'พ่อสร้าง ลูกใช้ หลานทำพัง' วลีเด็ด! ที่ 'วรพนิต' CEO ผู้ปลุกปั้นอาณาจักร 'เรนวูด ปาร์ค' ใช้เป็นแรงขับเคลื่อนโปรเจกต์ยักษ์ 3 หมื่นล้าน - Forbes Thailand

'พ่อสร้าง ลูกใช้ หลานทำพัง' วลีเด็ด! ที่ 'วรพนิต' CEO ผู้ปลุกปั้นอาณาจักร 'เรนวูด ปาร์ค' ใช้เป็นแรงขับเคลื่อนโปรเจกต์ยักษ์ 3 หมื่นล้าน

'พ่อสร้าง ลูกใช้ หลานทำพัง' วลีเด็ด! ที่หลายๆ คนต่างก็มีภาพจำว่าธุรกิจที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวจน Success มาตั้งแต่คน Gen แรก มักจะแผ่ขยายความรุ่งเรืองไปได้ไม่ไกลเกินคนรุ่นหลานหรือคน Gen 3 โดย 'วรพนิต รวยรุ่งเรือง' CEO วัย 35 ปี แห่งเรนวูด กรุ๊ป ผู้ปลุกปั้นอาณาจักรระดับ 3 หมื่นล้าน 'เรนวูด ปาร์ค' ย่านปทุมธานี บอกว่า วลีนี้ถือเป็นตัวกระตุ้นสร้างแรงขับเคลื่อนในการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไลฟ์สไตล์ด้านการเงินของเธอคนนี้ ยังเลือกใช้เงินแบบ Balance โดยนอกจากจะจัดสรรแบ่งเงินเพื่อลงทุนทองคำและหุ้นแล้ว ยังเลือกเก็บเงินสดไว้ด้วยอีกทางหนึ่งเพื่อความอุ่นใจสำหรับภาวะเศรษฐกิจในยุคนี้


    Forbes Thailand มีโอกาสได้พูดคุยกับ วรพนิต รวยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรนวูด กรุ๊ป ซีอีโอคนรุ่นใหม่ในวัย 35 ปี ผู้ปลุกปั้นอาณาจักร 'เรนวูด ปาร์ค' ย่านปทุมธานี ที่ใช้งบลงทุนสูงถึงกว่า 30,000 ล้านบาท โดยล่าสุดหลังจากกระแสฮิตของซีรีส์ไทย 'สงครามส่งด่วน' กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ อีกทั้งหลายๆ คนก็จดจำบางช่วงบางตอนที่เจ้าสัวคณินพูดถึงประโยคที่ว่า 'พ่อสร้าง ลูกใช้ หลานทำพัง' ประโยคนี้...ถือเป็นวลีเด็ดที่หลายๆ คนในแวดวงธุรกิจต่างคุ้นเคยกันมานาน ซึ่งเมื่อถามว่าคิดเห็นอย่างไรกับวลีนี้ วรพนิต บอกว่า ก็เป็นคำที่พูดถึงกันมานานและอ้างอิงสะท้อนความเป็นจริงของการทำธุรกิจหลายๆ ครอบครัวได้เป็นอย่างดีนับจากอดีตถึงปัจจุบัน

    "ถ้าคนภายนอกมอง ก็อาจจะคิดว่าเรามีต้นทุนดีกว่าคนอื่น ธุรกิจที่บ้านคนรุ่นแรกก็สร้างจนเติบโตมาก่อนแล้ว คนรุ่นลูกหลานก็สบาย ไม่ต้องทำอะไรเยอะ! ขณะเดียวกันถ้ามองแบบคนภายในเราก็มีความกดดันเยอะ ทั้งจากคนภายนอกที่มองมา และความกดดันส่วนตัวจากธุรกิจที่เราจะต้องรับไม้ต่อ และเราจะทำอย่างไรเพื่อรักษาสิ่งที่คนรุ่นแรกก่อร่างสร้างตัวจนสำเร็จมาแบบนี้ได้อย่างยั่งยืน เพื่อส่งไม้ต่อให้คนในครอบครัวรุ่นต่อๆ ไป ดังนั้นเราจึงต้องขยันและเรียนรู้ให้มากกว่าเดิมเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่คนรุ่นแรกลำบากทำมามันจะไม่สูญเปล่า" วรพนิต กล่าว


'เรนวูด ปาร์ค' โปรเจกต์หมื่นล้าน คือ ความท้าทาย

    ตอนที่เริ่มแผนโครงการนี้ที่จะต้องใช้งบลงทุนสูงถึง 30,000 ล้านบาท สิ่งสำคัญและถือเป็นความท้าทายมากๆ เลยก็คือเรื่องของ 'การก่อสร้าง และ เวลา' ที่มีความสวนทางกันอยู่ เพราะเราต้องการวางรากฐานการก่อสร้างทั้งหมดให้มีคุณภาพดี แต่จะต้องแข่งกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด เราจึงต้องสร้างคน ควบคู่ไปกับการสร้างงานทุกๆ อย่างให้มีคุณภาพไปพร้อมๆ กัน รวมถึงสังคมและชุมชนที่อยู่โดยรอบจะต้องเข้าใจด้วยว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมของชุมชนก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ เราจึงเน้นเรื่องการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้คนในชุมชนที่ตั้งอยู่โดยรอบโครงการด้วย



สิ่งที่พ่อสอนทำให้เรายึดมั่นในการทำธุรกิจ

    วรพนิต บอกว่า "คุณพ่อเคยสอนเอาไว้ คนรุ่นก่อนเวลาจะติดต่อ เจรจา ทำการค้าหรือธุรกิจอะไร เขาจะเน้นเรื่องของสัจจะสัญญาจากคำพูดที่สร้างความเชื่อมั่น จับมือกัน แต่สำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน การตกลงธุรกิจ เจรจาการค้าต่างๆ เรื่องของการทำเอกสารให้เป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า เพราะเราต้องคุยกันในหลักเกณฑ์หรือหลักการต่างๆ และต้องมีเอกสารตามกฎหมาย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างชัดเจนราบรื่น"


รวยระดับหมื่นล้าน แต่เน้นความ Balnce เรื่องการใช้เงิน

หลายคนอาจจะใฝ่ฝันถึงการมีเงินระดับร้อยล้าน พันล้าน จะได้ใช้เงินช็อปปิ้งซื้อสิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบาย แต่สำหรับ วรพนิต ที่มีความร่ำรวยมั่งคั่งระดับหมื่นล้าน เธอเล่าถึงไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายเงินของตัวเองให้ฟังว่า "ที่บ้านจะปลูกฝังและสอนให้เก็บเงินแบบ ระยะสั้น กลาง ยาว มาตลอด ตัวพรีสเองก็จะมีสมุดจดด้วยว่า วันๆ เราทำอะไรไป ใช้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง! เรื่องการช็อปปิ้ง ซื้อของที่ตัวเองชอบก็คงเป็นเรื่องปกติ! แต่ตัวเราเองก็จะต้องรู้ลิมิตด้วยว่าเราใช้จ่ายเงินไปแบบสมดุล Balance มากน้อยแค่ไหน ซึ่งมันก็เหมือนกับการใช้จ่ายในการทำธุรกิจด้วยเหมือนกัน ถ้าเราจ่ายไปมากกว่ารายได้เดี๋ยวเราก็เจ๊งได้เหมือนกัน"



    ท้ายนี้ วรพนิต ยังบอกถึงแนวทางการบริหารจัดการเงินของเธอด้วยว่า นอกเหนือจากการซื้อทองคำสะสมเหมือนคนทั่วไป ก็มีการแบ่งเงินไปซื้อหุ้น หรือ กองทุนด้วยไม่ต่างกัน ส่วนเรื่องอสังหาริมทรัพย์นั้นก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ "พรีสเลือกแบ่งเก็บเงินสดไว้ด้วยเหมือนกันค่ะ เศรษฐกิจในยุคนี้ นอกจากจะแบ่งเงินบางส่วนไว้ลงทุนแล้ว ก็ควรจะมีเงินสดเก็บเอาไว้สำหรับยามฉุกเฉินด้วย มีเงินสดเอาไว้อุ่นใจกว่าค่ะ" ซีอีโอ เรนวูด กรุ๊ป ที่ใจดีแบ่งเวลาจากงานยุ่งๆ มานั่งคุยกับทีมงาน Forbes Thailand กล่าวทิ้งท้าย


ภาพ : เรนวูด กรุ๊ป



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'เวลาคือ สิ่งมีค่า' และ 'ต่อให้เหนื่อยท้อแค่ไหน ก็ยังต้องมีความรับผิดชอบ' แนวคิดดีๆ จาก มาย ภาคภูมิ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine