ชาตรี ศิษย์ยอดธง ซีอีโอ 'ONE Championship' เน้นช่วยเหลือคนสร้างความสุขทางใจ เพราะเงิน-สิ่งของหรูหรา ไม่ใช่ตัววัดค่าความสำเร็จ! พร้อมแนะทางลัดให้คนรุ่นใหม่ ควรหาไอดอลสร้างแรงบันดาลใจ ตรงไหนที่เขาเคยพลาดก็อย่าไปทำตาม จะได้ลดความเสี่ยงในการผิดพลาดและยังช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จได้ในอนาคต
หลังจากที่เคยให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Forbes Thailand แบบสุด Exclusive ไปเมื่อหลายปีก่อน ล่าสุดเราได้เจอกับ 'ชาตรี ตรีศิริพิศาล' ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ONE Championship รายการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชื่อดังของเอเชียหรือที่หลายๆ คนในวงการต่างรู้จักชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นคนนี้ด้วยฉายา 'ชาตรี ศิษย์ยอดธง' กันอีกครั้ง
ในฐานะ CEO ที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้ศิลปะการต่อสู้แม่ไม้ 'มวยไทย' โด่งดังไกลไปทั่วโลกแถมยังถือเป็นอีก 1 Soft Power ของไทยที่ช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาชมการโชว์ต่อสู้ชกมวยกันแบบติดขอบเวที รวมถึงการเลือกเดินทางมาพักเมืองไทยแบบ Long Stay เพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ของไทยนี้ที่กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
แต่ทั้งนี้ ชาตรี ได้บอกว่า เขาก็ยังเป็นคนเดิมและยังเป็นเหมือนเดิมนับจากอดีตที่เคยจนและลำบากมาก่อนกว่าจะประสบความสำเร็จมาได้ถึงระดับนี้โดยไม่ได้ยึดติดกับเรื่องของแบรนด์เนมฟุ่มเฟือย หรูหรา หรือเน้นสะสมรถ Super Car เหมือนหนุ่มๆ คนอื่นแต่อย่างใด
"ผมมองว่าความสุขที่แท้จริงของคนเรา...ไม่ได้มาจากการมีสิ่งของครอบครองหรือช็อปปิ้งของหรูหรา ฟุ่มเฟือยเยอะๆ เพื่อแสดงฐานะความร่ำรวย เพราะถ้าหากว่าคุณรวยแต่ยังไม่มีความสุขที่แท้จริง หัวใจยังมีแต่ความว่างเปล่าที่ต้องคอยหาซื้อของแพงๆ มาเติมเต็มจิตใจ ผมเองไม่ได้สะสมนาฬิกาหรือรถหรู ตอนนี้ที่ไทยก็มีรถเพียงคันเดียวเท่านั้น ก็คือ รถยนต์ขนาดใหญ่อย่าง Toyota Alphard ที่เน้นการใช้งานเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้นเท่านั้น"
ด้วยลุคที่ดู ดุดัน จริงจัง น่าเกรงขาม ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นคนนี้ ยิ้มหัวเราะเบาๆ แล้วอธิบายให้ฟังว่า เป็นลุคของการทำงานที่เน้นในเรื่องของพลัง การมีวินัย และการต่อสู้ แต่ตัวจริงไม่ได้ซีเรียสและดุดันขนาดนั้น ซึ่งตัวเขาเองก็ค่อนข้างจริงจังและใส่ใจมากๆ ในเรื่องของการทำงาน ซึ่งอดีตที่ผ่านมา ก็เป็นคนตัดสินใจเร็วและอาจจะยังไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีแบบรอบด้านจนทำให้ตัดสินใจผิดพลาดและธุรกิจก็เกือบจะเจ๊งมาแล้ว
"คนทำธุรกิจส่วนใหญ่ก็เคยตัดสินใจพลาดกันได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรนำเอาสิ่งที่เคยตัดสินใจพลาดมาเป็นบทเรียนแล้วปรับปรุง แก้ไข ไม่ให้ความผิดพลาดแบบเดิมเกิดขึ้นซ้ำอีก"
และสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะประสบความสำเร็จ CEO ของ ONE Championship ยังแนะนำให้ฟังด้วยว่า ควรมีฮีโร่หรือไอดอล ใครสักคนหนึ่งที่เรารู้สึกชื่นชอบแล้วมีเขามส่วนไหนที่เขาเคยผิดพลาด ล้มเหลว เราก็จะได้ไม่ทำตามอย่างถือเป็นการช่วยลดเวลาและเพิ่มโอกาสความสำเร็จในอนาคตได้มากขึ้น
ภาพ : วรัชญ์ แพทยานันท์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'ชนินทธ์ โทณวณิก' ท้อบ่อยมากแต่ไม่ถอย! ยึดมั่นแนวทางแม่บริหาร 'ดุสิต ธานี' ใ่ห้มีอิสระ ทรงคุณค่า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine