นักลงทุนไทยเกือบครึ่ง ถือครองทองคำเพื่อปกป้องความมั่งคั่ง - Forbes Thailand

นักลงทุนไทยเกือบครึ่ง ถือครองทองคำเพื่อปกป้องความมั่งคั่ง

FORBES THAILAND / ADMIN
25 Dec 2022 | 08:00 PM
READ 3901

รายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทองคำค้าปลีกประเทศไทย (Retail Gold Insights: Thailand Report) ฉบับล่าสุดจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีความเข้าใจในการลงทุน โดยมีการนำรายได้ 35% มาลงทุนในทอง และผู้ลงทุนมีผลิตภัณฑ์การลงทุนเฉลี่ย 3.5 รายการ ทั้งนี้นักลงทุนมองว่าตนเองเป็นนักลงทุนที่มีความมั่นใจและเต็มใจที่จะลองลงทุนในหลายรูปแบบเพื่อแลกกับการเติบโตทางการเงินแบบทวีคูณ


    87% ของนักลงทุนไทยเห็นด้วยว่า การมีพอร์ตลงทุนที่หลากหลายเพื่อช่วยปกป้องความมั่งคั่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนชาวไทยมีความกังวลถึงภาวะตลาดการเงินล่ม พวกเขาจึงต้องการทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่เลือกลงทุนและมีมุมมองในการลงทุนระยะยาว

    ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ทองคำเป็นการลงทุนที่นิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในพอร์ตการลงทุนของประเทศไทย และกว่าครึ่งหนึ่งของนักลงทุนรายย่อยในประเทศได้ถือครองทองคำในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยการลดความเสี่ยงเป็นปัจจัยหลัก (57%) ที่กระตุ้นให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนในทองคำ 

    แนวโน้มเช่นนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยตระหนักถึงบทบาทของทองคำในฐานะผลิตภัณฑ์ลงทุนที่มีความปลอดภัย ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับบทบาทของทองคำในพอร์ตการลงทุนที่ถือเป็นเครื่องมือช่วยปกป้องความมั่งคั่ง

    นักลงทุนกว่า 40% ได้ซื้อทองคำเพื่อการลงทุนในช่วง 12 เดือนก่อนการสำรวจโดยทองคำแท่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของนักลงทุน ตามด้วยเหรียญทองคำที่ 12% กองทุนทอง (ETF) ที่ 10% ทองคำเก็บในคลังนิรภัยที่ 9% และเครื่องประดับทองคำที่ 9%

    อย่างไรก็ตามพบว่ามีอุปสรรคที่ทำให้นักลงทุนที่สนใจยังลังเลที่จะลงทุนในทองคำ เป็นครั้งแรก โดยเกือบ 80% ของนักลงทุนกลุ่มนี้เผยว่า พวกเขายังไม่มีความรู้มากพอที่จะซื้อทองคำ และไม่ทราบถึงช่องทางในการซื้อทองคำที่มีราคาไม่แพง โดยอุปสรรคที่เด่นชัดที่สุดคือ พวกเขาเชื่อว่าทองคำนั้น “มีค่าธรรมเนียมการซื้อ/ขายทองคำสูงเกินไป”

    เกือบครึ่งหนึ่งกังวลถึงความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ทองคำ โดยมากกว่า 30% ระบุว่า กลัวถูกหลอกให้ซื้อทองคำปลอม จึงเลือกที่จะไม่ซื้อ และกว่า 10% ชี้ว่า ตนไม่กล้าซื้อเพราะยังไม่มีการรับประกันถึงความบริสุทธิ์ของทองคำ

    มากกว่า 1 ใน 3 ของนักลงทุนที่คิดจะลงทุนในทองคำเป็นครั้งแรกคิดว่าตนจะไม่สามารถเก็บทองคำไว้ได้อย่างปลอดภัย โดยนักลงทุนกลุ่มนี้อาจยังไม่ทราบถึงช่องทางและบริการการจัดเก็บทองคำที่มีอยู่


- นักลงทุนรายย่อย 4 ประเภท -

    การศึกษาวิจัยยังเจาะลึกถึงกลุ่มนักลงทุนรายย่อย 4 ประเภทในประเทศไทย ได้แก่ นักลงทุนที่กล้าเสี่ยงโดยยึดตามคำแนะนำ (guided risk takers) เทรดเดอร์ที่ชอบความผันผวน (adventurous traders) นักกลยุทธ์เชิงอไจล์ (agile strategists) และนักออมที่ระมัดระวัง (cautious savers)

    35% เป็นนักลงทุนที่กล้าเสี่ยงโดยยึดตามคำแนะนำ ซึ่งยอมรับความเสี่ยงเพื่อให้สามารถเติบโตได้แบบทวีคูณ และนักลงทุนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยกังวลกับการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความหลากหลาย

    26% เป็นเทรดเดอร์ที่ชอบความผันผวน ซึ่งต้องการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลในระยะสั้น และมักจะชอบเป็นผู้ที่ได้ลองอะไรใหม่ๆ นักลงทุนกลุ่มนี้มักเป็นนักลงทุนรายแรกๆ ที่จะเลือกการลงทุนแบบใหม่

    26% เป็นนักกลยุทธ์เชิงอไจล์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมมากที่สุด โดยพวกเขากลุ่มนี้มองการลงทุนเป็นงานอดิเรก และมุ่งเน้นที่จะสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายเพื่อปกป้องและเพิ่มความมั่งคั่ง นอกจากนี้ พวกเขายังมักที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ตนเองเข้าใจอย่างชัดเจน

    13% เป็นนักออมที่ระมัดระวัง โดยจะเลือกลงเงินน้อยที่สุดและไม่ชอบความเสี่ยงสูง พวกเขาจะเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือและสิ่งที่จะมาช่วยลดความเสี่ยง รวมถึงให้ผลตอบแทนที่มั่นคงอันสามารถเก็บไว้เป็นมรดกให้บุตรหลานของตนได้

    มากกว่า 80% ของนักลงทุนรายย่อยแต่ละกลุ่มเห็นด้วยว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ดี ซึ่งช่วยสร้างหลักประกันในช่วงที่บ้านเมืองเกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือเศรษฐกิจได้


- “ทองคำดิจิทัล” ดึงดูดนักลงทุน -

    ประการสุดท้ายงานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทองคำกว่า 73% ผ่านทางออฟไลน์ แต่เมื่อถามถึงปัจจัยของการเลือกซื้อทองคำแล้วสาเหตุอันดับต้นๆ ได้แก่ การขาย/เปลี่ยนทองเป็นเงินสดได้ง่าย ซื้อได้ตลอดเวลา และมีการสร้างผลกำไร

    ผลิตภัณฑ์ทองคำดิจิทัลไม่ว่าจะให้บริการโดยธนาคารหรือผู้ให้บริการรายอื่นจะช่วยให้ผู้ขายสามารถทำการตลาดและผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างครอบคลุมและราบรื่นยิ่งขึ้น

    ประเทศไทยมีตลาดทองคำขนาดใหญ่ที่มีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก เกือบครึ่งหนึ่งของนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยเลือกที่จะลงทุนในทองคำ และทองคำนับเป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมเป็นอันดับ 2 ของไทย จากรายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทองคำค้าปลีกในประเทศไทยทำให้เข้าใจถึงอัตราผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวังความต้องการในการลงทุน และพฤติกรรมการซื้อของนักลงทุนไทย 

    รวมถึงแสดงให้เห็นว่า ทำไมนักลงทุนประเภทต่างๆ ในประเทศไทยถึงให้ความสนใจกับทองคำกันอย่างแพร่หลาย โดยสิ่งขับเคลื่อนสำคัญคือ บทบาทของทองคำในฐานะเครื่องป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่การเมืองหรือเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน

    ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ มีศักยภาพในการลงทุนมหาศาลอีกทั้งยังได้รับแรงหนุนที่แข็งแกร่งจากการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ทั่วโลกและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในระยะยาวมีข้อมูลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความต้องการของนักลงทุนในการถือทองคำในฐานะที่เป็นการลงทุนที่ปลอดภัย แต่ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษานี้ยังได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งอื่นๆ

    การวิเคราะห์ของสภาทองคำโลกยังแสดงให้เห็นว่า ทองคำสามารถเป็นเครื่องปกป้องความมั่งคั่งเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและสามารถช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนได้ สภาทองคำฯ จะเดินหน้าทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนในทองคำและวิธีการในการลงทุน



Andrew Naylor

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาค APAC (ไม่รวมจีน) สภาทองคำโลก


อ่านเพิ่มเติม:

>> THE WEALTH REPORT 2022: สำรวจความมั่งคั่งทั่วโลก

>> “5 เศรษฐีใจบุญ” แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก


คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine