การจัดทำเนียบ Forbes' Global 2000 ประจำปี 2025 ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 โดย 10 อันดับแรกของ 'บริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก' ประจำปีนี้ อันดับ 1 ยังคงเป็น JPMorgan ที่ครองแชมป์ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน ส่วนอันดับอื่นๆ ก็ยังคงเป็นบริษัทเดิมที่ติดโผจากปีที่แล้ว ซึ่งมีการสลับตำแหน่งกันเล็กน้อย และแม้ว่าจะมีเรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อเนื่องไปถึงนโยบายการขึ้นภาษีของ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ทว่าตัวเลขของผลกำไร มูลค่าตลาด และสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่ติดอยู่ในทำเนียบกลับเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
แวะเวียนกลับมาอีกครั้ง...สำหรับการจัดอันดับ 'บริษัทมหาชนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก' ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 23 โดยทำเนียบ Forbes’ Global 2000 ประจำปี 2025 ในปีนี้ ยังคงใช้หลักเกณฑ์สำคัญในการวัด 4 ประการ ได้แก่ ยอดขาย กำไร สินทรัพย์ และมูลค่าตลาด เพื่อนำมาวิเคราะห์ประมวลผลร่วมกับปัจจัยอื่นๆ
และแม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งอันเป็นผลมาจากนโยบายการขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ทั้ง 4 หลักเกณฑ์ดังกล่าวที่รวมกันของบริษัททั้งหมดจำนวน 2,000 แห่งที่ติดอยู่ในรายชื่อปีนี้ ยังมีตัวเลขรายได้ต่อปีรวมเป็น 52.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไร 4.9 ล้านล้านเหรียญ สินทรัพย์ 242.2 ล้านล้านเหรียญ และมูลค่าตลาด 91.3 ล้านล้านเหรียญ
ตัวเลขผลกำไร มูลค่าตลาด และสินทรัพย์ทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องไปถึงรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 140% ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นว่ายุคโลกาภิวัตน์ในปัจจุบันช่วยให้โลกเติบโตขึ้นได้มากเพียงใด รวมถึง JPMorgan ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ก็ยังคงครองอยู่ในอันดับ 1 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และมีบริษัทในสหรัฐฯ 612 แห่งที่ติดอยู่ในรายชื่อของปีนี้
ขณะที่บริษัทด้านเทคโนโลยี เช่น Amazon Alphabet และ Microsoft รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับนานาชาติอย่าง Saudi Aramco และ Industrial and Commercial Bank of China หรือ ICBC ยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับแรกเช่นปีก่อน ส่วน Nvidia นั้นยังคงไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนอยู่ในอันดับที่ 47 ของปีนี้ ซึ่งการจัดอันดับทั้งหมดดังกล่าวนี้ ทาง Forbes อเมริกา ได้ใช้ข้อมูลทางการเงิน 12 เดือนล่าสุด สิ้นสุด ณ วันที่ 25 เมษายน 2025 เพื่อคำนวณปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ในการจัดอันดับนั่นเอง


อันดับ 1 JPMorgan Chase
รายได้ 285,110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 59,360 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 4,357,860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 677,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 2 Berkshire Hathaway
รายได้ 371,430 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 89,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 1,157,880 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 1,145,460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 3 Industrial and Commercial Bank of China หรือ ICBC
รายได้ 221,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 50,840 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 6,688,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 251,330 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 4 Saudi Arabian Oil Company
รายได้ 480,150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 104,970 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 645,030 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 1,663,380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 5 Amazon
รายได้ 637,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 59,250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 624,890 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 2,005,640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 6 Bank of America
รายได้ 196,530 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 27,850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 3,349,420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 300,060 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 7 China Construction Bank
รายได้ 196,710 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 46,640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 5,558,260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 219,810 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 8 Agricultural Bank of China
รายได้ 198,020 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 39,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 5,923,640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด212,510 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 9 Alphabet
รายได้ 359,310 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 111,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 475,370 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 1,973,640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 9 Microsoft
รายได้ 261,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไร 92,750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินทรัพย์ 533,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าตลาด 2,913,010 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แปลและเรียบเรียงจาก : Forbes' The Global 2000
ออกแบบภาพปกและอินโฟกราฟิกโดย ธัญวดี นิรุตติศาสตร์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 10 อันดับ สายการบินที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2025 โดย Skytrax
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine