S&P ลุยตลาดไก่ทอด! เปิดตัว Wingstop แบรนด์ดังจากอเมริกา ตั้งทายาท ‘เนม-ปราการ’ บริหาร คาดปีหน้ายอดขาย 100 ล้าน

S&P ลุยตลาดไก่ทอด! เปิดตัว Wingstop แบรนด์ดังจากอเมริกา ตั้งทายาท ‘เนม-ปราการ’ บริหาร คาดปีหน้ายอดขาย 100 ล้าน

เครือ S&P ขอกระโดดเข้าวงการร้านไก่ทอด! รับเทรนด์ตลาด 3 หมื่นล้านที่ยังโตต่อเนื่อง ดึงแบรนด์ดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ‘Wingstop’ ปักหมุดในไทย เปิดสาขาแรกที่ MBK Center พร้อมตั้งทายาท ‘เนม-ปราการ ไรวา’ ขึ้นแท่นผู้บริหาร คาดปีหน้ากวาดยอดขายแตะ 100 ล้านบาท


    แม้ธุรกิจร้านอาหารในไทยจะมีความท้าทายหลายอย่าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารกลุ่มที่ยังต่อเติบโตได้ต่อเนื่องก็คือประเภท ‘ไก่ทอด’ ที่มีประมาณการว่าตลาดไก่ทอดในไทยปีนี้มีมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโต 8-10% ต่อปี

    เทรนด์การเติบโตที่น่าสนใจทำให้เครือ S&P แบรนด์เบเกอรี่และร้านอาหารที่อยู่คู่คนไทยมา 52 ปี เห็นโอกาสและดึงแบรนด์ดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ‘Wingstop’ เข้ามาเปิดให้บริการในไทยครั้งแรก นับเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญ เพราะ S&P ไม่เคยมีอาหารประเภทนี้มาก่อน

    โดยเส้นทางของ S&P ตั้งแต่ปี 2516 เริ่มจากร้านไอศกรีมเล็กๆ ก่อนจะกลายมาเป็นร้านอาหารและเบเกอรี่ที่เราคุ้นเคย มีรูปแบบร้านและบริการหลากหลายโมเดล ไม่เพียงเท่านั้น เครือ S&P ยังมีร้านอื่นๆ ได้แก่ ร้านทงคัตสึ Maisen, ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น Umenohana, ร้านอาหารไทยภัทรา, ร้านอาหาร Patio, ร้านอาหารบ้านสุริยน และร้านอาหารนายส์ เป็นต้น

    เรียกได้ว่าการเปิดตัว Wingstop ครั้งนี้ น่าจะเป็นการขยายพอร์ตโฟลิโอ และเติมเต็มภาพรวมธุรกิจร้านอาหารให้เครือ S&P ได้มากขึ้น

    และอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือการตั้ง ‘เนม-ปราการ ไรวาทายาทในเครือ S&P ที่หลายคนรู้จักเขาในบทบาทนักร้องนำวง Getsunova มาบริหารธุรกิจเป็นครั้งแรก

    ปราการ ไรวา ผู้บริหารแบรนด์ Wingstop ประเทศไทย กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการนำ Wingstop เข้ามาเปิดในไทย มาจาก ‘กำทร ศิลาอ่อน’ ซีอีโอ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ S&P เป็นผู้ชักชวนให้รู้จักแบรนด์ไก่ทอด Wingstop และเมื่อค้นพบความเป็นมาของแบรนด์ทำให้รู้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีความเท่ ความสนุก และวัยรุ่น รวมทั้งในไทยยังไม่มีแบรนด์ไก่ทอดในลักษณะนี้ ประกอบกับความชอบส่วนตัวที่ชอบรับประทานไก่และชอบเสาะหาร้านไก่ทอดรสชาติอร่อย จึงกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกลุยในธุรกิจนี้จริงๆ



    สำหรับ Wingstop ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในสหรัฐฯ เมื่อปี พ.ศ. 2537 ภายใต้ปรัชญา “เราไม่ใช่ธุรกิจไก่ทอด แต่เป็นธุรกิจแห่งรสชาติ” และนับได้ว่าเป็นแบรนด์ไก่ทอดที่ดิปซอสเจ้าแรกของโลก โดยเริ่มขยายสาขาสู่ต่างประเทศตั้งแต่ปี 2540 และมีให้บริการแล้วในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ สเปน ฝรั่งเศส ปัจจุบันมีสาขารวม 3,000 สาขาทั่วโลก โดยเป็นในสหรัฐอเมริกา 2,000 สาขา



    “สิ่งที่ทำให้ผมสนใจแบรนด์ Wingstop เป็นพิเศษ ไม่ได้เกิดจากชื่อเสียงระดับโลก หรือความสำเร็จกว่า 3,000 สาขาใน 18 ประเทศเท่านั้น แต่เริ่มจากความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสรสชาติของแบรนด์ที่มีความเข้มข้น สนุก และมีเอกลักษณ์ในแบบที่หาไม่ได้จากแบรนด์อื่น

    “โดยมีแก่นของแบรนด์ที่ชัดเจนมากว่าไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ไก่ทอดดังประโยคติดร้าน ‘We’re not in the wings business. We’re in the flavour business.’ เพราะเราเชื่อว่ารสชาติไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่เป็น ‘ประสบการณ์’ ที่ทำให้ชีวิตของผู้คนมีรสชาติพิเศษขึ้นในทุกๆ วัน ผ่านรสชาติที่แบรนด์นำเสนอด้วยความกล้า ชัดเจน และเต็มไปด้วยคาแรกเตอร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ Wingstop จะมีฐานลูกค้าทั่วโลก เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่ทั้งโลกเทใจให้ แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็เคยมีกระแสคนรักแบรนด์นี้เรียกร้องอยากให้ Wingstop มาเปิดในประเทศไทยตั้งแต่ยังไม่เปิดบริการด้วยซ้ำ



    ปราการ เผยว่า ร้าน Wingstop ประเทศไทย อยู่ภายใต้บริษัท เอส แอนด์ พี วิงส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนบริษัท 30 ล้านบาท เพื่อบริหารงานภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์ โดยประเดิมสาขาแรกใจกลางเมืองที่ MBK Center เนื่องจากมองว่าเป็นสถานที่ไอคอนิกสำหรับนักท่องเที่ยวและอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวกติดรถไฟฟ้า

    สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาด ปราการระบุว่าการนำ Wingstop มาสู่ประเทศไทยไม่ใช่แค่การถ่ายทอดวัฒนธรรมรสชาติระดับโลกหรือการนำสูตรสำเร็จจากต่างประเทศไทยมาใช้ แต่คือการออกแบบประสบการณ์ให้เข้ากับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนไทยรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เกิดเป็น กลยุทธ์ 4 ข้อหลักที่วางขึ้นเพื่อให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืนประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น

    1. กระบวนการทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่ผ่านอินไซต์จริง โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ Gen Z

    2. กลยุทธ์ผู้นำด้านรสชาติ (Flavour Pioneers) ออกแบบให้แต่ละรสมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของทุกคน ซึ่งเริ่มต้นเปิดตัวในประเทศไทยด้วย 9 รสชาติ 3 ระดับความเผ็ด

    3. ระบบปฏิบัติการแบบมาตรฐานโลก (Process & Operation: Global Standardized) ไม่ว่าจะเข้าร้านวันไหน เวลาไหน หรือสาขาใด ก็ต้องได้รสชาติและบริการแบบเดียวกับทั่วโลก

    4. การทำแบรนด์และการตลาด (Strengthening Brand & Marketing) เพื่อให้ Wingstop เติบโตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ผ่านการสร้างคัลเจอร์และยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง


ปีหน้าตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้าน

    ปราการ เผยว่า การเปิดตลาดไทยในครั้งนี้ Wingstop ตั้งเป้ายอดขายในปีหน้าไว้ที่ 100 ล้านบาท หลังขยายสาขาเพิ่ม 5-6 แห่งภายในปี 2569 โดยวางงบลงทุนต่อสาขาไว้ 6-12 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสถานที่ทำเล และมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์ Top of Mind ของคนรุ่นใหม่ เพื่อปูรากฐานให้แบรนด์เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

    “ปัจจุบันมูลค่าตลาดไก่ทอดอยู่ที่ราว 3 หมื่นล้านบาท และเติบโต 8-10% ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราเชื่อว่า Wingstop จะขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น” ปราการกล่าว



    ด้าน ศิวกร เบญจราชจารุนันท์ ผู้จัดการทั่วไป เผยว่า แม้ตลาดไก่ทอดจะมีความท้าทายสูง แต่ Wingstop มีจุดแข็งสำคัญคือระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่งของ S&P ไม่ว่าจะเป็นด้านซัพพลายเชนและทรัพยากรบุคคล เมื่อผสานรวมกับแบรนด์ Wingstop ที่วางคาแร็กเตอร์เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ จะช่วยให้แบรนด์สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

    สำหรับไก่ทอด Wingstop แบ่งเป็น 3 ระดับความเผ็ด ได้แก่ No heat, Some heat และ All the heat พร้อมด้วย 9 รสชาติ เช่น การ์ลิก พาร์เมซาน, เลมอน เปปเปอร์, ฮิกคอรี สโมก บาร์บีคิว, ฮอท ฮันนี่ รับ, หลุยเซียน่า รับ, เท็กซัส บัฟฟาโล, แมงโก ฮาบาเนโร, อินเฟอร์โน และ อะตอมมิค บลาสต์ โดยราคาชุดเมนูไก่ทอดจะเริ่มต้นที่ 159 - 369 บาท



    ศิวกรประเมินว่ายอดการซื้อต่อบิลสำหรับลูกค้าที่มารับประทาน 2 ท่าน อยู่ที่ประมาณ 350-400 บาท ส่วนเป้าหมายลูกค้าของสาขา MBK ประเมินสัดส่วนไว้ที่ต่างชาติ 50% คนไทย 50% และมองภาพรวมลูกค้าทั้งหมดไว้ที่คนไทย 70% ต่างชาติ 30%



ภาพ Wingstop



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ เร่งเครื่องลักชัวรี่เอาท์เล็ต เปิดโซนสีเขียว ‘Green Courtyard’ พร้อมเปิดตัว Nike เอาท์เล็ตแฟล็กชิปใหม่ เจาะกำลังซื้อเจนใหม่โตแรง

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine