“แพลนเต้” สตาร์ทอัพหัวใจสีเขียว ตั้งเป้ายอดขายแตะพันล้านในปี 2566 - Forbes Thailand

“แพลนเต้” สตาร์ทอัพหัวใจสีเขียว ตั้งเป้ายอดขายแตะพันล้านในปี 2566

กระแสความใส่ใจสุขภาพ และการทำธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังเกิดการระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคเลือกกินอาหารมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ดีต่อสุขภาพ แต่ต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย จึงเป็นโอกาสการเติบโตของ แพลนเต้ สตาร์ทอัพไทย หัวใจสีเขียว


    มิตรดนัย สถาวรมณี ผู้ร่วมก่อตั้ง (Co-founder) บริษัท โคโรบราเธอร์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์ Plantae (แพลนเต้) เครื่องดื่มโปรตีนทางเลือกจากพืช เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแพลนเต้ ว่า เป็นสตาร์ทอัพ Plant-based Protein น้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่ภายในระยะเวลาเพียงปีกว่า บริษัทมียอดขายเติบโตถึง 284 เท่า ทำให้แพลนเต้เป็นสตาร์ทอัพหลักร้อยล้านบาทอย่างรวดเร็ว

    “การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของแพลนเต้ เกิดจากการมองเห็นโอกาสของธุรกิจอาหารทางเลือก ซึ่งเป็นเทรนด์อาหารโลกอนาคต และปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มแพ้โปรตีนจากนมวัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคนทั่วโลกมีความกังวลเรื่องวิกฤตโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

ซึ่งมีสาเหตุมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร การลดลงของต้นไม้ที่เคยช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ให้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ นำไปสู่วิกฤติความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) อาหารปลอดภัย (Food Safety)” มิตรดนัยกล่าว

    จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัท ซึ่งทำธุรกิจฟาร์มเกษตรอยู่เดิม หันมาลุยตลาดอาหารทางเลือกอย่างจริงจัง โดยเลือกจับกลุ่มตลาดโปรตีนจากพืชในรูปแบบเครื่องดื่ม แพลนเต้มีส่วนประกอบหลักจากพืช 5 ชนิด ได้แก่ ถั่วลันเตาคัดพิเศษ ข้าวออร์แกนิค ถั่วเหลือง เมล็ดฟักทอง และ เมล็ดทานตะวัน

    โดยใช้กลยุทธ์การสร้างคอมมูนิตี้สำหรับคนรักสุขภาพ ห่วงใยโลก และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จากข้อมูลของ Euro Stat ระบุว่า ปัจจุบันตลาดอาหารโปรตีนจากพืชทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 44,200 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ตลาดในประเทศไทยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง


ตั้งทีมวิจัยและพัฒนาสูตรตรงใจกลุ่มเป้าหมาย


    มิตรดนัย กล่าวว่า ปัจจุบัน แพลนเต้มีสินค้าทั้งหมด 9 รายการ (SKU) ที่สามารถตอบโจทย์ในทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ โดยทางแบรนด์มีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) เป็นของตัวเอง สำหรับสูตรแรกใช้เวลาในการพัฒนาสูตรก่อนวางจำหน่ายกว่า 1 ปี ผ่านการทดสอบมากกว่า 80 ครั้ง เพื่อให้ได้รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่ถูกใจผู้บริโภค ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพไปพร้อมกับการรับประทานอาหารที่อร่อยได้โดยไม่เบื่อ

    ผลิตภัณฑ์แพลนเต้ ยังมุ่งส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้ดูแลสุขภาพของตนเองในระยะยาว เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายหากได้รับโปรตีนไม่เพียงพอในแต่ละวันอาจส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย ป่วยบ่อย สูญเสียมวลกล้ามเนื้อรวมทั้งเส้นผม เล็บ ผิวหนังก็จะเกิดความผิดปกติและยังทำให้เกิดอาการหิวบ่อยอีกด้วย โปรตีนจากพืชจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกง่าย และอร่อย ที่จะเข้ามาทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น

    รวมทั้งทีมวิจัยของแพลนเต้ ยังคอยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยจัดแคมเปญ NICE TO PLANTAE YOU เปิดโลกโปรตีนจากพืช

    ภายในงานแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ Get to Know Plantae, Taste the Nature, Sip n” Chill, และ Plantae On the Go With You เพื่อตอกย้ำความตั้งใจของแบรนด์ที่ว่า “We don”t just provide food, We save lives” พร้อมทั้งเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” และ “บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่รวมถึงส่งต่อการดูแลสุขภาพให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

    “เราต้องการส่งต่อการดูแลสุขภาพให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ทั้งในประเทศและชาวต่างชาติที่มีไลฟ์สไตล์หรือความสนใจในเรื่องของสุขภาพ ไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือเป้าหมายแบบไหน ก็มีสุขภาพที่ดีได้ เพียงเริ่มต้นดูแลตัวเองจากการเลือกสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง รวมถึงกลุ่ม Active lifestyle ที่ชอบทำกิจกรรมและออกไปใช้ชีวิตไม่ได้จำกัดเพียงกลุ่มคนออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” มิตรดนัยระบุ

    สำหรับปี 2565 บริษัทคาดว่าจะมียอดขาย 500 ล้านบาท โดยเน้นช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลักได้แก่ Shopee Lazada Line Shopping Tiktok และ JD Central ส่วนช่องทางออฟไลน์มีจำหน่ายที่ ท็อปส์ 35 สาขา กรูเม่ต์ มาร์เก็ต 10 สาขา ฟู้ดแลนด์ 18 สาขา และ วิลล่า มาร์เก็ต 16 สาขา

    ขณะที่ปี 2566 บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Plantae Protein Drink เครื่องดื่มในกลุ่มของ Ready to Drink มาทดลองตลาดเพื่อเจาะกลุ่มแมส โดยมีแผนวางจำหน่าย ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ

    มิตรดนัย กล่าวว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยเน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ดื่มง่าย และดื่มได้ทุกวัน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการขยายตลาดสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง

    ซึ่งเริ่มทดลองตลาดต่างประเทศไปบ้างแล้ว อย่างประเทศสิงคโปร์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผลิตภัณฑ์ Plant-Based Protein ของแพลนเต้ มีรสชาติที่เข้าถึงง่ายและเป็นสินค้าที่พัฒนาสูตรขึ้นมาให้ตอบโจทย์ความชื่นชอบของคนเอเชีย สามารถรับประทานได้สะดวกและให้โปรตีนเพียงพอในแต่ละวัน


อ่านเพิ่มเติม: เปิด 3 มุมมองดาวเด่น MAI Digital Disruption วิกฤต หรือ โอกาส


​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine