar แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีบทบาทในสตูดิโอแห่งนี้มากนัก เพราะตระหนักดีกว่าตัวเองปราศจากความเชี่ยวชาญด้านการทำภาพยนตร์ แต่ก็เคยเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานและพนักงานต่างจดจำเขาได้
หนึ่งในพนักงานเหล่านั้นคือ Pete Docter ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ของ Pixar โดยในงานประกาศรางวัล Most Innovative Companies ที่จัดขึ้นโดย Fast Company เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองในอดีตและแบ่งปันบทเรียนเมื่อครั้งที่มีโอกาสได้ทำงานกับ Jobs
Docter สังเกตว่า Jobs มีจุดแข็งข้อหนึ่งในฐานะผู้นำที่ทุกคนควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และหนึ่งพฤติกรรมที่ไม่ควรทำเลยด้วยประการทั้งปวง
ฟังและวิเคราะห์ถึงแก่น
สำหรับทักษะอันยอดเยี่ยมของ Jobs ที่ Docter นึกชื่นชมเขาคือ การกลั่นกรองบทสนทนาจนสามารถเข้าถึงแก่นและสรุปเนื้อหาหลักออกมาได้
“เขาสามารถเดินเข้ามาในห้องโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าทุกคนกำลังทำอะไรกันอยู่ นั่งฟังสัก 5 นาที และวิเคราะห์ได้ว่าทุกคนกำลังคุยกันเรื่องอะไร” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ของ Pixar กล่าว พร้อมอธิบายว่าทักษะนี้ทำให้ Jobs สามารถช่วยเหลือพนักงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
“ผมคิดว่ามันมาจากการฝึกฝนต่อเนื่องนานหลายปีครับ” Docter วิเคราะห์ “มันไม่ใช่สิ่งที่ใครเกิดมาแล้วก็ทำได้เลย แต่เป็นทักษะที่เขาขัดเกลาเพื่อพัฒนาตัวเอง”
เคารพเวลาส่วนตัว
สำหรับสิ่งที่ Jobs ยังบกพร่องคือ การเคารพเวลาส่วนตัวของผู้อื่น โดย Docter เล่าว่า “เขาจะโทรหา–หลักๆ ก็พวกโปรดิวเซอร์–ทุกเวลา ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ตอนตีสาม ตอนคุณลาพักร้อน ตอนไหนก็ตาม เขาอยากจะคุยกับคุณ แล้วคุณก็ต้องตอบรับ”
Docter คาดว่าพฤติกรรมนี้ของ Jobs มาจากความหลงใหลอันแรงกล้าในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ซึ่ง Docter ก็เปิดเผยว่าตัวเขาหลังจากก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้บริหาร Pixar ณ ปัจจุบันพยายามจะไม่โทร.หาใครตอนกลางคืน แต่เลือกจะอีเมลแทนหากอยู่นอกเวลางาน
“ผมว่านั่นคือสิ่งที่ภรรยาพยายามบอกผมให้เลิกทำอยู่” เขากล่าว
ภาพปก (Steve Jobs) โดย Justin Sullivan on AFP
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “ขอได้ไหม ผู้นำที่จริงใจ” ผลสำรวจพบพนักงาน 68% ตัดสินใจลาออกเพราะผู้บริหารไม่รักษาสัญญา กระทบความไว้วางใจ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine