<h2>­­­เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ประกาศความพร้อม “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” (SiriHub Investment Token) หลัง ก.ล.ต. อนุมัติ ตั้งเป้าระดมทุน 2,400 ล้านบาท</h2>
อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวว่า เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล มองเห็นศักยภาพของตลาด ICO ในไทย ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน 2 กลุ่ม ทั้งกลุ่มนักลงทุนตลาดทุนเดิมและกลุ่มตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลให้สามารถเข้าถึงการลงทุนรูปแบบใหม่

วันนี้เราประสบความสำเร็จอีกขั้น ด้วยการเตรียมเสนอขาย “สิริฮับ” โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทย ที่ให้ส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงถึง 4.5% และ 8% ต่อปี1 ตามแต่ละกลุ่มของโทเคนดิจิทัล นับเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทุกระดับสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ศักยภาพสูงอย่างโครงการ “สิริ แคมปัส” ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงานที่มีกระแสรายรับอย่างต่อเนื่องนานถึง 12 ปี ตั้งอยู่บนโครงการ T77 เป็นหนึ่งในทำเลแห่งอนาคตของกรุงเทพมหานครที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเป้าหมายสำคัญของการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (SiriHub Investment Token) คือการเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงได้ และสามารถเริ่มต้นจากเงินลงทุนจำนวนน้อยด้วยมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาท (1 โทเคน) ซึ่งสามารถเลือกได้จากโทเคนดิจิทัล 2 กลุ่ม คือ (1) สิริฮับ A (SiriHubA) เสนอขายจำนวน 160 ล้านโทเคน มูลค่า 1,600 ล้านบาท (2) สิริฮับ B (SiriHubB) เสนอขาย 80 ล้านโทเคน มูลค่า 800 ล้านบาท รวมมูลค่าการเสนอขาย 2,400 ล้านบาท โดยมีกลไกการคุ้มครองนักลงทุนในทุกขั้นตอน”

“โทเคนดิจิทัลสิริฮับ เป็นการลงทุนในกระแสรายรับจากค่าเช่าของกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส โครงการที่มีศักยภาพซึ่งตั้งอยู่ภายใน T77 คอมมูนิตี้แห่งการอยู่อาศัยยุคใหม่ใจกลางอ่อนนุช โดยมี บมจ. แสนสิริ เป็นผู้เช่าอาคารสำนักงานสิริ แคมปัส เต็มพื้นที่ 100% เพียงรายเดียวและเป็นสัญญาเช่ายาวถึง 12 ปี โดยจ่ายค่าเช่าปีละ 149.4 ล้านบาท ในขณะที่โครงการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ มีอายุโครงการ 4 ปี ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะมีรายรับที่ต่อเนื่อง” อัฏฐ์อธิบาย

<img class="alignnone size-full wp-image-49034" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/สิริฮับ_001.jpg" alt="" width="400" height="400" />

ผู้ถือสิริฮับ A จะได้รับส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาส 4.5% ต่อปี<a href="#_ftn2" name="_ftnref2">[2]</a> และได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการจำนวนไม่เกิน 1,600 ล้านบาท ขณะที่ผู้ถือสิริฮับ B จะได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 8% ต่อปี1 และยังได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการเฉพาะส่วนเกิน 1,600 ล้านบาทเป็นต้นไป

จากการวิเคราะห์มูลค่าตลาดทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของสิริ แคมปัส โดยบริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 2 ราย คาดการณ์ว่าในอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดของโครงการนี้จะมีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ จากรายงานการวิเคราะห์ราคาที่ดินของศูนย์วิจัยและประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้สรุปข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าบริเวณใกล้เคียง โดยในปี 2564 มีราคาอยู่ที่ 1.1 ล้านบาทต่อตร.ว.และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2564 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินโครงการมีศักยภาพที่ดี และมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง

<img class="alignnone size-full wp-image-49035" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/สิริฮับ_002.jpg" alt="" width="400" height="400" />

ลงทุนปลอดภัยสูงบนเทคโนโลยีบล็อกเชน 

ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ ครั้งนี้ ถูกรองรับด้วยเทคโนโลยีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ของเทโซส (Tezos) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทันสมัยที่สุดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงโดยเฉพาะ ทำให้ระบบดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง

อีกทั้งยังมีการตรวจสอบด้านการป้องกันการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) และการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) ก่อนที่จะได้รับอนุญาตเข้าสู่บัญชีรายชื่อผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (Whitelists) ให้ลงทุนในโทเคนดิจิทัล การเรียกคืน (Clawback) ตลอดจนการจัดการทะเบียนผู้ถือโทเคนและจำนวนโทเคน (Capitalization Table หรือ Cap Table) แบบเรียลไทม์ โดยไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ถือโทเคนดิจิทัลเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

นอกจากนี้เอ็กซ์สปริง ดิจิทัลยังทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ร่วมกันกำหนดโครงสร้างและองค์ประกอบต่างๆ ของธุรกรรมให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด ตั้งแต่การเริ่มจนกระทั่งจบโครงการโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ โดยมีบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นทรัสตี รวมทั้งไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอจี ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะ ทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในโทเคนดิจิทัลสิริฮับ มั่นใจได้ 100% ถึงความโปร่งใสและมั่นคงปลอดภัย

“เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ได้เตรียมความพร้อมให้กับนักลงทุนที่สนใจ ให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน XSpring นักลงทุนที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนต่าง ๆ เมื่อถึงวันเปิดเสนอขายจริง และเพิ่มโอกาสในการจองซื้อ เนื่องจากจะเปิดเสนอขายแบบ First come first served จ่ายก่อนได้ก่อนและมีจำนวนจำกัด” อัฏฐ์ กล่าวย้ำ

คำเตือน: ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อทำความเข้าใจลักษณะของผลิตภัณฑ์ ­­เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/commentaries/special-report/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99-game-changer-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B7%E0%B9%89.html">วัคซีน Game Changer เศรษฐกิจโลกฟื้นแรง ปรับพอร์ตลงทุนให้ทัน</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เตรียมเดินเกมรุก “สิริฮับ” โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทย

<h2>เมื่อพูดถึง "สินทรัพย์ดิจิทัล" คนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นเรื่องใหม่ที่เข้าใจได้ยาก จนทำให้พลาดโอกาสในการเรียนรู้และการการลงทุนไปอย่างน่าเสียดาย แท้จริงแล้วสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกระดับ ทั้งเล็ก กลาง และใหญ่ ให้สามารถระดมทุนได้ นับเป็นวิวัฒนาการของตลาดทุน</h2>
ที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัลคนส่วนใหญ่จะนึกถึงคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือสกุลเงินดิจิทัล แต่ปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัลมีมากกว่านั้น ซึ่งพัฒนาออกมาในรูปแบบของหน่วยลงทุนทางดิจิทัลที่เรียกว่า โทเคนดิจิทัล (digital token) ซึ่งไม่แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมมากนัก สิ่งที่แตกต่างกันมีเพียง representation หรือการกำหนดสิทธิของผู้ลงทุนที่จะเข้าร่วมโครงการได้อย่างหลากหลาย เช่น สิทธิจากส่วนแบ่งของรายได้และการแจกจ่าย และการเก็บโทเคนดิจิทัลจะดำเนินการบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูง นอกจากนี้ ธุรกรรมดิจิทัลนี้ยังมอบความยืดหยุ่นสูงมากในทุกแง่มุมจนทำให้การลงทุนในโทเคนดิจิทัลเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย จนแทบจะไร้ข้อจำกัดเลยทีเดียว

&nbsp;
<ul>
 	<li>เทคโนโลยีทลายข้อจำกัดตลาดทุน</li>
</ul>
การลงทุนในตลาดหุ้นดั้งเดิมจะต้องดำเนินการผ่านนายหน้า (broker) ทั้งการเปิดพอร์ต การซื้อขาย ฯลฯ ซึ่งแน่นอนเราจะต้องถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหลากหลายและทุกอย่างต้องเกิดขึ้นในเวลาทำการของตลาดหุ้นเท่านั้น หากนักศึกษาต้องการที่จะเปิดพอร์ตหุ้นก็เปิดได้ยาก และต้องเปิดในนามของผู้ปกครอง ซึ่งทำให้ขาดความคล่องตัว ส่งผลให้การลงทุนแบบเดิมมักจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีทุนทรัพย์สูงเท่านั้น

เมื่อเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและมีความมั่นคงปลอดภัยสูงอย่างบล็อกเชนถือกำเนิดขึ้นจึงช่วยอุดช่องว่างต่างๆ ของการเล่นหุ้นแบบเดิม พร้อมเปิดช่องทางการลงทุนแบบใหม่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลในมือ ทำให้การลงทุนโทเคนดิจิทัลในวันนี้กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่ก่อนหน้านี้เข้าถึงได้ยาก เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ทำให้สามารถลงทุนได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือ ทุกคนสามารถเข้ารับการตรวจสอบและเป็นนักลงทุนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ฝ่ายผู้ระดมทุนที่ต้องการออกโทเคนดิจิทัล (issuer) ก็มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นด้วย เพราะสามารถผสมข้อดีของหุ้นและตราสารหนี้เพื่อเลือกเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องการได้ เช่น ผู้ออกโทเคนที่เป็นเจ้าของเครือโรงแรมสามารถกำหนดเงื่อนไขผลตอบแทนจากโรงแรมเฉพาะแห่ง หรือห้องพักเฉพาะแบบได้ เช่น โทเคนนี้จะได้ผลตอบแทนจากค่าบริการห้องพักแบบดีลักซ์ โทเคนนี้จะได้ผลตอบแทนจากค่าบริการห้องพักแบบวิลล่า เป็นต้น เมื่อผสานการทำงานของเทคโนโลยีในปัจจุบันทั้ง CRM และ ERP ที่สามารถ track และแจกแจงอัตราการเข้าพักห้องพักแบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับฝ่ายนักลงทุนก็มีตัวเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายยิ่งขึ้น ถ้าอิงจากตัวอย่างก่อนหน้านี้ หากเราต้องการซื้อหุ้นในกลุ่มโรงแรม หมายถึงเราต้องลงทุนกับบริษัทที่เป็นเจ้าของ ผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับโรงแรมทุกแห่งในเครือ แต่ในกรณีของโทเคนดิจิทัล หากนักลงทุนเห็นว่าโรงแรมแห่งหนึ่งสามารถขายห้องดีลักซ์ได้ตลอดปีและต้องการเลือกลงทุนเฉพาะโทเคนห้องดีลักซ์ ก็สามารถทำได้หากมีการออกโทเคนนั้นออกมา

&nbsp;
<ul>
 	<li>เริ่มต้นลงทุนโทเคนดิจิทัลในเมืองไทย</li>
</ul>
เนื่องจากโทเคนดิจิทัลยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย ดังนั้น เราอาจเริ่มต้นลงทุนกับโทเคนดิจิทัลที่มีทรัพย์สินเป็นสินทรัพย์อ้างอิงก่อน เพราะมีทรัพย์สินที่แตะต้องได้เป็นตัวอ้างอิง หรือหลักประกันทำให้มีความน่าเชื่อถือและมั่นคงกว่า โทเคนดิจิทัลชนิดนี้เรียกว่า “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน” (investment token) ซึ่งเป็นโทเคนดิจิทัลแบบเบื้องต้นที่เหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เมื่อเริ่มคุ้นเคยกันแล้วการเพิ่มความซับซ้อนก็จะเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การซื้อโทเคนดิจิทัลผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล หรือ ICO Portal ที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ซึ่งหนึ่งใน ICO Portal ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. คือ SE Digital

การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน (tokenization) ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ที่เข้าถึงได้ยาก หรือเข้าถึงไม่ได้ก่อนหน้านี้ เช่น หากนักลงทุนต้องการลงทุนเพื่อรับค่าเช่าจากตึกอาคารสำนักงาน หรือคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองก็อาจต้องมีทุนทรัพย์จำนวนมหาศาล แต่หากมีการแปลงสินทรัพย์นั้นเป็นโทเคนแล้ว นักลงทุนก็สามารถร่วมลงทุนได้โดยใช้เงินเริ่มต้นจำนวนไม่มาก

การระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลไม่ได้จำกัดเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น เราสามารถใช้เงื่อนไขทางสัญญาในการ tokenize ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจได้เห็นร้านอาหารชื่อดังนำรายได้จากอาหารจานเด็ดขึ้นชื่อของร้านมาแปลงเป็นโทเคนเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่นักลงทุน เพราะนักลงทุนอาจไม่ได้อยากลงทุนกับทุกเมนูอาหารของทางร้านหรือเทียบกับไอพีโอที่นักลงทุนต้องเชื่อในผลประกอบการร้านอาหารทั้งร้าน กล่าวได้ว่า ขีดจำกัดของโทเคนดิจิทัลนั้นอยู่ที่จินตนาการของคุณนั่นเอง

&nbsp;
<ul>
 	<li>SE Digital ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล</li>
</ul>
SE Digital เป็นบริษัทย่อยของบริษัท หลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริหารงานโดยคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านการเงินกว่า 30 ปี ณ วันนี้ SE Digital กำหนดตัวเองเป็นคนกลาง เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตลาดทุนแบบ traditional และ non-traditional ระหว่างคนรุ่นใหม่ที่โตมาในยุคดิจิทัลและคนรุ่นก่อนที่มีประสบการณ์การลงทุน ดังที่กล่าวข้างต้นว่าโทเคนดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่ทั้งหมดแต่เป็นวิวัฒนาการของตลาดทุนที่ใช้เทคโนโลยีมาอุดช่องว่าง และสร้างโอกาสการลงทุนให้เข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น

ปัจจุบัน SE Digital เปิดรับลงทะเบียนนักลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SE Digital โดยกำหนดการลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท และอาจปรับลดลงได้ในอนาคต เพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงได้ง่าย และการซื้อขายในตลาดรองอาจเริ่มต้นอยู่ที่ 500-1,000 บาทเท่านั้น เพราะหนึ่งในเป้าหมายในอนาคตของบริษัทก็คือ การเปิดกว้างการลงทุนสู่คนทุกระดับ แม้แต่คนขับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ก็สามารถมาลงทุนได้ โดยไม่แตกต่างจากการซื้อสลากออมสินในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ใน pipeline ของ SE Digital ยังมีแผนการออก product อีกหลายรูปแบบทั้ง utility token ที่คล้ายแต้ม reward point ใช้ในการกำหนดสิทธิ์เพื่อรับสิทธิประโยชน์ในสินค้าหรือบริการ รวมถึง investment token ที่มีเงื่อนไขผลตอบแทนที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ ทั้งในภาคธุรกิจ real estate, hospitality, financial service, manufacturing, healthcare และอื่นๆ

SE Digital จึงคาดว่า ปี 2564 จะเป็นปีที่ตลาดโทเคนดิจิทัลของไทยคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-42953" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/อัฏฐ์-ทองใหญ่-อัศวานันท์-01.jpg" alt="อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์" width="300" height="300" />

อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SE Digital

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:
<ul>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/people/self-made-billionaires/%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%93%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c-%e0%b8%93-%e0%b8%a5%e0%b8%b3%e0%b8%9e%e0%b8%b9%e0%b8%99-ind-%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%a3.html">ดร. ชัยณรงค์ ณ ลำพูน “IND” ผู้ร่วมพัฒนาสาธารณูปโภค</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/hiroshi-mikitani-%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b3-rakuten.html">HIROSHI MIKITANI เดินหน้านำ RAKUTEN ผนึกกำลัง JAPAN POST, TENCENT และ WALMART</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/300vXh9">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy lazy-loaded alignnone wp-image-42257" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2.png" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปกกุมภา.png" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปกกุมภา.png 439w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปกกุมภา-228x300.png 228w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events