ค้าปลีกรอบทิศทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อัดฉีดงบร่วม 2,000 ล้าน จัดยิ่งใหญ่ฉลองปีใหม่ส่งท้ายปีเก่าให้โลกจำ ทั้งใหญ่-เจ๋ง-และแตกต่าง กระตุ้นการจับจ่ายโค้งสุดท้าย หลายค่ายดึงคาแร็กเตอร์ดังจากญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา มาสร้างสีสันในไทยครั้งแรกของภูมิภาค แถมมีรางวัลให้ลุ้นเพียบ ตั้งแต่ รถยนต์ ทองคำ แพ็คเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน จนถึงส่วนลดถึง 90% หวังเพิ่ม customer traffic ในศูนย์ช่วงปลาย พ.ย. - ต้น ม.ค. อีกราว 5-20 เปอร์เซ็นต์
ค้าปลีกรายใหญ่เกือบจะทุกรายพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ปี 2568 เป็นปีที่ยากลำบากและท้าทายที่สุดของธุรกิจค้าปลีก เพราะการจับจ่ายใช้สอยเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา และมีเพิ่มบ้างลดบ้างสลับกันไปเป็นช่วงๆ ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ สงครามการค้า การพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา และการเติบโตของภาคท่องเที่ยวที่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์
แคมเปญการตลาด กิจกรรม และอีเวนต์ที่จัดขึ้นเพื่อปลุกกำลังซื้อใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จึงไม่สามารถทำเพียงแค่เนรมิตศูนย์การค้าของตัวเองให้เป็นดินแดนคริสต์มาสพร้อมซานตาคลอสมาเติมเต็มความฝันเหมือนที่เคยจัดในอดีตได้อีกต่อไป เพราะไม่น่าเพียงพอที่จะแข่งขันในสภาวะตลาดเช่นนี้ได้
งบการตลาดที่แต่ละศูนย์การค้าใช้เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายและท่องเที่ยวในห้างของตนเอง ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมกราคมปีหน้า จึงถูกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตั้งแต่ 10-20 เปอร์เซ็นต์
จากการสำรวจตลาด พบว่ามีการทุ่มงบประมาณเพื่อใช้จ่ายด้านการตลาดของค้าปลีกรายหลักๆในปลายปีนี้ร่วม 2,000 ล้านบาท ดังนี้
-เซ็นทรัลพลาซ่า เพิ่มงบการตลาดเป็น 800 ล้านบาท จากที่เคยใช้ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเพียง 700 ล้านบาท
-กลุ่มเดอะมอลล์ เพิ่มงบเป็น 500 ล้านบาท จากที่งบจำนวนนี้ตั้งใจจะใช้ในก่อนหน้านี้
-กลุ่มเอ็มดิสทริคที่ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า 3 แห่งในย่านสุขุมวิท ได้แก่ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ ยังคงงบการตลาดไว้ที่ 200 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้
-ซีคอนสแควร์และฟิวเจอร์พาร์ครังสิตใช้งบค่ายละ 30 ล้านบาท และ MBK ใช้งบ 22 ล้านบาท
จากรายงานข่าวของศูนย์การค้าต่างๆ หลายค่ายหันมาโฟกัสมากในปีนี้ คือ การดึงคาแร็กเตอร์ระดับอินเตอร์และในประเทศมาทำกิจกรรม และตกแต่งศูนย์การค้าเพื่อสร้าง engagement และทำให้ลูกค้าอยากมาดูหรือมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต
นอกจากนี้ การลด แลก แจก พลุไฟ คอนเสิร์ตจากศิลปินดัง ยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป แต่มีการปรับให้เหมาะสมตามสถานการณ์ ส่วนการตกแต่ง พบว่าทุกที่จัดเต็ม หลายที่เริ่มเปิดไฟต้นคริสต์มาสกันบ้างแล้ว และอีกหลายที่จะ kick off แคมเปญในสัปดาห์นี้ (24-28 พ.ย.)
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทุ่ม 800 ล้านบาท
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา ผู้พัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ กล่าวว่า ซีพีเอ็นได้จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 800 ล้านบาท จัดกิจกรรมส่งท้ายปี 2025 ด้วยแคมเปญ “The Magical Stars” เนรมิต 4 อาณาจักรเทพนิยายธีมดิสนีย์ ได้แก่ ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ และ “มิคกี้และมินนี่” สูง 3 เมตร ในชุดผ้าไทย, Disney The Magical Stars 2026 at centralwOrld, Magic Town ธีมมิคกี้ เมาส์ และ Magic Castle ธีมปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปี ผ่านแนวคิด Festival Economy ปลุกบรรยากาศท่องเที่ยวให้คึกคัก เชื่อมโยงความสุขจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ

ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา ตั้งใจมอบประสบการณ์แห่งความสุขแบบ ‘Sensory Living’ ที่เชื่อมทุกประสาทสัมผัส ภาพ แสง สี เสียง และกลิ่น ให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งจินตนาการของดิสนีย์จริงๆ ในฐานะผู้สร้างพื้นที่แห่งประสบการณ์ (Creating Experiences) โดยจับมือกับ ดิสนีย์ ผู้สร้างความสุขและแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก (Creating Happiness & Deliver Best Experiences) เนรมิตอาณาจักรเทพนิยายธีมดิสนีย์ที่เซ็นทรัลทั่วประเทศ ให้ทุกคนได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของเทศกาลคริสต์มาสในแบบของดิสนีย์ได้พร้อมกันทั่วประเทศ เพราะเราเชื่อว่าดิสนีย์เป็น Dream destination ที่ทุกคนต้องไปเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต

“ปีนี้เราให้ความสำคัญกับการตกแต่งศูนย์การค้ามากขึ้น เราลงทุนงบตกแต่งถึง 100 ล้านบาทในปีนี้ ตกแต่งศูนย์การค้าแต่ละสาขาด้วยธีมที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างเส้นทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ กระตุ้นการเดินทางข้ามพื้นที่” ณัฐกิตติ์กล่าว

ดร.ณัฐกิตติ์คาดว่า สิ่งที่ CPN ทำทั้งหมดในปีนี้ จะช่วยขับเคลื่อน Festival Economy ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค ผ่านพลังของเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีที่คาดว่าจะมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นกว่า 25–30% ทั่วประเทศ
เอ็มดิสทริคทุ่ม 200 ล้าน พร้อมดึง “หมีเนย” ร่วมแคมเปญ
อรธิรา ภาคสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส เอ็ม ดิสทริค กล่าวว่า เอ็ม ดิสทริค (เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์) ทุ่มงบประมาณ 200 ล้านบาท จับมือพันธมิตรกว่า 30 ราย จัดงาน EM DISTRICT ANNIVERSAY: UNSTOPPABLE HAPPINESS UNMISSABLE REWARDS และ “EM DISTRICT WINTER WONDERLAND” ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 5 มกราคม 2569

ปีนี้จัดเต็มเพราะฉลองครบรอบ 2 ปีแห่งความสำเร็จของเอ็มดิสทริค ในการเป็นย่านการค้าระดับโลกที่ทุกคนพูดถึง และต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ไปพร้อมๆ กัน ด้วยแคมเปญโปรโมชั่น ที่ให้ลูกค้าได้ลุ้นรางวัลกว่า 30 ล้านบาท พร้อมด้วยอีเวนต์นานกว่า 1 เดือนเต็ม
โดย “น้องหมีเนย” และ พงศ์ทิวัตถ์ “บลู” ตั้งวันเจริญ นักแสดงนักร้องเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ จะมา Kick Off แคมเปญปีใหม่ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ที่ควอเทียร์ อเวนิว เอ็มควอเทียร์ พร้อมโชว์จากเหล่าศิลปินนักแสดงชื่อดังอื่นๆ อาทิ ซี-นุนิว, วิลเลี่ยม -เอส และ เติ้ล-เฟิร์สวัน ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2568

นอกจากนี้ยังจัด “EM DISTRICT WINTER WONDERLAND” ซึ่งตกแต่งในธีม ENCHANTED FOREST มนเสน่ห์แห่งป่าแห่งเทพนิยายตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568 – 5 มกราคม 2569 พร้อมพบกับต้นคริสต์มาสสูงกว่า 20 เมตร ที่ลานควอเทียร์พาร์ค เอ็มควอเทียร์ และต้นคริสต์มาสด้านหน้าเอ็มสเฟียร์ และงานเคาต์ดาวน์พร้อมพลุในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
“มู้ดการจับจ่ายไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ต้นปี เราจัดแคมเปญปีใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้ทุกคนกลับมาพร้อมเฉลิมฉลองในปลายปี แม้เกือบ 1 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจจะไม่ค่อยเอื้ออำนวย แต่จำนวน customer traffic ยังไม่ลด ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ในฐานะที่เราเป็นศูนย์การค้า หน้าที่ของเราคือต้องสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ให้ลูกค้าตลอดเวลา และดึงดูดผู้คนให้มาเยือนอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันที่มีลูกค้าหมุนเวียนมาใช้บริการราว 200,000 คนต่อวัน” อรธิราบอก
บิ๊กซี แหวกแนว ใช้กลยุทธ์ Movie Marketing เชื่อมโยงแบรนด์ผ่านละครช่องวัน
อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และกระตุ้นการจับจ่ายที่คึกคักในไตรมาสสุดท้ายของปี บิ๊กซีได้ร่วมมือกับช่อง ONE ดึงกลยุทธ์ Movie Marketing สร้างประสบการณ์ลูกค้า โปรโมทและเชื่อมโยงแบรนด์ผ่านละคร “ตามหารักที่เธอลืม” ซึ่งปัจจุบันเป็นละครที่เปิดตัวเรทติ้งสูงสุดของช่อง ONE และทุบสถิติเรทติ้งสูงสุดละครช่วง 1 ทุ่ม เริ่มออกอากาศแล้ววันนี้ - 23 ธันวาคม ทางช่อง ONE จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 1 ทุ่มตรง
ละครเรื่องนี้เป็นการ remind แบรนด์บิ๊กซี เพราะนางเอกทำงานบิ๊กซีและมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในแต่ละแผนก เพื่อโปรโมทให้บิ๊กซีเป็น choice ในการจับจ่ายใช้สอยในปลายปีนี้
นอกจากนี้ ยังจัดแคมเปญ “ตามหาความสุขส่งท้ายปีที่บิ๊กซี” ขนขบวนสินค้ากว่า 2,000 รายการ อาทิ กระเช้าของขวัญ กระเช้าปีใหม่ดีไซน์สวยงาม กว่า 60 แบบ จากพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำ ในราคาเริ่มต้นเพียง 209 บาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 50% รวมถึงสินค้าพิเศษที่สามารถ ผ่อน 0% นานสูงสุด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ และทางออนไลน์ผ่าน App Big C PLUS
ทั้งนี้บิ๊กซีจัดเต็มครั้งแรกในรอบหลายปี ทั้งแคมเปญสินค้าราคาพิเศษ เพิ่มความคุ้มค่า ซึ่งตอบโจทย์ insight ลูกค้า ที่พิจารณาความคุ้มค่าเป็นปัจจัยต้นๆ ในการตัดสินใจซื้อ รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย เป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายสินค้าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีของบิ๊กซี ให้เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึง 17%
เลือก ‘Monchhichi’ ออนทัวร์เดอะมอลล์
วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มเดอะมอลล์ได้โยกงบที่จะใช้ก่อนหน้านี้มาทุ่มให้กับแคมเปญปลายปี และเลือก “Monchhichi” ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์อีกตัวที่มีสเกลความดังระดับโลก และคนไทยเป็นประเทศต้นๆ ที่ซื้อการ์ตูนลิงนี้จากญี่ปุ่นในแต่ละปี เพื่อรองรับกระแสอาร์ตทอย Monchhichi จะมาสร้างประสบการณ์ทุกรูปแบบตั้งแต่การตกแต่งตามจุดต่างๆ ทั้งข้างนอกและในห้าง

แคมเปญไตรมาสสี่ปีนี้เดอะมอลล์ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาทสำหรับอีเวนต์โรดโชว์ ของพรีเมี่ยมของม่อนชิชิในคอลเลคชั่นต่างๆ คาดว่าน่าจะทำให้ไตรมาส 4 ปีนี้คึกคักแน่นอน
‘ฟิวเจอร์พาร์ค’ จัดเต็มคอนเสิร์ต พร้อมฉายหนังกลางแปลง กิน-ดื่มบรรยากาศงานวัด
กัลยา กมลรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 30 ล้านบาท จัดงาน “FUTURE PARK THE HAPPINESS CELEBRATION 2026” ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 – 4 มกราคม 2569 มีการเนรมิตพื้นที่ศูนย์การค้าทั้งหมดให้เป็น “ดินแดนแห่งความสุข” ภายใต้คอนเซ็ปต์ FACTORY OF HAPPINESS ลูกค้าจะได้สัมผัสความจัดเต็มในปีนี้
ตั้งแต่บริเวณทางเข้าสู่ศูนย์การค้าฯ ที่มี “สะพานดวงดาว” ความยาวกว่า 8 เมตร ออกแบบด้วยแสงไฟ LED นับพันดวงในโทนขาว-ทอง อุโมงค์ดวงดาว ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ ชิงช้าหมุนได้ พร้อมกิจกรรม “ดูหนังกลางแปลง” ให้ทุกคนได้ย้อนวันวาน วันที่ 17-31 ธ.ค. 68 เวลา 18.30-21.30 น. ที่ Zappening ในพื้นที่ 1,400 ตารางเมตร พร้อมของกินเล่นสไตล์งานวัดที่หาทานยาก
ภายในศูนย์การค้าฯ ยังมีการตกแต่งพื้นที่ให้ถ่ายภาพทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละชั้น มีมากกว่า 10 จุด เมื่อช้อปตามเงื่อนยังได้ลุ้นรางวัลจำนวนมากและในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป บริษัทได้เปลี่ยนพื้นที่ด้านข้างศูนย์การค้าให้กลายเป็นแลนด์มาร์ค Countdown แห่งใหม่ พร้อมคอนเสิร์ตศิลปินชั้นนำแบบจัดเต็มกับ MXFRUIT / dice / BUS / URBOY TJ
แฟชั่นไอส์แลนด์-เทอร์มินอล 21-เดอะพรอมานาด จัดเมืองหิมะและ Early Countdown
ประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม รีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และเดอะพรอมานาด เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ทั้ง 4 สาขา ไม่ว่าจะเป็น อโศก พระราม 3 พัทยา และโคราช เตรียมปล่อยประสบการณ์สุดพิเศษที่ทุกคนรอคอย กับแคมเปญ “CHRISTMAS EXPRESS” ชวนรับโมเมนต์สุดเฟสทีฟตลอดปลายปีนี้ ภายใต้ธีม “คริสต์มาสสุดป่วน กับขบวนแห่งความสุข” พร้อมโปรโมชั่นลดสูงสุด 70 เปอร์เซ็นต์จากร้านค้าที่ร่วมรายการ ช้อปครบปั๊บรับของพรีเมี่ยมสุดลิมิเตท ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 รวมถึงรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 24% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)

และเตรียมพบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดังจัดเต็มทุกสาขา อาทิ Milli, Non Thanon, PiXXIE เป็นต้น และเฉพาะที่สาขาพระราม3 มีการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาเวลา 21.00 น. ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางออนไลน์ของเเต่ละสาขา เงื่อนไขเป็นไปตามที่ศูนย์การค้ากำหนด

ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ได้เตรียมเนรมิตศูนย์ฯ ให้กลายเป็นเมืองหิมะ ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 ลูกค้าจะได้พบและตื่นตาตื่นใจกับเครื่องเล่นเมืองหิมะแห่งแรกในประเทศไทย กับ B.Duck Playful Winter Playland พร้อมกับ B.Duck Everest Mountain Land สไลเดอร์ พร้อมกับ B.Duck Snowball Pit และจับจ่ายสินค้าโปรโมชั่น และสินค้า Limited Edition จาก B.Duck ช่วงโปรโมชั่นเริ่มจาก 1 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569
ส่วนศูนย์การค้าเดอะพรอมานาด ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ในดินแดนสวนสนุก Circus Fun Park กับคณะละครสัตว์ พร้อมเครื่องเล่นอย่าง Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และซุ้มเกมส์อื่นๆ ตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 พร้อมคอนเสิร์ตศิลปินบอยแบนด์ T-POP สุดฮอต จากค่าย XOXO Entertainment วง ATLAS ในวันพุธที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. ในงานนี้ยังรวมไอเดียของขวัญที่ใหญ่ที่สุดกว่าที่เคยมีมา พร้อมกับโปรโมชั่น เครดิตเงินคืนสูงสุด 20% เงื่อนเป็นไปตามที่ศูนย์การค้าฯ กำหนดตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569
MBK ฉีกแนวจัด Thai Fight ส่วนพาราไดซ์ฯ ไฮไลต์ 7 สีคอนเสิร์ต
พุทธชาต ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็มบีเค เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณการตลาด 22 ล้านบาท เพื่อจัดแคมเปญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ดึง “จัมโบ้ แจน มาสร้างสร้างสรรค์งานตกแต่งจากลายเส้นของตนเองให้กับต้นคริสต์มาสที่เอ็มบีเค
ในปี 2569 เป็นปีนักษัตรม้า (มะเมีย) เลยใช้ theme เป็นม้าหมุนแห่งความสุข ต้นคริสต์มาสมีม้าที่มีลายแตกต่างกันอยู่ 8 ตัว เป็นตัวแทนของ ความร่ำรวย สุขภาพ การงาน ครอบครัว มิตรภาพความรัก จิตใจ และการเติบโตไม่หยุดนิ่ง

โดยในวันอังคารที่ 25 พ.ย.นี้ เอ็มบีเคจะเปิดไฟประดับต้นคริสต์มาส และเนื่องจาก 40 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ บริษัทได้ขยายสเกลการจัดงาน “Fight Night" ชกมวยชาย-หญิง 4 ชั่วโมงเต็มตั้งแต่ 6 โมงถึง 2 ทุ่มระหว่างวันที่ 29-31 ธันวาคม 2568 จากปกติที่จะจัดงานครั้งละ 1 ชั่วโมง และจัดเพียงเดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ยังจัดงาน 7 สีคอนเสิร์ตตอนเที่ยงที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ควันที่ 13 ธันวาคมปีนี้ด้วย
“วิธีการทำตลาดของเราค่อนข้างแตกต่างจากศูนย์อื่น เราใช้กลยุทธ์ Precision Marketing เป็นการตลาดที่มีความแม่นยำ กิจกรรมทุกอย่างที่เราทำสามารถวัดผลได้” พุทธชาตกล่าว

เธอบอกอีกว่า เอ็มบีเคทำการตลาดโดยมีการสื่อสารโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ยอดคนเข้าศูนย์การค้าเอ็มบีเคยังมีการเติบโตถึง 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการที่เอ็มบีเคในปัจจุบันมีมากกว่าในช่วงโควิดระบาดถึง 7% แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะระบุว่า ใน 10 เดือนของปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 7.2 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
นอกจาก customer traffic ในศูนย์จะเติบโตสวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัวลงแล้ว การใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวยังเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4,000 บาทจาก 3,500 บาทในปีก่อนหน้านี้ ส่วนการใช้จ่ายต่อหัวของคนไทยก็เพิ่มจาก 800 บาทเป็น 1,000 บาทด้วยเช่นเดียวกัน
‘ซีคอนสแควร์’ เพิ่มพื้นที่จัดงานหน้าศูนย์-คอนเสิร์ต 30-31 ธ.ค.
ดร.จักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารการตลาด บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เปิดเผยว่า เนื่องในเทศกาลปีใหม่นี้มีวันหยุดยาวติดกันถึง 5 วัน จึงน่าจะช่วยเพิ่ม shopping sentiment ดีขึ้นมาก ซีคอนสแควร์จึงขยายพื้นที่จัดงานอีเวนต์ในทุกลานกิจกรรม และจัดคอนเสิร์ตเคานต์ดาวน์ในวันที่ 30-31 ธันวาคม 2568 นอกจากนี้ยังขยายพื้นที่จัดงานด้านหน้าศูนย์การค้า เพื่อสามารถดึงคนเข้ามาร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นด้านหน้าศูนย์การค้าได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 10,000 คน
“นอกจากกิจกรรมที่จัดตามสไตล์ของเราแล้ว เรายังอัพเกรดศูนย์เพื่อตอบรับผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะ Gen Z ปลายๆ ขณะนี้กำลังซื้อของ Gen Z ยังไม่เท่ากลุ่มอื่น แต่ในอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้าพวกเขาจะกลายเป็นผู้มีกำลังสูง” ดร.จักรพลกล่าว

เขากล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทได้เพิ่มงบประมาณด้านการตลาดเพิ่มขึ้น 15% เป็น 30 ล้านบาท มีการจัดโปรโมชั่น สะสมแต้มแลกพ้อยท์ในโค้งสุดท้ายท้ายของปลายปี และการมีร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาเปิดบริการที่ซีคอนบางแคอีก 30-50 ร้าน รวมทั้ง “Nana Coffee Roaster” ร้าน specialty coffee ขนาด 200-300 ตารางเมตร จะเป็น magnet สำคัญที่ช่วยดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์มากขึ้น คาดว่ากิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะทำให้ customer traffic ทั้ง 2 ศูนย์จะเพิ่มขึ้น 10-12 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
Mark Tuan ร่วมเคานต์ดาวน์ไอคอนสยาม
สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามประกาศจับมือพันธมิตรทุกภาคส่วน จัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2026” ภายใต้แนวคิด “A GLOBAL PHENOMENAL CELEBRATION AT THE ICON UNRIVALED มีการเนรมิตริเวอร์ พาร์ค เป็นฟลอร์เต้นรำที่ใหญ่ที่สุด พร้อมบรรยากาศสุดมันจากดีเจชื่อดัง และศิลปินแถวหน้าของไทยกว่า 200 ชีวิต อาทิ เก่ง–น้ำปิง, หลิงหลิง–ออม, ซี–นุนิว, เติ้ล–เฟิร์สวัน, BUS because of you i shine, Proxie, Bodyslam, Slot Machine, Three Man Down, Y2Z, 4EVE, PiXXiE, เป็นต้น

ขณะที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ร่วมกับ STICKY MONSTER LAB เปิดตัว “FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING” ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนรมิตช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีให้เต็มไปด้วยศิลปะและพลังของ “การให้” กับอาร์ตอินสตอลเลชันสุดสร้างสรรค์ “FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING” โดย STICKY MONSTER LAB (SML) สตูดิโอครีเอทีฟชื่อดังจากเกาหลีใต้ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันนี้ – 4 มกราคม 2569 ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่ภายในศูนย์การค้า ตั้งแต่ชั้น G ถึง Open House ชั้น 6 ถูกแปลงโฉมให้มีสีสันกับคาแร็กเตอร์ขี้เล่น และกิจกรรมอื่นๆ อาทิ มินิคอนเสิร์ตจาก “PURE The Voice
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปีใหม่นี้ ‘กลุ่มเดอะมอลล์’ เล่นใหญ่มาก! ทุ่ม 500 ล้าน ดึง ‘Monchhichi’ บุกไทย รับเทรนด์คาแร็กเตอร์-อาร์ตทอยมาแรง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


