อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดตัว ‘Flying Tiger Copenhagen’ สาขาแรกในไทย ทุ่มงบกว่า 200 ล้าน เล็งขยาย 30 สาขา ทั่วประเทศ - Forbes Thailand

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดตัว ‘Flying Tiger Copenhagen’ สาขาแรกในไทย ทุ่มงบกว่า 200 ล้าน เล็งขยาย 30 สาขา ทั่วประเทศ

บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์ 'Flying Tiger Copenhagen' ร้านค้าปลีกแบรนด์ดังจากเดนมาร์ก รุกตลาดเมืองไทย ทุ่มงบกว่า 200 ล้าน เตรียมขยาย 30 สาขาทั่วประเทศ หวังรายได้แตะ 800 ล้าน ภายใน 3 ปี โดยสาขาแรกเลือกปักหมุดที่ ห้าง ‘เอ็มสเฟียร์’ เอาใจขาช็อปและนักท่องเที่ยวต่างชาติในย่านใจกลางเมือง


    กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เผยว่า อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เตรียมรุกตลาดธุรกิจค้าปลีกวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ ด้วยการดีลกับแบรนด์ใหญ่อย่าง “Flying Tiger Copenhagen” แบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศเดนมาร์ก เพื่อให้ได้สิทธิ์แฟรนไชส์เพื่อจัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย 

    ทั้งนี้ แบรนด์ดังกล่าวมีสาขามากว่า 1,000 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย รวม 41 ประเทศ ซึ่งล่าสุดการเลือกมาปักหมุดเปิดตัวสาขาแรกที่ห้างใจกลางเมืองอย่าง 'เอ็มสเฟียร์' จะเป็นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น จากปัจจุบันฐานลูกค้าของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีกลุ่ม Gen Z โดยเฉลี่ยในสัดส่วน 10% และกลุ่ม Gen X-Y มีสัดส่วนมากสุดอยู่ที่ 80%



โอกาสและศักยภาพธุรกิจร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Products Retailer)

    หลังจากวิกฤตโควิดเป็นต้นมา เหล่านักช้อปเริ่มมองหา "ความสุขเล็กๆ" และของขวัญเพื่อเติมเต็มชีวิตมากขึ้น โดยพฤติกรรมผู้บริโภคและกำลังซื้อ (สินค้า Variety & Lifestyle) มีสัดส่วนที่น่าสนใจ (อ้างอิงข้อมูลจาก : Euromonitor, Statista, NielsenIQ, Market Estimates (2024) ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับตลาดร้านค้าปลีกกลุ่มของขวัญและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 30,300 ล้านบาทในปี 2567 และเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 7% จากปีที่ผ่านมา  

    โดยสินค้าประเภทนี้มีการเติบโตโดดเด่นในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา รวมถึงร้านค้าแฟรนไชส์ไลฟ์สไตล์ที่เติบโตสูงสุดถึง 66.7% ทำให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนของตลาด อีกทั้งด้วยการวางตำแหน่งของ Flying Tiger Copenhagen ในราคาจับต้องได้กับดีไซน์พรีเมียมไม่ซ้ำใคร จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดค้าปลีก รวมทั้งช่องว่างสินค้าที่มีความยูนีคสไตล์เดนิช 



ไอเทมหลากหลายตอบโจทย์นักช้อปทุก Gen 

    ผลสำรวจแนวโน้มการเลือกช้อปในปัจจุบันของผู้บริโภคกลุ่ม Millennials และ Gen Z ราว 70% เข้ามาในร้านเพื่อมองหาอะไรใหม่ๆ หรือสินค้าที่คาดไม่ถึง ขณะที่ 50% จะเลือกช้อปของขวัญชิ้นเล็กๆ หรือของที่ระลึก และ 45% มองหาสินค้าที่ทำให้ชีวิตประจำวันสนุกมากขึ้น โดยการช้อปของกลุ่ม Gen Z (อายุ 15-25 ปี) จะใช้จ่ายเฉลี่ย 200-350 บาทต่อครั้ง, กลุ่มวัยทำงาน (อายุ 25-35 ปี) จะใช้จ่ายเฉลี่ย 400-700 บาทต่อครั้ง และกลุ่มครอบครัวมีเด็ก (อายุ 30-45 ปี)จะใช้จ่ายเฉลี่ย 500-1,000 บาทต่อครั้ง 



เปิดแผนขยายสาขา 3 ปี 30 สาขา ในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ

    ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนการขยายสาขา 3 ปี (2568-2570) โดยวางงบลงทุน 200 ล้านบาท เปิด “Flying Tiger Copenhagen” 30 สาขาทั่วประเทศ โดยมองเป้าหมายไปที่ศูนย์การค้าชั้นนำ และ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในรูปแบบ shop in shop ขนาดพื้นที่ 150-250 ตร.ม. ประเดิมเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้า 'เอ็มสเฟียร์' เพราะเป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูงจากกลุ่มคนทำงานเป็นไพร์มแอเรีย และยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยขนาดพื้นที่ 160 ตร.ม. และภายในปีนี้เตรียมพบกับอีก 5 สาขา ได้แก่ ILM สาขาพัทยา และเตรียมขยายไปห้างสรรพสินค้าที่มีทราฟฟิกสูง ได้แก่ แฟชันไอส์แลนด์, ซีคอนสแควร์, แพลทินัม แฟชันมอลล์ และ เดอะมอลล์ บางกะปิ 


    “การแตกไลน์แบรนด์ใหม่ Flying Tiger Copenhagen ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดค้าปลีกในไทย แต่ยังสร้างสีสันให้กับธุรกิจค้าปลีกสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ให้ใหญ่ขึ้น เรามองเห็นช่องว่างในตลาดที่ผู้บริโภคกำลังมองหาสินค้าที่เข้าถึงได้ง่าย และนี่คือจังหวะสำคัญที่เราจะเข้าไปเติมเต็มไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ด้วยการขยายอาณาจักรค้าปลีกใหม่ในเซ็กเมนต์ใหม่ และยังมีราคาที่จับต้องได้ตั้งแต่ 35-500 บาทขึ้นไป เรามั่นใจว่าภายใน 3 ปี Flying Tiger Copenhagen จะทำรายได้ 800 ล้านบาท” กฤษชนก กล่าวทิ้งทาย 




ภาพ : อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เพราะกาแฟเย็นขายดี! ยอดขายครอง 65% ของกาแฟนอกบ้าน เนสกาแฟรับเทรนด์ เปิดตัว ‘กาแฟเข้มข้นพร้อมชง’

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine