นอกจากไทยจะรั้งอันดับ 7 ประเทศที่ Lamborghini ขายดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้ว ก็มีข้อมูลหลายน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น อายุเฉลี่ยของผู้ซื้อชาวไทย น้อยกว่าค่าเฉลี่ยโลก และไทยยังเป็นประเทศที่ ‘ผู้หญิง’ เป็นเจ้าของรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์สุดหรูแบรนด์นี้มากที่สุดในภูมิภาคด้วย
ในงานเปิดตัว “Temerario” ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูสัญชาติอิตาลีอย่างลัมโบร์กินี (Lamborghini) ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 23.76 ล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากจะมีการเผยโฉมรถยนต์รุ่นล่าสุดให้ทั้งสื่อมวลและแขกผู้มีเกียรติร่วมรับชมอย่างใกล้ชิด ผู้บริหาร Lamborghini ทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟเดอริโก ฟอสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด และ ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยังให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์ของรถซูเปอร์สปอร์ตหรูแบรนด์นี้ ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลที่น่าสนใจคือภายใต้ยอดขายของ Lamborghini เมื่อปี 2024 กว่า 10,687 คันนั้น ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ลัมโบร์กินีทำตลาดอยู่ 16 ประเทศ มียอดขายถึง 2,748 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 27.1%
- 3 อันดับตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ขายดีที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น รองลงมาคือเกาหลีใต้ และจีน ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 7 ในภูมิภาค
- ปัจจุบันคนไทยเป็นเจ้าของลัมโบร์กินีอยู่ราว 800 คัน
- เจ้าของลัมโบร์กินีชาวญี่ปุ่นอายุเยอะหน่อย และชอบการแต่งรถแบบเฉพาะมากสุด ส่วนคนไทยไม่ค่อยแต่งรถ แต่เป็นตลาดที่อายุคนขับค่อนข้างน้อย เฉลี่ยคืออายุ 41 ปี ขณะที่ค่าเฉลี่ยโลกคือ 44 ปี
- ไทยเป็นประเทศที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของรถลัมโบร์กินีในสัดส่วนที่มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยภาพรวมลัมโลร์กินีในไทยมีผู้หญิงเป็นเจ้าของราว 18% ถ้าโฟกัสเฉพาะรุ่น Urus มีผู้หญิงไทยเป็นเจ้าของสูงถึง 23%
- ตลาดไทยแม้มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่รักษามาร์เก็ตแชร์ได้เป็นอย่างดี ตลาดกลุมไฮเน็ตเวิร์ต โดยการขายในไทยนั้นดีลเลอร์เป็นคนติดต่อ รวมถึงกิจกรรมทั้งหมดของแบรนด์ ดีลเลอร์ก็เป็นคนทำหมดด้วยเช่นกัน
- สำหรับแผนที่จะพัฒนาไปสู่ EV 100% นั้นอาจต้องเลื่อนออกไปก่อน 1 ปี เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่ยอมรับรถ EV 100% ได้อย่างเต็มร้อย ดังนั้นการจะไปสู่รูปแบบดังกล่าว ต้องมีความต้องการจากลูกค้า รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต้องพร้อมด้วย ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 4 ที่จะออกก็ยังคงเป็นปลั๊กอินไฮบริดเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในทศวรรษนี้ต้องมีรถ EV 100% ออกมาอย่างแน่นอน
- ความท้าทายของลัมโบร์กินีในปัจจุบัน ผู้บริหารมองว่าเป็นเรื่องการทำอย่างไรให้สามารถรักษาอัตลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ได้ ทั้งเรื่องอัตราเร่ง เสียงเครื่องยนต์ ภายใต้เป้าหมายที่ต้องลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุด นั่นทำให้ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่างในการพัฒนารถ
- ส่วนความท้าทายของธุรกิจ ก็ประสบเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ปัจจัยบวกและลบต่างๆ ทำให้ปีนี้ลัมโบร์กินียังประเมินยอดขายได้ยากว่าจะสามารถทุบสถิติของปีที่แล้วได้หรือไม่ แต่ด้วยความที่ลัมโบร์กินีเป็นแบรนด์ที่มีซัพพลายน้อยกว่าความต้องการเสมอ และลูกค้าก็ยอมรับเงื่อนไขที่ต้องรอการผลิต 18 เดือนได้ แปลว่าความต้องการยังมีอยู่
- นอกจากนี้ รถในเซ็กเมนต์นี้ยังเป็นกลุ่มที่คนไม่ได้ซื้อไว้เฉยๆ ตัวรถสามารถรักษามูลค่าไว้เหนือกาลเวลาได้
- ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้สามารถทำรายได้ไป 895 ล้านยูโร และมียอดส่งมอบอยู่ที่ 2,967 คัน ซึ่งดีกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Lamborghini Temerario เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริด 920 แรงม้า ราคาเริ่ม 23.76 ล้านบาท
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
