<h2 class="p1">‘ทีวี ไดเร็ค’ หรือ TVD ส่งสัญญาณยอดขายสินค้าเดือนเมษายนของช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้งและออนไลน์เริ่มฟื้น จากไตรมาสแรกที่โดนโควิด-19 พ่นพิษ เตรียมเปิดช่องทีวีโฮมช็อปปิ้งใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมเติมสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง</h2>
ธนะบุล มัทธุรนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่าน Omni Channel เปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาเริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการปิดร้านค้าปลีก โดยทีวีดี ช็อป (TVD SHOP) บางสาขาที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า รวมประมาณ 13 แห่ง
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเริ่มฟื้นตัว โดยการขายสินค้าช่องทางออนไลน์และรายการทีวีโฮมช็อปปิ้งเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากในช่วงที่มีการดำเนินมาตรการ Work From Home เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และการปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าเป็นการชั่วคราว ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มที่มีอายุ 35-40 ปีได้มากขึ้น
“เราตั้งเป้าผลักดันยอดขายสินค้าไตรมาส 2 ให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยบริษัทมีการปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เช่น การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และพิจารณาโอกาสขยายช่องทางขายสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งยอดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้” ธนะบุล กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ 3 ส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ ส่วนที่ 1 การขยายช่องทางแนะนำและขายสินค้า โดยในเดือนมิถุนายนนี้จะเปิดตัวช่องทีวีช็อปปิ้งที่ออกอากาศ 24 ชั่วโมงใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ช่อง หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาเปิดตัวแล้ว 3 ช่อง ซึ่งมากกว่าแผนงานเดิมที่วางไว้
โดยมองว่าเป็นจังหวะดีที่จะขยายช่องทางแนะนำและขายสินค้าทางทีวีในช่วงนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคและกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้าของทีวี ไดเร็ค 
ส่วนที่ 2 การเพิ่มสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไตรมาส 2 นี้ เตรียมเปิดตัวที่นอนเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ มุ่งเน้นเจาะลูกค้าระดับกลาง รวมถึงขยายไลน์สินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัยและของใช้ภายในบ้านที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เช่น เจลแอลอฮลล์ฆ่าเชื้อโรค ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว ลู่วิ่งและเครื่องออกกำลังกาย เป็นต้น 
และส่วนที่ 3 การจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยล่าสุดได้จัดแคมเปญใหญ่ ‘ทีวีไดเร็คครบรอบ 21 ปี’ ถึงวันที่  31 พฤษภาคมนี้ ลดราคาสินค้าสูงสุด 60% หรือเมื่อซื้อสินค้าครบ 2,100 บาท รับฟรีอุปกรณ์บริหารหน้าท้อง มูลค่า 1,990 บาท
และลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อสะสมสูงสุด (Top Spender) 21 รายแรกในช่วงระยะเวลาแคมเปญดังกล่าว ลุ้นรับฟรีเก้าอี้นวดและสินค้าอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 860,000 บาท เฉพาะการซื้อสินค้างทางออนไลน์เท่านั้น พร้อมขยายระยะเวลาส่งสินค้าฟรีไม่มีขั้นต่ำ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563
นอกจากนี้ได้เปิดตัวรายการแนะนำสินค้าใหม่ในรูปแบบ ‘ซิทคอม’ เรื่อง ‘ช่างรู้อยู่นี่’ ออกอากาศในช่องทีวีโฮมช็อปปิ้ง ได้แก่ ช่อง TVD 1 TVD 2 TVD 3 และสื่อโซเชียลมีเดีย ได้แก่ เฟซบุ๊ก: ช่างรู้อยู่นี่ ยูทูบ: Tv Direct และไลน์: @tvdirect
&nbsp;
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม <a href="https://forbesthailand.com/news/marketing/cpall-%e0%b9%84%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89-145856-%e0%b8%a5%e0%b9%89.html">CPALL ไตรมาสแรกฟันรายได้ 145,856 ล้านบาท กำไรสุทธิร่วง 2.2%</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<article id="post-29770" class="post-29770 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-marketing category-news tag-cp-all tag-5179 tag-4559 tag-4092">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</article>

ทีวี ไดเร็ค เผยยอดขายทีวีโฮมช็อปปิ้ง-ออนไลน์เริ่มฟื้น เตรียมเปิดช่องใหม่ มิ.ย.นี้

<h2 class="p1">บมจ. ทีวี ไดเร็ค เปิดตัวซีอีโอคนใหม่ “ธนะบุล มัทธุรนนท์” วางกลยุทธ์ 2563 เตรียมปรับโครงสร้างลดพนักงาน ลดต้นทุน ดันกำไรเพิ่ม</h2>
หลังขยับ “ทรงพล ชัญมาตรกิจ” ไปดำรงตำแหน่ง “กรุ๊ป ซีอีโอ” ซึ่งจะดูหลังบ้านและงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า B2B ของกรุ๊ป บอร์ดบริหารก็ได้มีมติแต่งตั้งลูกหม้อคนสำคัญ “ธนะบุล มัทธุรนนท์” ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD และยังรับผิดชอบบริหารบริษัท ทีวีดี ช้อปปิ้ง จำกัด โดยเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด TVD ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวซีอีโอคนใหม่ป้ายแดง พร้อมแถลงถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2563
ธนะบุล ฉายภาพให้เห็นว่า ภารกิจของปี 2563 ที่บอร์ดบริหารมอบหมายคือการผลักดันการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และกำไรของบริษัทเติบโตขึ้นจากปีก่อน ซึ่งกลยุทธ์หลักที่เขาวางไว้คือการปรับโครงสร้างลดพนักงานส่วนโอเปอเรชั่น นอกจากนี้ ยังมุ่งเป้าเพิ่มรายได้และกำไรโดยอาศัยโมเดล Omni Channel คือเพิ่มช่องทีวี, เพิ่มพนักงานขายผ่านคอลเซ็นเตอร์ outbound (โทรหาลูกค้า), รุกช่องทางออนไลน์ และรักษายอดขายผ่านทางร้านค้าปลีก (TVD Shop) และสื่อแคตตาล็อก


<figure><img class="size-full wp-image-25687" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/TVD02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ธนะบุล มัทธุรนนท์ ซีอีโอ บมจ.ทีวี ไดเร็ค</figcaption></figure>
“ผลประกอบการ 9 เดือนของปีที่ผ่านมา เราเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และกำไร ซึ่งเป็นผลมาจากการหามีเดียใหม่ๆ เข้ามาเสริม ส่งให้ยอดขายและกำไรทั้งช่องทางทีวีและออนไลน์มีการเติบโต”
ธนะบุล ระบุว่า รายได้ 9 เดือนของ TVD ในปีที่ผ่านมาโตในระดับ single digit สอดรับกับภาพรวมของตลาดทีวีช็อปปิ้งที่ปีที่ผ่านมามีมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปี 2561 ที่มีมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดช่องทีวีดิจิทัลที่กระทบต่อภาพรวมของตลาดทีวีช็อปปิ้ง

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/fabulous-40s-and-50s/%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b8%a5-%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%80.html">ทรงพล ชัญมาตรกิจ พลิกโฉม “จอร์จ-ซาร่า” ทะลุจอ</a></li>
</ul>
&nbsp;
<h2 class="p1">4 กลยุทธ์หลักของซีอีโอคนใหม่</h2>
ธนะบุล เปิดเผยถึงกลยุทธ์สำหรับการบริหารเพื่อสร้างการเติบโตให้กับ ทีวี ไดเร็ค ในปี 2563 โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ดังนี้
1.การปรับเพิ่มช่องทีวี จากปัจจุบันที่ทีวี ไดเร็ค มีการออกอากาศอยู่ใน 3 ช่อง คาดว่าจะเช่าช่องทีวีดาวเทียมอีก 3 ช่อง ซึ่งจะเป็นการออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ในปีนี้จะเพิ่มจำนวนพนักงานคอลเซ็นเตอร์ Outbound (โทรหาลูกค้า) ซึ่งเพิ่มจำนวนไปแล้ว 150 คนในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และยังมีแผนเพิ่มจำนวนอีก เพื่อสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าที่ TVD มีอยู่ 6 ล้านคน ต่อยอดไปสู่โอกาสในการขาย
2.การรุกช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางที่บอร์ดบริหารให้ความสำคัญ โดยปีที่ผ่านมาช่องทางนี้มีอัตราการเติบโต 30-40% ส่วนหนึ่งมาจากช่องทางออนไลน์ของ TVD ยังไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ทำให้การเติบโตมีอัตราสูงมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้มองว่า TVD ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
3.ปรับปรุงร้านขายปลีกและแคตตาล็อก ปัจจุบัน TVD มีหน้าร้านอยู่ราว 30-40 สาขา ซึ่งปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม แต่จะสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างแอปพลิเคชั่นที่ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าที่ไม่ได้มีอยู่ที่หน้าร้านได้ เป็นการเพิ่มสินค้าโดยที่ไม่ต้องเพิ่มพื้นที่ ทั้งยังสร้างประสบการณ์ที่ให้กับลูกค้าด้วย
4.ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของการทำงาน โดยมุ่งลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ซึ่งจะทำให้เกิดการลดพนักงานในส่วนโอเปอเรชั่น ทั้งนี้ ปัจจุบัน TVD มีพนักงานอยู่ 1,044 คน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น
<img class="alignnone size-full wp-image-25686" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/tvd03.jpg" alt="" width="720" height="480" />
ธนะบุล กล่าวว่า สำหรับในปีนี้ TVD ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 5-7% แต่ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดคือกำไร เนื่องจากค่าใช้จ่ายมีเดียลดลง ส่วนช่องทางออนไลน์คาดว่าปีนี้เติบโตขึ้นจนสามารถครองสัดส่วน 15-20% ของรายได้รวม จากเดิมที่ในปีก่อนมีสัดส่วนราว 10%
“ขณะที่ภาพรวมตลาดธุรกิจทีวีช็อปปิ้ง คาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตราว 3-5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงปัจจัยลบอื่นๆ เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเราเองก็ปรับตัวทั้งในแง่ของการจัดกรุ๊ปสินค้าให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และอีกส่วนคือการขยายเวลาผ่อนสินค้าให้มากขึ้น”
ธนะบุลทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของเขานอกเหนือจากการสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรแล้ว เขายังอยากมีแพลตฟอร์มการขายตัวเอง และอยากให้ผู้บริโภคนึกถึงทีวี ไดเร็คเป็นอันดับแรกในการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยในปีนี้ TVD เตรียมเปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่คือบริการแพคเกจโรงแรมที่พักด้วย
&nbsp;
Forbes Facts:

<ul>
 	<li class="p1">สัดส่วนรายได้ของ TVD นั้นมาจากทีวี 70%, คอลเซ็นเตอร์ 20% และออนไลน์ 10%</li>
 	<li class="p1">ช่องทางออนไลน์แบ่งสัดส่วนรายได้ 60% มาจากเว็บไซต์ของ TVD ขณะที่อีก 40% มาจากมาร์เก็ตเพลซ เช่น ลาซาด้า</li>
 	<li class="p1">ปัจจุบัน ทีวี ไดเร็คครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วนกว่า 20%</li>
 	<li class="p1">สินค้าขายดี 3 อันดับแรกของทีวี ไดเร็ค คือ เครื่องออกกำลังกาย, อาหารเสริม และสินค้าแฟชั่น</li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events