CRC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ 'ห้างเซ็นทรัล ดีพาทเมนท์สโตร์' เสนอซื้อ 'ห้าง Rinascente' ในอิตาลี มูลค่า 9,384 ล้านบาท - Forbes Thailand

CRC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ 'ห้างเซ็นทรัล ดีพาทเมนท์สโตร์' เสนอซื้อ 'ห้าง Rinascente' ในอิตาลี มูลค่า 9,384 ล้านบาท

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ CRC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงการที่ ห้างเซ็นทรัล ดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด หรือ HCDS ได้เสนอซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า Rinascenteโดยจะซื้อหุ้นทั้งหมด ของ CRC Holland B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และถือหุ้นทั้งหมดในกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า Rinascente ในประเทศอิตาลี จากบริษัทที่มูลค่าเท่ากับ 250 ล้านยูโร หรือประมาณ 9,384 ล้านบาท


    บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง รายการที่เกี่ยวโยงกันและรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจห้างสรรพสินค้า Rinascente (รีนาเชนเต) การแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ และการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 โดยมี 2 วาระสำคัญ ได้แก่ 

    วาระที่ 1 การพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการเกี่ยวโยงกันและรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของห้างสรรพสินค้ Rinascente ซึ่งการประชุมเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา  (โดยกรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่เข้าร่วมการประชุม) ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวมีความเหมาะสม สมเหตุสมผล และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยผลตอบแทนจากการเข้าทำธุรกรรมมีความเหมาะสมและสมเหตุสมผลตามรายละเอียดปรากฏตามข้อ 8

    ด้วยเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติเห็นชอบการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวและการนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ทั้งนี้ (1) นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ (2) นายสุทธิลักษณ์ จิราธิวัฒน์ (3) นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ (4) นายทศ จิราธิวัฒน์ และ (5) นางสาวสุกุลยา เอื้อวัฒนะสกุล ซึ่งเป็นกรรมการของ HCDS ไม่เข้าร่วมการประชุมและออกเสียงลงคะแนน



    สำหรับวาระที่ 2 มีประเด็นสำคัญ คือ ตามที่ได้รับข้อเสนอจาก HCDS บริษัทฯ จะเข้าดำเนินการทำธุรกรรมดังต่อไปนี้

    1. ขายกิจการห้างสรรพสินค้า Rinascente โดยการขายหุ้นทั้งหมด (ร้อยละ 100 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด) ของ CRC Holland B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และถือหุ้นทั้งหมดในกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า Rinascente ในประเทศอิตาลี ("กิจการห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต") จากบริษัทฯ ที่มูลค่าเท่ากับ 250 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 9,384 ล้านบาท

    2. โอนสัญญาเงินกู้ผู้ถือหุ้น (Shareholder Loan) ที่ Central Retail Investment Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ให้กู้แก่ CRC Rinascente S.p.A. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CRC Holland B.V. ให้แก่ HCDS และรับชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวจาก HCDS โดยจำนวนเงินรวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยค้างจ่ายที่บริษัทฯ จะได้รับจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยค้างจ่าย ณ วันโอนหุ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติให้เข้าทำธุรกรรมโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ (โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยค้างจ่ายดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 141 ล้านยูโร หรือประมาณ 5,297 ล้านบาท โดย HCDS จะชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวให้แก่ Central Retail Investment Limited พร้อมกันกับการซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า Rinascente

    จากข้อ 1. และ 2. รวมกันเรียกว่า "ธุรกรรม" ในการนี้ บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ HCDS ซึ่งระบุว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนเสร็จสมบูรณ์ โดยเงื่อนไขบังคับก่อนข้อเดียวของสัญญาดังกล่าว คือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง


    ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะพิจารณานำเงินสดสุทธิจากการขายกิจการห้างสรรพสินค้า Rinascente ภายหลังหักภาษี ประมาณ 7,700 ล้านบาท มาใช้จัดสรรเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ คิดเป็นอัตราประมาณ 1.28 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเสนอคณะกรรมการบริษัท และ/หรือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น (แล้วแต่กรณี) พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับเงินจากการขายสินทรัพย์เพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลดังกล่าวสองครั้ง ครั้งที่หนึ่ง: จำนวนประมาณ 4,200 ล้านบาท ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับเงินสดสุทธิจากการขายกิจการห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต และ ครั้งที่สอง: จำนวนประมาณ 3,500 ล้านบาท พร้อมกับการจ่ายเงินปันผลประจำปีจากผลการดำเนินงานปี 2568

    อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับจำนวนเงินสุทธิที่บริษัทฯ ได้รับจริงจากธุรกรรมภายหลังหักภาษี โดยบริษัทฯ จะนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทฯ และ/หรือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น (แล้วแต่กรณี) พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับเงินจากการขายสินทรัพย์...

สามารถกดอ่านข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘ดุสิตธานี’ คลายปมบริหาร บอร์ดแต่งตั้ง ‘ชนินทธ์’ ควบกรุ๊ปซีอีโอ หลัง ‘ศุภจี’ รับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine