ครั้งแรก! พันธุ์ไทย X กระทิงแดง คอลแล็บข้ามสายพันธุ์ เปิดตัว 4 เมนูใหม่ ดื่มแล้วดีดตั้งแต่เช้ายันเย็น - Forbes Thailand

ครั้งแรก! พันธุ์ไทย X กระทิงแดง คอลแล็บข้ามสายพันธุ์ เปิดตัว 4 เมนูใหม่ ดื่มแล้วดีดตั้งแต่เช้ายันเย็น

‘กาแฟพันธุ์ไทย’ จับมือ ‘กระทิงแดง’ คอลแล็บข้ามสายพันธุ์ครั้งแรก เขย่าตลาดเครื่องดื่มไตรมาส 3 เปิดตัว 4 เมนูสายพันธุ์ใหม่ ดื่มแล้วดีดตั้งแต่เช้ายันเย็น ส่วนกาแฟพันธุ์ไทยพร้อมลงทุน 1,500 ล้านบาท เปิดอีก 600 สาขาปีนี้


    เทรนด์ตลาดเครื่องดื่มในเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปมากและมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดคือ เทรนด์เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มให้พลังงาน เพราะผู้บริโภคต้องการทั้ง Energy ควบคู่ไปกับ Benefit

    นอกจากนี้ยังมีเทรนด์เครื่องดื่มผสมวิตามิน ที่ผู้บริโภคมักเลือกดื่มเพื่อช่วยเสริมเรื่องความงาม เช่น คอลลาเจนและวิตามิน รวมถึงเทรนด์เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอลล์ ก็เติบโตอย่างมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเครื่องดื่มชูกำลัง ตลาดยังทรงๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม และคาดว่าการเติบโตทั้งปีจะลดเหลือเพียง 3% ในปีนี้จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 6% เพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจ

    แบรนด์เครื่องดื่มจึงต้องขยายผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพิ่มขึ้น สร้างแบรนด์ และสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ตลอดเวลา เพื่อตามเทรนด์การดื่มที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับขยายฐานสู่ผู้ดื่มกลุ่มใหม่ โดยเฉพาะเจน Z ที่ชอบความหลากหลาย พร้อมลองของใหม่

    สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า กาแฟพันธุ์ไทยจับมือกับ ‘กระทิงแดง’ ออกเมนูเครื่องดื่มข้ามสายพันธุ์สำหรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ร่วมกันเป็นครั้งแรก ได้แรงบันดาลใจจาก 2 ทางคือ การสอบถามลูกค้าว่า ตอนเช้าดื่มกาแฟเพื่ออะไร ซึ่งได้รับคำตอบจากลูกค้าว่า “เพราะง่วง” และจาก insight จากลูกสาวของตนเอง ที่ชอบฝากซื้อกระทิงแดง เพื่อความตื่นตัวอีกระดับระหว่างการอ่านหนังสือดึกๆ

สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด


    เครื่องดื่มใหม่ทั้ง 4 เมนูใหม่ถูกตั้งชื่อสไตล์ยาดอง ตอกย้ำแบรนด์ไอเดีย #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ และ #เป้าหมายถึงไวพลังใจไม่มีท้อ จากกระทิงแดง เป็นเครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่าง Functional กับ Emotional Benefits รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ในปัจจุบันที่มีความเป็น Independent Generation มากขึ้น ต้องการความแปลกใหม่ เป็นตัวของตัวเอง และมองหาเครื่องดื่มรสชาติที่แตกต่าง และบางกลุ่มทานอาหารเพื่อหาคอนเทนต์ หา New Experience และแบ่งปันบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น

    เครื่องดื่มทั้ง 4 เมนู ประกอบด้วย

    1.ช้างยกกําลังทิง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก ‘Espresso Martini’ กับเอสเพรสโซดับเบิ้ลช็อต และกระทิงแดงครึ่งขวด มีรสเปรี้ยวนิดๆ ของมะนาว ราคา 79 บาท

    2.ทิงซ่าโดดกําแพง เป็นส่วนผสมระหว่างกระทิงแดงครึ่งขวดเข้ากับสปาร์คกลิ้งโซดา และมะนาวสด ได้ฟีลสดชื่น เพิ่มพลังยามบ่าย ราคา 69 บาท

    3.กำลังช้างสาว เครื่องดื่มผสมคอลลาเจน พร้อมโยเกิร์ต และช็อตกระทิงแดง ปั่นกับเจลลีสตรอว์เบอร์รี ปลุกความสดชื่น ราคา 89 บาท

    4.ช้างกระทืบงาน โยเกิร์ตสมูทตี้ที่ให้ความสดชื่น ลุยงานได้ทั้งวัน ราคา 89 บาท


    เมนูเครื่องดื่มเหล่านี้จำหน่ายที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1,580 สาขาทั่วประเทศ และบริการเดลิเวอรี่จัดส่งถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2568 - 18 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

    บริษัทคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างความสนุกในตลาดเครื่องดื่มและเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่างหนุ่มสาวออฟฟิศ และนักศึกษาที่มองหาเครื่องดื่มที่ให้ทั้งรสชาติและพลังงาน และช่วยเพิ่ม Traffic ของลูกค้าและจำนวนการดื่มในร้านพันธุ์ไทยทั่วประเทศที่มีอยู่ 1,580 สาขา ได้อย่างน้อย 20% จากล่าสุดในเดือนพฤษภาคมที่ขายอยู่เดือนละ 200 แก้วต่อสาขา

    ทางด้าน วรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ความร่วมมือกับกาแฟพันธุ์ไทย จะช่วยทำให้กระทิงแดงขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากปัจจุบันที่ฐานผู้บริโภคของกระทิงแดงคือคนวัยทำงาน มีเพียงสินค้า Redbull Soda เครื่องดื่มชูกำลังพรีเมียมเท่านั้นที่มีฐานคนรุ่นใหม่อยู่แล้ว

วรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP


    “ความร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งข้ามสายพันธุ์ของสองแบรนด์ไทย ทุกเมนูในแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นหรือปลุกให้ตื่น แต่เป็น ‘การปลุกพลัง’ ที่ดีดให้คุณกล้าทำตามเป้าหมายในทุกๆ วันที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ” วรวุฒิ กล่าว

    สำหรับการสื่อสารการตลาดของแคมเปญ ‘ดีดศาสตร์’ เน้นการสร้าง Engagement กับกลุ่มเป้าหมายผ่าน กิจกรรม Road Show ต่างๆ

    ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังโดยรวมอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3% จากที่ก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ที่ 6% เพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจ

    นอกจากเครื่องดื่มเมนูใหม่แล้ว สุขวสากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านกาแฟใหม่อีก 600 สาขา รวมมีสาขาทั้งหมด 2,180 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และยังวางแผนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือใหม่ควบคู่ไปกับรเานกาแฟพันธุ์ไทยอีก 5 สาขา ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ขนาดพื้นที่ 100 ตารางเมตร

    ทั้งนี้ กาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้ 3,000 ล้านบาทในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5,800 ล้านบาทในสิ้นปีนี้



ภาพ: กาแฟพันธุ์ไทย และกลุ่มธุรกิจ TCP



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : CHAGEE ร้านชาจากจีนของมหาเศรษฐีพันล้านวัย 30 ปี คัมแบ็กไทยพร้อมคอนเซ็ปต์ Tea Bar ตั้งเป้าขยายปีนี้ 5 สาขา

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine