‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ เผยตลาดบัตรเครดิตหดตัว ผู้บริโภคลดช็อปสินค้าฟุ่มเฟือย! นิยมผ่อนชำระเพิ่มขึ้น - Forbes Thailand

‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ เผยตลาดบัตรเครดิตหดตัว ผู้บริโภคลดช็อปสินค้าฟุ่มเฟือย! นิยมผ่อนชำระเพิ่มขึ้น

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมีแนวโน้มชะลอตัว สินเชื่อเพื่อรายย่อยเติบโตช้าจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ภาวะความเชื่อมั่นของตลาด และปัจจัยกดดันต่างๆ ผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 191,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 45,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อคงค้าง 136,000 ล้านบาท และยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 273,700 บัญชี


    อธิป ศิลป์พจีการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่สูง ส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้สินเชื่อมากขึ้น และต้องการลดภาระการใช้สินเชื่อ ส่งผลให้มีการใช้สินเชื่อที่ลดลง

    ขณะที่ผู้ประกอบการก็ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ควบคู่กับมาตรการการควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ ส่งผลให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในการปล่อยสินเชื่อในสภาพตลาดที่มีการแข่งขันสูง

    อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สภาพเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มชะลอลง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ภาระหนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงขึ้น สถานการณ์การเมืองในประเทศ การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศ เช่น นโยบายการจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบการส่งออก สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจบัตรเครดิตมีแนวโน้มหดตัวลง อีกทั้งสถาบันการเงินมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อควบคุมความเสี่ยง ในขณะที่ผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายจากความกังวลเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ


    ข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรีคอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลประกอบด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ชี้ให้เห็นว่า

    1.กลุ่มรายได้สูง (Affluent & Super Affluent) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก สร้างยอดใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 40% ของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด และเคยพยุงให้พอร์ตบัตรเครดิตเติบโตช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดใช้จ่ายน้อยลง ลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

    2.กลุ่มรายได้ปานกลาง (Mass) และรายได้สูง (Affluent & Super Affluent) มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ลดการใช้จ่ายในหมวดฟุ่มเฟือย เช่น สินค้าแฟชั่น ตกแต่งบ้าน สุขภาพและความงาม

    ทั้งสองกลุ่มหันมาเลือกผ่อนชำระมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 หมวดหลัก ได้แก่ ช็อปออนไลน์ (เติบโต 16%), ประกัน (เติบโต 14%), ตกแต่งยานยนต์ (เติบโต 8%)

    สำหรับหมวดที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 5 อันดับแรก เรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ ประกันภัย, ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ, ปั๊มน้ำมัน, สินค้าตกแต่งบ้าน และช็อปออนไลน์

    ส่วนหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 5 อันดับแรก เรียงตามอัตราการเติบโต ได้แก่ กองทุนรวม (เติบโต 16.3%), แอปเดลิเวอรี (เติบโต 15.4%), โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน (เติบโต 14.9%), ตัวแทนท่องเที่ยว (เติบโต 14.6%) และอุปกรณ์กีฬา/ฟิตเนส (เติบโต 6.5%)

    จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในตลาดยังไม่ฟื้นตัว ผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้น ชะลอการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย เน้นการใช้จ่ายในหมวดที่จำเป็นและวางแผนระยะยาวมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตช้า

    สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 ในภาพรวมเติบโตดีกว่าตลาด ทั้งในแง่ของจำนวนและยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 191,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 45,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อคงค้าง 136,000 ล้านบาท และยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 273,700 บัญชี ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ 1.2% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.3% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แบงก์กรุงศรี ครึ่งแรกปี 68 กำไรสุทธิอยู่ที่ 15,830 ล้าน ยังโตที่ 0.5%YoY

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine