<h2>บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เดินหน้ากลยุทธ์ “Regional Player” เข้าซื้อกิจการ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่ครบวงจรรายใหญ่ในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท เปิดแผนสร้าง Synergy มุ่งเสริมความแข็งแกร่งแบรนด์เบทาโกรในตลาดสิงคโปร์ทั้งในช่องทางร้านค้าปลีกและขยายฐานลูกค้ากลุ่ม HORECA พร้อมยกระดับประสิทธิภาพและผลผลิตของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต วางเป้าหมายรายได้เบทาโกรในประเทศสิงคโปร์ปี 2568 โต 400% เมื่อเทียบกับปี 2567</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว ก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารในระดับภูมิภาคอาเซียนด้วยการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง โดยประเทศสิงคโปร์ถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้นโยบายด้านความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ตั้งเป้าผลิตอาหารภายในประเทศให้ได้ 30% ของความต้องการภายในปี 2573 ยังสนับสนุนการเติบโตของผู้ผลิตในประเทศเบทาโกร จึงเห็นโอกาสสำคัญในการเข้าซื้อกิจการบริษัท Eggriculture Foods Limited หรือ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่ครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,900 ล้านบาท โดยโครงสร้างของผู้ถือหุ้น เบทาโกรอยู่ที่ 75% และ Radiant Grand International Limited (RGI) อยู่ที่ 25%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ Eggriculture มีส่วนแบ่งตลาด 20% ณ สิ้นปีงบประมาณ 2567 อีกทั้งยังมีผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (2564-2566) อย่างแข็งแกร่ง โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ 27.1% ต่อปี (CAGR) ในปีงบประมาณล่าสุด จึงคาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลประกอบการรวม (P&amp;L) ในทันที และส่งผลดีต่อการเพิ่มความสามารถทำกำไรโดยรวมของกลุ่มบริษัทเบทาโกรอย่างมีนัยสำคัญ<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/GbYMUxnE3jchXm7CC9ym.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GbYMUxnE3jchXm7CC9ym.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายชยธร แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานกลยุทธ์และนวัตกรรม บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG&nbsp;กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการ Eggriculture ครั้งนี้ เป็นการนำศักยภาพของทั้งสองบริษัทฯ มาผนึกกำลังสร้าง Synergy ในหลายมิติ โดยเบทาโกรจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 57 ปี ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรชั้นนำระดับสากล มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของ Eggriculture ในด้านการจัดการฟาร์ม การพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ สูตรอาหารสัตว์ และการใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มผลผลิต นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการและรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากลให้กับผู้บริโภคทุกคน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่ครบวงจรรายใหญ่ในสิงคโปร์ ซึ่งมีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทั้งในช่องทางการขายปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) และช่องทางการบริการอาหาร (HORECA) ครอบคลุมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และบริการจัดเลี้ยง จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์สินค้าของเบทาโกรเป็นที่รู้จักและขยายฐานลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เบทาโกรเชื่อว่าการสร้าง Synergy กับ Eggriculture ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับภูมิภาคอาเซียน ผ่านการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้ผู้บริโภคในประเทศสิงคโปร์โดยบริษัทฯ คาดการณ์รายได้ในประเทศสิงคโปร์ปี 2568 จะเติบโต 400% เมื่อเทียบกับปี 2567 พร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายชยธร กล่าว<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/T3CmGniEviYf7ZQBHmyT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="T3CmGniEviYf7ZQBHmyT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มิสเตอร์ หม่า ชิน ชิว, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Eggriculture กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเบทาโกร และเป็นโอกาสสำคัญสำหรับ Eggriculture ในการเพิ่มศักยภาพการผลิตไข่ไก่ที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคสิงคโปร์ที่ต้องการอาหารคุณภาพและความปลอดภัย การที่เบทาโกรมีความรู้เชิงลึกและประสบการณ์ที่หลากหลายในอุตสาหกรรมอาหาร จะช่วยให้เราสามารถเสริมสร้างโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบสนองต่อนโยบายด้านความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาลสิงคโปร์ได้อย่างเต็มรูปแบบ” ภาพ :&nbsp;บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/haier-aims-2025-revenue-14000-million-baht-confident-air-conditioner-sales-has-growth-potential" alt="ไฮเออร์ ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 14,000 ล้าน มั่นใจตลาดยังมีโอกาสโตสูงอากาศเย็นไม่กระทบยอดขายแอร์"></a><a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/suphawit-saicheua-said-food-and-service-are-the-survival-of-thailand" alt="มุมมองจาก ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ‘อาหารและบริการ’ คือทางรอดไทย! หลังนโยบายทรัมป์สั่นคลอนระเบียบโลก">มุมมองจาก ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ‘อาหารและบริการ’ คือทางรอดไทย! หลังนโยบายทรัมป์สั่นคลอนระเบียบโลก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘เบทาโกร’ รุกตลาดอาหารสิงคโปร์  เข้าซื้อกิจการ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่รายใหญ่  มูลค่า 1,900 ล้านบาท ปักธงเป็น Regional Player

<h2>แสงทองสหฟาร์ม และสงวนฟาร์ม บริษัทผู้ผลิตไข่ไก่ของไทย 2 รายแรกที่เข้าร่วมโปรแกรม 'เครดิตไข่ไก่เคจฟรี' ช่วยหนุนธุรกิจอาหารและโรงแรมในประเทศให้ประสบความสำเร็จในพันธสัญญาการใช้ไข่ไก่คุณภาพ 100% จากการเลี้ยงไก่แบบไม่ขังกรงภายในสิ้นปี 2568 </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แสงทองสหฟาร์ม (STF) และสงวนฟาร์ม&nbsp;2 ผู้ผลิตไข่ไก่ของไทย ได้ร่วมเป็นผู้นำในการช่วยอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรมด้วยการเข้าร่วมโปรแกรม "อิมแพ็ค อินเซนทีฟ” (Impact Incentive) หรือ "เครดิตไข่ไก่เคจฟรี" ซึ่งเป็นโปรแกรมแรกของโลกที่ริเริ่มโดย โกลบอล ฟู้ด พาร์ทเนอร์ (GFP) โปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ แก้ไขปัญหาด้านการจัดหาไข่ไก่จากระบบการเลี้ยงไก่แบบไม่ใช้กรง (ไข่ไก่เคจฟรี)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ผู้ซื้อสามารถจัดหาไข่ไก่เคจฟรีชนิดเหลว (cage-free liquid eggs) จากผู้ผลิตทั้งสองรายนี้ในรูปแบบของ ‘เครดิตไข่ไก่เคจฟรี’ โดยผู้ซื้อสามารถชดเชยจำนวนการใช้ไข่ไก่เหลวแบบทั่วไป (จากระบบเลี้ยงในกรง) ด้วยการใช้ 'เครดิตไข่ไก่เคจฟรี' เพื่อทดแทน นอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนการจัดซื้อแล้ว ยังช่วยให้บริษัทบรรลุพันธสัญญาการใช้ไข่ไก่เคจฟรี และช่วยสนับสนุนเกษตรกรให้เพิ่มการผลิตไข่ไก่เคจฟรีอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นวัตกรรมนี้มีบทบาทสำคัญต่อบริษัทต่างๆ ที่พยายามทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เครดิตไข่ไก่เคจฟรี สามารถช่วยให้บริษัทก้าวข้ามอุปสรรคด้านข้อจำกัดของห่วงโซ่อุปทาน, ราคาการจัดหาที่สูง, และการจัดหาไข่ไก่เคจฟรี <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/7MYK4C51ouzhL18vT7Dz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,532px" data-align="center" data-file-name="7MYK4C51ouzhL18vT7Dz.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,532" data-origin="720px,532px" style="width: 720px; height: 532px;" data-index="0"></figure></div>​ ผู้นำด้านธุรกิจอาหารระดับโลกใช้เครดิตไข่ไก่เคจฟรี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เวลาใกล้หมดลงแล้วสำหรับธุรกิจอาหารและโรงแรมในประเทศไทยในการเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่เคจฟรี 100% ภายในสิ้นปี 2568 โปรแกรมอิมแพ็ค อินเซนทีฟ ของ โกลบอล ฟู้ด พาร์ทเนอร์ สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Unilever, Compass Group และ Krispy Kreme ได้ประกาศแล้วว่าจะใช้เครดิตไข่ไก่เคจฟรีในที่ที่เผชิญกับข้อจำกัดในการจัดหาไข่ไก่เคจฟรี เพื่อบรรลุเป้าหมายตามนโยบายของบริษัทภายในกำหนดเวลาปี 2568 ที่กำหนดไว้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การบรรลุพันธสัญญาการใช้ไข่ไก่เคจฟรีในประเทศไทยภายในปี 2568 นั้นเป็นไปได้อย่างแน่นอน” จายาซิมฮา นุกเกฮัลลี, ประธานเจ้าหน้าที่โครงการ กล่าว “เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำในธุรกิจอาหารและโรงแรมเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงไม่ว่าบริษัทจะเลือกใช้วิธีการจัดหาไข่ไก่เคจฟรีแบบรูปธรรมโดยตรง หรือ การใช้เครดิตไข่ไก่เคจฟรี หรือ การผสมผสานทั้งสองวิธีก็ตาม โปรแกรมอิมแพ็ค อินเซนทีฟ ของเราเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยประหยัดต้นทุนในการจัดหา อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น และช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร(CSR) และด้านความยั่งยืน” โปรแกรม อิมแพ็ค อินเซนทีฟ คืออะไร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โปรแกรม อิมแพ็ค อินเซนทีฟ หรือ เครดิตไข่ไก่เคจฟรี เป็นกลไกที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมายการใช้ไข่ไก่เคจฟรีได้ง่ายขึ้น โดยการซื้อเครดิตไข่ไก่เคจฟรีเพื่อทดแทนการใช้ไข่ไก่ทั่วไปจากระบบการเลี้ยงไก่แบบขังกรง หากบริษัทใดพบอุปสรรคด้านการจัดหาไข่ไก่เคจฟรี (ไข่สด ไข่เหลว หรือ ไข่แปรรูป) ก็สามารถซื้อไข่ไก่ธรรมดาจากซัพพลายเออร์เดิมได้ตามปกติและซื้อเครดิตไข่ไก่เคจฟรีเพื่อชดเชยจำนวนการใช้ไข่ไก่แบบธรรมดาเหล่านั้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิธีนี้จะทำให้ธุรกิจสามารถบรรลุพันธสัญญาได้ 100% โดยไม่กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและสัญญาที่มีอยู่กับซัพพลายเออร์เดิม อีกทั้ง โปรแกรมอิมแพ็ค อินเซนทีฟ ได้รับการรับรองจากองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ชั้นนำระดับโลก ทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือ ช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุพันธสัญญาด้านความยั่งยืนได้อย่างมั่นใจ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/bgiwYAsfofMo9bsdvC4T.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="bgiwYAsfofMo9bsdvC4T.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ผลดีต่อธุรกิจอาหารและโรงแรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การใช้เครดิตไข่ไก่เคจฟรี ในธุรกิจอาหารและโรงแรม นับเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามพันธสัญญาได้ 100% โดยไม่กระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน แต่ยังเป็นการสนับสนุนสวัสดิภาพสัตว์และส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนให้กับผู้ผลิตไข่ไก่เคจฟรีในท้องถิ่น ส่งเสริมผู้ผลิตไข่ไก่เคจฟรีในประเทศไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โปรแกรมเครดิตไข่ไก่เคจฟรี ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ผลิตไข่ไก่ในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งผู้ผลิตไข่ไก่เคจฟรีจะนำเงินจากการขายเครดิตนี้ไปเพิ่มการผลิตไข่ไก่เคจฟรีให้มากขึ้นและยกระดับสวัสดิภาพสัตว์อย่างยั่งยืนในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แสงทองสหฟาร์ม (STF) และสงวนฟาร์ม ถือเป็นผู้ผลิตไข่ไก่ 2 รายแรกในประเทศไทย ที่เข้าร่วมโปรแกรมอิมแพ็ค อินเซนทีฟ ของโกลบอล ฟู้ด พาร์ทเนอร์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจอาหารและโรงแรมบรรลุเป้าหมายตามพันธสัญญานี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"โปรแกรมอิมแพ็ค อินเซนทีฟ (เครดิตไข่ไก่เคจฟรี) สร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกอย่างมากในการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ทั่วโลก ทั้งยังเป็นการช่วยขยายการผลิตและทำให้จำนวนไข่ไก่เคจฟรีในโลกนี้มีเพิ่มมากขึ้น” ธนาวุฑ เอื้อละพันธ์ กรรมการบริหาร แสงทองสหฟาร์ม (STF) ในเครืออัครา กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/FbRUt5KgkLuinYhBe2bd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="FbRUt5KgkLuinYhBe2bd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp; &nbsp; ด้าน สาธิต เครือรัฐติกาล ผู้จัดการทั่วไป สงวนฟาร์ม กล่าวว่า “โปรแกรมเครดิตไข่ไก่เคจฟรีของโกลบอล ฟู้ด พาร์ทเนอร์ เป็นระบบที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตอย่างแท้จริง โปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถขยายการผลิตไข่ไก่เคจฟรีได้อย่างมั่นใจมากขึ้นแต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน” <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/X5r3oFiaSCQ6i4JBjuni.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="X5r3oFiaSCQ6i4JBjuni.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ ทางโกลบอล ฟู้ด พาร์ทเนอร์ ได้จัดการฝึกอบรมและให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติแก่ทั้งสองฟาร์ม โดยเฉพาะในด้านการดูแลไก่ในฟาร์ม การจัดการฟาร์ม และการรักษามาตรฐานของสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและตอบสนองความต้องการของตลาด เริ่มต้นการจัดหาไข่ไก่เคจฟรีได้อย่างไรบ้าง?&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มีหลากหลายวิธีที่ธุรกิจอาหารและโรงแรมสามารถบรรลุพันธสัญญาไข่ไก่เคจฟรีได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาไข่ไก่เคจฟรีแบบรูปธรรมโดยตรง หรือ การใช้เครดิตไข่ไก่เคจฟรีในที่ที่มีอุปสรรคด้านการจัดหา หรือใช้ทั้งสองวิธีร่วมกัน สิ่งสำคัญคือการเร่งดำเนินการเพื่อให้สวัสดิภาพสัตว์เป็นไปตามมาตรฐานและไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับกลุ่มเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่&nbsp;pawitra@globalfoodpartners.com พร้อมเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม อิมแพ็ค อินเซนทีฟ (เครดิตไข่ไก่เคจฟรี) ได้ที่ https://globalfoodpartners.com/incentives; https://www.youtube.com/watch?v=QUW3K5xohUs&amp;t=1s เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/eka-global-opens-new-factory-in-india" alt="‘เอกา โกลบอล’ ยึดหัวหาด ‘อินเดีย’ เปิดโรงงานปูทางเข้าตลาดหุ้นภารตะ">‘เอกา โกลบอล’ ยึดหัวหาด ‘อินเดีย’ เปิดโรงงานปูทางเข้าตลาดหุ้นภารตะ</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

2 ผู้ผลิตไข่ไก่ร่วมโปรแกรม 'เครดิตไข่ไก่เคจฟรี' หนุนธุรกิจอาหารและโรงแรมใช้ไข่คุณภาพ 100% ภายในปี 68

เรื่อง: ชญานิจฉ์ ดาศรี ภาพ: จันทร์กลาง กันทอง

ฟาร์มปศุสัตว์ขนาด กว่า 3,000 ไร่ที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม แหล่งเพาะเลี้ยงทั้งไก่ไข่ เป็ดไข่ และปลาน้ำจืด คือส่วนหนึ่งของฐานธุรกิจที่ฟูมฟักให้ บริษัท เกษมชัยฟาร์มกรุ๊ป จำกัด หรือ KCF ที่ปัจจุบันมี โกญจนาท ศรมยุรา กรรมการผู้จัดการวัย 36 ปี ทายาทรุ่นสองผู้เป็นบุตรชายคนกลางในบรรดาพี่น้อง 3 คน ของ เกษม ศรมยุรา ผู้เป็นบิดา ที่ตั้งไข่กิจการด้วยการทำฟาร์มเลี้ยงเป็ดไข่เมื่อปี2519

“ใน บรรรดาพี่น้องทุกคนกลับมาทำงานให้ที่บ้านหมดเลย ไม่มีใครไปเป็นลูกจ้างบริษัทอื่น เชื่อกันว่ามาเรียนรู้จริงกับธุรกิจที่บ้านเลยไม่ต้องไปหาประสบการณ์ที่อื่น พอมาทำก็สนุกขึ้นเรื่อยๆ อยากเห็นการเติบโตของธุรกิจ”

ปัจจุบัน โกญจนาท และพี่ชายคือ เกรียงศักดิ์ ศรมยุรา ผู้รับหน้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดด้านบัญชีและการเงิน (CFO) คือผู้บริหารหลักที่ร่วมแรงกันผลักดันการเติบโตของธุรกิจที่สร้างยอดขาย เพิ่มขึ้นโดยโดยปี2559 มียอดขาย 4 พันล้าน โดยมีเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทภายในไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า

“ธุรกิจเราเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% แต่ปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดดถึง 30%” โกญจนาท ย้ำทิศทางการขยายตัวของธุรกิจ เกษตรชัยฟาร์มกรุ๊ป ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มเกษมชัยฟาร์มดำเนินการผ่าน 14 บริษัท ในเครือที่แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก หนึ่งคือปศุสัตว์ที่มีทั้งฟาร์มไก่ไข่และเป็ดไข่ สองคือประมงน้ำจืด และสามคือบริการ

<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/ART-KCF-3624-01.png" alt="" />
ทั้งนี้ปัจจุบันรายได้หลักของเกษมชัย-ฟาร์มกรุ๊ป มาจากธุรกิจไข่ไก่ราว 50% ของรายได้ทั้งหมด แล้วจึงตามด้วยธุรกิจไข่แปรรูป เนื้อปลาแปรรูป และปลาสดจากฟาร์ม ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้บริษัท โดยบริษัทมีรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์ไข่และปลาน้ำจืดไปยังประเทศต่างๆ

ด้วย กลยุทธ์ในการขยายฐานการผลิตของสินค้าต่างๆ ปัจจุบัน และการเพิ่มเติมสินค้าใหม่ๆ ในอนาคต ทั้งการนำเข้า การจ้างผลิต และควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ของ KCF ให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภควงกว้างมากขึ้น เพื่อทำให้เกษมชัยฟาร์มกรุ๊ปมีรายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า

“ถ้า เราจะทำเองทุกอย่างคงไม่สามารถทำยอดขายถึง 1 หมื่นล้านตามที่ตั้งเป้าไว้ได้แน่ เพราะถ้าจะเพิ่มยอดขายทีละ 5 พันล้านก็ต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาทภายใน 3 ปีคงไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องพึ่งพารายได้จากสินค้าที่จ้างผลิตและที่นำเข้าจากต่างประเทศมาขาย ด้วย”

แต่เส้นทางที่เขามุ่งหวังเพื่อไปแตะรายได้เพื่อให้ถึง ยอดขาย 1 หมื่นล้าน นั้นหนักหนาเนื่องจากปัจจุบันสินค้าของบริษัทยังเสียเปรียบคู่แข่งรายใหญ่ คือ CP และ Betagro ในเรื่องช่องทางจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วถึงกว่าและการรับ รู้เรื่องแบรนด์ เขาจึงเลือกสร้างแบรนด์ผ่านกลยุทธ์เกษตรท่องเที่ยวโดยใช้พื้นที่ของฟาร์มที่ เลี้ยงไก่แบบปล่อย (free-range chicken) เปิดให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวได้พาเด็กๆ มาสัมผัสประสบการณ์ของการเลี้ยงไก่ และจัดตั้ง บริษัท เคซีเอฟ ดีสทริบิวชั่น จำกัด เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการกระจายสินค้าของเกษมชัยฟาร์มกรุ๊ป ให้เข้าถึงมือผู้บริโภคมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/ART-KCF-8962-01.png" alt="" />
อย่างไรก็ตาม โกญจนาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ KCF ว่าทุกวันนี้ชื่อเสียงของ KCF ยังสามารถติดสามอันดับแรกของสินค้าไข่ไก่อยู่แล้ว ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ KCF เป็นที่ยอมรับนั้น คือกระบวนการและคุณภาพกับมาตรฐานสากลต่างๆ ที่ได้รับ

“ถ้า แบรนด์เราดีจริงเป็นที่ต้องการของลูกค้า เขาก็ไม่กล้าเขี่ยสินค้าของเราออกเพราะต่อให้ทุ่มโฆษณาแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีของ ไปวางขายก็ไม่มีประโยชน์” โกญจนาท กล่าว

ทั้งนี้ เกษมชัยฟาร์มกรุ๊ป ก็มีแผนนำบริษัทในเครือ 2 บริษัทเข้าจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต คือ บริษัท เค ซี เอฟ โพรเซสซิ่ง แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งอยู่ในธุรกิจปลาน้ำจืดและธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (biogas) ในนาม บริษัท เคซีเอฟ พลังงานสีเขียว จำกัด ที่ปัจจุบันผลิตไฟฟ้าได้ราว 8 เมกะ-วัตต์ต่อเดือน โกญจนาทให้เหตุผลที่นำบริษัทในเครือสู่ธุรกิจมหาชนว่า จุดประสงค์หลักคือระดมทุนมาหนุนให้ธุรกิจเติบโต แต่ไม่ได้รีบร้อน

<iframe id="instagram-embed-0" class="instagram-media instagram-media-rendered" src="https://www.instagram.com/p/BGMW7QcQ3Ni/embed/?cr=1&amp;v=7&amp;wp=350&amp;rd=http%3A%2F%2Fforbesthailand.com&amp;rp=%2Fentrepreneurs-detail.php%3Fdid%3D951#%7B%22ci%22%3A0%2C%22os%22%3A954.6700000028068%7D" height="554" frameborder="0" scrolling="no" allowfullscreen="allowfullscreen" data-instgrm-payload-id="instagram-media-payload-0" data-mce-fragment="1"></iframe>

<hr />

<a href="http://goo.gl/lvtWCi">คลิ๊กเพื่ออ่าน "รุ่น 2 เกษมชัยฟาร์ม ฟูมฟักธุรกิจหมื่นล้าน" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ APRIL 2016</a>
<a href="http://goo.gl/lvtWCi"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/COVER-Resize.png" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events