FORBES_MAY_ISSUE_2024

<h2>​โฮม่า เชิงทะเล อพาร์ตเมนต์ปล่อยเช่าแบบระยะสั้นและยาวในจ.ภูเก็ต กระแสดีเกินคาด หลังเปิดตัวได้เพียง 2 เดือน นักเดินทางจากทั่วโลกนิยมจองเข้าพักเกินครึ่งถึง 55% โดย 80% เลือกเช่าพักแบบระยะยาวนานข้ามปีตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทำงานที่ไหนก็ได้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โฮม่า เชิงทะเล นำเสนออพาร์ตเมนต์แบบ co-living ที่ปล่อยให้เช่าทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์ไสต์กลุ่มคนในยุคปัจจุบันที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ โดยตั้งอยู่ ณ บริเวณหาดบางเทาและลากูน่า ถือเป็นจุดหมายปลายทางการพักผ่อนอันเงียบสงบในย่านเชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัย โดดเด่น และลงตัว โดยมีพื้นที่ co-working space ให้แก่เหล่านักเดินทางจากทั่วโลกสามารถทำงานผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้ง ภายในโครงการยังมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างคอมมูนิตี้ ชุมชนภายใน ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกถึงความแตกต่าง สามารถเชื่อมสัมพันธ์ ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเหล่าบรรดาผู้เข้าพักที่มีความชอบคล้ายคลึงกันเปรียบเสมือนเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ภายในโครงการยังใส่ใจในเรื่องของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพื่อเก็บกักพลังงานแสงอาทิตย์มาหมุนเวียนใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าภายในส่วนต่างๆ และยังเป็นชุมชน pet friendly ที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงแสนรักเข้าพักได้ ถือเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาเลี้ยงสัตว์เสมือนหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวมากขึ้นได้อย่างครบครัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลูก้า ดอตติ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ HOMA เผยว่า หลังจากเปิดให้บริการ โฮม่า สาขาแรกที่ภูเก็ตทาว์นในปี 2562 และสร้างชุมชนขนาดใหญ่ให้เกิดขึ้นภายในโครงการ ส่งผลให้มีอัตราการเข้าพักจากนักเดินทางทั่วโลกโดยเฉลี่ยสูงถึง 90% จากอพาร์ตเมนต์ที่ปล่อยให้เช่าทั้งหมด 505 ห้อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ การเปิดตัวสาขาใหม่ใน จ.ภูเก็ต ย่านใจกลางเชิงทะเล ถือเป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพเหมาะแก่การพักอยู่อาศัยทั้งในระยะสั้นและยาว เพราะสามารถเดินทางไปยังจุดสำคัญต่างๆ อาทิ สนามบิน อนุสาวรีย์วีรสตรี หาดป่าตอง โรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลในตัวเมืองภูเก็ตได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับหาดบางเทา ซึ่งเป็นหนึ่งในชายหาดที่ยาวที่สุดในภูเก็ต เหมาะสำหรับกาท่องเที่ยวและพักผ่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การเปิดตัว โฮม่า สาขาเชิงทะเล ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ผลจากเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฟื้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับผู้คนเริ่มรู้จักโฮม่ามากขึ้นจากการเปิดตัวสาขาแรกที่ภูเก็ตทาวน์ จึงทำให้มีผู้สนใจจองห้องพักที่สาขาเชิงทะเลแบบล่วงหน้าราว 10% จากจำนวนห้องพักทั้งหมด 423 ห้อง ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา อีกทั้ง อัตราการเข้าพักดังกล่าวยังเพิ่มสูงขึ้นตลอด 2 เดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ เป็น 55% โดยมีจำนวนผู้เข้าพักทั้งหมด 233 ห้อง” ลูก้า กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/Kea6sU19auxKXXQFYqyH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Kea6sU19auxKXXQFYqyH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/t9Sucf93xL6izx47sV23.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="t9Sucf93xL6izx47sV23.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/uFmJQzSE58eb8bVmuHtQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="uFmJQzSE58eb8bVmuHtQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม การจองเข้าพักสาขาเชิงทะเล ณ ปัจจุบัน มีสัดส่วนของนักเดินทางต่างชาติที่นิยมเช่าห้องพักแบบระยะยาวรายปี ตั้งแต่ 10-12 เดือนขึ้นไป ซึ่งรวมถึงการต่อสัญญาเข้าพักเพิ่มเป็น 2 ปีหรือมากกว่านั้นสูงถึง 60% , ระยะยาวแบบรายเดือน 1-9 เดือน 20% และ แบบระยะสั้น 1-30 วัน 20% ด้วยเช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน โฮม่า มีจำนวนทั้งสิ้น 3 สาขา ได้แก่ ภูเก็ต ทาวน์ เปิดตัวในปี 2564 , ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดตัวในปี 2566 และ เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2567&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับเป้าหมายธุกิจในปีนี้ คาดการณ์ว่า ‘โฮม่า เชิงทะเล’ จะมีรายได้จากห้องพักให้เช่าประมาณ 134 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 178 ล้านบาท โดยในอนาคตจะทำการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น ไปยังย่าน ฉลองเบย์ จ.ภูเก็ต ในปี 2568 และ กรุงเทพฯ ย่านอโศก ในปี 2570&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/SvVwGtHLcu8V6DSGLwN1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="SvVwGtHLcu8V6DSGLwN1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/GPjRVBbrq9o1Z15mbw6k.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GPjRVBbrq9o1Z15mbw6k.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/hH6K4YoRXNwNuiEhfR4d.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="hH6K4YoRXNwNuiEhfR4d.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/8EgDALkwHkkabwAAJcEp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8EgDALkwHkkabwAAJcEp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/K1pzJLbkzp2HhJYwGf6U.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="K1pzJLbkzp2HhJYwGf6U.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="7"></figure></div> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/property/homa-new-style-rental-apartment" alt="คนรุ่นใหม่ขอเช่าอยู่ก่อน HOMA ลุยทำอพาร์ตเมนต์ให้เช่าแนวใหม่ รวมแล้วถูกกว่าคอนโด สิ่งอำนวยความสะดวกครบกว่า">คนรุ่นใหม่ขอเช่าอยู่ก่อน HOMA ลุยทำอพาร์ตเมนต์ให้เช่าแนวใหม่ รวมแล้วถูกกว่าคอนโด สิ่งอำนวยความสะดวกครบกว่า</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​​

ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ 'โฮม่า เชิงทะเล' จ.ภูเก็ต เปิดตัว 2 เดือน ยอดจองเกินครึ่ง 55% นักเดินทางเน้นเช่าห้องพักข้ามปีสูง 80%

Ho Kwon Ping การเติบโตครั้งใหม่ของ Banyan Tree

<h2>นักผจญภัยผู้หลงใหลในธรรมชาติและชื่นชอบการท่องเที่ยวสายแคมป์ปิ้ง ควรค่าแก่การเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่ด้วยที่พัก "Shinta Mani Wild" ในรูปแบบเต็นท์แคมป์สุดหรูหรากลางป่าต้นน้ำ ประเทศกัมพูชา&nbsp;</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กลางฤดูฝนในเดือนสิงหาคม บรรยากาศป่าต้นน้ำของประเทศกัมพูชาเขียวครึ้มด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายสายฝนโปรยปรายตลอดวัน เมฆครื้มสลับแดดอย่างรวดเร็ว ได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์และความชื้นโดยรอบ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การท่องเที่ยวแบบผจญภัยหาได้ไม่ยากในประเทศกำลังพัฒนาอย่างกัมพูชา ที่ห่างจากกรุงเทพฯ ราว 725 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินเพียง 55 นาที แต่มีความแตกต่างชัดเจนทั้งในด้านภาษา เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม โดยกัมพูชายังคงสภาพธรรมชาติอยู่มาก พื้นที่บริเวณป่าต้นน้ำซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบผจญภัย อยู่ห่างจากพนมเปญเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ขนาดใหญ่ที่สะดวกสบาย&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/vxzoS3qh6yuVaL5RJvdt.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="vxzoS3qh6yuVaL5RJvdt.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;	การเดินทางมาเยือน Shinta Mani Wild ครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงนับจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเวียตเจ็ท แอร์ (VietJet Air) สายการบินแบบโลว์คอสท์ที่สะดวกและคล่องตัว ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงบินจากกรุงเทพฯ-พนมเปญ จากนั้นใช้รถยนต์อีก 2 ชั่วโมงมายังเต็นท์แคมป์สุดหรูในพื้นที่รอยต่อเทือกเขา Cardamom ซึ่งใกล้กับอุทยานแห่งชาติอีก 2 แห่งคือ Borkor และ Kirirom ที่ Cardamom มียอดเขา Phnom Aural สูง 1,813 เมตรจากระดับน้ำทะเลสูงที่สุดในกัมพูชาที่นี่จึงเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทริปนี้ใช้เวลา 2 คืนในการเข้าพักที่ Shinta Mani Wild โรงแรมแนวเต็นท์แคมป์ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดย Bill Bensley นักออกแบบตกแต่งภายในชาวอเมริกันเชื้อสายอังกฤษ เจ้าของ BENSLEY Design Studios ที่ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/YFMQsXquznioHt7ioviv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="YFMQsXquznioHt7ioviv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/qrdrxSi4src7taKE4oQR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="qrdrxSi4src7taKE4oQR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> 	&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Shinta Mani Wild A Bensley Collection ตั้งอยู่ที่ Cardamom Mountains ใกล้กรุงพนมเปญ กัมพูชา นอกจากนี้ยังมี Shinta Mani อีก 2 แห่งคือ Shinta Mani Angkor And Bensley Collection Pool Villas ที่เมือง Siem Reap กัมพูชา ใกล้นครวัด-นครธม และอีกแห่งคือ Shinta Mani Mustang A Bensley Collection ที่ Mustang เนปาล เพิ่งเปิดบริการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรม Shinta Mani ทั้ง 3 แห่งมีจุดร่วมเดียวกันคือออกแบบโดย Bill Bensley และเป็นโครงการโรงแรมที่พัฒนาด้วยแนวทางยั่งยืน (Sustainable Hotels) ซึ่งเขาเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาโรงแรมแนวนี้ดังนั้นทุกโรงแรมของ Bensley จึงเป็นมิตรกับธรรมชาติ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ออกแบบกลมกลืนกับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น เชื่อมโยงชุมชนทั้งการจ้างงาน และการรับซื้อผลผลิตของชาวบ้านมาเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในโรงแรม&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="min-width: 100%; width: 50%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/wxjcbYPk3R5k3Xjzu9q9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wxjcbYPk3R5k3Xjzu9q9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="3"></figure></div> 	&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราไม่ได้ตัดต้นไม้ใหญ่เลย และสิ่งก่อสร้างของโรงแรมแห่งนี้ ก็เป็นลักษณะที่ถอดประกอบได้ พร้อมรื้อถอนโดยไม่เกิดความเสียหายต่อธรรมชาติ” David Steyn จีเอ็ม Shinta Mani Wild บอกเล่าถึงคอนเซ็ปท์และความยั่งยืนที่โรงแรมแห่งนี้มี พร้อมประวัติและที่มาคร่าวๆ ว่า โครงการนี้พัฒนาโดยเอกชน ซึ่ง Bill Bensley เป็นทั้งผู้ออกแบบและเจ้าของร่วมกับ Sokoun Chanpreda นักธุรกิจชาวกัมพูชา แต่น่าเสียดายในวันที่ทีมงาน Forbes Thailand เข้าพักนั้น Bensley เดินทางไปร่วมงาน Tour de France 2023 ที่ประเทศฝรั่งเศส&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/i177CLk2ALBbmHTX1EJb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="i177CLk2ALBbmHTX1EJb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/travel/michelin-key-%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88" alt="MICHELIN Key กุญแจสุดพิเศษการันตีโรงแรมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งใหม่">MICHELIN Key กุญแจสุดพิเศษการันตีโรงแรมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งใหม่</a>​<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/45e2f9e5-2f0f-459c-a701-432192052e12" alt="​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine">​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine</a>​<div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/jWEcb6zPnswnNk6YAoHU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="jWEcb6zPnswnNk6YAoHU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div>

“Shinta Mani Wild” เปิดประสบการณ์  เต็นท์แคมป์หรูกลางป่าต้นน้ำกัมพูชา

<h2>หลังปิดปรับปรุงมาพักใหญ่ ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา “เลอ เมอริเดียน โฮเต็ล แอนด์รีสอร์ท” ซึ่งเป็น 1 ใน 31 แบรนด์ภายใต้เครือ “แมริออทบอนวอย” (Marriott Bonvoy) ผู้ให้บริการโรงแรมและรีสอร์ทระดับโลก ได้ฤกษ์เปิดตัว “เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท” ภายใต้คอนเซปต์ Destination Unlocked </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท" ตั้งอยู่ริมหาดไม้ขาว ชายหาดทิศตะวันตกอันเงียบสงบของเมืองภูเก็ต ภายในพื้นที่ของของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินภูเก็ตเพียง 15 นาที&nbsp;“หาดไม้ขาว” มีจุดเด่นคือมีความเป็นธรรมชาติ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกลุ่มเป้าหมายของโรงแรมเป็นชาวต่างชาติ 90% ชาวไทย 10%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จิรารัตน์ นิลประดับ ผู้จัดการทั่วไป เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท กล่าวว่าหาดไม้ขาวเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่มีนักท่องเที่ยวคนไทยน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่โซนอื่น ภูเก็ตมีชื่อเสียงในหมู่คนไทยด้านร้านอาหาร ซึ่งสะดวกกว่าถ้าพักอยู่ในตัวเมือง โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายเดือนตุลาคมเป็นคนสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ขณะที่ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นชาวยุโรป อาทิ รัสเซีย ออสเตรเลีย และยุโรป&nbsp; ที่หนีอากาศหนาวจากประเทศตน และต้องการมาพักผ่อนระยะยาว &nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/c6gdK7GKiuRZt65g3PzU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="c6gdK7GKiuRZt65g3PzU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ปีนี้ดีมานด์ของภูเก็ตค่อนข้างดี ททท.ก็โปรโมต จีนก็ฟรีวีซ่า จีนติด top 5 เข้ามาต่อเนื่อง เมื่อก่อนมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ หลังโควิดเดินทางมากันเองมากขึ้น นักท่องเที่ยวจีน high spend มากขึ้น ชอบเดินทางออกเกาะ ค่อนข้างจะ learn เรื่อง culture ส่วนตลาดรัสเซียซึ่งติด top 5 ก็ไม่ลดลงเลย ไม้ขาวเป็นที่นิยมในตลาดรัสเซียแบบครอบครัว”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมแห่งนี้เป็นสินทรัพย์ของนารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป โดยรีโนเวตใหม่และเปลี่ยนแบรนด์จาก “ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภูเก็ต ไม้ขาวบีช” มาเป็น “ฮอลิเดย์ อินน์ ไม้ขาว บีช” ใช้งบลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท จับกลุ่มตลาดครอบครัวระดับบน และคาดว่าจะคืนทุนได้ในเวลา 5-7 ปี&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/Yg5EFCDP7mbYTG8xLZJX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Yg5EFCDP7mbYTG8xLZJX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทจำนวน 244 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 41 -110 ตารางเมตร ออกแบบตกแต่งในสไตล์ท้องถิ่นร่วมสมัย ทุกห้องมีระเบียงหรือเฉลียงให้ได้นั่งชมมวิวสวน สระว่ายน้ำ หรือวิวทะเล มีห้องบอลรูมขนาด 214.5 ตารางเมตรที่สามารถปรับเป็นห้องประชุมขนาดเล็กได้ 3 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำลากูนกลางแจ้ง สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก คิดส์คลับและกิจกรรมต่างๆ อาทิ กีฬาทางน้ำอย่างแพดเดิลบอร์ด พายเรือคายัค หรือฝึกโยคะริมชายหาด&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/ffrGvTLqNMb9cC5nSdKX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ffrGvTLqNMb9cC5nSdKX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารมากมาย ตั้งแต่ของว่างท้องถิ่นและเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ “The Nook” คาเฟ่บรรยากาศสบายๆ&nbsp; “J’s” ห้องอาหารนานาชาติและอาหารไทยต้นตำรับ ตั้งแต่บุพเฟต์อาหารเช้า ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ตที่ได้ “เชฟบอม” อภิสิทธิ์ ชัยชนะ เจ้าของแชมป์จากรายการเชฟกะทะเหล็ก ประเทศไทย มาร่วมรังสรรค์จานเด็ด และ “Ocean Kitchen” ร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ผู้เข้าพักสามารถลิ้มลองอาหารยุโรปและตะวันออกกลางปรุงสดใหม่ รวมถึงเนื้อย่างชั้นดี ซีฟู้ดสดจากทะเล พิซซ่าเตาถ่าน อาหารเพื่อสุขภาพ โดยโรงแรมคัดสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่น เช่น ผักอินทรีย์จากฟาร์มในพื้นที่ อาหารทะเลบางส่วนจากชาวประมง &nbsp; อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82-9-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4-5-5-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-67-%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1-10" alt="เคทีซี เผยตัวเลข 9 เดือน กำไรสุทธิ 5.5 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี 67 ขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม 10%">เคทีซี เผยตัวเลข 9 เดือน กำไรสุทธิ 5.5 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี 67 ขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม 10%</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Destination Unlocked ที่ "เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท"

<h2>การเปิดตัว Amanpuri ที่ภูเก็ตด้วยจำนวนห้องพักราวๆ 50 ห้องพัก เมื่อเปรียบเทียบเชนโรงแรมที่ต่างแข่งขันด้วยจำนวนห้องพักหลักร้อยห้องแล้วนั้นในขณะนั้น ทำให้เห็นถึงหลักการทำธุรกิจของกลุ่ม Aman ที่มอบให้กับแขกผู้เข้าพัก โดยมีปรัชญา 4 ข้อเปรียบเสมือนเสาหลักในการดำเนินธุรกิจที่สืบต่อมาจนกระทั่งปัจจุบันในยุค Vladislav Doronin ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Aman</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-56525" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/Amanpuri-Thailand-Accommodation-Villa-5-4-Bedroom-Ocean-Villa-Dinner-Setup-Meetings_High-Res_12961.jpg" alt="" width="600" height="450" />

“สวรรค์บนดิน” นิยามติดปากจากผู้เข้าพัก Amanpuri ที่ ภูเก็ต รีสอร์ตแห่งแรกของ Aman Resorts ที่เริ่มให้บริการราวปี 1988 เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างประสบการณ์การเข้าพักแบบลักชัวรี ไฮเอนด์ ที่นำหลักคิดการดำรงชีวิตแห่งโลกตะวันออกผสมผสานการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมบนสถานที่ตั้งสำหรับการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว

ปรัชญาดังกล่าวกลับเด่นชัดเป็นอย่างมาก หลังจากการระบาดโควิด-19 ที่สถานการณ์การระบาดทำให้บรรดาผู้ประกอบอุตสาหกรรมโรงแรมในทุกระดับต้องปรับมาตรฐานการบริการ สู่ฉากหน้าของการให้บริการรูปแบบใหม่ ขณะเดียวกันด้านนักท่องเที่ยวเอง ต่างเฝ้ารอโอกาส จังหวะ และโหยหาการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนในบรรยากาศและประสบการณ์ต่างแดนใหม่ ภายใต้ความคาดหวังมาตรฐานบริการที่ถูกสุขลักษณะ

ซึ่งการมอบประสบการณ์สุดประทับใจเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Aman ที่เรียกว่า “transformation experiences” บริการที่ถูกส่งมอบและได้รับความเชื่อมั่นจากแขกผู้เข้าพักเป็นประจำกับ Aman เป็นเวลายาวนาน

“Transformation experiences จะพบได้จากการเดินทางระหว่างประเทศในการเดินทางไปยังวัฒนธรรมที่แตกต่างและเป็นสิ่งที่ อมัน ให้ความสำคัญภายใต้แนวคิดการบริการที่เราได้นำเสนอ” Doronin กล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-56524" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/Amanpuri-Thailand-Wellness-Spa-Massage-Herbal-Compress-Massage_High-Res_22027.jpg" alt="" width="600" height="400" />

อีกหนึ่งจุดเด่นของอสังหาริมทรัพย์กลุ่ม Aman คือการออกแบบ การตกแต่ง และการจัดการพื้นที่ซึ่งเน้นความเป็นส่วนตัวของแขกผู้เข้าพัก และยังสอดคล้องเข้าสมัยกับมาตรการการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่หน่วยงานรัฐในหลายประเทศได้กำหนดไว้ ทำให้โรงแรมและรีสอร์ตในกลุ่ม Aman แทบไม่ต้องปรับตัวและเป็นสิ่งที่ไม่ตั้งใจ

ทำให้ภาพรวมความต้องการในการเข้าพักในกลุ่มรีสอร์ตจึงมีความต้องการที่ต่อเนื่อง อย่าง Amanzoe กรีซ, Amanyara ที่หมู่เกาะเติกส์และเคคอส แขกที่พักได้รับบริการอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าเรื่อง การกินอยู่ หลับ นอน การเข้ารับการสปา ทรีตเม้นต์ ภายในวิลล่าส่วนตัว

“สิ่งที่ผมรู้สึก เราเปลี่ยนตัวเองด้านบริการน้อยมาก เพราะเดิมเรามีบริการเหล่านี้อยู่แล้ว มีพื้นที่ให้แขกเยอะ โอกาสที่แขกที่เข้าพักจะเจอกันค่อนข้างน้อย แต่เราก็ต้องปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลในแต่ละประเทศ พนักงานทุกคนต้องเข้าถึงการรับวัคซีนให้เร็วที่สุด” Doronin กล่าว

แม้ Doronin จะกล่าวว่าถึงการปรับตัวในการให้บริการของโรงแรมค่อนข้างน้อยก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์การท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก สั่งห้ามผู้คนเดินทางข้ามพรมแดนไปยังต่างแดน ทำให้อุตสาหกรรมโรงแรมและรีสอร์ต ต่างปรับโฟกัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยวภายในประเทศ

ทั้งยังเป็นแนวทางของกลุ่ม Aman เช่นกันที่ต้องศึกษาและลงสำรวจเรื่องการท่องเที่ยวภายในประเทศต่างๆ ซึ่งทำให้ Aman ได้พบเรื่องราวท้องถิ่นและข้อมูลสดใหม่ และยังเสริมกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อมุ่งเน้นการทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายภายในประเทศ โดยเฉพาะ Amangiri สหรัฐฯ, Amanyara ที่หมู่เกาะเติกส์และเคคอส, Amanpulo ฟิลิปปินส์ โดย Aman ทำให้ทั้ง 3 แห่งนี้มีอัตราการเข้าพักที่ดีกว่าก่อนการเกิดโควิด-19

“อมันยังคงให้ความสำคัญกับการโฟกัสการท่องเที่ยวจากกลุ่มนักท่องเที่ยวภายในประเทศ แม้ว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะกลับมาแล้วก็ตามที่ผ่านมา Amanpulo ฟิลิปปินส์, Amangiri สหรัฐฯ และ Aman Venice อิตาลี โรงแรมทั้ง 3 แห่งที่มีผลการดำเนินที่ดีที่สุดของกลุ่มโรงแรมในเครือประจำปี 2020-2021 เลยทีเดียว”

<figure><img class="wp-image-56528 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/amangiri.jpg" alt="" width="600" height="374" /><figcaption> หนึ่งในกิจกรรมของ Amangiri ที่รอต้อนรับแขกผู้มาเยือน</figcaption></figure>

Doronin เปิดเผยด้วยว่า รอยัลตี้โปรแกรมของกลุ่ม Aman ถือว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรมการโรงแรมซึ่งสะท้อนได้จากจำนวนแขกที่กลับมาเข้ามาใช้บริการ อย่าง Amanpuri ภูเก็ต มีความต้องการของผู้เข้าพักเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแขกเดิมที่ต้องการกลับมาเยี่ยมรีสอร์ตที่เปรียบเสมือนบ้านหลังของ Aman ที่ภูเก็ตและยังเป็นโรงแรมเรือธง ซึ่งโดยปกติในทุกซีซั่นจะมีการเปิดตัว เพรชทีช โปรแกรมแพลน ในทุกๆ ปีในการต้อนรับผู้เข้าพักและยังเป็นโปรแกรมที่แขกคนสำคัญของ Aman รอคอย

นอกจากนี้ระหว่างช่วงเวลาโควิดทีมของ Aman ไม่ได้หยุดนิ่ง คิดและสร้างผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อแฟนคลับของ Aman ระหว่างการล็อกดาวน์ ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลผิวพรรณให้คลายความคิดถึงไม่ว่าจะเป็นการออกกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ อาหารเสริม SVA จากสมุนไพร กลุ่มสกินแคร์ น้ำหอม เครื่องหอม และเสื้อผ้า เพื่อให้บรรดาแฟนคลับสัมผัสกลิ่นอายของ Aman ได้ที่บ้านของตัวเอง

<figure><img class="wp-image-56521 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/Aman-New-York.jpg" alt="" width="600" height="600" /><figcaption> Aman New York</figcaption></figure>

สำหรับการลงทุนและขยายสาขาของกลุ่ม Aman นั้น Doronin เปิดเผยว่าใกล้จะถึงช่วงเวลาสำคัญและไฮไลท์ของกลุ่ม Aman ที่เรียกว่าเป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต ด้วยการเปิดตัว Aman New York ตั้งอยู่บนถนนหมายเลย 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  เป็นการปรับปรุงอาคาร Crown Building ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ใจกลางเมืองนิวยอร์ก มาทำเป็นโรงแรมสุดหรูให้บริการห้องสวีทจำนวน 83 ห้อง มีเรสสิเด้นท์ 22 หลัง

“อมัน นิวยอร์ก เป็นโครงการพิเศษมาก ถือได้ว่าเป็นโครงการที่จะเกิดเพียงครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยการออกแบบนำแรงบันดาลใจในการสร้างอสังหาริมทรัพย์ของอามานแห่งโลกตะวันออก มาผสมผสานความศิวิไล แห่งเมืองแมนฮัดตัน”

Doronin ตั้งเป้า Aman New York จะเป็น Holistic Wellness Center แห่งแรกของฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ขณะที่ Holistic Wellness Center ฝั่งตะวันออกอยู่ที่ Amanpuri ภูเก็ต เป็นสถานที่แห่งแรก นอกจาก Aman New York อีกหนึ่งไฮไลท์คือการเปิดตัว Aman Nai Lert Bangkok ในปี 2566 โดยโครงการนี้ประกอบด้วยส่วนของโรงแรม ที่จะห้บริการชั้นสูงจากบริการ สปา และ Aman Club นอกจากนี้ยังมีในส่วนที่เป็นเรสสิเด้นท์ ภายในบริเวณปาร์คนายเลิศ

“ธุรกิจเรากำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีโครงการที่จะเปิดตัวในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า” Doronin กล่าว

<figure><img class="wp-image-56523 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/Aman-Venice.jpg" alt="" width="453" height="280" /><figcaption> Aman Venice อิตาลี</figcaption></figure>

สำหรับวัฒนธรรมการทำงานและหลักการเชิงธุรกิจของ Aman ของเขานั้น Doronin เผยว่า เขาเองมีความมั่นใจว่าถ้าเรามีความเข้าใจและมองมุมที่ชัดเจน เราจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ และการมีมุมมางธุรกิจเดียวกันจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ Aman ต้องการ

โดยตัวเขาเองปัจจุบันยังคงทำงานหนัก และว่าความตั้งใจในการทำงานของเขาจะช่วยในธุรกิจมุ่งไปสู่ความสำคัญ “ถ้าเราใส่ใจในความสำเร็จและใส่ใจในองค์ประกอบกับสิ่งที่ทำผลงานจะออกมาดีและมีประสิทธิภาพ”

Doronin ทิ้งท้ายด้วยว่า นอกจากนี้ความสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะว่าถ้าสุขภาพดี จะส่งผลให้ทุกอย่างดี “ที่ อมัน เราสนับสนุนให้พนักงานของอมันใส่ใจในสุขภาพ ผมออกกำลังทุกวันไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิ จี้กง โยคะ ทุกรีสอร์ตของอมันไม่พลาดที่จะเข้าไปเข้ากิจกรรมต่างๆ ที่ทางรีสอร์ตจัดขึ้นมา”

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/forbes-halo-100-%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c.html">Forbes Halo 100: บริษัทผู้สร้างแบรนด์ขวัญใจมหาชน</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Vladislav Doronin เดินหน้า "AMAN" โลกการพักผ่อนยุคใหม่

Sonder ธุรกิจให้เช่าที่พัก คู่แข่ง Airbnb ผู้กลายเป็นสตาร์ทอัพพันล้านรายใหม่ของวงการ

พักหลังมานี้หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อธุรกิจ Home Sharing กันอยู่บ้าง มีที่มาจากแนวคิดสังคมเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) โดยมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการรูปแบบต่างๆ ของผู้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนผ่านการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นสื่อกลาง ตัวอย่างบริการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันคือ การปล่อยเช่าห้องพักและบ้านให้แก่นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนจากต่างถิ่น ซึ่งมีความต้องการที่พักพิงชั่วคราวด้วยระดับราคาเป็นมิตร โดยผู้ที่เป็นเจ้าของอสังหาฯนั้นสามารถแบ่งปันพื้นที่บ้านของตนเองหรือห้องพักที่ตนมีอยู่แก่ดีมานด์เหล่านี้ได้ และยังสามารถเรียกเก็บค่าเช่าได้ตามความเหมาะสมอย่างอิสระ

เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ Home Sharing ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและนิยมใช้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Airbnb หรือ AirBed and Breakfast กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงหลายที่ผ่านมา โดยมีจุดเริ่มต้นจาก Startup น้องใหม่มาแรงจากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ที่มีไอเดียพลิกโฉมธุรกิจให้บริการที่พักจากทั่วโลกผ่านการชูแนวคิด “ที่พัก แชร์กันได้” สร้างตัวเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้เช่า พร้อมนำเสนอราคาค่าเช่าที่ถูกกว่าห้องในโรงแรมหลายเท่าตัว นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นเจ้าของอสังหาฯ สามารถนำห้องพักที่ปล่อยว่างทิ้งไว้มาสร้างรายได้อย่างง่ายดาย

จากโมเดล Home Sharing สู่แอปพลิเคชัน Airbnb ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการจากทั่วโลกมากกว่า 400 ล้านคนในปัจจุบัน สำหรับในไทยเองมีห้องพักที่ลงทะเบียนเปิดให้บริการบน Airbnb จำนวนมากกว่า 60,000 แห่งเลยทีเดียว

<img class="alignnone size-full wp-image-6792" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/บทความ-airbnb-05.jpg" alt="" width="638" height="425" />

จากการสำรวจของผู้คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่าน DDproperty Consumer Sentiment Survey รอบล่าสุดพบ คนอินโดนีเซียและคนมาเลเซียมีมุมมองที่เป็นบวกต่อสถานการณ์ Home Sharing มากที่สุด รองลงมา คือ คนสิงคโปร์และคนไทย

หากมองในภาพรวมทั้ง 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างเห็นด้วยกับแนวคิด Home Sharing สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการสำรวจรอบก่อนหน้านี้ และเมื่อพิจารณาให้ลึกขึ้นจะพบว่าคนมาเลเซีย 1 ใน 4 มีความสนใจในการเช่าบ้านร่วมกันมากที่สุดในภูมิภาค มากถึง 57% ในขณะที่คนไทยยังให้ความสนใจน้อยอาจเป็นเพราะธุรกิจนี้อาจจะยังไม่แพร่หลายมากนัก ประกอบกับขาดข้อมูลในการเข้าถึง ทำให้ทั้งผู้เช่าและเจ้าของห้องยังไม่สามารถตัดสินใจเข้าร่วมบริการ Home Sharing ได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับกฏหมายการให้บริการเช่าห้องพัก เช่น ในกรณีของการเช่าห้องพักผ่านแอปพลิเคชัน Airbnb ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่

<img class="alignnone size-full wp-image-6791" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/บทความ-airbnb-04.jpg" alt="" width="638" height="371" />

ไม่เพียงเท่านี้การให้บริการ Home Sharing ในรูปแบบของแอปพลิเคชัน Airbnb ยังพบว่ามีความเสี่ยงอยู่หลายประการ หากมองในมุมของผู้เข้าพัก หลายครั้งที่ต้องเจอกับปัญหาห้องพักที่จองไม่ได้เป็นตามที่โฆษณาไว้ เช่น ห้องพักสกปรก อยู่ห่างไกลจากระบบขนส่งสาธารณะ ฯลฯ ในขณะที่เจ้าของห้องพักเองก็ต้องเปิดบ้านให้กับคนแปลกหน้าซึ่งเป็นเรื่องเสี่ยงและอันตรายอยู่ไม่น้อย

ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนเกิดความกังวลและส่งผลให้ธุรกิจ Home Sharing ไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควร การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงต้องอาศัยความเชื่อใจ (Trust) เป็นหลักสำคัญของทั้งฝั่งผู้เช่าและเจ้าของ ส่วนแอปพลิเคชันที่เป็นสื่อกลางเองก็ควรจะมีกฏระเบียบในการควบคุมผู้ใช้งานทั้ง 2 ฝ่ายให้ปฏิบัติตามนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ภาครัฐเองควรเข้ามาควบคุมธุรกิจ Home Sharing  จากความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจรอบล่าสุดพบว่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยเองมีความต้องการให้รัฐบาลควบคุมธุรกิจเช่าที่พักมากเกินกว่า 50% ซึ่งสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับผลสำรวจรอบก่อนหน้า

<img class="alignnone size-full wp-image-6790" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/บทความ-airbnb-03.jpg" alt="" width="638" height="425" />

อย่างไรก็ตามธุรกิจ Home Sharing ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไป จากปัจจัยสนับสนุนด้านพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าชื่นชอบความสะดวกสบายและมักจะเลือกทางเลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น แม้ Airbnb จะมีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย ในแง่ของราคาและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกับคนในท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของบ้านได้แท้จริง สร้างมิตรภาพใหม่ในต่างแดนให้เกิดขึ้นได้ นับว่าเป็นการเปิดมุมมองการท่องเที่ยวที่แปลกไปจากเดิม นอกจากนี้ในมุมของผู้เป็นเจ้าของก็สามารถสร้างรายได้ผ่านอสังหาฯ ที่ตนเองถือครองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมใหญ่แต่อย่างใด

กลับมาที่สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ไทยยังคงต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้เมื่อเทรนด์ Home Sharing เข้ามามีบทบาทในตลาดเช่ามากขึ้น แม้อาจจะยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงมากนักแต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคที่น่าสนใจ คาดเติบโตมากกว่าเดิมและแผ่ขยายกว้างขวางขึ้น ทั้งนี้ภาครัฐเองก็ควรมีมาตรการควบคุมการดำเนินธุรกิจนี้ด้วยความเหมาะสม โดยคำนึงถึงบริบทสังคมไทยและผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อธุรกิจอสังหาฯ อื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ Home Sharing เติบโตได้อย่างยั่งยืน

<a href="http://DDproperty.com">DDproperty.com</a> เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่ง ที่รวบรวม ทิปส์ในการซื้อขายอสังหาฯ และรีวิวโครงการใหม่ ทั้งไทยและอังกฤษ ไว้กว่า 10,000 บทความ

Airbnb ธุรกิจ Home Sharing ส่งผลอย่างไรต่ออสังหาฯ ไทย

<h2>หนึ่งทศวรรษก่อน Airbnb สร้างนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมบริการด้วยการทำให้ที่พักมีราคาถูกลงและน่าอยู่ขึ้น ตอนนี้บริษัทจำเป็นต้องขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว</h2>
Airbnb เตรียมการเพื่อรองรับการประเมินมูลค่าบริษัทที่ 3.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ตามคาดหมาย ระหว่างนี้ บริษัทยังบริหารโดยซีอีโอผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะให้ความสำคัญกับนักลงทุนก่อนหรือไม่

Airbnb เติบโตจากการมอบที่พักที่ไม่เหมือนใครกับราคาที่จับต้องได้ในโลกที่ความแปลกแตกต่างเป็นของหายาก หนึ่งทศวรรษนับจากการก่อตั้ง บริษัทประสบความสำเร็จได้จากความเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติทางสังคมครั้งใหญ่แห่งยุคเมื่ออยู่ๆ ผู้คนในยุคดิจิทัลพากันเลิกอึดอัดที่จะขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้า ปัดหน้าจอมือถือเพื่อนัดหมายกับคนที่ไม่เคยรู้จัก หรือพักค้างคืนในห้องนอนที่ว่างอยู่ ขนาดที่นำไปสู่การประเมินมูลค่า 3.1 หมื่นล้านเหรียญ โดยสามารถระดมทุนได้ 3 พันล้านเหรียญจากภายนอก

Brian Chesky และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คนคือ Joe Gebbia และ Nathan Blecharczyk ทำเงินได้คนละ 3.7 พันล้านเหรียญจากมูลค่าหุ้นใน Airbnb บริษัทสตาร์ทอัพที่พวกเขาสร้างขึ้นติดกลุ่มบริษัทที่มีสถานะพิเศษร่วมกับ Google, Xerox และ Uber

แต่เงินมหาศาลนั้นก็นำมาซึ่งความท้าทายที่ไม่เหมือนใครจะเรียกว่าเป็นคำสาปของบริษัทระดับยูนิคอร์นก็คงจะใช่ Airbnb จะสร้างความชอบธรรมให้กับมูลค่าที่ได้รับการประเมินอย่างไร นั่นมากกว่ามูลค่าบริษัทอย่าง Expedia, Hilton หรือกระทั่ง American Airlines

<figure><img class="wp-image-3386 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Airbnb-03.jpg" alt=" Airbnb" width="638" height="426" /><figcaption> หนึ่งในที่พักสุดพิเศษของ Airbnb</figcaption></figure>

แม้ว่า Airbnb จะมีเงินก้นถุง 3 พันล้านให้อุ่นใจ แต่บริษัททำเงินได้เพียง 100 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมาเมื่อพิจารณาเฉพาะกระแสเงินสดจากรายได้ทั้งหมด 2.6 พันล้านเหรียญ หรือราวร้อยละ 4 (คู่แข่ง Airbnb ที่ใหญ่กว่าและเป็นบริษัทมหาชนมีสัดส่วนอยู่ที่ราวร้อยละ 27)

ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงขึ้น และการกำกับดูแลกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้น Airbnb จะเติบโตต่อเนื่องและสร้างผลกำไร 10 เท่าอย่างที่กองทุนร่วมลงทุน (VC) ต้องการได้อย่างไร ที่ยิ่งทำให้เรื่องนี้เร่งด่วนยิ่งขึ้นก็คือ คาดหมายกำหนดการขายหุ้นไอพีโอที่ใกล้เข้ามาในกลางปี 2019 เป็นเรื่องยากแสนสาหัสสำหรับ Airbnb เพราะเมื่อเทียบกับ Google ซึ่งได้ปฏิวัติทุกสิ่งตั้งแต่การสืบค้นข้อมูลไปจนถึงโทรศัพท์และรถยนต์แล้ว จนถึงขณะนี้ Airbnb มีความพิเศษเพียงประการเดียว นั่นคือการเชื่อมโยงผู้คนที่มีบ้านพักและอะพาร์ตเมนต์ว่างอยู่กับผู้คนที่ต้องการเช่าที่พักเหล่านั้น ไม่มีอะไรนอกจากนี้และนั่นจึงเป็นที่มาของธุรกิจใหม่ของ Airbnb คือการขายทัวร์นำเที่ยวโดย Experiences หรือธุรกิจจองร้านอาหารที่ทำร่วมกับ Resy

ที่ทำให้ซับซ้อนขึ้นไปอีกคือทีมผู้บริหารที่อ่อนแอ ไร้ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน และผู้จัดการด้านการตลาด ทั้งที่บริษัทจะนำหุ้นออกขายแก่สาธารณชนในอีกไม่ถึงปี แล้วยังมี Chesky ซีอีโอที่ไม่ได้เห็นแก่ความต้องการของนักลงทุนเป็นลำดับแรก แม้บริษัทจะระดมเงินจากพวกเขามาหลายพันล้าน

Chesky ต้องการให้ Airbnb เป็นร้านค้าที่มีทุกอย่าง แต่สำหรับนักเดินทางเท่านั้น Chesky หวังว่าภายในปี 2028 จะมีคนใช้บริการของ Airbnb ถึงพันล้านคน ซึ่งจะเป็นการก้าวกระโดดจากจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด 400 ล้านคนในช่วง10 ปีแรกของบริษัท “เมื่อถึงจุดหนึ่ง กฎว่าด้วยจำนวนมากหมายถึงว่าคุณต้องหว่านเมล็ดพันธุ์มากขึ้น” Chesky กล่าว

แต่ Chesky ก็ห่วงด้วยว่าการเติบโตที่ไร้การควบคุมอาจเป็นอันตรายกับความเป็นเอกลักษณ์ของ Airbnb ดังนั้นเขาจึงพยายามวางตำแหน่งของ Airbnb ให้เป็นสิ่งที่เขามักเรียกว่า “บริษัทแห่งศตวรรษที่ 21” หมายถึงการเป็นบริษัทที่ไม่เพียงมองเห็นคุณค่าของผลการดำเนินงานแต่ยังให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ อย่างแขกเจ้าของบ้าน พนักงาน และเมือง

หลังจากหลายปีที่ Airbnb มีเจ้าของบ้านมาร่วมให้บริการโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม ตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหาด้านปริมาณสินค้า เหตุผลนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือความสำเร็จของ Airbnb ได้ดึงดูดคู่แข่งกระเป๋าหนัก ทั้ง Booking Holdings เจ้าของเว็บไซต์ Priceline และ OpenTable ซึ่งทำรายได้ปี 2017 ที่ 1.26 หมื่นล้านเหรียญ และ Expedia ซึ่งทำรายได้ 1 หมื่นล้านเหรียญในปีเดียวกัน ต่างก็เริ่มให้ความสำคัญกับอะพาร์ตเมนต์และบ้านพักตากอากาศบนเว็บไซต์ของตัวเอง

<figure><img class="wp-image-3388 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Airbnb-04.jpg" alt="Airbnb Experiences " width="638" height="619" /><figcaption> หนึ่งในประสบการณ์ ของ Airbnb Experiences</figcaption></figure>

ฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา Booking Holdings ได้แยก “ที่พักทางเลือก” ออกเป็นประเภทต่างหาก และรายงานจำนวนที่พักที่ให้บริการ 5 ล้านแห่งเป็นครั้งแรกเท่ากับ Airbnb เหตุผลที่ 2 คือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเริ่มดำเนินมาตรการปราบปราม ซึ่งมีตั้งแต่ข้อหาที่เจ้าของที่พักใช้ Airbnb ในการให้บริการโรงแรมที่ปราศจากการจัดระเบียบ ไปจนถึงข้อกล่าวหาว่าบริษัททำให้สถานการณ์ที่พักอาศัยขาดแคลนรุนแรงขึ้น

แม้กระนั้นข้อได้เปรียบประการหนึ่งคือ Airbnb หักส่วนแบ่งจากเจ้าของที่พักน้อยกว่า คือเพียงร้อยละ 3 เทียบกับเว็บไซต์ให้บริการจองห้องพักออนไลน์อย่าง Booking ที่ปกติจะหักร้อยละ 15

Airbnb อาจถูกกว่าคู่แข่ง แต่บริษัทยังไม่สามารถทำในสิ่งที่คู่แข่งทำได้ อัตราการเติบโตของ Booking Holdings เป็นผลมาจากการเข้าซื้อกิจการตามกลยุทธ์ธุรกิจ โดยตอนนี้บริษัทเป็นเจ้าของส่วนประกอบต่างๆ มากมายที่ Airbnb เพิ่งเริ่มสร้าง Booking มี Kayak สำหรับบริการจองตั๋วเครื่องบิน OpenTable สำหรับจองร้านอาหาร Rentalcars.Com

เขายืนยันว่าเป็นความแตกต่างของ Airbnb นั่นคือความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ “ผมคิดว่าศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงสำหรับ Airbnb ควรจะเป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และหาไม่ได้ที่ไหนจากอินเทอร์เน็ตต่อไป” Chesky กล่าว

ความพยายามในการขยายธุรกิจครั้งแรกของ Airbnb คือ Experiences เป็นการตีโจทย์ตลาดทัวร์นำเที่ยวที่แตกกระสานซ่านเซ็นแบบ Airbnb แต่ความจำเป็นที่ต้องมีการตรวจสอบหัวหน้าทัวร์ก่อนอนุมัติทัวร์ทำให้ Experiences เติบโตได้ช้า แต่ในปี 2018 เริ่มเห็นอัตราเติบโตเร่งตัวขึ้นหลังจากที่เมื่อ 2 ปีก่อน มีการจัดทัวร์ Experiences 500 รายการใน 12 เมือง ขณะนี้เพิ่มเป็น 15,000 รายการใน 800 เมืองทั่วโลก ถึงอย่างไรสถานการณ์อาจกำลังดีขึ้น Forbes คาดการณ์ว่า Experiences จะทำยอดขายที่ 90 ล้านเหรียญในปีนี้ซึ่งจะคิดเป็นส่วนแบ่ง 18 ล้านเหรียญสำหรับ Airbnb

สำหรับซีอีโอส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะนำบริษัทของตนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในระยะเวลาอันใกล้นักลงทุนจะเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขา แต่ Chesky ไม่เหมือนซีอีโอส่วนใหญ่ นอกจากดูแลนักลงทุนแล้ว Airbnb จะวัดความก้าวหน้าของบริษัทจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ได้แก่ พนักงาน แขก เจ้าของที่พักและเมือง Airbnb หวังว่านี่จะช่วยให้แผนงานพิเศษของบริษัทได้รับความเห็นชอบง่ายขึ้น

Chesky กล่าว “พวกเขาว่า ‘ผมต้องการดูแลผลประโยชน์ของสาธารณชน’ ‘ผมต้องการแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราดีสำหรับโลก’ แต่มาตรวัดอย่างเดียวที่พวกเขาพิจารณาระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริษัทคือมาตรวัดเกี่ยวกับยอดขายเป็นหลัก”

เป็นคำพูดที่ผิดธรรมเนียมสำหรับซีอีโอผู้ที่บริษัทของตนกำลังจะเข้าตลาด Airbnb ต้องการเป็นผู้วางกฎเอง แต่นักลงทุนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าพวกเขาพร้อมจะเล่นเกมนี้หรือไม่
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/news-detail.php?did=2443">Airbnb เปิดทิศทางธุรกิจปี 2018 กับการทำงานผ่านเทรนด์นักท่องเที่ยวยุคมิลเลเนียมกับเเนวคิด Sharing Economy</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="http://bit.ly/2zv4aIX">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มของ "ลูกเล่นใหม่ ยูนิคอร์นตัวเก่า" ได้จากนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2561</a>

<img class="alignnone size-full wp-image-2348" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018.jpg" alt="" width="250" height="328" />

ลูกเล่นใหม่ Airbnb ยูนิคอร์นตัวเก่าพลิกโฉมวงการที่พัก

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: Satra P./Property Perfect 
&nbsp; 
ในภาวะดอกเบี้ยต่ำ ค่าเงินเยนอ่อน และนักท่องเที่ยวไทยหลั่งไหลไปญี่ปุ่น บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางของไทย มองเห็นโอกาสทองใน &ldquo;น่านน้ำสีคราม&rdquo; เข้าครอบครองสกีรีสอร์ทบนเกาะ Hokkaido ทุ่มเงินปรับปรุงและสร้างเพิ่มให้เป็นที่พักตากอากาศหรูครบวงจรของชาวต่างชาติผู้พิสมัยบรรยากาศแดนอาทิตย์อุทัย 
&nbsp; 
เพียง 90 กิโลเมตร จากสนาม Chitose ทางเหนือของเกาะ Hokkaido เป็นที่ตั้งของ KIRORO Ski Resort สถานพักตากอากาศบนพื้นที่เกือบ 300 ไร่ แห่งขุนเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเนื้อละเอียดดุจผงแป้ง ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีหิมะคุณภาพดีที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่บอกต่อกันถึงความสวยงามอันตราตรึงใจ 
&nbsp; 
ความงามสุดลูกหูสูตาของหิมะขาวบริสุทธิ์ คือ โอกาสทองในน่านน้ำฟ้าสีคราม ที่ ชายนิด อรรถญาณสกุล (สกุลเดิม โง้วศิริมณี) ผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยกว่าสามทศวรรษมองเห็น 
&nbsp; 
&ldquo;ปัจจุบันใครลงทุนในสกีรีสอร์ทใหม่ใช้เงินไม่ต่ำกว่า... 5 พันถึงหนึ่งหมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับอสังหาฯ ประเภทอื่น และสร้างยากขึ้นเรื่อยๆ ต้องใช้ feature ขั้นสูงอย่าง ski lift หรือ heater ใต้หิมะ ซึ่งใช้พลังงานสูง สิ่งที่เราได้เปรียบเหมือน blue ocean คู่แข่งขันไม่มาก ใน Hokkaido มีแค่เรากับ Niseko เท่านั้น&rdquo; ชายนิด CEO แห่ง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) พูดถึงความคุ้มค่าของเงินลงทุน 1.9 พันล้านเยน หรือกว่า 600 ล้านบาท (ตามการประเมินของชายนิด) 
&nbsp; 
ปี 2555 จากแผนกลยุทธ์ขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ภายใต้บริษัทย่อยชื่อ Property Perfect International หรือ PPI ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นฐานสำหรับการลงทุนต่างประเทศในอนาคต 
&nbsp; 
&ldquo;ดีลนี้น่าสนใจและคุ้มค่า ราคาต่อห้องต่ำมาก ล้านกว่าบาทต่อห้อง 400 กว่าห้อง ใช้เงินไป 600 กว่าล้านบาท ได้ที่ดิน 300 ไร่ด้วย ราคาถูกมาก ซึ่งไม่มีทางได้ในการลงทุนแถบนี้ รวมทั้ง โครงการนี้ยังมี snow powder ที่ดีที่สุดในเอเชีย เราจึงใช้คำว่า best ski resort เพราะ snow powder ละเอียดอ่อนนุ่มมาก ต้องถือว่าเป็นระดับโลก&rdquo; 
&nbsp; 
หลังการเปลี่ยนเจ้าของ KIRORO สกีรีสอร์ทแห่งนี้มีสัดส่วนผู้เข้าพักชาวต่างชาติสูงขึ้นเป็น 30% จาก 7% แม้ผลการดำเนินงานของ KIRORO ในปี 2556 ซึ่งเป็นปีแรกหลังเปลี่ยนมือจะประสบภาวะขาดทุนกว่า 100 ล้านบาท แต่ยอดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในปี 2557 ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาท และรอดพ้นภาวะขาดทุน โดยบริษัทคาดว่ารายได้รวมจะเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาทในปี 2560 และจะคืนทุนได้ในปีนั้น 
&nbsp; 
ในอนาคตพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังวางแผนตั้งกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือ REIT มูลค่า 2.8-3 พันล้านบาท 
<hr />

	<a href="http://goo.gl/XTYH2N">อ่านฉบับเต็ม "สกีรีสอร์ทใน Hokkaido โอกาสทองของ Property Perfect" ได้ที่ Forbes Thialand ฉบับ MAY 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events