ETDA เผย นับตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. ปี 67 ที่ผ่านมา มียอดร้องเรียนปัญหาซื้อ-ขายออนไลน์ สูงถึง 11, 629 เรื่อง คิดเป็นสัดส่วนราว 45.67% รองลงมา คือปัญหาเว็บพนัน 35.38% และปัญหาอื่นๆ อีก 18.95% &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA เผยว่า สถิติการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ หรือ 1212 ETDA (Online Fraud and Complaint Center) ในช่วงครึ่งปีแรก ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้บริโภคร้องเรียนปัญหาออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ เข้ามาทั้งหมด 11,629 เรื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยเรื่องที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือปัญหาซื้อขายออนไลน์ เช่น อาหารเครื่องดื่ม สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าคิดเป็น 45.67% รองลงมาคือปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย เช่น เว็บพนัน 35.38% และปัญหาอื่นๆ ที่พบอีก 18.95% ซึ่งจะมีทั้งในเรื่อง ปัญหาการหลอกลวงลงทุน หลอกให้ทำงานออนไลน์ และปัญหาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 586px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/35eb1GEFxx8r4oPkqCLL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="586px,539px" data-align="center" data-index="1" data-file-name="35eb1GEFxx8r4oPkqCLL.jpg" data-file-size="0" origin-size="586,539" data-origin="586px,539px" style="width: 586px; height: 539px;"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 พบว่าสถิติการรับเรื่องปัญหาออนไลน์ในปี 2567 ลดลงจากปีก่อนหน้ามากกว่าครึ่ง โดยปี 2566 พบปัญหาร้องเรียนทั้งหมด 24,212 เรื่อง แม้ตัวเลขในภาพรวมจะลดลง แต่เมื่อพิจารณาปัญหาที่พบการร้องเรียนมากที่สุด 2 อันดับแรก ที่ยังคงครองเเชมป์อย่างต่อเนื่อง ทั้งปี 2566 และปีนี้ คือ ปัญหาซื้อขายออนไลน์ และ ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม หนึ่งในมาตรการสำคัญของ ETDA คือ เร่งพัฒนาการดำเนินงานในหลายมิติ เช่น การส่งเสริมกลไกการกำกับดูแลตนเองของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีความใกล้ชิดกับคนไทยที่ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 15 ประเภทธุรกิจ ภายใต้กฎหมาย DPS (Digital Platform Services) ที่มาพร้อมคู่มือแนวปฏิบัติในการให้บริการดิจิทัล เช่น คู่มือการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนผู้ใช้บริการ และคู่มือการดูแลโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มดิจิทัล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีคู่มือการดูแลการจำหน่ายสินค้าที่ต้องมีมาตรฐาน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงรายละเอียดของร่างคู่มือที่เป็นผลมาจากการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงการประชุมร่วมกับหน่วยงานและผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/global/ai-development-increase-carbon-emission-in-tech-sector" alt="หรือ Net Zero เป็นเพียงฝัน? เมื่อการพัฒนา AI พาบริษัทเทคฯ ปล่อยคาร์บอนพุ่งมหาศาล">หรือ Net Zero เป็นเพียงฝัน? เมื่อการพัฒนา AI พาบริษัทเทคฯ ปล่อยคาร์บอนพุ่งมหาศาล</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ETDA เผย 5 เดือนแรกปี 67 ยอดร้องเรียนปัญหาซื้อ-ขายออนไลน์ สูงถึง 11, 629 เรื่อง

whyborder สร้างแพลตแพลตเชื่อมการซื้อขายอสังหาฯ ไทย ทั่วโลก

<h2>Shopee ประเทศไทย เผยตัวเลขการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกว่า 5 ล้านครั้ง พร้อมเผยกลยุทธ์สำหรับตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทย</h2>
ด้วยตัวเลขการเติบโตของอุปกรณ์มือถือที่สูงขึ้นในประเทศ ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญที่ Shopee หมายมั่นสร้างพื้นที่การซื้อขายออนไลน์บนมือถือ โดยมีแอพพลิเคชั่นที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ระหว่างผู้ขายผู้ซื้อเป็นสำคัญ ภายหลังการเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2558 Shopee ประเทศไทย ได้ประกาศตัวเลขการเติบโตของปี 2559 โดยเผยถึงยอดการโหลดแอพพลิเคชั่นเป็นจำนวนกว่า 5 ล้านครั้ง เกิดคำสั่งการสั่งซื้อกว่า 1 ล้านครั้งต่อเดือน

“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของเราเมื่อพิจารณาจากอัตราการเข้าถึงอุปกรณ์มือถือที่สูงและยังมีโอกาสในการเติบโตมากมาย ในปี 2559 ถือว่าเป็นปีที่ดีมากของเรา ปี 2560 เราคาดหวังว่าจะรักษาการเติบโตของช้อปปี้ให้อยู่ในอัตราตัวเลขสองหลักเหมือนปีที่ผ่านมา โดยเราจะมุ่งพัฒนาทั้งแอพพลิเคชั่นและประสบการณ์ของผู้ใช้งาน เพื่อช่วยเป็นอีกแรงในการผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตในการทำธุรกิจออนไลน์”  Terence Pang ประธานฝ่ายปฏิบัติการ Shopee กล่าว

โดยปีที่ผ่านมา Shopee เปิดเผยตัวเลขร้านค้าในระบบมีสัดส่วนระหว่างร้านค้าชาวไทยกับร้านค้าชาวต่างประเทศที่ 20-80% โดยประมาณ ซึ่งในปี 2560 นี้ Shopee จับมือกับพันธมิตรทั้งจากแบรนด์สินค้าเองก็ดีหรือผู้ขายรายใหญ่เข้ามาเป็นหนึ่งผู้ค้าขายในระบบเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อ

“ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ช้อปปี้มุ่งมั่นที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง การที่เราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค และเป็นช่องทางที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ในยุคที่การใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นที่นิยม ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าก่อให้เกิดการจับจ่ายพร้อมๆ กับการช่วยให้สมาชิกผู้ขายสินค้ากับเราเติบโตยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน”

โดย Terence เปิดเผยถึงกลุ่มผู้ซื้อหลักของ Shopee อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 16-24 ปี พร้อมเผยค่าเฉลี่ยการเข้าชมผ่าน แอพพลิเคชั่น เฉลี่ยที่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีการชำระเงินแบบเงินสดที่ปลายทางและการจ่ายผ่านออนไลน์เป็นสัดส่วนเท่าๆ กันขึ้นอยู่กับมูลค่าสินค้า

ทั้งนี้จุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้ Shopee ได้รับคำชมด้านการตัวเลขการเติบโตคือ "ระบบสนทนา" ที่ช่วยให้เกิดการตัดสินใจระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ รวมถึงการการันตีที่ช่วยให้ผู้ซื้อเกิดความไว้วางใจ Terence ได้กล่าวเสริมถึงระบบสนทนาดังกล่าวเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตัวการเติบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้ซื้อได้เห็นสินค้าจริงผ่านการส่งรูปสินค้าในการสนทนา

ทั้งภาพรวมของ Shopee ในเอเชียตะวันเฉียงใต้ ณ เดือนธันวาคม 2559 มีตัวเลขมูลค่าการซื้อขายสินค้า (Gross Merchandise Value หรือ GMV) ต่อปี สูงถึง 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มียอดการดาวน์โหลดสูงถึง 25 ล้านครั้ง โดย 3 ประเทศที่ยอดการดาวน์โหลดสูง คือ ประเทศไต้หวัน 7 ล้านครั้ง ประเทศอินโดนีเซีย 6 ล้านครั้ง และ ประเทศไทย 5 ล้านครั้ง

ทั้งนี้ระหว่าง 3-26 มีนาคม 2560 Shopee จัดแคมเปญ  “Mobile &amp; Electronics Madness” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไอที คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริม รวมถึงอุปกรณ์ถ่ายภาพ ซึ่งเป็นอีกกลุ่มสินค้าขายดีนอกเหนือจากกลุ่ม ผลิตภัณฑ์บำรุงเรือนร่าง และ เครื่องแต่งกาย

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events