LINE MAN เผย 2025 ปีแห่ง ‘มัทฉะ’ ยอดสั่งโต 300% คนไทยสั่ง 6.5 ล้านแก้ว ส่วน ‘ตำปูปลาร้า’ ครองแชมป์อาหาร เพราะคนไทยเลิฟกินแซ่บ ยอดสั่ง 8 ล้านจาน

LINE MAN เผย 2025 ปีแห่ง ‘มัทฉะ’ ยอดสั่งโต 300% คนไทยสั่ง 6.5 ล้านแก้ว ส่วน ‘ตำปูปลาร้า’ ครองแชมป์อาหาร เพราะคนไทยเลิฟกินแซ่บ ยอดสั่ง 8 ล้านจาน

FORBES THAILAND / ADMIN
15 Dec 2025 | 10:47 AM
READ 140

LINE MAN สรุปเทรนด์การกินของคนไทยปี 2025 จากฐานข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคน และร้านอาหารกว่า 7 แสนร้านทั่วประเทศ พบความแซ่บยังคงอยู่ในดีเอ็นเอของคนไทย ดันเมนู “ตำปูปลาร้า” ครองแชมป์ยอดสั่งสูงสุดกว่า 8 ล้านจานทั่วประเทศ ด้านเมนู “มัทฉะ” เครื่องดื่มมาแรงแซงทุกเทรนด์ยอดสั่งพุ่งกว่า 6.5 ล้านแก้ว เติบโตทะลุ 300% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กลายเป็นเครื่องดื่มที่เติบโตเร็วที่สุดบนแพลตฟอร์ม


‘มัทฉะ’ มาแรงสุดแห่งปี ยอดสั่งเติบโตทะลุ 6.5 ล้านแก้ว

    ข้อมูลจาก LINE MAN ระบุว่าปีนี้ มัทฉะ ขึ้นแท่นเมนูมาแรงที่สุดแห่งปี ด้วยยอดสั่งเติบโตสูงสุด เพิ่มขึ้นถึง 300% จากปีก่อนหน้า มียอดสั่งรวมถึง 6.5 ล้านแก้ว สะท้อนกระแสสุขภาพและถือเป็นเครื่องดื่ม Affordable Luxury ใหม่ของปี


    เมนูที่ยอดสั่งเติบโตสูงรองลงมา ได้แก่

    • ชิโอะปัง หรือขนมปังเกลือ ได้รับความนิยมด้วยจุดเด่นความหอมเนยและรสชาติที่เข้าใจง่าย จนในช่วงปีที่ผ่านมา มีร้านชิโอะปังเปิดเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ร้านบน LINE MAN

    • ไอศกรีมซันเดย์ เป็นเมนูที่เติบโตสูง จากกลยุทธ์ด้านราคาที่เข้าถึงง่ายของร้านแฟรนไชส์ใหญ่

    • ไก่จ๊อ กลายเป็นม้ามืดที่ยอดสั่งเติบโตพุ่งติดอันดับ จากความง่ายในการเป็นอาหารจานด่วน กินเล่นก็ได้ กินกับข้าวก็ดี

    • ชาไทย Specialty และ ชาไทยพรีเมียม เป็นการยกระดับชาไทยธรรมดาให้เทียบเท่ากาแฟ Specialty โดยเน้นการคัดสรรแหล่งปลูก และกลิ่น-รส ที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ผู้บริโภคกระแสหลักหันมาสนใจชาไทยคุณภาพมากขึ้นในปีนี้


คนไทยติดแซ่บ สั่ง “ตำปูปลาร้า” มากที่สุด

    ข้อมูลจาก LINE MAN พบว่า “ตำปูปลาร้า” ครองสถานะแชมป์เมนูยอดสั่งสูงสุดแห่งปี 2025 ด้วยยอดเสิร์ฟกว่า 8 ล้านจานทั่วประเทศ หลังจากการขับเคี่ยวแย่งชิงบัลลังก์กับคู่แข่งตลอดกาลอย่าง "ไก่ทอด" มาอย่างยาวนาน ปีนี้ตำปูปลาร้าซิวตำแหน่งไปครองอย่างเด็ดขาด สะท้อนว่าคนไทยนั้น “ติดแซ่บ”


    อาหารรสจัดจ้านยังคงเป็นหัวใจหลักในวิถีชีวิต ความนิยมในรสเผ็ดร้อนนี้สะท้อนผ่านตัวเลขการค้นหาเมนูประเภท “ส้มตำ ยำ หม่าล่า” มียอดค้นหารวมสูงถึง 16 ล้านครั้ง ในปี 2025

    สำหรับเมนูยอดสั่งสูงสุดอื่นๆ ได้แก่ ข้าวผัด, ไก่ทอด, ข้าวมันไก่ และ กะเพราหมูกรอบ ตามลำดับ ส่วนหมวดหมู่ที่มียอดค้นหาสูงสุดตามมาคือ ก๋วยเตี๋ยว, อาหารตามสั่ง, อาหารจานเดียว และ ข้าวแกง


“ชาเขียวนม” เมนูแชมป์ใหม่ขวัญใจนักดื่ม

    ในหมวดเครื่องดื่มปีนี้เกิดการพลิกโผครั้งใหญ่ “ชาเขียวนมเย็น” ผงาดขึ้นครองตำแหน่งเมนูยอดสั่งสูงสุดบน LINE MAN แทนที่กาแฟดำ การเปลี่ยนมือแชมป์นี้สะท้อนถึงแรงหนุนจากกระแสความนิยม "มัทฉะ" ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากราคาที่สูงกว่าทำให้ "ชาเขียวนม" กลายเป็นตัวเลือกในการทดแทนที่สมบูรณ์แบบ เพราะให้รสชาติชาและสีสันคล้ายคลึงกัน มีราคาที่ประหยัดและเข้าถึงง่ายกว่ามาก

    เครื่องดื่มสุดฮิตอันดับรองลงมาคือ กาแฟดำ, เอสเปรสโซ่เย็น, ชานม และ ชาไทย ตามลำดับ สะท้อนวิถีชีวิตคนเมืองที่ต้องพึ่งพากาแฟและเครื่องดื่มรสหวานเพื่อเพิ่มพลังงานตลอดวัน



“ข้าวแกง” Fast Food แบบไทยยอดสั่งทะลุ 65 ล้านจาน

    เมนูที่คุ้นเคย "ข้าวแกง" ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น Fast Food แบบไทยที่มีศักยภาพในการอยู่รอดและเติบโตในยุคเศรษฐกิจผันผวน มียอดสั่งรวมทั้งปีทะลุ 65 ล้านจาน เติบโตขึ้นถึง 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการปรับตัวเข้าสู่ระบบเดลิเวอรี่ของร้านค้า

    ปัจจุบันร้านข้าวแกงมีสัดส่วนมากกว่า 10% ของร้านอาหารทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม LINE MAN เมนูที่ขายดีที่สุดได้แก่ หมูทอด / หมูก้อนทอด ตามมาด้วย ไข่พะโล้, แกงคั่ว, ผัดพริกแกง และแกงเขียวหวาน ตามลำดับ


    ปัจจัยหลักที่ทำให้ข้าวแกงแข็งแกร่งคือการเป็นอาหารที่ สะดวก รวดเร็ว และมีราคาเข้าถึงง่าย ทำให้คนไทยสามารถบริโภคได้ทุกมื้อและทุกวัน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงที่ต้องควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างดี

    LINE MAN ยืนหนึ่งในวงการฟู้ดเดลิเวอรี่ ด้วยฐานข้อมูลร้านอาหารที่ครอบคลุมทั่วประเทศและบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง โดยมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการและโปรโมชันที่คุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดในทุกวัน



ภาพ: LINE MAN และ Freepik



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : CHAGEE คอลแล็บ Hello Kitty ผิวแทน ส่งความน่ารักเกินต้านส่งท้ายปี พร้อมเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ Cocoa Oolong Milk Tea

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine