สงครามบุฟเฟต์สุกี้เดือดต่อ Haidilao แตกแบรนด์ใหม่ HI Dee Shabu สาขาแรกในโลกที่เซ็นทรัล พระราม 3 ราคาเริ่มต้น 199 บาท

สงครามบุฟเฟต์สุกี้เดือดต่อ Haidilao แตกแบรนด์ใหม่ HI Dee Shabu สาขาแรกในโลกที่เซ็นทรัล พระราม 3 ราคาเริ่มต้น 199 บาท

สงครามบุฟเฟต์สุกี้เดือดต่อเนื่อง “Haidilao” แตกแบรนด์น้องใหม่ HI Dee Shabu (ไฮดี้ ชาบู) เลือกไทยเป็นสาขาแรกของโลกที่เซ็นทรัล พระราม 3 ราคาเริ่มต้น 199 บาท บวกบุฟเฟต์บาร์


    ไปกันต่อสำหรับตลาดสุกี้-ชาบูที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปี 2568 นี้ที่เจ้าตลาดและผู้เล่นหน้าใหม่ต่างก็ทำโปรโมชั่น ตลอดจนแตกแบรนด์เพื่อแย่งชิงกลุ่มลูกค้าตลาดแมส ไม่ว่าจะเป็น เอ็มเค ที่ทำโปรบุฟเฟต์ และมี โบนัส สุกี้ เป็นแบรนด์ลูก ขณะที่ สุกี้ตี๋น้อย ก็โหมโปรโมชั่นแบบจัดหนักมาตลอดทั้งปี เช่น โปรบุฟเฟต์ 199 บาท และโปรเป็ดย่าง เป็นต้น ส่วน เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (CRG) ก็สร้างแรงกระเพื่อมด้วยการซื้อหุ้น ลัคกี้ สุกี้ 40% ไปเมื่อไม่นานมานี้

    ล่าสุด Haidilao ยักษ์หม้อไฟสไตล์เสฉวนสัญชาติจีนที่มีสาขากว่า 1,500 แห่งทั่วโลก ซึ่งได้เปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปี 2562 และปัจจุบันมีด้วยกัน 10 สาขา ก็ได้แตกไลน์แบรนด์ใหม่ล่าสุดในชื่อว่า HI Dee Shabu (ไฮดี้ ชาบู) ที่สำคัญคือการเปลี่ยนจากหม้อไฟอะลาคาร์ตแบบพรีเมียม มาเป็นแบบบุฟเฟต์หม่าล่า กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่อีกเจ้าที่เข้าร่วมสมรภูมินี้

    Haidilao เลือกไทยเป็นประเทศแรกของโลกสำหรับ HI Dee Shabu ในการเจาะกลุ่มตลาดแมส โดยประเดิมปักหมุดสาขาที่เซ็นทรัล พระราม 3 แทนที่ร้าน Haidilao ที่มีอยู่เดิม และเปิดให้บริการวันแรกเมื่อ 1 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา

    โมเดลใหม่ครั้งนี้ของ Haidilao ลูกค้าจะต้องสั่งเซ็ตอะลาคาร์ตก่อน โดยราคาชุดหมูเริ่มต้น 199 บาท หรือชุดเนื้อก็ได้ เริ่มต้น 349 บาท จากนั้นจ่ายเพิ่ม 69 บาท สำหรับบุฟเฟต์บาร์ที่ตักได้ไม่อั้น มีทั้งน้ำจิ้ม ข้าว ของทอด ผัก ผลไม้ ซูชิ ติ่มซำ หมี่หยก และอื่นๆ โดยมีทั้งที่นั่งแบบกลุ่มและเพิ่มที่นั่งเดี่ยวเข้ามา รับเทรนด์ Solo Dining เอาใจสายอินโทรเวิร์ต


    น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่ามูฟเมนต์ครั้งนี้ของ Haidilao จะเป็นอย่างไร เพราะถ้าดูบริษัทแม่ที่จีนจะพบว่าผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 2.07 หมื่นล้านหยวน หรือราว 9.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.7% ส่วนกำไรอยู่ที่ 1.76 พันล้านหยวน หรือราว 8 พันล้านบาท ลดลง 14% เช่นเดียวกัน

    ขณะที่ผลประกอบการของ Haidilao ในประเทศไทย ภายใต้ บริษัท ไฮ้ ดิ เหลา พร็อพไพรเอทเทอร์รี่ (ไทยแลนด์) แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยจนกระทั่งแตะหลักพันล้านบาท แต่กลับมีผลการดำเนินงานทั้งกำไรและขาดทุน โดยปี 2567 ที่ผ่านนมาขาดทุนไป 136 ล้านบาท จากรายได้ 1,281 ล้านบาท 

  • ปี 2563 รายได้ 302 ล้านบาท ขาดทุน 6.3 ล้านบาท
  • ปี 2564 รายได้ 483 ล้านบาท ขาดทุน 171 ล้านบาท
  • ปี 2565 รายได้ 1,074 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,343 ล้านบาท กำไร 34 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,281 ล้านบาท ขาดทุน 136 ล้านบาท




ภาพ : Central Rama 3, Hi Dee Shabu Central Rama3


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สงครามบุฟเฟต์สุกี้เพิ่มอุณหภูมิเดือด ‘เอ็มเค-ตี๋น้อย’ รายได้โตแต่กำไรหด ขณะที่เซ็นทรัลส่ง ‘ลัคกี้’ ชิงตลาด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON