Hisense (ไฮเซ่นส์) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกจากจีน เดินหน้าขยายการลงทุนในไทยกว่า 4,700 ล้านบาท สร้าง “นิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ Hisense” ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 จ.ชลบุรี เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับความต้องการที่เติบโตต่อเนื่อง และผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อกลุ่มประเทศ CLMV
โครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ ใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งคาดว่าเฟสแรกจะแล้วเสร็จกลางปี 2569 และรองรับกำลังการผลิตมากกว่า 2.6 ล้านเครื่องต่อปี นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ Hisense ใช้ไทยเป็นฐานหลักในการขยายเครือข่ายการผลิตและกระจายสินค้าในตลาดที่เติบโตเร็ว
โทมัส เทา ผู้จัดการทั่วไป HHA Industrial Park กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Hisense เดินกลยุทธ์ขยายธุรกิจต่างประเทศเป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายเป็น “องค์กรและแบรนด์ระดับโลก” พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ “Local for Local” สร้างเครือข่ายทั่วโลกผ่านศูนย์ปฏิบัติการ 7 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 30 แห่ง และนิคมอุตสาหกรรม 36 แห่ง โดยประเทศไทยถูกเลือกเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อสร้างฐานการผลิตและพัฒนานวัตกรรมรองรับตลาดอาเซียน

การลงทุนครั้งนี้เริ่มต้นด้วยงบ 4,700 ล้านบาท เพื่อก่อสร้าง “นิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ Hisense” เฟสแรกที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568
ทั้งนี้ ทำเลอยู่ในพื้นที่ EEC (เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ซัพพลายเชน และโลจิสติกส์ครบวงจร ช่วยให้ Hisense รองรับตลาดในประเทศและส่งออกไป CLMV ได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจลงทุนในไทยครั้งนี้ มาจากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพียงครึ่งแรกของปี 2568 (ม.ค.–มิ.ย.) Hisense ประเทศไทยก็ทำยอดขายในประเทศโตขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะตู้เย็นที่โต 27% และเครื่องซักผ้าที่โตถึง 61% ตัวเลขนี้สะท้อนถึงศักยภาพของตลาดไทยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค จนนำมาสู่การลงทุนครั้งใหญ่ในชลบุรี
นิคมแห่งนี้ถูกวางแผนให้เป็นฐานการผลิตครบวงจร ใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติและนวัตกรรมขั้นสูงตามมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและศักยภาพการแข่งขัน โดยเฟสแรก (2568–2569) จะมีกำลังการผลิตได้ถึง 2.6 ล้านเครื่องต่อปี แบ่งเป็น ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง 2 ล้านเครื่อง และเครื่องซักผ้า 6 แสนเครื่อง
นอกจากนี้ Hisense ยังเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน ระบบจัดการน้ำและของเสียที่มีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต เพื่อสอดคล้องกับพันธกิจ ESG ของบริษัท รวมถึงการสร้างงานกว่า 1,200 ตำแหน่งให้กับคนในชลบุรี

สำหรับเฟส 2 (2570–2571) บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังผลิตตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และเครื่องซักผ้าระดับพรีเมียม รวมถึงการลงทุนผลิตภัณฑ์แอร์แบบทำความเย็นจากส่วนกลาง รองรับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมขยายกำลังการผลิตเป็นกว่า 9 ล้านเครื่อง ส่วนเฟส 3 (2572–2573) จะต่อยอดสู่อุตสาหกรรมใหม่ในกลุ่ม new S-curve อย่างไรก็ตาม รายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติมนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามสถานการณ์ตลาด
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Hisense ลงทุนสร้างโรงงานในไทย ก่อนหน้านี้ในปี 2567 ที่ผ่านมา Hisense ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 2,100 ล้านบาท สร้าง “โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ Hisense” ในนิคมอุตสาหกรรมเอสเอ็นซี จังหวัดระยอง บนพื้นที่ 98 ไร่ มีกำลังผลิตสูงสุด 3 ล้านเครื่องต่อปี พร้อมสร้างงานกว่า 1,500 ตำแหน่ง ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘ไฮเออร์ฯ’ โชว์แกร่งครึ่งปีแรก 2568 กวาดรายได้เกือบ 7 แสนล้าน เร่งเครื่องขยายตลาดต่างประเทศ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine