‘เจ้าสัว’ ประกาศยุทธศาสตร์ มุ่งสู่แบรนด์ขนมขบเคี้ยวระดับโลก ตั้งเป้ารายได้ 2,200 ล้านบาทใน 3 ปี

<h2>เจ้าสัว รุกตลาดขนมขบเคี้ยวหมูแท่งกรอบ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ส่งแคมเปญ ‘มู หมู่ มู่ มู้ หมู หมูแท่งกรอบเจ้าสัว’ ดึงกลยุทธ์ ‘มูเก็ตติ้ง’ เสริมความปัง ตั้งเป้าปี 2567 โตสองหลักตอกย้ำความเป็นผู้นำขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (Pork Snack) มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท จากข้อมูลรายงานภาวะอุตสาหกรรมของ Frost &amp; Sullivan ในปี 2565 หมูแท่งกรอบเจ้าสัวเป็นผู้นำในตลาดและมีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) สูงถึง 57.2%&nbsp;อีกทั้งเทรนด์การบริโภคปัจจุบันที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้หมูแท่งกรอบเจ้าสัวเป็นสินค้าขายดี เพราะสินค้าเจ้าสัวจัดอยู่ในกลุ่ม Better for you snack ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ใช้กรรมวิธีการอบแทนการทอด ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่มองหาของว่างเพื่อสุขภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งโปรตีนสแน็ค ในกลุ่ม Better for you snack เจ้าสัวเดินหน้าขยายการรับรู้ แบบ Skyrocket awareness ในกลุ่มสินค้าประเภทหมูแท่งกรอบ ชูจุดยืนของแบรนด์ในฐานะผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ที่โดดเด่นในการใช้เนื้อหมูมาสร้างเป็นขนมขบเคี้ยวในรูปแบบ Modern Thai Snack​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/QfFmT8fFER1EvVRVVceb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="QfFmT8fFER1EvVRVVceb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"><figcaption><div>ณภัทร โมรินทร์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และเจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข (พรีเซนเตอร์)</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เจ้าสัวนำความเชื่อของคนไทยที่ใช้คำว่า ‘หมู’ เปรียบกับ ‘ความง่าย’ อีกทั้ง&nbsp;‘หมู’&nbsp;ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล ตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ สื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ที่ช่วยนำพาโชคลาภและสิ่งดีๆ มาในชีวิต มารังสรรค์ให้เกิดแคมเปญ ‘มู หมู่ มู่ มู้ หมู หมูแท่งกรอบเจ้าสัว’&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สำหรับความโดดเด่นของแคมเปญนี้ เป็นการใช้กลยุทธ์การตลาดสายมู หรือ ‘มูเก็ตติ้ง’ โดยนำเรื่องมูเตลู มาเชื่อมโยงกับ หมูแท่งกรอบ ที่ใช้หมูซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์ สื่อถึงความง่าย จึงได้ชูสินค้านี้ตอบโจทย์ความเชื่อเรื่องความโชคดี ความง่าย และความอุดมสมบูรณ์ โดยสร้างการจดจำง่ายๆ ผ่านการเล่นคำระหว่าง ‘มู’ และ ‘หมู’ ซึ่งมีเสียงพ้องกัน จนเป็นแคมเปญ ‘มู หมู่ มู่ มู้ หมู หมูแท่งกรอบเจ้าสัว’” ณภัทรอธิบาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แคมเปญดังกล่าวต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคว่า ให้ชีวิตเป็นเรื่องหมูๆ ด้วยหมูแท่งกรอบ ที่จะเพิ่มความสุขแบบง่ายๆ ด้วยรสชาติอร่อย ลีน รูปร่างและสุขภาพดี ทานง่าย ให้ประโยชน์จากโปรตีนของเนื้อหมูเต็มๆ คำ สะดวกในการพกพารับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา จึงทำให้ชื่อแคมเปญนี้สะดุดหู ง่ายกับการเข้าถึงและชวนจดจำยิ่งขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดของแคมเปญ ‘มู หมู่ มู่ มู้ หมู หมูแท่งกรอบเจ้าสัว’ มุ่งเพิ่มการรับรู้ให้เจ้าสัวหมูแท่งกรอบเป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้าง ผ่านการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยมี เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข เป็นพรีเซนเตอร์ รวมทั้งยังทำการตลาดในต่างประเทศผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ตลอดจนการตลาดผ่านช่องทาง offline และ online โดยมีกิมมิคสนุกๆ ให้ผู้บริโภคได้​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/m6LX2RzCB5rjSEy7wxzx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="m6LX2RzCB5rjSEy7wxzx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"><figcaption><div>เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Brand Experience) โดยจัดกิจกรรม on ground ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคในหลากหลายกลุ่มได้ลิ้มลองและมีส่วนร่วมกับแคมเปญนี้ ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมเขย่า (ห)มูแท่งเซียมซีออนไลน์ แชร์ผ่าน Facebook เพื่อรับ Wallpaper เสริมดวงเรื่องการเงิน การงาน ความรัก สุขภาพ และการเรียน, กิจกรรม (ห)มูแชะ แชร์ สนุกไปกับบูธถ่ายรูป พร้อมนำไปแชร์ลงโซเชียลมีเดียเสริมความปังกันไปเลย รวมถึงกิจกรรม(ห)มูต้องรอดกับภารกิจโชว์หุ่นลีนโดยการลอดหมูแท่งผ่านด่านต่างๆ แบบจัดเต็มเพื่อโชว์ความลีน พร้อมรับสินค้าหมูแท่งกรอบเจ้าสัวที่อร่อยง่าย ได้โปรตีน แถมเสริมความปัง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“แคมเปญนี้ถือได้ว่าเป็นอีกครั้งกับการนำความเชื่อมาสร้างการจดจำให้แบรนด์ ซึ่งเรามั่นใจว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคในวงกว้าง และขยายกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีความเชื่อเรื่องมูเตลู โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้โตสองหลักได้อย่างแน่นอน” ณภัทร กล่าวทิ้งท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/siam-health-group-business-plan-2024" alt="เปิดแผนสยามเฮลท์กรุ๊ป รีแบรนด์ ‘สมูทอี’ เจาะกลุ่ม Gen Z ส่วนเดนทิสเต้เตรียมเปิดตัว ‘ยาสีฟันแบบเม็ด’">เปิดแผนสยามเฮลท์กรุ๊ป รีแบรนด์ ‘สมูทอี’ เจาะกลุ่ม Gen Z ส่วนเดนทิสเต้เตรียมเปิดตัว ‘ยาสีฟันแบบเม็ด’</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘เจ้าสัว’ ดึงกลยุทธ์ ‘มูเก็ตติ้ง’ พา ‘เจมส์-จิรายุ’ เปิดแคมเปญใหม่ ตั้งเป้ายอดขายปี 67 โตสองหลัก

<h2>เตียหงี่เฮียง ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘เจ้าสัว’ โอดต้นทุนวัตถุดิบเพิ่ม 60 – 70% กัดฟันขึ้นราคา ปรับกลยุทธ์ออกสินค้าใหม่ “ข้าวตังมินิ” ชิงตลาดขนมขบเคี้ยว 4 หมื่นล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเร่งเครื่องบุกตลาดส่งออก ตั้งเป้าปีนี้โต 20%</h2>
บริษัท เตียหงี่เฮียง (เจ้าสัว) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปมากว่า 60 ปี ได้ประกาศทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ในปี 2563 ภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่นที่ 3 เพื่อปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ “เจ้าสัว” ให้ทันสมัย เจาะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ เพื่อเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยว มูลค่า 40,000 ล้านบาทในประเทศ โดยปีนี้พร้อมรุกตลาดอีกครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ท่ามกลางต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น

ณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เตียหงี่เฮียง (เจ้าสัว) จำกัด เปิดเผยว่า ในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 60 – 70% ซึ่งนอกจากต้นทุนวัตถุดิบ คือเนื้อหมูแล้ว ยังรวมถึงผลกระทบจากค่าขนส่ง ราคาน้ำมันเช่นเดียวกับผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค-บริโภครายอื่นๆ โดยบริษัทเน้นกลยุทธ์การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ยังต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ให้กระทบกับผู้บริโภคน้อยที่สุด

สำหรับกลยุทธ์หลักในปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับ 4 ด้านหลัก คือ 1. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม สอดรับกับพฤติกรรมการกินของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม 2. การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาดขนมขบเคี้ยว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาทในประเทศไทย โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “เจ้าสัวข้าวตังมินิ” 3. การขยายธุรกิจส่งออก ได้แก่ CLMV, ฮ่องกง, จีน, ยุโรป, ออสเตรเลีย และอเมริกา และ 4. การปรับองค์กรให้คล่องตัวและเพิ่มความสามารถด้านนวัตกรรม

“ปัจจุบัน เจ้าสัวเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของกลุ่มผลิตภัณฑ์โลคอล สแน็ก ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีทั้งมีแบรนด์ และไม่มีแบรนด์ แต่วันนี้เราจะเข้าสู่ตลาดใหม่ ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว ในช่องทางค้าปลีกแบบดั้งเดิม ค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่กำลังเติบโต โดยคาดว่าภายใน 3 – 5 ปี จะมีส่วนแบ่ง 5% ในตลาดขนมขบเคี้ยว มูลค่า 40,000 ล้านบาทในประเทศไทย” ณภัทรกล่าว

พร้อมตั้งงบการตลาดในปีนี้ รวม 60 ล้านบาท มุ่งกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ สื่อโฆษณากลางแจ้ง และช่องทางต่างๆ แบบครบวงจร เพื่อสื่อสารไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด โดยยังคงใช้พรีเซนเตอร์ครอบครัวของ แมทธิว – ลิเดีย เพื่อสื่อถึงแบรนด์เจ้าสัวที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคนในครอบครัว และเน้นกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์เจ้าสัวมินิจะผลักดันการเติบโตให้บริษัทถึง 20%

<figure><img class="wp-image-60875 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/03/เจ้าสัว_03_03.jpg" alt="" width="450" height="675" /><figcaption> ณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เตียหงี่เฮียง (เจ้าสัว) จำกัด</figcaption></figure>
<h3>เร่งเครื่องตลาดส่งออก</h3>
ณภัทร กล่าวว่า บริษัทฯจะมุ่งขยายตลาดส่งออกมากขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ข้าวตังหมูหยอง ภายใต้แบรนด์เจ้าสัว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอยู่แล้ว ขณะที่ตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกาให้ความสนใจผลิตภัณฑ์เจ้าสัว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าจากข้าวหอมมะลิของไทย ซึ่งนอกจากจะส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวตังแล้ว บริษัทยังมีสินค้าในกลุ่มธัญพืช ซึ่งเป็นอาหารและของว่างเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันมีประมาณ 5 รายการ จะพัฒนาเพิ่มสินค้าใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อทำตลาดส่งออกใน 1- 2 ปีข้างหน้า

สำหรับตลาดของฝาก ที่มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เจ้าสัวในปั้มน้ำมันทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมี 80 สาขา คาดว่าในปีนี้จะกลับมาดีขึ้น หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้มีการปิดสาขาไปจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ ร้านค้าแบรนด์เจ้าสัวในปั้มน้ำมัน ถือเป็นอีกช่องทางหลักที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น

ปัจจุบัน แบรนด์ “เจ้าสัว” มีสินค้า 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์อร่อยรองท้อง (ข้าวตังหมูหยองแบบดั้งเดิม) 2. ผลิตภัณฑ์เคี้ยวเพลิน ข้าวตังมินิ และหมูแท่ง 3. อาหารพร้อมทาน เช่น หมูหยอง 4. อาหารพร้อมปรุง เช่น กุนเชียง และ 5. ของฝาก ซึ่งในอนาคตคาดว่าสินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยวจะมีสัดส่วน 60 – 70% ของยอดขายรวม

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/motoring/%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%b5-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b9%89-%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%97.html">“กรุงศรี ออโต้” เผยกลยุทธ์ปี 2565 ดันยอดสินเชื่อใหม่โต 11%</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>
&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events