คนที่ชอบความเร็ว การได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เป็นความสุขที่จับต้องได้ แต่ความชอบเพียงอย่างเดียวไม่พอที่จะสานฝันสู่การเป็นเจ้าแห่งความเร็วได้ ต้องทุ่มเท ฝึกฝน อดทน และลงทุน เส้นทางนี้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ไกลเกินไขว่คว้าหากตั้งใจจริง
ราว 10 นาฬิกาของเช้าวันหนึ่งกลางเดือนกรกฎาคม ทีมงาน Forbes Thailand มีนัดกับ 2 หนุ่ม 2 วัย เพื่อพูดคุยในหัวข้อที่ไม่ใช่เรื่องธุรกิจกับนักบริหารผู้มากประสบการณ์ และหนุ่มน้อยผู้มีไฟฝันในเรื่องความเร็วของวิถีนักแข่งมอเตอร์ไซค์ที่เขาทุ่มเทมาตลอด 7 ปี “อิงค์ อัศวานันท์” เส้นทางนักแข่งของเขาฉายแววสดใส มีอนาคต และน่าติดตาม ขณะที่ผู้เป็นบิดา อัฏฐ์-ทองใหญ่ อัศวานันท์ นักบริหารองค์กรธุรกิจด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นบิดาที่ทุ่มเทและเปิดโอกาสให้บุตรชายอย่างเต็มที่ในการสานฝันสู่เส้นทางนักแข่งมอเตอร์ไซค์มืออาชีพ
“เริ่มลงสนามแข่งมาตั้งแต่อายุ 12 ได้ลงแข่งและฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ความฝันของผมคือ นักแข่งมืออาชีพ ตั้งเป้าว่าอยากทำให้ได้ตอนอายุ 23” อิงค์ หนุ่มน้อยวัย 19 เผยเป้าหมายที่ตั้งไว้บนถนนสายนักแข่งมอเตอร์ไซค์ของเด็กหนุ่มหน้าตาดี บุคลิกปราดเปรียว สรีระเหมาะกับกีฬาที่เล่น
เจ้าตัวบอกว่า เป็นคนค่อนข้างพูดน้อย และไม่ชินกับคนหมู่มาก แต่เขาก็เดินเข้าสู่เส้นทางการแข่งขันที่ต้องพบปะผู้คน ฝ่ากำแพงการต่อสู้กับจริตและความเป็นตัวเองเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
เส้นทางสู่การเป็นนักแข่ง
ถนนสายนักแข่งมอเตอร์ไซค์ของอิงค์เริ่มต้นเมื่อตอนเรียนชั้นมัธยม 2 เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต จากการอยู่ระบบโรงเรียน รวมถึงการไปใช้ชีวิตเป็นเด็กโรงเรียนประจำอาจไม่ใช่ทางและไม่ได้เหมาะกับตัวอิงค์ในเวลานั้น แม้ว่าบิดาจะส่งบุตรชายไปเรียนทั้งคู่ เพราะมองว่าเป็นเรื่องดีที่เป็นโรงเรียนแนวทางเลือก เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้จากการลงมือทำ เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรียนรู้ซึ่งมาจากการฝึกฝนเรียนรู้ตนเองจากข้างในไปจนถึงข้างนอก ไม่ได้เป็นการท่องตำราเหมือนระบบโรงเรียนทั่วไป อิงค์รู้สึกว่าไม่ตรงกับตัวเอง แต่บุตรชายคนโตที่เข้าไปอยู่ก่อนสามารถปรับตัวได้ดี
เมื่ออิงค์และครอบครัวมองว่าอาจจะยังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะกับตัวเองเท่าไรนัก จึงตัดสินใจให้หยุดพักจากการอยู่โรงเรียนประจำและระบบโรงเรียนเพื่อเปิดโอกาสให้ได้ค้นหาตัวเองและเตรียมความพร้อมในเส้นทางที่สอดคล้องกับตนเองมากขึ้น
แต่ในช่วงแรกๆ เรียกได้ว่ายังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน “นั่งเล่นเกมอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ ต้องหาอะไรมาดึงออกจากเกม แข่งรถดูจะเหมาะเพราะเขามีแววมาตั้งแต่เด็ก ชอบจักรยาน ชอบมอเตอร์ไซค์เหมือนผม” อัฏฐ์ย้อนอดีตวัยเด็กของบุตรชายให้ฟัง และบอกว่า ตัวเขาเองก็ชอบความเร็ว มีรถบิ๊กไบค์และบ่อยครั้งที่พาบุตรชายซ้อนท้ายไปด้วย

จากกิจกรรมสบายๆ ในการขี่บิ๊กไบค์ไปกินข้าวเช้ากันพ่อลูกในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มาสู่สนามการแข่งขันความเร็ว เป็นเหมือนการยกระดับความชอบมาสู่กิจกรรมการแข่งขันที่จริงจังมากขึ้น อิงค์ในวัย 19 ปี เขายังคงตื่นเต้นกับทางเดินใหม่ที่เลือกด้วยตัวเอง เขาบอกว่า จะไม่ทิ้งการเรียนไปทั้งหมด แม้ตอนนี้จะไม่ได้เรียนอยู่ในระบบ แต่ก็ตั้งเป้าว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาอยากเรียนด้านการสื่อสารและการบริหารคน
“ไม่ได้อยากเป็น HR ผมแค่อยากเรียนอะไรที่ทำให้ตัวเองเข้าใจคนและเข้ากับคนได้มากขึ้น เพราะปกติแล้วมักจะมีปัญหาไม่อยากพบปะคนจำนวนมาก” เขาอธิบายสิ่งที่ตั้งใจในเส้นทางการเติบโต อิงค์ไม่ได้คิดว่าจะเลือกการแข่งรถมากกว่าการเรียน เขายังคงตั้งใจที่จะเรียนให้จบปริญญาตรี ขณะเดียวกันก็เลือกเส้นทางสู่การเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์อาชีพ และสนามแข่งระดับโลกก็เป็นเป้าหมายที่เขาเริ่มเข้าไปชิมลางบ้างแล้ว แม้จะยังไม่ได้ตำแหน่งแชมป์แต่ก็มีโอกาสมากมายที่ได้ทำ
“ทุกวันนี้อยู่กับ Yamaha bLU cRU R3 Academy มีสังกัดชัดเจน มันช่วยเรื่องการฝึกฝน และการแข่งขันได้สะดวกมากขึ้น ล่าสุดเพิ่งไปแข่ง 2 สนามที่ญี่ปุ่นในนาม Yamaha Team” อัฏฐ์อธิบายแทนบุตรชาย เพราะเขามีส่วนร่วมกับลูกเสมอนับตั้งแต่ก้าวแรกสู่เส้นทางนักแข่งรถ เขาเป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวคอยกำชับและจัดตารางการฝึกฝน คอยหาสนามแข่งขันและรายการต่างๆ

เมื่อได้เข้าอยู่ใน Yamaha bLU cRU R3 Academy ภารกิจการเป็นผู้จัดการส่วนตัวเพลาลงบ้าง แต่ยังคงต้องดูแลต่อเนื่องในฐานะผู้ปกครอง “เดือนกันยายนจะไปแข่งที่ออสเตรเลียในทีม Yamaha เหมือนกัน ผมต้องไปด้วยเพราะทาง Yamaha อยากให้มีผู้ปกครองไปด้วย แต่การแข่งขันมี 2 สนามห่างกัน 1 เดือน ก็เลยวางแผนให้ลูกอยู่ยาวไปเลย 1 เดือนเต็ม” ความถี่ในการแข่งขันมากขึ้น รอบนี้เว้นห่างกันแค่ 3 สัปดาห์ อัฏฐ์บอกว่า เวลาที่ว่างอยู่ระหว่างรอแข่งจะให้อิงค์ถือโอกาสไปเรียนภาษาด้วย
วิถีการเรียนที่แตกต่าง
อัฏฐ์บอกว่า เขายังคงเห็นความสำคัญของการเรียนของลูก แต่ไม่อยากใช้วิธีบังคับ จึงเปิดกว้างให้ลูกได้เลือกทางเดินเอง โดยที่เขาคอยดูอยู่ใกล้ๆ และให้คำปรึกษา วิธีคิดของสองพ่อลูกต่างจากขนบธรรมเนียมทั่วไปที่คนมักให้ความสำคัญกับการเรียนในระบบมาเป็นอันดับแรก ส่วนพวกเขาไม่ได้ยึดติดตรงนั้น แต่เปิดใจที่จะเรียนเสริมนอกเวลาและสอบเทียบให้ได้ประกาศนียบัตรเหมือนกันเพียงแต่วิธีการนั้นแตกต่างออกไป เปิดโอกาสให้บุตรชายได้เลือกสิ่งที่ชอบและทำในสิ่งที่ต้องการโดยไม่บังคับ
“ยุคนี้อะไรต่างๆ เปลี่ยนไปมาก การเรียนก็เช่นกัน ไม่จำเป็นหรอกว่าคุณต้องเรียนในระบบเหมือนคนอื่น ถ้าเห็นว่ามีความถนัดหรือความชอบอะไรที่เป็นอาชีพได้ก็ไม่ลังเลที่จะเลือก” วิธีคิดของสองพ่อลูกสอดคล้องกัน เส้นทางเดินของอิงค์จึงต่างจากเด็กวัยรุ่นคนอื่น ครอบครัวมีความพร้อม ไม่ว่าลูกอยากเลือกเรียนอะไรก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่พวกเขาเลือกที่จะเดินทางสายอาชีพปูทางสู่ความฝัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็กไม่รอให้ต้องเรียนจบแล้วค่อยมาเดินตามฝัน ซึ่งพวกเขามองว่าโลกที่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้หากเลือกทางเดินแบบเดิมๆ ก็อาจตกขบวนหรือพลาดโอกาสสำคัญไป

เมื่อตัดสินใจว่าจะเดินบนถนนสายนี้ก็เริ่มมาตั้งแต่อายุ 12 ผ่านมา 7 ปีแล้วเขายังสนุกอยู่ “อยากทำสูงสุดในเส้นทางนี้คือ การแข่งรายการระดับโลก เคยไปแข่งระดับโลกมาแล้ว แต่รู้สึกตัวเองไม่พร้อมขนาดนั้น ปีที่แล้วไปแข่ง World Cup ที่สเปน รวมเด็กจากทั่วโลกมาแข่ง ไปกับ Yamaha” อิงค์บอกเล่าด้วยแววตาที่ดูสนุกตื่นเต้น เขาบอกว่า ปีนี้เต็มตัวกับเอเชียแปซิฟิก ลงสนามกับ Yamaha มีทั้งหมด 6 เรซ คือ 6 สนาม มีท็อปเทียร์ 3 สนาม ซ้อมก็พอสมควรอาทิตย์ละ 2 วัน คือซ้อมทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็นที่สนามพีระเซอร์กิต พัทยา เป็นหลัก
การฝึกซ้อมทุกครั้งอิงค์และครอบครัวจะเลือกสนามที่ปลอดภัย และเน้นความปลอดภัยของรถและอุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดมาเป็นอันดับแรก เพราะการล้มเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกีฬานี้จึงต้องมีความปลอดภัยควบคู่ไปกับการเรียนรู้
“การล้มเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้รู้จังหวะนำมาใช้ในการบังคับรถและทักษะในการประคองการขับขี่ให้อยู่ในเกมได้ ในการฝึกซ้อมของกีฬานี้เป็นการ push ตัวเองให้ถึง limit จึงปฏิเสธไม่ได้ที่อาจจะต้องมีการล้มเกิดขึ้น”

ค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมและเตรียมพร้อมการแข่งขันก็เป็นปัจจัยสำคัญ บิดามักบอกอิงค์เสมอว่าสปอนเซอร์เป็นกำลังสำคัญให้อิงค์ไปถึงความฝัน กีฬานี้เป็นกีฬาที่ใช้ทุนค่อนข้างเยอะ ถ้าขาดสปอนเซอร์ไปก็จะยากพอสมควร ต้องขอบคุณสปอนเซอร์ของอิงค์ที่สนับสนุนกันมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์หรือแม้กระทั่งปัจจัย 4 สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันและพาตัวอิงค์ไปสู่รายการใหญ่ๆ โอกาสร่วมทีม Yamaha
อิงค์ได้รับโอกาสเข้ามาอยู่ใน Yamaha bLU cRU R3 Academy เป็นก้าวสำคัญให้กับเส้นทางนักแข่งของอิงค์ชัดเจนยิ่งขึ้น มีความพร้อมทั้งการฝึกซ้อม ทีมช่าง และรถที่ใช้ในการแข่งขันทาง Yamaha ดูแลในส่วนนี้เป็นอย่างดีจึงทำให้ตัวอิงค์มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันมากขึ้น มีสนามให้ไปแข่งเยอะขึ้น และมีทีมช่างและรถที่พร้อมระดับมืออาชีพ
ที่ Yamaha มีโค้ช มีอุปกรณ์ รถ และทีมช่างให้พร้อมสรรพจึงทำให้การเตรียมตัวเพื่อไปแข่งขันในแต่ละครั้งง่ายยิ่งขึ้น สิ่งเดียวที่นักแข่งต้องเตรียมคือ การฝึกซ้อมให้ดี ทำตัวเองให้พร้อมสำหรับการแข่งขันและทำให้ดีที่สุด เรียกว่าเป็นระบบมากขึ้นกว่าการเดินสายแข่งขันเองในช่วงแรก
การแข่งขันรายการแรกของอิงค์คือ ได้ลงสนามเรซซิ่งแบบจับเวลาระยะทาง 400 เมตรภายใน 25 วินาที เขาทำได้เลยได้ถ้วยมาครองตอนนั้นคือ Bracket Race เป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขัน หลังจากนั้นก็เดินสายแข่งในรายการต่างๆ ตามโอกาส “อยากแข่งให้เป็นอาชีพ วันนี้ยังไม่เป็น 100% ขนาดนั้น ก็รู้สึกว่าอยากไปให้ได้ถึงรายการระดับโลก รู้สึกแข่งที่ไทยได้ประสบการณ์ไม่เท่าต่างประเทศ อยากไปรายการสำคัญๆ” ไฟนักแข่งในตัวของอิงค์ยังคุกรุ่นไม่จาง อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้นไม่นานมาก อิงค์ยังมองโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้า เขาคาดหวังอาชีพนักแข่งรถและมีนักแข่งระดับแชมป์โลกเป็นแรงบันดาลใจ

นอกจากการแข่งรถล่าสุดอิงค์ยังได้เข้าไปอยู่ในสังกัดหนึ่งในวงการบันเทิง และได้ร่วมแสดงซีรี่ส์เป็นครั้งแรกเรื่อง “หวานใจผู้ใหญ่จอม” ซึ่งได้ออกอากาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อิงค์เผยอีกกิจกรรมที่เขารู้สึกสนุกแต่ก็ยังไม่เท่าการแข่งรถ เส้นทางเดินของหนุ่มน้อยวัย 19 ยังคงไปอีกยาวไกล บิดาเปิดกว้างสำหรับบุตรชายไม่ว่าเขาจะชอบอะไรก็พร้อมสนับสนุนเสมอ หากเป็นสิ่งที่ดีไม่ผิดศีลธรรม ซึ่งก็ดูเหมือนว่าบุตรชายก็มีสิ่งที่ชอบใกล้เคียงกับผู้เป็นบิดา
เส้นทางเดินบนถนนสายนักแข่งความเร็วสำหรับอิงค์ยังไปได้อีกไกลหากเขาตั้งใจและจริงจัง แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนใจในภายหลังเขายังมีครอบครัวที่คอยสนับสนุนอยู่ไม่ห่าง เป็นอีกวิถีของการใช้ชีวิตและการเลือกทางเดินที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร และไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบเดิมๆ เพราะชีวิตในโลกยุคนี้เลือกได้มากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนมีโอกาสเลือกและเดินบนเส้นทางที่ตัวเองถนัดและชอบเพื่อไปให้ไกลถึงระดับโลกได้ไม่ยาก
ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์ และ อัฏฐ์ อัศวานันท์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : มิ้งค์ สระบุรี นักสนุกเกอร์หญิงไทยมือ 1 โลก
