<h2>เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ลุยเซกเมนต์ Dream Car ส่งไลน์อัพใหม่ The new CLE Coupe ลงตลาดรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู เปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศพร้อมกัน 2 รุ่น พร้อมติดตั้ง MBUX Gen20x ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด ผสานการทำงานของ AI และ routines mode ให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว The new CLE Coupe ยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตที่เข้ามาแทนที่ตระกูล Coupe ทุกรุ่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ บุกตลาดประเทศไทยด้วยกลยุทธ์การวางตำแหน่งทางการตลาดในเซกเมนต์ Dream Car ออกแบบขนาดมิติตัวถังเทียบเท่า E-Class Coupe&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ประเดิมเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ 2 รุ่น นำโดย CLE 300 4MATIC Coupe AMG Dynamic และ Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupe จัดเต็มด้วยการติดตั้งอุปกรณ์และระบบการขับขี่ขั้นสูงที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู รุ่นประกอบในประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกคนเป็นเจ้าของผ่านช่องทางออนไลน์และตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถสปอร์ต 2 ประตู โดยมีจุดเริ่มต้นความสำเร็จมาจากโมเดล Classic Coupe อย่างรุ่น Mercedes-Benz Coupe หรือที่รู้จักกันดีในฐานะ E-Class Coupe รหัสตัวถัง C123 ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ต 2 ประตูรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้ามาในประเทศไทย ตามด้วย Mercedes-Benz CE รหัสตัวถัง C124 <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/woHuQ81KjY5ACAFCNA1s.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="woHuQ81KjY5ACAFCNA1s.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนจะเข้าสู่ยุค Modern Luxury Coupe ด้วยการแนะนำ CLK ที่ทำตลาดต่อเนื่อง 2 เจเนเรชั่น และกลับมาใช้ชื่อ E-Class Coupe อีกครั้ง ด้วยรหัสตัวถัง C207 จนมาถึงรุ่นสุดท้ายที่ทำตลาดในไทยอย่าง C238 โดยรถในตระกูล Coupe ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;  “ในวันนี้ เราต้องการพาทุกคนก้าวสู่ยุคใหม่ของรถตระกูล Coupe ด้วยการแนะนำ The new CLE Coupe รถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู เจเนเรชั่นล่าสุด ที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลงใหลในยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมความหรูหรา ผสานด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ CLE 300 4MATIC Coupe AMG Dynamic และรุ่นสมรรถนะสูงที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ขั้นสูงสุดอย่าง Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupe” ชเวงค์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;The new CLE Coupe ทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมระบบปฎิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด MBUX Gen20x ซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 2 ของรถที่ทำตลาดในประเทศไทย หลังจาก The new E-Class โดยระบบปฏิบัติการดังกล่าวมีความโดดเด่นด้วยระบบควบคุมการสร้าง routines mode หรือ AI-generated routines ที่ผสานระบบ AI ในการเรียนรู้และบันทึกรูปแบบการใช้งานของผู้ขับขี่ และยังมีการออกแบบปุ่มไอคอนให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า พร้อมแยกสีให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นตามมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP&nbsp;อีกทั้งยังรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายในทุกมิติ   <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/At4Kgj5oNRvdHcougf8Z.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="At4Kgj5oNRvdHcougf8Z.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/wFjGVCv7CgT65wFbtQg4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wFjGVCv7CgT65wFbtQg4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div>​CLE 300 4MATIC Coupe AMG Dynamic&nbsp;ราคา 3,950,000 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ในเซกเมนต์เดียวกับ E-Class Coupe นำเสนออีกขั้นของการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความสปอร์ต ความหรูหรา และความทันสมัยตามสไตล์ยนตรกรรมยุคใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้า Mild-Hybrid 48V ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ กระจายการส่งกำลังที่ด้านหน้า 45% และด้านหลัง 55% ใช้เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/Qfyfw15sGDN4q97jGHTF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Qfyfw15sGDN4q97jGHTF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="3"></figure></div>​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/e2pY53z7FbYMRZZHqeq9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="e2pY53z7FbYMRZZHqeq9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="4"></figure></div>​ Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupe&nbsp;ราคา 5,250,000 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รถสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง มาพร้อมการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูงจาก Mercedes-AMG ที่มีมากที่สุดในบรรดารถรุ่นประกอบในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น AMG Performance 4MATIC+, AMG DYNAMIC PLUS Package, AMG dynamic engine mount และ AMG Real Performance Sound โดยใช้เครื่องยนต์ชุดเดียวกับ CLS 53 และ GLE 53 ซึ่งมาพร้อมขุมกำลังเบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้า Mild-Hybrid 48V ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ สามารถกระจายแรงส่งกำลังได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบ 100% ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.2 วินาที และเป็นรุ่นแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งแพ็กเกจ AMG Driver’s Package ช่วยปลดล็อกความเร็วได้สูงสุดถึง 270 กม./ชม. เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/csr-sustainability/jorakay-32-years-aim-for-4-billion-baht-revenue-2024" alt="‘จระเข้’ ฉลองครบรอบ 32 ปี ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4,000 ล้านบาท ชูนวัตกรรมระดับโลกและใส่ใจสิ่งแวดล้อม">‘จระเข้’ ฉลองครบรอบ 32 ปี ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4,000 ล้านบาท ชูนวัตกรรมระดับโลกและใส่ใจสิ่งแวดล้อม</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Mercedes Benz เปิดตัวรถสปอร์ต The new CLE Coupe ประเดิม 2 รุ่น เริ่มต้น 3.95 ล้านบาท

<h2>Maserati ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ Hiroshi Fujiwara ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Fragment Design สู่การสร้างสรรค์ Maserati Ghibi Hybrid Limited Edition พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกกลางปีนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น</h2>
Paolo Tubito ผู้บริหารฝ่ายการตลาด มาเซราติ (Maserati) เปิดเผยว่า ความร่วมมือในการสร้างสรรค์ระหว่างศิลปินชาวญี่ปุ่นและ Maserati เริ่มต้นจากการเดินทางของ Hiroshi Fujiwara ไปยังสถานที่ต่างๆของ Maserati ในเมือง Modena และ Centro Stile Maserati ที่ใช้สำหรับการออกแบบรถยนต์หลากรุ่นในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงวิวัฒนาการของแบรนด์อย่างถ่องแท้

ขณะเดียวกัน Hiroshi Fujiwara ยังได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ การวิจัยเกี่ยวกับสี และวัสดุในเชิงลึก รวมทั้งรายละเอียดทางศิลปะ ซึ่งเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจนำไปสู่นวัตกรรมด้านวิศวกรรมอันล้ำสมัยโดย Hiroshi Fujiwara ได้จำแนกองค์ประกอบที่มีบทบาทสำคัญ ในการสร้างประวัติศาสตร์ของ มาเซราติ เพื่อรังสรรค์ Fragment x Maserati ให้เป็นรถสปอร์ตที่สะท้อนอดีตอันรุ่งโรจน์ ผสานแนวคิดทางศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น และแสดงถึงอนาคตอันรุ่งโรจน์ของค่ายตรีศูล

“ผมชอบรถยนต์และรักในการขับขี่มาก และเมื่อได้ไปเยือนสำนักงานใหญ่ Maserati ที่เมือง Modena ประเทศอิตาลีก็พบว่ามรดกของแบรนด์นั้นทรงพลังอย่างมาก และได้แรงบันดาลใจจากการพัฒนารูปลักษณ์ของกระจังหน้า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยขณะอยู่ที่ Centro Stile Maserati ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจกับภาพร่าง วัสดุ การศึกษารูปแบบ และความใส่ใจในทุกรายละเอียด มาเซราติ จึงเป็นนับพันธมิตรอันยอดเยี่ยม สำหรับการรังสรรค์ผลงานเกี่ยวกับรถยนต์เป็นครั้งแรก” Hiroshi Fujiwara กล่าว

นอกจากนั้น ภายใต้แบรนด์ Fragment Design ของ Hiroshi Fujiwara ยังมีการร่วมมือกับศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้ Fragment x Maserati ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน แต่เป็นการผสานวัฒนธรรมและหลอมรวมแบรนด์ระดับไอคอนของ 2 วงการ โดย Maserati ได้ฉีกกฎเกณฑ์ดั้งเดิมด้วยการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ส่วน Hiroshi Fujiwara ก็ได้โอกาสในการสื่อสารถึงความเป็น Maserati ผ่านมุมมองของวัฒนธรรมแบบสตรีท ซึ่งเป็นศิลปะแขนงใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจ

“เมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ Maserati ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งถึงความเป็นแบรนด์ที่มีอิสระและเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยก้าวผ่านขีดจำกัดผสมผสานวัฒนธรรมนานาชาติร่วมสมัย ส่งผลให้ Maserati เป็นยานยนต์แห่งนวัตกรรมโดยธรรมชาติ ด้วยแรงผลักดันจากความหลงใหล และการออกแบบที่แตกต่าง

โดยความร่วมมือกับ Hiroshi Fujiwara นับเป็นการพิสูจน์ถึงความเปลี่ยนแปลงอีกระดับ และสะท้อนศักยภาพในการรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมได้อย่างแท้จริง” Paolo Tubito กล่าวถึงการเป็นพันธมิตรระหว่าง Maserati และ Hiroshi Fujiwara ที่นำไปสู่การสร้างรถ Maserati รุ่น Ghibi Hybrid แบบ Limited Edition ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Maserati เป็นผู้ผลิตรถยนต์จำหน่ายกว่า 70 ประเทศทั่วโลก นำโดยซีดานสุดหรู Quattroporte, สปอร์ทซีดาน Ghibli และ SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ Levante รวมทั้งยนตรกรรมรุ่นพิเศษ Trofeo Collection และ MC20 ซึ่ง Maserati ผลิตขึ้นในโรงงาน 3 แห่ง โดยรุ่น Quattroporte และ Ghibli ผลิตที่โรงงาน Avvocato Giovanni Agnelli Plant และ Levante ผลิตที่ Mirafiori Plant ส่วน MC20 ผลิตที่โรงงาน Viale Ciro Menotti

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/america/stephen-hoge-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-modern.html">Stephen Hoge มหาเศรษฐีคนล่าสุดจาก Moderna</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events