"อาร์เอส" รุกธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร ทุ่ม 100 ล้าน ถือหุ้น “ฮาโตะ” 51% - Forbes Thailand

"อาร์เอส" รุกธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร ทุ่ม 100 ล้าน ถือหุ้น “ฮาโตะ” 51%

อาร์เอส กรุ๊ป ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 51% ของธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร Pet Wellness ภายใต้ บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด พร้อมตั้งเป้าดันธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปี


    อาร์เอส กรุ๊ป หนึ่งในผู้นำธุรกิจคอมเมิร์ซ มีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ได้จัดตั้ง บริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล จำกัด (RS pet all) เพื่อลงทุนในธุรกิจสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร (Petconomy) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยล่าสุด ได้เข้าลงทุนใน บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด (Hato Pet Wellness Center) ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงครบวงจร ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท พร้อมวางแผนเปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ทั้งยังตั้งเป้าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปี

    สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อาร์เอส กรุ๊ป ได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 51% ของธุรกิจ Pet Wellness ภายใต้ บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเรามั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารและทีมงานของ อาร์เอส ผสานกับความเชี่ยวชาญของธุรกิจในเครือภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ทั้งสื่อและด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะสนับสนุนให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจรภายใต้ ฮาโตะ กรุ๊ป เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพจากบริการที่ครบวงจรที่สุดและเติบโตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”


สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)


    ด้าน น.สพ. สุพพัต ปิยะชัยวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “การที่มี อาร์เอส กรุ๊ป เข้ามาร่วมลงทุน ทำให้เราเล็งเห็นโอกาสในการบุกเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงอีกมาก นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานของ ฮาโตะ ให้สูงขึ้น ทั้งในด้านเงินลงทุน การจัดการระบบหลังบ้าน การตลาดและการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น 

    อย่างไรก็ดี ตลอด 4 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา เราเติบโตกว่าเท่าตัวมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2565 ฮาโตะ มีรายได้รวมถึง 60 ล้านบาท และด้วยการสนับสนุนจาก อาร์เอส ซึ่งเป็น Strategic partner ก็จะช่วยเติมเต็ม Ecosystem ของฮาโตะให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

    ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะส่งผลให้เรามีรายได้เติบโตขึ้นเป็น 100 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ โดยจะโฟกัสที่ 2 โมเดลธุรกิจด้วยกัน ได้แก่ การเปิด HATO Animal Hospital จำนวน 2 แห่งใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสัตว์ระดับ 5 ดาว ที่ครบและครอบคลุมการรักษาทุกด้าน 

    รวมถึงการพัฒนาสินค้าในกลุ่ม HATO Vet Select ภายใต้แบรนด์ HATO ซึ่งจะมีมากกว่า 10 SKUs ทั้งผลิตภัณฑ์กรูมมิ่ง แอนด์ สปา รวมถึง wellness treats ที่เป็นขนมเพื่อสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยจะออกวางจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ และเพ็ทช็อปทั่วประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าของฮาโตะให้กว้างขึ้นตามกลยุทธ์ที่วางไว้”

    สำหรับ ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ นั้น มีผู้ก่อตั้ง 3 ราย ได้แก่ น.สพ. สุพพัต ปิยะชัยวุฒิ (หมอม่อน), น.สพ. ศรัณย์ นราประเสริฐกุล (หมอเน๋ง) และ น.สพ.อรรฆรัตน์ โกสิทธิ์ (หมอจั๊ก) โดยปัจจุบันแบ่งธุรกิจออกเป็น เซอร์วิสและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ทั้งนำเข้าและผลิตในไทย โดย เซอร์วิส มีทั้งหมด 5 สาขา 



    แบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักๆ คือ 1. Hato Pet Wellness Center ให้บริการคลินิกและบริการอาบน้ำ, สปา 2. Hato Cat Wellness Center คลินิกยกระดับคุณภาพชีวิตแมวครบวงจร และ 3. HATO Home ที่มีโมเดลแบบ Private Pet Community 

    ซึ่งประกอบด้วย คลินิก โรงแรม Pet Shop รวมถึงส่วนพักผ่อนหรือสถานที่ทำกิจกรรม อาทิ สนามหญ้าหรือสระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงที่รวมการดูแลสัตว์เลี้ยงไว้ในที่เดียวแบบครบวงจร นอกจากนี้ ยังรุกเข้าสู่ธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งขณะนี้ เปิดบริการแล้ว 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-ชัยพฤกษ์



    “การที่ ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ อาร์เอส เพ็ท ออล ก็เป็นเสมือนหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่เข้ามาเติมเต็ม Ecosystem ให้กับธุรกิจสัตว์เลี้ยงของ อาร์เอส กรุ๊ป ให้ก้าวสู่อีกขั้นของการสร้าง Petconomy โดยเชื่อมั่นว่าบริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล ต่อจากนี้จะมีทั้งนวัตกรรมการบริการ การดูแล และการผลิตสินค้าที่หลากหลาย 

    ทั้งนี้ ด้วยแพชชั่นและเป้าหมายที่ชัดเจน อาร์เอส เพ็ท ออล พร้อมขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงแบบก้าวกระโดด และเตรียม Spin-Off เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปี” คุณสุรชัย กล่าวปิดท้าย




อ่านเพิ่มเติม: จับตาเงินเฟ้อปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจ


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine