<h2>เป็นแม่ทัพหญิงคนแรก และเป็นผู้บริหารไทยคนแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจมายาวนานกว่า 50 ปี ย่อมมีความน่าสนใจ และการก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้ นพมาศ ปิยะธำรงชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิทิชีโน (ประเทศไทย) จำกัด มีความโดดเด่นทั้งในแง่การรับมือกับวิกฤตและการบริหารจัดการที่ก้าวข้ามอุปสรรคสู่การปรับองค์กรและวิธีทำงานใหม่ ซึ่งนอกจากยอดขายไม่ตกแล้ว เธอยังทำให้การบริหารจัดการทำได้รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ทำงานกับ BTicino มา 13 ปี เริ่มต้นจากบริหารการขายก่อนจะขึ้นมาเป็นกรรมการผู้จัดการได้ 3 ปี” นพมาศเผยประสบการณ์ของเธอในบิทิชีโน ประเทศไทย บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสวิตช์และปลั๊กไฟแบรนด์ดังจากอิตาลี บิทิชีโน (BTicino) ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทหนึ่งในเครือเลอกรองด์ (Legrand) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นพมาศก้าวสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บิทิชีโน ไทย ตอนอายุ 38 ปี ถือเป็นนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็ว เธอเผยว่า กว่า 3 ปีในบทบาทผู้บริหารภารกิจหนักขึ้นต้องมีมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ใช่แค่การขายหรือทำรายได้เพียงอย่างเดียว เพราะนโยบายบริษัทแม่มีแนวทางชัดเจนเรื่องการทำธุรกิจต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน ซึ่งชัดเจนมาตั้งแต่แรกและตลอดห่วงโซ่การผลิตไปจนถึงการทำตลาด เติบโตคู่ความยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บริษัทแม่ที่ฝรั่งเศสให้ความสำคัญเรื่อง sustainability อย่างมาก กำหนด KPI หลายข้อ เช่น การผลิตในโรงงานลดใช้พลาสติกลงได้เท่าไร แม้เราทำปลั๊กไฟซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติกก็ต้องลดให้ได้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้น โรงงานก็ต้องปรับตัวและพยายามหาวัสดุอื่นมาใช้ หรือทำกระบวนการรีไซเคิลเพื่อลดการใช้พลาสติกลงให้ได้ นพมาศสรุปคร่าวๆ ถึงนโยบายองค์กรที่มาจาก Legrand บริษัทแม่สัญชาติฝรั่งเศสซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ปารีส&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความเข้มงวดนี้ไม่ได้ดูเฉพาะการผลิต แต่พิจารณาตรวจสอบมาตั้งแต่การออกแบบ “เวลาไทยจะผลิตโปรดักต์ตัวหนึ่งออกมาต้องทำแผนและรายงานเรื่องความยั่งยืนเป็นมิตรกับโลกให้บริษัทแม่ซึ่งจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอนุมัติก่อนจึงจะเริ่มการผลิตได้” เป็นอีกวิถีการทำงานที่เข้มงวดสไตล์ยุโรป ด้วยเหตุนี้นพมาศย้ำว่า สินค้าของบิทิชีโนทุกตัวจึงมั่นใจได้ว่ามีคุณภาพ ปลอดภัย เป็นมิตรกับโลกและสิ่งแวดล้อม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/wf9CBgErtab5JhUAciRm.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wf9CBgErtab5JhUAciRm.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่เพียงกำกับดูแลเรื่องโปรดักต์ใหม่ มาตรฐานของ Legrand Group ยังวางแนวทางชัดเจนเรื่องคุณภาพชีวิตของพนักงาน มีการกำหนดเป็นแนวทางว่าต้องไม่ให้พนักงานทำงานหนักเกินไป ดังนั้น ชั่วโมงการทำงานรวมโอทีและอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 7-8 ชั่วโมงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG: Environment, Social, Governance ที่ครอบคลุมทั้งมิติการใช้ชีวิตและสิ่งแวดล้อม โอกาสในวิกฤต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นพมาศเล่าว่า วันที่เผชิญวิกฤตทีแรกก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เพราะตอนนั้นเธอเพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารไม่นานนักก็อยู่ในช่วงโควิดพอดี ซึ่งขณะนั้นบริษัทแม่มีนโยบายให้ทีมงานในแต่ละภูมิภาคได้มีโอกาสขึ้นมาเป็นผู้บริหาร ซึ่งนอกจากเป็นผู้บริหารในภูมิภาคคนแรกแล้ว ยังเป็นผู้หญิงคนแรกในกรุ๊ปผู้บริหารระดับท้องถิ่นจากหลายประเทศ ซึ่งแต่ก่อนผู้บริหารระดับนี้ล้วนเป็นต่างชาติและเป็นผู้ชาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“แน่นอนช่วงโควิดย่อมมีผลต่อยอดขาย แต่การปรับตัวปรับกลยุทธ์รองรับได้ทำให้เราพบแนวทางใหม่ๆ และที่สำคัญเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะยังมีตลาดส่งออกซึ่งมีดีมานด์อยู่ไม่น้อย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยความที่อุปกรณ์ของบิทิชีโนคือปลั๊กไฟและอุปกรณ์เกี่ยวกับไฟที่เป็นงานปิดจบเพื่อส่งมอบลูกค้าทำให้บริษัทมีงานเข้ามาต่อเนื่อง เพราะโครงการต้องทำให้เสร็จถึงจะโอนให้ลูกค้าได้ทำให้บิทิชีโนมีงานต่อเนื่องไม่ได้หดหาย แต่บริษัทก็ต้องเปลี่ยนระบบการทำงานเพื่อไม่ให้กระทบธุรกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นพมาศบอกว่า การบริหารในช่วงวิกฤตนั้นช่วยให้บริษัทสามารถทรานส์ฟอร์มธุรกิจมาสู่ออนไลน์ได้เร็วขึ้น ที่สำคัญประเทศไทยไม่ได้ทำโดยลำพัง เนื่องจาก Legrand Group บริษัทแม่ก็มองเห็นปัญหาเช่นเดียวกันจึงมีการทำสื่อการตลาดที่เป็นเวิลด์ไวด์เพื่อเป็นข้อมูลให้บริษัทในเครือทุกประเทศนำไปใช้ได้ จึงทำให้การทำตลาดออนไลน์และการตลาดดิจิทัลต่างๆ ทำได้อย่างสมบูรณ์ เติบโตต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญสถานการณ์โควิดแต่นพมาศย้ำว่า รายได้บิทิชีโนยังคงเติบโตด้วยสัดส่วนเดิมคือ ลูกค้าในประเทศไทย 70-75% ที่เหลืออีกราว 25-30% เป็นตลาดส่งออก และผลการดำเนินงานโดยภาพรวมมีการเติบโตทุกปี โดยในปี 2566 ยอดขายเติบโต 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และบริษัทแม่ Legrand Group ที่ฝรั่งเศสก็เช่นเดียวกัน ในปี 2566 มียอดขายรวมกว่า 3 แสนล้านบาท หรือราว 8.3 พันล้านยูโร เป็นรายได้จากทั่วโลกที่มีสินค้าของกลุ่มเข้าไปจำหน่ายใน 170 ประเทศ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/8EQftbmNJRua73jz12Ms.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8EQftbmNJRua73jz12Ms.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนจบการพูดคุยวันนั้นเรามีคำถามสุดท้ายว่า นพมาศมองบทบาทตัวเองอย่างไร? เธอตอบแทบไม่ต้องคิดว่า “เป็นคนที่เปิดกว้างรับฟังทุกเรื่องจากทีมงาน พร้อมรับฟังและนำไปใช้ ประตูห้องทำงานเปิดตลอดเวลา” เธอหมายความว่า รับฟังได้ทุกเรื่องทั้งดีและไม่ดี อยากให้ทีมงานเข้ามาแลกเปลี่ยนและมีส่วนร่วมก้าวเดินไปด้วยกัน ภาพ : API ​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/world/america/chrissy-taylor-driving-force-of-enterprise-mobility" alt="Chrissy Taylor พลังขับเคลื่อนแห่ง Enterprise Mobility">Chrissy Taylor พลังขับเคลื่อนแห่ง Enterprise Mobility</a>​ ​<a target="_blank" href="https://www.mebmarket.com/ebook-324639-Forbes-Thailand-October-2024" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/mjwECCEF6Lir3QT1ERKF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="mjwECCEF6Lir3QT1ERKF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,394" style="" data-index="2"></figure></div>​

นพมาศ ปิยะธำรงชัย แม่ทัพหญิงคนแรก BTicino ไทย

10 อันดับ สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2023

เจาะลึก LGBTQ+ อนาคตการท่องเที่ยวสำหรับทุกคน

นักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสหรัฐฯ ตอนที่ 1

<h2>เพิ่มความมั่นใจในทุกรอบเดือนไปกับ&nbsp;Forbes 30 Under 30 บทความนี้เรามาพร้อมกับคำอธิบายที่สั้น กระชับ ได้ใจความ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เหล่านักธุรกิจหญิงคนรุ่นใหม่ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์สาวๆ โดยเฉพาะ ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายและสุขอนามันในช่วงเวลาที่มี "รอบเดือน"&nbsp;</h2>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/btznSELYPUAg3ZrrGyhK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="btznSELYPUAg3ZrrGyhK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div>ซ้าย: Jamie Norwood ผู้ร่วมก่อตั้ง Stix</div></figcaption></figure></div>Jamie Norwood อายุ 29 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง STIX &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แบรนด์สินค้าสุขอนามัยการเจริญพันธุ์ของ Norwood (ระดมทุนได้ 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จัดจำหน่ายชุดทดสอบการตั้งครรภ์ การตกไข่ และการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI) ผ่านออนไลน์ให้กับลูกค้ากว่า 100,000 ราย Stix แจกยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้กับผู้หญิงที่มีฐานะยากจนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหลังศาลมีคำพิพากษาในคดี Roe v. Wade <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/wMcmT1SBgVs7Mf3MbCH9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wMcmT1SBgVs7Mf3MbCH9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"><figcaption><div style="text-align: center;">ซ้าย:&nbsp;Bunny Ghatrora&nbsp;ผู้ร่วมก่อตั้ง BLUME</div></figcaption></figure></div>​Bunny Ghatrora อายุ 28 ปีผู้ร่วมก่อตั้ง BLUME&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คุณต้องเจอกับปัญหาเมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่วัยสาวไหม? Blume ผลิตผ้าอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ทำความสะอาดผิวหน้า และรักษาสิวสำหรับสาวรุ่นที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย Blume ระดมทุนได้ 5 ล้านเหรียญ โดยบริษัทมีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 14 ล้านเหรียญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" style="width: 75%; min-width: 100%;" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/LAqhZJqj361KGyprxJ4f.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="LAqhZJqj361KGyprxJ4f.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," style="width: 100%;" data-index="2"><figcaption><div>Claire Coder ผู้ก่อตั้ง Aunt Flow</div></figcaption></figure></div>Claire Coder อายุ 25 ปี ผู้ก่อตั้ง AUNT FLOW&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้หญิงวัยมีประจำเดือนหลายล้านคนโล่งใจขึ้นเมื่อ Google, Netflix และบริษัทอื่นๆ อีก 500 แห่งว่าจ้างบริษัทใน Columbus, Ohio อย่าง Aunt Flow ให้ติดตั้งเครื่องจ่ายผ้าอนามัยและผ้าอนามัยแบบสอดฟรีในห้องน้ำบริษัทของตน Aunt Flow ระดมเงินทุนได้ 13 ล้านเหรียญ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/yzmCrFZaaDek8iS88Gm3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yzmCrFZaaDek8iS88Gm3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"><figcaption>Greta Meyer และ&nbsp;Amanda Calabrese&nbsp;ผู้ร่วมก่อตั้ง Sequel</figcaption></figure></div>Greta Meyer อายุ 25 ปี Amanda Calabrese อายุ 25 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง Sequel &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บัณฑิตสาขาวิศวกรรมศาสตร์จาก Stanford คู่นี้กำลังใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 5 ล้านเหรียญคิดค้นผลิตผ้าอนามัยขึ้นมาใหม่เป็นแบบสอดรูปทรงกรวยที่สามารถรองรับประจำเดือนได้ทั่วถึงมากขึ้น คาดว่าผ้าอนามัยแบบใหม่นี้จะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ภายในปีนี้ เรื่อง: 30 Under 30 โดย: KRISTIN STOLLER&nbsp;เรียบเรียง: ริศา ภาพประกอบ: Diego Patino&nbsp; อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/technology/neil-davidson-%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99-coda-payments-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81" alt="Neil Davidson ดัน Coda Payments สำหรับเกมออนไลน์รุกตลาดใหม่ทั่วโลก">Neil Davidson ดัน Coda Payments สำหรับเกมออนไลน์รุกตลาดใหม่ทั่วโลก</a> <a href="https://forbesthailand.com/world/technology/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%8C" alt="ต่อท่อเชื่อมคลาวด์"></a><hr class="__se__solid">​<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/1381118a-b359-4419-b6ed-b94da33a06cc/april-2023" alt="คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine</a>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/kmGWmjftq8gTEYZPwnBF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="kmGWmjftq8gTEYZPwnBF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="150,197" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="4"></figure></div>

"นักธุรกิจหญิง" คนรุ่นใหม่กับผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์สาวๆ ในช่วงมี "รอบเดือน"

10 สุดยอด "หญิงแกร่ง วัย 50 ปี แห่งเอเชีย" ประจำปี 2023

นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งเอเชีย ประจำปี 2021

<h2>Forbes นำเสนอรายชื่อ 100 สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 7 ประจำปี 2021 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดร้อยละ 31 จากปีก่อน</h2>
หลักการของ “Self-Made” คือ การสร้างฐานะด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดความมั่งคั่งหรือต่อยอดความมั่งคั่งที่มีอยู่ อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าจะใช้คำว่า “Self-Made” หรือ “สร้างฐานะด้วยตัวเอง” ก็ตาม แต่การสร้างรายได้จากกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อสร้างธุรกิจก็ถูกนับรวมเช่นกัน 

โดยในปีนี้ เกณฑ์การจัดอันดับอยู่ที่ 225 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 115 ล้านเหรียญในปีก่อน นำโดย 26 เศรษฐินีพันล้าน ซึ่งรวมถึงนักร้องชื่อดัง Rihanna และ Anne Wojcicki แห่ง 23andMe ขณะที่ 2 ใน 3 จาก 100 ผู้ประกอบการหญิงล้วนดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทต่างๆ และอีก 15 ราย คือ ผู้ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ทำเนียบการจัดอันดับเป็นครั้งแรก อาทิ นักร้องและนักลงทุน Dolly Parton และอดีตนางแบบ Cindy Crawfor

10 อันดับ สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2021 ได้แก่

<img class="alignnone size-full wp-image-49117" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/1.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 1 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/diane-hendricks/?list=self-made-women&amp;sh=4bdbddb45c8a">Diane Hendricks</a>

วัย: 74 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 1.1 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: วัสดุและของแต่งบ้าน 

<img class="alignnone size-full wp-image-49118" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/2.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 2 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/judy-faulkner/?list=self-made-women&amp;sh=4223a18933b8">Judy Faulkner</a>

วัย: 77 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 6.5 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพ

<img class="alignnone size-full wp-image-49119" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-5e8b63cae2bb040006428af5-0x0.jpgbackground000000cropX10cropX24162cropY1394cropY24560.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 3  

<a href="https://www.forbes.com/profile/meg-whitman/?list=self-made-women&amp;sh=18a1657163cc">Meg Whitman</a>

วัย: 65 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 6.3 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์

<img class="alignnone size-full wp-image-49121" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-5b3fa7d1a7ea4341970ddbf3-0x0.jpgbackground000000cropX145cropX21128cropY183cropY21167.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 4   

<a href="https://www.forbes.com/profile/judy-love/?list=self-made-women&amp;sh=2f8f0bff4ecb">Judy Love</a>

วัย: 84 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 5.2 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ค้าปลีกและปั๊มน้ำมัน

<img class="alignnone size-full wp-image-49120" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/5.jpg" alt="" width="415" height="416" />

อันดับ 5 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/marian-ilitch/?list=self-made-women&amp;sh=566a93b31641">Marian Ilitch</a>

วัย: 88 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 4.4 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ร้านอาหาร

<img class="alignnone wp-image-49122 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/6.1.jpg" alt="สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา " width="416" height="416" />

อันดับ 6 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/johnelle-hunt/?list=self-made-women&amp;sh=722025957ec4">Johnelle Hunt</a>

วัย: 89 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 4.1 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: รถบรรทุก

<img class="alignnone wp-image-49124 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/6.2.jpg" alt="สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา " width="416" height="416" />

อันดับ 6  

Thai Lee

วัย: 62 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 4.1 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ

<img class="alignnone size-full wp-image-49123" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/8.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 8   

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/lynda-resnick/?list=self-made-women&amp;sh=5830c6891592">Lynda Resnick</a>

วัย: 78 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 4 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เกษตรกรรม

<img class="alignnone wp-image-49125 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-60f7355fc0b1bf1fe886f223-0x0.jpgbackground000000cropX11864cropX23045cropY1390cropY21571.jpg" alt="สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา " width="416" height="416" />

อันดับ 9   

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/gail-miller/?list=self-made-women&amp;sh=53e2420d7dd3">Gail Miller</a>

วัย: 77 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 3.2 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์

<img class="alignnone wp-image-49126 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/10.1.jpg" alt="สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา " width="416" height="416" />

อันดับ 10   

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/doris-fisher/?list=self-made-women&amp;sh=5b73448d325e">Doris Fisher</a>

วัย: 89 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 2.9 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เสื้อผ้า

<img class="alignnone wp-image-49127 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/10.2.png" alt="สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา " width="416" height="416" />

อันดับ 10   

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/alice-schwartz/?list=self-made-women&amp;sh=47d45e273ebd">Alice Schwartz</a>

วัย: 95 ปี

ทรัพย์สินสุทธิ: 2.9 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เทคโนโลยีชีวภาพ

แปลและเรียบเรียงจากบทความ America’s Richest Self-Made Women โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/การจัดอันดับ-50-มหาเศรษฐี-7.html">การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2564</a>

“America’s Richest Self-Made Women” สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2021

นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งเอเชีย ประจำปี 2020

พัฒนายนต์ชลบุรี (Patco Group) เริ่มต้นด้วยการจำหน่ายเครื่องยนต์การเกษตร เครื่องเรือประมง ก่อตั้งโดย “สุทิน-วิจิตรา สุขะมงคล” ปัจจุบันได้ส่งต่อธุรกิจสู่ทายาทรุ่น 2 ซึ่งแบ่งกันดูแลและสร้างธุรกิจที่ประกอบไปด้วย สืบวงษ์-ทองหล่อ-นวณัฐ โดยวิจิตรา ผู้เป็นมารดายังคงให้คำปรึกษาในฐานะประธานบริษัทและร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ซึ่งที่ดินที่วิจิตราสะสมมายาวนาน ยังมีอีกหลายผื่นที่ยังรอการพัฒนาและแปรเปลี่ยนเป็นขุมพลังสร้างอาณาจักรธุรกิจของตระกูลให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปในอนาคต

ฤทัยชนก จงเสถียร พลิกบทร้ายสู่ฟิล์มแรปโกกรีน - คลื่นลูกใหม่ในธุรกิจฟิล์มห่ออาหาร “M Wrap” กลับมุมคิดพลาสติกเชิงสร้างสรรค์ผ่านโครงการรีไซเคิลผลิตรองเท้าบู๊ตคืนประโยชน์สังคม พร้อมพัฒนานวัตกรรมไบโอฟิล์มและแปรรูปโพลิเมอร์ชั้นสูงเป็นไทเทเนียมฟิล์ม ควบคู่การปรับลุคแบรนด์ให้ทันสมัยด้วยการตลาดดิจิทัล สานต่อเจตนารมณ์ความยั่งยืนทางธุรกิจ

แดน ปฐมวาณิชย์ NRF ปรับโฉมอาหารเปลี่ยนโลก - โอกาสจากเมกะเทรนด์สู่การจับมือสตาร์ทอัพเดินเกมรุกธุรกิจฟู้ดเทคแปลงร่างพืชเป็นโปรตีนเนื้อสัตว์เทียม ส่งออกเจาะตลาดบลูโอเชียนพร้อมประกาศความมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ระบบนิเวศอุตสาหกรรมอาหาร และการเป็น “The Purpose-Led Company”

ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ขับเคลื่อน ACG ทะยานทั่วไทย - มิถุนายน 2562 บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ซึ่งถือหุ้นในบริษัทดีลเลอร์รถยนต์นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai และอีก 1 ปีต่อมาได้ย้ายหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นบริษัทดีลเลอร์รถยนต์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ทำได้สเร็จ ทั้งที่ในช่วงแรกตั้งบริษัทเมื่อ 26 ปีก่อนประสบปัญหาขาดทุนติดต่อกันถึง 13 ปี

ร.อ. ดร. ชาคริต ศึกษากิจ ปั้น รพ. เวชธานี สู่ King of Bone - บริษัท เวชธานี จำกัด (มหาชน) ย้อนกลับไปเมื่อปี 2533 หลังมองเล็งเห็นโอกาสของธุรกิจด้านการแพทย์และพยาบาล และได้ร่วมกับกลุ่ม แพทย์ พยาบาล ข้าราชการ นายธนาคาร นักธุรกิจ ก่อตั้งโรงพยาบาลเวชธานีขึ้นด้วยเงินลงทุนสูงถึง 1.5 พันล้านบาท บริหารธุรกิจก่อนประสบวิกฤตหนักในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 แม้เกือบจะถอดใจแต่ท้ายที่สุดเขาได้สร้าง โรงพยาบาลเวชธานี ให้โด่งดังและเป็นที่รู้จักสำหรับชาวตะวันออกกลางที่เข้ามารักษาตัวและสร้างจุดแข็งสำคัญเป็นโรงพยายาลที่เชี่ยวชาญด้านกระดูก

ภายในฉบับพบการจัดอันดับ “Asia’s Power Businesswomen 25 นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งเอเชีย” และร่วมอ่านบทความและเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก Forbes Thailand ฉบับพฤศจิกายน 2563

<img class="size-full wp-image-36834 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/FB090-EBOOK-RES150-8.jpg" alt="" width="600" height="788" />

<img class="size-full wp-image-36835 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/FB090-EBOOK-RES150-10.jpg" alt="" width="600" height="788" />

<img class="size-full wp-image-36836 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/FB090-EBOOK-RES150-12.jpg" alt="" width="600" height="788" />

นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2563 “LAND BILLIONAIRE “วิจิตรา สุขะมงคล” ผู้พิสมัยการสะสมที่ดิน”

"เวียดเจ็ทแอร์" เหินฟ้าจาก “บิกินี่” สู่ “คอนซูเมอร์แอร์ไลน์”

<h2>8 มีนาคม วันสตรีสากลของทุกปีเวียนมาอีกครั้ง Forbes Thailand ขอนำเสนอเหล่านักธุรกิจหญิงแกร่งของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นซีอีโอมือบริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ หรือทายาทธุรกิจที่สามารถกุมบังเหียนบริษัทได้ไม่แพ้ชาย</h2>
นิตยสาร Forbes Thailand มักนำเสนอเรื่องราวของ “ผู้หญิง” ในแวดวงธุรกิจ ภายใต้คอลัมน์ Power Women สร้างแรงบันดาลใจถึงความสามารถของนักธุรกิจสตรีที่บริหารงานได้ไม่แพ้ชายใด และนี่คือตัวอย่างของ “5 นักธุรกิจหญิงแกร่ง” ใต้ฟ้าเมืองไทย ที่เราคัดเลือกมาให้ผู้อ่านได้รู้จัก ทั้งนี้ มิใช่การจัดอันดับ และรายนามด้านล่างนี้เรียงลำดับบุคคลตามตัวอักษร

&nbsp;
<h2>นงนุช บูรณะเศรษฐกุล
กรรมการผู้จัดการ
บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI)</h2>
<figure><img class="wp-image-5458 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/03/นงนุช-บูรณะเศรษฐกุล-OISHI.jpg" alt="" width="800" height="500" /><figcaption> "...สิ่งที่บริษัทมองว่าเป็นอนาคตคือ packaged food ที่น่าจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้เครือ OISHI เพราะมีแนวโน้มที่คนไทยจะบริโภคอาหาร packaged food มากขึ้น..." - นงนุช บูรณะเศรษฐกุล</figcaption></figure>

นงนุชเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้คุมงาน บมจ.โออิชิ กรุ๊ป ภายใต้ร่มเงาเครือไทยเบฟเวอเรจ และเธอได้รับตำแหน่งนี้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด เพราะไม่เพียงแต่เศรษฐกิจจะซบเซาลงเท่านั้น แต่ยังมีภาษีสรรพสามิตที่ถูกเก็บเพิ่มเติมรวมถึงภาษีความหวาน (sugar tax) ที่มีผลกระทบอย่างจังเข้ากับสินค้าชาเขียวในปี 2560

ทว่า นงนุชสามารถฝ่าฟันบททดสอบ และทำให้ชาเขียวโออิชิชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นได้ในปีที่มูลค่าตลาดชาเขียวพร้อมดื่มติดลบ ในฝั่งอาหารของโออิชิ นงนุชยังวางวิสัยทัศน์มุ่งเน้นด้านอาหาร packaged food ที่มองว่ามีแนวโน้มมาแรงในตลาด และจะเป็นขาที่แข็งแรงของบริษัทต่อไป

ก่อนจะมาร่วมงานกับเครือไทยเบฟฯ เธอยังเคยร่วมงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น บริษัท คอลเกต ปาล์ม-โอลีฟ จำกัด และ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม: <a href="http://forbesthailand.com/people/%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%8A-%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%99.html">นงนุช บูรณะเศรษฐกุล เข็น OISHI ขึ้น No.1 ในอาเซียน</a></li>
</ul>
&nbsp;
<h2>ปฐมา พรประภา
กรรมการผู้จัดการ
บมจ.ฐิติกร (TK)</h2>
<figure><img class="wp-image-5459 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/03/ปฐมา-พรประภา-TK.jpg" alt="" width="800" height="500" /><figcaption> "...เมื่อวันที่ครอบครัวประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ต้องให้ลูกๆ มาช่วย เลยตัดสินใจมาทำงานกับที่บ้านแทนที่จะไปอยู่กับสถาบันการเงินในต่างประเทศ..." - ปฐมา พรประภา</figcaption></figure>

ปฐมา เป็นทายาทรุ่น 4 ของพรประภา เธอจบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ได้มาสืบทอดธุรกิจของครอบครัวในทันที ปฐมาเลือกที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานในสถาบันการเงินอยู่หลายปี ก่อนที่จะกลับมาร่วมงานกับ TK บริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในปี 2544

ทายาทหญิงเข้ามาสานต่อวิสัยทัศน์ของ ชุมพล บิดาของเธอ ที่เล็งเห็นโอกาสในการพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นฐานทุนที่แข็งแกร่งให้กับบริษัท หลังจากที่ฐิติกรต้องผ่านช่วงเวลาวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 มา ซึ่งปฐมาสามารถพาบริษัทเข้าจดทะเบียนสำเร็จในปี 2546 ระดมทุนได้ 1.1 พันล้านบาท

ภารกิจต่อไปของเอ็มดี TK คือการขยายฐานลูกค้าออกไปสู่ประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ให้สำเร็จ
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม: <a href="http://forbesthailand.com/people/power-women/%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%B2-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87.html">ปฐมา พรประภา เร่งเครื่อง TK ปล่อยกู้แตะ 1.3 หมื่นล้าน</a></li>
</ul>
&nbsp;
<h2>ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด</h2>
<figure><img class="wp-image-5460 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/03/ดร.-สุทธาภา-อมรวิวัฒน์-SCB-Abacus.jpg" alt="" width="800" height="500" /><figcaption> "...เราไม่ได้มองว่า เรามีเทคโนโลยีอะไร แต่ตั้งต้นจากปัญหาหรือความไม่สะดวก (pain point) ของลูกค้าคืออะไร และเราต้องใช้เทคโนโลยีอะไรตอบโจทย์หรือแก้ปัญหานั้น..." - ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์</figcaption></figure>

ดร.สุทธาภา คือหนึ่งในขุมพลังเบื้องหลังการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของธนาคารอายุร่วมร้อยปีอย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ เธอเข้ามาร่วมงานกับไทยพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2553 เริ่มแรกจากการเป็นผู้บริหารสูงสุดของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ก่อนจะได้รับภารกิจเดินเกมรุกนวัตกรรมของธนาคาร โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี AI ช่วยต่อยอด

SCB Abacus ภายใต้การนำของ ดร.สุทธาภา มีโจทย์การพัฒนาคือการทำให้ธนาคารเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อนำมาใช้พัฒนาธุรกิจให้ทำงานได้รวดเร็ว ปลอดภัย และตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด

ทั้งนี้ ดร.สุทธาภา เป็นนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์จาก Harvard University และปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ การบริหารและนโยบาย จาก MIT สหรัฐอเมริกา
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม: <a href="http://forbesthailand.com/people/power-women/%E0%B8%94%E0%B8%A3-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2-%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C-scb-abacus-%E0%B8%9B.html">ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ SCB Abacus ปลดล็อก AI โลก</a></li>
</ul>
&nbsp;
<h2>สุนันทา สมบุญธรรม
ประธานกรรมการบริหาร
ธนิยะกรุ๊ป</h2>
<figure><img class="wp-image-5461 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/03/สุนันทา-สมบุญธรรม-ธนิยะกรุ๊ป.jpg" alt="" width="800" height="500" /><figcaption> "ความมั่งคั่งที่กระจายออกไปนั้นงอกงามกว่า อยู่ในธนาคารเงินก็เป็นแค่กระดาษการให้อะไรกลับคืนกับสังคมต่างหาก ที่จะทำให้เรายืนได้มั่นคง" - สุนันทา สมบุญธรรม</figcaption></figure>

สุนันทาเป็นทายาทรุ่น 2 ของตระกูลสมบุญธรรม และเป็นคนเดียวในหมูพี่น้องสี่คนที่ไม่ได้เรียนด้านการแพทย์ แต่เลือกเรียนด้านพาณิชยศาสตร์แทน โดยเธอจบปริญญาตรีจาก University College of Dublin ประเทศไอร์แลนด์ ก่อนไปต่อ MBA จาก Suffolk University สหรัฐอเมริกา

ว่าที่ทายาทธุรกิจสั่งสมประสบการณ์ทำงานกับ บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ราว 4-5 ปี ก่อนที่จะกลับมาช่วยสานต่อธุรกิจกลุ่มธนิยะ ซึ่งเธอเป็นผู้เสนอแนวความคิดกับคุณพ่อคุณแม่ว่าอาคารธนิยะ พลาซ่าที่จะสร้างใหม่นั้นควรมีส่วนรีเทลไว้ให้คนในอาคารได้จับจ่ายใช้สอย ในเวลาต่อมา เธอยังเป็นคนวางโครงการพลิกผืนดินไร่สับปะรดอันแห้งแล้งใน อ.ชะอำ ของครอบครัวให้เป็น สนามกอล์ฟ สปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี คลับ และพัฒนาศูนย์การค้ารักษ์โลก ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม:<a href="http://forbesthailand.com/people/power-women/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A.html"> สุนันทา สมบุญธรรม ผู้สืบสาน “ธนิยะกรุ๊ป”</a></li>
</ul>
&nbsp;
<h2>สุวรรณา พุทธประสาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH)</h2>
<figure><img class="wp-image-5462 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/03/สุวรรณา-พุทธประสาท-แลนด์แอนด์เฮ้าส์.jpg" alt="" width="800" height="500" /><figcaption> "...เราสนุกที่ได้เรียนรู้และติดตามสถานการณ์ เวลาเราจับเรื่องอะไร เราต้องรักในงานนั้นก่อนและพยายามครีเอท 1+1 ผลลัพธ์ต้องได้มากกว่า 2” - สุวรรณา พุทธประสาท</figcaption></figure>

ผู้บริหารหญิงแกร่งแห่งเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เธอคือลูกหม้อผู้ทำงานอยู่กับกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์มากกว่า 20 ปีก่อนจะเกษียณไปในปี 2558

แต่กระนั้นเอง ด้วยความสามารถของเธอทำให้ได้รับเทียบเชิญให้กลับมานั่งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของ LHMH เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยของบริษัท เช่น โรงแรมเชน แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์, เชนศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 และศูนย์การค้าใหญ่ในกรุงเทพฯ โซนตะวันออกอย่าง แฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะ พรอมานาด

ผลงานของสุวรรณาเป็นที่ประจักษ์มาตั้งแต่ก่อนเกษียณ โดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) มอบรางวัล Best CFO ของกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง และรับเหมา ให้กับสุวรรณาติดต่อกัน 3 ปีซ้อน (ช่วงปี 2013/14 ต่อเนื่องถึงปี 2015/16) นับได้ว่าเธอคือบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอย่างแท้จริงของวงการ
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม:<a href="http://forbesthailand.com/people/power-women/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%82.html"> สุวรรณา พุทธประสาท ปั้นโรงแรมแบรนด์ไทยเครือ LH</a></li>
</ul>
&nbsp;

Power Women: 5 นักธุรกิจหญิงแกร่ง ของเมืองไทย

<h2 class="p1">กว่า 3 ทศวรรษแล้วที่ Gail Miller เฝ้ามอง Larry สามีของเธอทำงานสัปดาห์ละ 100 ชั่วโมง และบางครั้งก็ไม่ได้กลับบ้านมาเจอลูกๆ ทั้งห้าคนเกือบทั้งเดือนในช่วงที่เขากำลังสร้างอาณาจักรธุรกิจ ซึ่งทุกวันนี้ประกอบด้วยศูนย์จำหน่ายรถยนต์ 60 แห่ง โรงภาพยนตร์ 16 โรง และทีมบาสเกตบอล Utah Jazz</h2>
Gail Miller เขียนว่า “ฉันมีชีวิตอยู่ใต้เงาที่ขยายใหญ่ขึ้นทุกวัน” ในหนังสือเล่มใหม่ของเธอที่ชื่อ Courage To Be You: Inspiring Lessons From An Unexpected Journey

เมื่อ Larry Miller เสียชีวิตในปี 2009 Gail เปลี่ยนสถานะจากแม่บ้านมาเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียวและประธานของ Larry H. Miller Group ซึ่งมีฐานอยู่ในเมือง Sandy รัฐ Utah

สตรีวัย 74 ปีผู้นี้ยังไปสำนักงานเกือบทุกวัน และเมื่อปีที่แล้วเธอรับประกันว่าทีม Jazz จะยังเป็นทีมของ Utah ต่อไปเรื่อยๆ โดยนำทีมเข้ากองทรัสต์เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมถูกขายจนต้องย้ายออกไปจากรัฐรวงผึ้งแห่งนี้

Miller กลายเป็นเศรษฐีรวยที่สุดของ Utah หลังจาก Jon Huntsman มหาเศรษฐีสารเคมีเสียชีวิตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เธอถือกำเนิดหลังจากเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ได้ไม่นาน และเติบโตในครอบครัวยากจนที่มีสมาชิก 10 คน เธอไม่เคยมีปริญญา และมีประสบการณ์ทำงานเพียงอย่างเดียวคือเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ซึ่งเป็นงานที่เธอยังทำต่อมาอีกหลายปี

<img style="width: 638px; height: 478px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c6361b0248c76d45bcd4205ea6c80d11.png" alt="" />
รัฐ Utah
ประชากร: 3.1 ล้านคน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมของรัฐ (GSP) ปี 2016: 1.56 แสนล้านเหรียญ (เติบโต 3%)
GSP ต่อหัว: 51,243 เหรียญ (อันดับ 29 จากทั่วประเทศ)
จำนวนมหาเศรษฐีพันล้าน: 1 คน
คนรวยที่สุด: Gail Miller
สินทรัพย์สุทธิ: 1.2 พันล้านเหรียญ
&nbsp;

<hr />

<a href="http://bit.ly/2Jqfqwo">คลิกอ่านความทางด้านธุรกิจ ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มิถุนายน 2561 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="http://bit.ly/2sscxRI"><img style="width: 250px; height: 328px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/f88efffd328103b25d80f6c20d7f1bea.jpg" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events