เมื่อ ‘พัดลม’ ไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยคลายร้อน แต่ยังหมายถึงประสบการณ์ของผู้บริโภค จุดประกายให้ Hatari (ฮาตาริ) ผู้นำอุตสาหกรรมพัดลมของเมืองไทย ร่วมมือกับ Habits Design Studio สตูดิโอผู้เชี่ยวชาญการออกแบบผลิตภัณฑ์จากอิตาลี จัดนิทรรศการขึ้นในงาน Bangkok Design Week 2025 ชวนสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างการออกแบบที่เน้นการใช้งานและความเชื่อมโยงทางอารมณ์ วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก
นับเป็นปีที่ 2 ที่ Hatari เข้าร่วมงาน Bangkok Design Week โดยในครั้งนี้มาพร้อมงานนิทรรศการอิมเมอร์ซีฟ 500 Cubic Meters of Wind: The Art and Power of Design อันเป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่าง Hatari และ Habits Design Studio สตูดิโอออกแบบที่เชี่ยวชาญการออกแบบผลิตภัณฑ์จากอิตาลี จำลองบรรยากาศผ่อนคลายของทุ่งหญ้ามาไว้ในพื้นที่ห้องขนาด 500 ตารางเมตร ประดับประดาไปด้วยใบหญ้าที่พลิ้วไหวด้วยลมอันทรงพลังจากพัดลมของ Hatari
นิทรรศการอิมเมอร์ซีฟ เมื่อ ‘พัดลม’ เป็นมากกว่า ‘พัดลม’
แม้เป็นพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่นิทรรศการ 500 Cubic Meters of Wind: The Art and Power of Design สามารถเชิญชวนผู้มาเยือนให้ออกสำรวจความสัมพันธ์อันทรงพลังระหว่างการออกแบบที่เน้นการใช้งานในเชิงวิศวกรรม และความเชื่อมโยงทางอารมณ์ ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของพัดลม Hatari ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่มาครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
นิทรรศการนี้ประกอบไปด้วย 3 ส่วน สำหรับส่วนแรกนั้นคือ Design Field เมื่อก้าวเข้าหาในห้องขนาด 500 ตารางเมตร ผู้มาเยือนจะได้พบกับทุ่งหญ้าจำลองที่ซ่อนผลิตภัณฑ์ของ Hatari ไว้อย่างกลมกลืน นำเสนอภาพอันงดงาม พร้อมแรงลมเย็นสบายที่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนเป็นธรรมชาติจากพัดลม Hatari ตามด้วยไอศกรีมรสชาติพิเศษ Your Biggest Fan จากแบรนด์ Guss Damn Good ที่ปรุงมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบที่สร้างสรรค์โดยนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญ Spiritual Sound ช่วยเติมเต็มบรรยากาศนิทรรศการให้สงบ สบาย และปลอบโยนจิตใจ
ถัดมาคือนิทรรศการส่วนที่ 2 หรือ Design Library จัดแสดงคอลเล็กชั่นผลิตภัณฑ์จาก Hatari ที่ถูกคัดสรรมาสำหรับงานนี้ โดยเป็นผลิตภัณฑ์หลังการรีแบรนด์ครั้งใหญ่เพื่อให้ Hatari มีความทันสมัยยิ่งขึ้น แสดงถึงเจตจำนงในการปรับตัวและพัฒนาเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ให้สมกับเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานเกือบ 40 ปี โดยพื้นที่ส่วนนี้มีการบอกเล่าเบื้องหลังกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงเบื้องหลังการทำงานร่วมกันระหว่าง Hatari และ Habits Design Studio ที่แสดงให้เห็นว่าการออกแบบส่งผลต่อประสิทธิภาพของพัดลมแต่ละรุ่นอย่างไร
สำหรับนิทรรศการส่วนที่ 3 คือ Design Lab ซึ่งมีการจัดแสดงผลงาน 4 แนวคิดที่คัดเลือกจากโปรเจ็กต์ร่วมกันครั้งแรกระหว่าง Hatari, Habits Design Studio และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนำเสนอความเป็นไปได้ของการออกแบบพัดลมจากความคิดสร้างสรรค์ของนิสิต Gen Z ที่นอกจากวิศวกรรมอันล้ำสมัย ยังแสดงถึงความเป็นไปได้ของการออกแบบพัดลมเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในอนาคต ได้แก่
1. Wind Memo ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจาก Pain Point ที่ว่า พัดลมในปัจจุบันยังไม่ถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งห้องและไลฟ์สไตล์ จึงกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์พัดลมทรงสี่เหลี่ยมที่มีแผ่นปิดด้านหน้า เมื่อไม่ได้ใช้งาน ก็แค่ดึงแผ่นปิดขึ้นมา โดยแผ่นปิดนี้ยังสามารถตกแต่งตามความชอบ ตอบโจทย์ชาว Gen Z ที่ชื่นชอบความพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใคร รวมถึงใช้เป็นที่เก็บการ์ดต่างๆ ได้อีกด้วย
2. Windspot ทุกวันนี้ผู้คนอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมกันมากขึ้น ซึ่งมีพื้นที่จำกัด จุดประกายให้เกิดการออกแบบพัดลมขนาดเล็ก สวยงาม แต่ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน โดยผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้สามารถหมุนพลิกเพื่อปรับแรงลมได้ 4 ระดับสอดคล้องกับกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การนอน การอ่านหนังสือหรือทำงาน การทำอาหาร และการออกกำลังกาย
3. Superpin Fan ที่มีแนวคิดจากการเดินทางในวันที่อากาศร้อน ถ้ามีพัดลมติดตัวไปด้วยก็น่าจะดี เกิดเป็นพัดลมพกพาที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่ต้องถือให้เมื่อย เพราะสามารถนำไปติดกับกระเป๋าหรือเสื้อผ้าได้ ทั้งยังมีน้ำหนักเบา เพราะมีการแยกแบตเตอรี่ออกจากตัวพัดลม และใช้สายชาร์จ Type C แทน
4. Pocket Wind อีกหนึ่งนวัตกรรรมพัดลมพกพาสุดสร้างสรรค์ ที่มีขนาดเล็ก สามารถห้อยไปกับกระเป๋าได้ ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ และยังมีช่องเล็กๆ สำหรับใส่สิ่งของจำเป็น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาคุ้ยหาในกระเป๋า เช่น บัตรรถไฟฟ้า หยิบออกมาแตะเดินผ่านเข้าออกสถานีแล้วก็ยกพัดลมมาเป่าต่อได้เลย
ผลิตภัณฑ์ของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเหล่านี้ต่างก็ได้รับรางวัล European Product Design Award 2025 ตอกย้ำความสามารถและพลังสร้างสรรค์ของนักออกแบบรุ่นใหม่ ซึ่ง Hatari เผยว่าอาจมีการพูดคุยเพื่อนำไอเดียการออกแบบเหล่านี้ไปพัฒนาต่อในอนาคต
นวัตกรรม การตลาด และการปรับตัวสู่ยุคใหม่
นิทรรศการ 500 Cubic Meters of Wind: The Art and Power of Design ในงาน Bangkok Design Week 2025 ไม่เพียงเป็นการอวดโฉมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Hatari ควบคู่ไปกับความสวยงามของพื้นที่จัดแสดงเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศเจตจำนงของทายาทรุ่นปัจจุบันที่ต้องการให้แบรนด์มีความสนุกและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในเรื่องของการใช้งานและไลฟ์สไตล์ออกมาอย่างครบถ้วน
ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากพัดลมเป็นอุปกรณ์ที่คนไทยใช้เป็นประจำทุกวัน ฮาตาริจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ต้องมีทั้งความสวยงามเหมาะกับการตั้งในบ้าน มีฟังก์ชั่นที่ช่วยยกระดับชีวิต ตอบโจทย์ไลฟ์ไสตล์ของผู้ใช้ ในขณะเดียวกันประสิทธิภาพการใช้งานก็ต้องดีและทนทาน ซึ่งธีมของงาน Bangkok Design Week ปีนี้ก็คือ Design Up+Rising: ออกแบบพร้อมบวก+ พูดถึงความสำคัญของการออกแบบที่นอกจากความสวยงามแล้วยังสามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาการใช้ชีวิตของคนให้ดีขึ้น ซึ่งตรงกับแนวความคิดของฮาตาริเป็นอย่างมาก”
ด้าน ชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด กล่าวเสริมว่า “นิทรรศการของฮาตาริในปีนี้ เราต้องการนำเสนอพลังของการออกแบบในรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีและศักยภาพของฮาตาริ เพื่อให้ผู้ชมได้ทำความเข้าใจถึงแนวคิดหลักของแบรนด์ที่นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฮาตาริทุกตัว”
ทัศน์ลักษณ์และชัญญายังเผยว่า หลังจากรีแบรนด์ใหม่ Hatari ยังคงให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งานพัดลมคือต้องเย็น โดยเพิ่มเติมเรื่องหน้าตาเข้ามาด้วย เพราะมีฟีดแบ็กจากลูกค้าที่อยากให้พัดลมดูสวยงาม เมื่อวางในห้องแล้วก็เข้ากับการตกแต่งภายใน ซึ่งเมื่อผนึกกำลังกับการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความสนุกกว่าเก่า ทำให้ยอดขายของ Hatari ขยับขึ้นมาติดอันดับต้นๆ ในทุกเซ็กเมนต์ นับเป็นความสำเร็จที่พวกเธอภาคภูมิใจ
สำหรับปีนี้ พวกเธอกล่าวว่า Hatari มีแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 22 ชิ้น พร้อมด้วยกิจกรรมด้านการตลาดที่สนุก สร้างสรรค์ และอยากฝากให้ทุกคนรอติดตาม
ภาพ: Hatari
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แฟน ‘เจ้าชายน้อย’ ห้ามพลาด! Mc JEANS อวดคอลเล็กชั่นพิเศษ เติมสีสันนิทรรศการ The Little Prince Universe
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
