“ซิซซา กรุ๊ป” ลุยพัฒนาภูเก็ต 8 พันล้าน เปิดทางเลือกลงทุน “เมดิคอล เวลเนส” - Forbes Thailand

“ซิซซา กรุ๊ป” ลุยพัฒนาภูเก็ต 8 พันล้าน เปิดทางเลือกลงทุน “เมดิคอล เวลเนส”

    เปิดโลกการลงทุนอสังหาริมทรัพย์แนวโน้มใหม่ ซิซซา กรุ๊ป ลุยพัฒนา “เมดิคอล เวลเนส” ทำเลภูเก็ต รับเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบูมหลังโควิด สอดรับนโยบายรัฐผลักดันภูเก็ตเป็น “เมดิคอลฮับ แห่งอาเซียน”

    ซิซซา กรุ๊ป นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในภูเก็ต จัดงานแถลงข่าวเปิดแผนลงทุนในปี 2566 โดยประกาศเดินหน้าลงทุน 4 โครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมมูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท ที่จะขยายในปีนี้โดยเน้นจุดขาย “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” สอดรับมาตรการภาครัฐที่หนุนภูเก็ต เป็น “เมดิคอลฮับ” ของภูมิภาคอาเซียน โดยได้ดึงบุคลากรการแพทย์ทั้งไทยและต่างชาติ เข้ามาเสริมทีมให้แข็งแกร่งมากขึ้น


    อรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ “Investment Property” (IP) มากว่า 14 ปี เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต ว่าที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาฯและการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในคอนเซ็ปท์ใหม่ๆ ซึ่งซิซซา กรุ๊ปมีความมั่นใจว่าธุรกิจเมดิคอลจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

    ซิซซา จึงเน้นการลงทุนอสังหฯในรูปแบบ “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” เพื่อรองรับมาตรการภาครัฐร่วมผลักดันภูเก็ตเป็น “เมดิคอล ฮับ” ของภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นความพร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ทั้งใน-ต่างประเทศ เครื่องมือทันสมัย และล่าสุดได้เปิดบริการโครงการ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” พร้อมศูนย์เมดิคอล เวลเนสอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8 กรกฏาคมนี้เป็นต้นมา เพื่อรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว

    โดยภาพรวมตลาดอสังหาฯในจ.ภูเก็ตตั้งแต่ปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม และที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น และในช่วงไตรมาส 3/2566 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ตลาดภูเก็ตจะค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซั่น จากเดิมที่คาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากขึ้น แต่กลับไม่เป็นไปตามคาด ต้องรอดูช่วงไฮซีซั่นในปลายปีนี้อีกครั้งหนึ่ง


    สำหรับการลงทุนของผู้ประกอบการในปี 2566 นี้ พบว่า มีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพูลวิลล่ามากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการในท้องถิ่นและจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นตลาดแมส ระดับราคา 7-30 ล้านบาท โดยกระจายพัฒนารอบเกาะภูเก็ต ซึ่งพบว่าตลาดมีความต้องการมากขึ้น เพราะซัพพลายพูลวิลล่าในช่วงที่ผ่านมาไม่เพียงพอกับดีมานด์ ทำให้หลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ตลาดพูลวิลล่ามียอดขายที่ดีมาก โดยทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือโซนลากูน่า แถวหาดบางเทา หาดลายัน โซนถัดมาคือ ราไวย์ และในหาน

ส่วนตลาดคอนโดฯ การพัฒนาน้อยกว่าเดิม เนื่องจากในช่วงวิกฤติโควิด-19 ดีมานด์หันมาซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านและวิลล่ามากขึ้น “ช่วงโควิด-19 ราคาที่ดินไม่พุ่งมากนัก โดยปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% ซึ่งราคาที่ดินที่สูงสุดปัจจุบันยังอยู่ที่ป่าตอง ในบางทำเล ราคาสูงถึงประมาณ 200 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งภูเก็ตยังมีพื้นที่ให้พัฒนาพอสมควร แต่ดีมานด์ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และการแข่งขันยังไม่สูงเหมือนกรุงเทพฯ


เปิดตัว 4 โครงการใหม่


    อย่างไรก็ตาม อรรถนพ ยังได้ฝากถึงรัฐบาลใหม่ที่กำลังจัดตั้งว่า อยากให้ส่งเสริมแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยและภูเก็ตมากขึ้น อีกทั้งควรดูแลเรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในจ.ภูเก็ตให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อสาธารณูปโภคดี การท่องเที่ยวดีก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ

    อรรถนพ เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจของ ซิซซา กรุ๊ป ในปี 2566 ว่าจะมีการเปิดตัวใหม่ 4 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย 


    1. นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต มูลค่าการลงทุน 3,300 ล้านบาท พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพและความงาม ควบคู่ไปกับรีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาว ปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมแล้ว ส่วนเมดิคอลฯจะเปิดให้บริการได้
ในไตรมาส 1/2567

    2. เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต ในพื้นที่ โรงแรม “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand NaiHarn Beach Phuket) เฟสแรกใช้งบลงทุนไป 70 กว่าล้านบาท ใช้พื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร พร้อมเปิดให้บริการในส่วนของ “เพลนารีเวลเนส” (Plenary Wellness) ศูนย์สุขภาพและความงาม เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ
แบบองค์รวม ประกอบด้วย โปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงลึก,เวชศาสตร์ชะลอวัย,กายภาพบำบัด และเวชศาสตร์ความงาม

    สำหรับเฟส 2 จะเป็น Men’s Health และ Women Health เป็นการดูแลสุขภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิงทั้งหมด ส่วนเฟส 3 กำลังศึกษาข้อมูลว่าจะนำบริการรูปแบบไหนเข้ามาใช้บ้าง คาดว่าทั้ง 3 เฟส จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 300 ล้านบาท

    “เมดิคอล ถือเป็นโปรดักต์ใหม่ในตลาด เวลเนส รีสอร์ต ที่เป็นการให้บริการเรื่องดูแลสุขภาพในโรงแรม ส่วนอีกแบบหนึ่ง คือ การให้บริการเชิงการแพทย์ ที่มีคลินิกเฉพาะทาง โดยสิ่งที่บริษัทฯทำจะเป็นการนำ 2 รูปแบบมารวมกันเป็น “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” (Medical Wellness Resort) เน้นเวชศาสตร์ป้องกันให้มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงตลอด



    โดยซิซซา ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่ดำเนินการในรูปแบบดังกล่าว และมีจุดแข็งในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์จากประเทศไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งปัจจุบันยังถือว่ามีคู่แข่งที่น้อยมาก ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกันไป” อรรถนพ กล่าว

    3. พูลวิลล่า บริเวณหาดลายัน โดยยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ขณะนี้เรียกว่า “รายัน วิลล่า” โดยเฟส 1 ตั้งอยู่พื้นที่ 16 ไร่ เป็นวิลล่า จำนวน 26 หลัง ราคา 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35-70 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท

    4. ดิ เอท พูลวิลล่า เฟส 2 บริเวณอ่าวฉลอง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ เป็นวิลล่า จำนวน 60 หลัง ราคาตั้งแต่ 7-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600-700 ล้านบาท


โฟกัสลูกค้าต่างชาติ


    กลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวรัสเซียที่หนีภัยสงครามเข้ามาหาซื้อพูลวิลล่า ราคา 6 - 100 ล้านบาท เป็นบ้านหลังที่สองสูงถึง 80% ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่-ท้องถิ่น แข่งขันดุเดือดในการผุดพูลวิลล่า ทำเลบางเทา ลายัน ราไวย์ และในหานออกมารองรับตลาด แนวโน้มดังกล่าว ทำให้ราคาที่ดินหลังโควิด-19 ปรับเพิ่มขึ้น 20% โดยทำเลป่าตองแพงสุด 200 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของตลาด

    ในส่วนของ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand NaiHarn Beach Phuket) ช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 - เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเข้าพักเกิน 90% และช่วงเดือนที่ผ่านมาพฤษภาคม - มิถุนายน 2566 อัตราการเข้าพักลดลงมาอยู่ที่ 60-65% แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างชาติทั้งหมด หลากหลายเชื้อชาติ อาทิ ยุโรป, จีน, อินเดีย และ ตะวันออกกลาง



    ทั้งนี้ โครงการ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” ตั้งอยู่บริเวณใกล้ชายหาดในหาน มีเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ สร้างเป็นอาคารสูง 4 ชั้น จำนวน 12 อาคาร แบ่งเป็นห้อง 2 แบบ ขนาดตั้งแต่ 40 ตารางเมตร ขึ้นไป จนถึง 65 ตารางเมตร จำนวนรวม 353 ยูนิต โดยแบ่ง 4 อาคารบริหารในรูปแบบโรงแรมเต็มรูปแบบ และอีก 8 อาคาร แบ่งขายเพื่อการลงทุนและบริหารการเข้าพักโดย “วินแดม โฮเทล กรุ๊ป” มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท เปิดเป็นเจ้าของร่วมด้วยลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น! พร้อมเปิดต้อนรับทุกท่านเข้ามาใช้บริการ

    สำหรับการลงทุน ซิซซา เปิดขายด้วยโมเดลอสังหาฯ เพื่อการลงทุน หรือ Investment Property: IP ซึ่งเป็นรูปแบบการขายที่นักลุงทุนสามารถซื้ออสังหาฯ โดยได้ผลตอบแทนเป็นรายได้จากอสังหาฯ นั้นๆ และสิทธิ์ในการใช้อสังหาฯ กำหนดให้ การลงทุน 1 ล้านบาทสามารถใช้อสังหาฯ นั้นๆ ได้ 3 วัน ส่วนที่เหลืออสังหาฯ นั้นจะถูกนำไปปล่อยเช่าและให้บริการเพื่อสร้างรายได้โดยมีตัวเลขผลตอบแทนรายได้ที่ประมาณ 7% ขึ้นไป ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อและเป็นเจ้าของอสังหาฯ ได้หลากหลายทั้งบ้าน และโรงแรม โดยมีผลตอบแทนรายปีอย่างต่อเนื่อง



    อ่านเพิ่มเติม : ประธานบอร์ด CPL นั่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืน

    ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine