<h2>บุญถาวรเปิดแผนพลิกโฉม ‘บุญถาวร รัชดาภิเษก’ สู่ ‘Design Village รัชดา’ เผยก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 60% คาดพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายปี 2567 นี้ โดยมีแบรนด์ดังจองเช่าพื้นที่แล้วกว่า 50% อาทิ Iberry Group, Rolling Roaster, Hey Coffee, Luxoptic, Private Fitness, ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม ฯลฯ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บุญถาวร สาขารัชดาภิเษกเป็นสาขาแรกของบุญถาวร เราเติบโตมาพร้อมกับย่านรัชดาภิเษก มองเห็นความเจริญและความคึกคักกระจายเข้ามาสู่ย่านนี้หลังการมาของรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“จนปัจจุบันย่านรัชดาภิเษกกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ หรือ New CBD (Central Business District) ของกรุงเทพฯ ที่มีความพร้อมและศักยภาพ เป็นแหล่งที่ตั้งของอาคารสำนักงานจำนวนมาก ทั้งยังเป็นแหล่งที่พักอาศัยสำหรับผู้ที่ทำงานในย่านนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนี้ยังมีแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล หรือแม้แต่สวนสาธารณะ ถือเป็นย่านที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะพัฒนามากขึ้นอีกในอนาคต”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/LfZH5BptehzFYNobfFfZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="LfZH5BptehzFYNobfFfZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,240"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บุญถาวรยังได้ให้ความไว้วางใจอย่างสูงในการคัดเลือก บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกมารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดค้าปลีกและบริหารพื้นที่เช่าสำหรับโครงการ Design Village รัชดา ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดค้าปลีกและพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทย ทำให้ซีบีอาร์อีสามารถนำเสนอกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดร้านค้าปลีกเพื่อมาเข้าร่วมโครงการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร. จริยา ถ้ำตรงกิจกุล หัวหน้าแผนกค้าปลีกและกลุ่มงานบริหารธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ซีบีอาร์อีได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลการวิเคราะห์และการวิจัยเชิงลึกของตลาดค้าปลีก รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค มาช่วยวางแผนการจัดสรรพื้นที่และคัดเลือกร้านค้าต่างๆ เพื่อสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่เหนือระดับและตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความเป็น The Seamless Aspiring Destination ที่เชื่อมระหว่างความเป็นอยู่ (Living) และการใช้ชีวิต (Lifestyle) ให้เข้ากันอย่างลงตัว”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/EduepS6fwUDtUTGKLFC3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EduepS6fwUDtUTGKLFC3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยการศึกษาพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนทำงานและครอบครัววัยทำงานในย่านรัชดาภิเษก พบว่ากลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์ผสมผสานระหว่างการทำงานและการพักผ่อน โดยต้องการสถานที่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน รับประทานอาหาร พักผ่อน ช็อปปิ้ง และการดูแลสุขภาพ ได้ในพื้นที่เดียวกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทำให้บุญถาวรเล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่และโอกาสในการพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจ ประกอบกับความมุ่งมั่นในการตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนรุ่นใหม่และลูกค้าบุญถาวร ที่มีความพิถีพิถันและการใช้เวลาในการเลือกซื้อสินค้าที่นานขึ้น นำมาสู่การทุ่มงบ 700 ล้านบาท พลิกโฉมบุญถาวร สาขารัชดาภิเษกสู่ Design Village รัชดา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Design Village รัชดา ได้ออกแบบโครงการมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้โดยเฉพาะ เพื่อเป็น Urban Lifestyle Melting Pot ที่ผสมวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นพื้นที่ที่ตอบวิถีชีวิตยุคใหม่แบบ Work-Life Integration ได้ทั้งวันและทุกวันอย่างแท้จริง พร้อมเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการใช้ชีวิตครบวงจรที่ผสานทุกปัจจัยที่จำเป็นเอาไว้หลากหลายมิติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จึงได้คัดสรรร้านค้าและบริการที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Signature) มีความพิเศษเป็นที่นิยม (Magnet) และเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน (Mass) เพื่อส่งมอบ Seamless Experience ยกระดับการใช้ชีวิตในย่านรัชดาภิเษกให้ลื่นไหลกว่าที่เคย ครอบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิต ทั้งอยู่ดี กินดี และสุขภาพดีรวมไว้ที่นี่ที่เดียวตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืน เพื่อให้การใช้ชีวิตคนเมือง ไม่ว่าจะเป็นคนทำงาน คนรักงานดีไซน์ คนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวรัชดา สามารถใช้ชีวิตได้ตามต้องการ โดยทุกร้านค้าได้รับการออกแบบคอนเซปต์และตกแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างไป ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มคนทำงานและคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การผนึกกำลังของกับ บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ Design Village รัชดา ประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดเนื่องจากตอบโจทย์ชาวเมือง ทำเลดี สะดวกเข้าถึง และเป็นสาขาที่มีรายได้และรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดของบุญถาวรทุกสาขา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยจุดแข็งเหล่านี้ คาดว่า Design Village รัชดา จะกลายเป็นจุดหมายแห่งการใช้ชีวิตครบวงจร ศูนย์รวมกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนรัชดาที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่ผู้คนในบริเวณนี้ได้อย่างดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Design Village รัชดา ยังคงมองหาและเปิดรับแบรนด์ร้านค้าและบริการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ The Seamless Aspiring Destination ส่งมอบ Finest Lifestyle ให้กับลูกค้าของเราอย่างรอบด้านและไหลลื่น เพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปลายปี 2567 นี้ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/saha-group-joins-forces-with-tokyu-and-dusit-thani-to-venture-into-real-estate-business" alt="‘เครือสหพัฒน์’ ปลุกย่านพระราม 3 จับมือ ‘โตคิว-ดุสิตธานี’ ปั้นคอนโดหรู-โรงแรม-เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์">‘เครือสหพัฒน์’ ปลุกย่านพระราม 3 จับมือ ‘โตคิว-ดุสิตธานี’ ปั้นคอนโดหรู-โรงแรม-เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ทุ่ม 700 ล้าน พลิกโฉม ‘บุญถาวร รัชดาภิเษก’ สู่ Design Village รัชดา คาดเปิดให้บริการปลายปี 2567 นี้

<h2>บมจ.บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น (บริษัทฯ หรือ “BOON”) ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขาย IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ชูศักยภาพผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BOON เปิดเผยว่า ได้เตรียมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งแก่การดำเนินธุรกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยกลุ่มบริษัทฯ เป็น “ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร” ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มีร้านค้าปลีกสมัยใหม่รวมทั้งสิ้น 50 สาขา ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic Location) และมีโอกาสในการเติบโตในอนาคต ประกอบด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(1) ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ 15 สาขา แบ่งเป็น ร้านบุญถาวรที่เป็นรูปแบบ Stand-alone จำนวน 11 สาขา ซึ่งตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีสินค้าที่หลากหลาย และแบ่งแยกเป็นโซนต่างๆ และโครงการ Design Village ซึ่งเป็น Community Living Mall จำนวน 4 สาขาโดยตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(2) ร้านค้าปลีกสมัยใหม่รูปแบบแฟรนไชส์ที่ร่วมทุนกับ บริษัทเอสซีจี รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่ม SCG) ภายใต้ชื่อ “SCG HOME” และ “SCG Home บุญถาวร” จำนวน 35 สาขา ในจำนวนนี้อยู่ในพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย 33 สาขา และต่างประเทศอีก 2 สาขา ได้แก่ เวียดนามและกัมพูชา​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/6piBNtqkUfnQcpvXcPbL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="6piBNtqkUfnQcpvXcPbL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กลุ่มบริษัทฯ คัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพจากทั้งในและต่างประเทศที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ทั้งประเภท ดีไซน์ และคุณภาพที่เจาะกลุ่มลูกค้าทุกระดับและไลฟ์สไตล์ โดยปัจจุบันมีกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กระเบื้องและวัสดุปิดผิว เครื่องสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำที่เกี่ยวข้อง เครื่องครัว โคมไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง และสินค้าอื่น ๆ เกี่ยวกับบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ที่จำหน่ายภายใต้ร้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทฯ กว่า 90,000 SKUs&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีทั้งแบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ (Private Brand) ที่กลุ่มบริษัทฯ ผลิตเอง และว่าจ้างผู้ผลิตภายนอก และสินค้าภายใต้แบรนด์อื่นๆ (Market Brand) ทำให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การตกแต่งที่อยู่อาศัยอันหลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม ทั้งลูกค้ารายย่อย (B2C) และลูกค้าผู้ประกอบการ (B2B)​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/nEcF4P7Et2xx7jeaRsN8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="nEcF4P7Et2xx7jeaRsN8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตชุดครัวสั่งทำและตู้ชุดครัวสำเร็จรูปของกลุ่มบริษัทฯ มีกำลังการผลิตชุดครัวสั่งทำ 425 ยูนิตต่อเดือน และตู้ชุดครัวสำเร็จรูป 7,000 ตู้ต่อเดือน รวมถึงมีศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมด 7 อาคาร ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อรับและกระจายสินค้าสู่ร้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทฯ ทั่วประเทศ สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากกว่า 1 แสนตำแหน่ง บนเนื้อที่มากกว่า 90 ไร่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกัน ได้พัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จากการเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่จะมีแนวโน้มที่จะมีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ เว็บไซต์ของกลุ่มบริษัทฯ และแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส อาทิ Shopee, Lazada, NocNoc ฯลฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย ณ 30 กันยายน 2566 มีสมาชิก “บุญถาวร แฟมิลี่” มากกว่า 1,000,000 ราย และมีบริการลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดส่งสินค้า การออกแบบสามมิติ รวมถึงบริการติดตั้ง และซ่อมแซม เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบครบวงจร (One-stop Service) ให้แก่ลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มุ่งสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันและการเติบโตอย่างมั่นคง โดยใช้จุดแข็งจากการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านระดับพรีเมียมที่มีส่วนแบ่งการตลาดยอดขายกระเบื้อง ร้อยละ 22.11 และส่วนแบ่งการตลาดยอดขายสุขภัณฑ์ ร้อยละ 33.51 ของประเทศไทยในปี 2565 พร้อมมุ่งเน้นในการขยายสาขาร้านบุญถาวร และปรับปรุงพื้นที่สาขาเชิงกลยุทธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/rKPZoJWoVN8XkiFgRbp1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="rKPZoJWoVN8XkiFgRbp1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และความสามารถที่จะคว้าโอกาสทางธุรกิจจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและเมกะเทรนด์ที่สำคัญ พร้อมทั้งประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนสินค้าและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน และประสบการณ์ของทีมผู้บริหารมืออาชีพในธุรกิจวัสดุอุปกรณ์และของตกแต่งบ้านแบบครบวงจร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรามีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจกว่า 40 ปี พร้อมพนักงานและผู้บริหารมืออาชีพ ทำให้สามารถจัดหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าภายใต้แนวคิด ‘Ideas Come Alive’ และมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็น ‘Live Good Ecosystem’ มุ่งพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านสินค้าและนวัตกรรมการอยู่อาศัยเพื่อโลกที่ดีขึ้นและสังคมที่ยั่งยืน ส่งผลให้เราเป็นหนึ่งในผู้นำ และศูนย์รวมสินค้าวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรอันดับต้นๆ ในใจของลูกค้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยมีส่วนแบ่งการตลาดยอดขายกระเบื้อง 22.1% และมีส่วนแบ่งการตลาดยอดขายสุขภัณฑ์ 33.5% ในปี 2565 ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญหลักของกลุ่มบริษัทฯ” สิทธิศักดิ์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,280,000,000 บาท คิดเป็นจำนวน 1,280,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.0 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 320,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ตลอดจนเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจรที่มีศักยภาพเติบโตสูง จากจุดเด่นด้านความหลากหลายของสินค้าและบริการ มีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งหน้าร้านค้าปลีกทั่วทุกภาคของประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา รวมทั้งการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ครอบคลุมแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงมีกลุ่ม SCG เป็นพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งแก่การดำเนินธุรกิจและแผนงานเติบโตในอนาคต เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/origin-launch-14-new-condos-targeting-sales-36-billions-baht-in-2024" alt="ออริจิ้น จัดทัพผู้บริหาร กางแผนเปิดตัว 14 คอนโดใหม่ ตั้งเป้าปี 2567 ยอดขาย 3.6 หมื่นล้านบาท">ออริจิ้น จัดทัพผู้บริหาร กางแผนเปิดตัว 14 คอนโดใหม่ ตั้งเป้าปี 2567 ยอดขาย 3.6 หมื่นล้านบาท</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘บุญถาวร รีเทล’ ยื่นไฟลิ่งแล้ว เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น

<h2>บุญถาวร ผู้นำวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านที่คนไทยคุ้นเคยมากว่า 40 ปี ปรับกลยุทธ์รับพฤติกรรมผู้บริโภคมุ่งช้อปออนไลน์ ผนึกความร่วมมือต่อเนื่องกับ ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ชู “อีคอมเมิร์ซ” ดันยอดขาย ตั้งเป้าช่องทางออนไลน์ยอดโตกว่า 2 เท่า พร้อมสร้างสีสันการช้อปครั้งใหม่ส่งท้ายไตรมาส 3 ด้วยโปรเด็ดดีลดีในมหกรรมช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Shopee 9.9 วันช้อปแห่งปี ลดสูงสุดกว่า 80% พร้อมออนท็อปความคุ้มแบบจัดเต็มทั้งโค้ดลดเพิ่มและโค้ดส่งฟรี ตั้งแต่ วันที่ 4 - 11 กันยายนนี้เท่านั้น</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา นอกจากจะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในแง่ของพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่ผู้บริโภคคุ้นชินกับการ “ช้อปออนไลน์” ที่กลายมาเป็น “ช่องทางหลัก” นอกจากนี้ จากการที่คนได้อยู่บ้านมากขึ้น ผนวกกับรูปแบบการทำงานถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบ Work From Home หรือ Hybrid Working ทำให้คนต้องการปรับปรุงบ้าน เพื่อให้เอื้อต่อการทำงานและใช้ชีวิตในวิถีใหม่ ส่งผลให้ยอดขายของบุญถาวรบนข่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้าน อาทิ กลุ่มสินค้าห้องน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า และห้องครัว ที่มียอดขายเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นกว่า 100%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชนัส ชูชาติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงาน Digital Business &amp; Branding บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บุญถาวร ถือเป็นแบรนด์ผู้นำวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านที่คนไทยคุ้นเคยที่ให้บริการมากว่า 40 ปี และมีความน่าเชื่อถือทั้งในเรื่องคุณภาพและการบริการมานานหลายทศวรรษ เรามุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าและบริการที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยยึดหลัก “Customer Centric” มาโดยตลอด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เราได้มีการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์และแนวโน้มของอุตสาหกรรมอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึง เข้าใกล้ และเข้าใจผู้บริโภคได้มากที่สุด โดยเฉพาะในปัจจุบันที่คนไทยใช้ชีวิตอยู่กับโลกออนไลน์ เราตั้งเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง “บุญถาวร” ได้โดยไม่จำกัดช่วงเวลาและสถานที่ เน้นให้เกิด Customer Experience ใหม่ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าถึงง่าย สะดวกรวดเร็ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4 ของปีนี้ บุญถาวร มุ่งเดินหน้าแผนงานออนไลน์อย่างเต็มขั้น โดยชูช่องทาง “อีคอมเมิร์ซ” เป็นหัวหอกสำคัญเพื่อผลักดันยอดขายให้โตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผนึกพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง “ช้อปปี้” ภายใต้แผน Joint Business Plan เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เพิ่มยอดขายช่องทางออนไลน์ของสิ้นปี 2566 ทะยานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% จากความแข็งแกร่งและความสมบูรณ์แบบของระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซของ ช้อปปี้ ที่มีทั้งเครื่องมือทางการตลาดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พร้อมยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ผนวกกับการร่วมกันสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าที่มีต่อเนื่องตลอดทั้งปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญดับเบิ้ลเดต Brand of The Day รวมไปถึงกิมมิคในการสร้างความแปลกใหม่ในการขายโดยให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วม โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งบุญถาวร และ ช้อปปี้ พร้อมเดินเครื่องสร้างสีสันการช้อปครั้งใหม่ให้คนไทยช้อปสนุกรับส่วนลดหั่นราคาแบบสุดๆ ในมหกรรม Shopee 9.9 วันช้อปแห่งปี ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 11 กันยายนนี้ ที่ Boonthavorn Official Store บน Shopee Mall”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การัน อำบานี ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ ช้อปปี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ช้อปปี้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้ บุญถาวร พร้อมลุยในสมรภูมิอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นช่องทางหลักของคนไทยในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ บุญถาวร ยังถือเป็นแบรนด์ใหญ่ที่เข้ามาเติมเต็มและสร้างความหลากหลายในแง่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ อันจะเป็นการเพิ่มทางเลือก ในการเข้าถึงสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดย ช้อปปี้พร้อมนำเอาความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการงานด้านอีคอมเมิร์ซ มาผลักดันให้ บุญถาวร บรรลุเป้าหมายตามที่ได้ตั้งไว้ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการการทำงานและสร้างแนวทางใหม่ๆ ให้กับพันธมิตรของเราเติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกอีคอมเมิร์ซ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อฉลองการผสานความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง บุญถาวร นำเสนอความพิเศษแบบจัดเต็มให้กับเหล่านักช้อปออนไลน์ให้ได้รับความคุ้มแบบสุดๆ พร้อมปลุกกำลังซื้อช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี เริ่มที่มหกรรมช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Shopee 9.9 วันช้อปแห่งปี ที่พาเหรดสินค้ากว่า 5,000 รายการ อาทิ กลุ่มสินค้าสุขภัณฑ์ อุปกรณ์ห้องน้ำ ห้องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และอีกมากมาย การันตีถูกชัวร์ด้วยสินค้าลดสูงสุดกว่า 80% และ โค้ดส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,999 บาท พร้อมสารพัดโค้ดเพิ่มความคุ้มจากโค้ดส่วนลดของช้อปปี้จากหน้าแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็นโค้ดส่วนลด โค้ดส่งฟรี[3] หรือโค้ดรับ Shopee Coins คืน[4]&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Shopee Coins เป็นส่วนลดเพิ่มเติม โดย 1 Shopee Coin จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท พร้อมเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์มากมายเมื่อชำระผ่าน ShopeePay หรือเลือกผ่อนชำระง่ายๆ แบบไม่ใช้บัตรด้วยบริการ SPayLater &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :<a href="https://forbesthailand.com/preview/71180" alt="LINE โชว์ศักยภาพแชทเพื่อคนไทย ร่วมยกระดับธุรกิจสู่ยุคใหม่แห่ง Chat Economy" class="on">LINE โชว์ศักยภาพแชทเพื่อคนไทย ร่วมยกระดับธุรกิจสู่ยุคใหม่แห่ง Chat Economy</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

บุญถาวร ผนึก ช้อปปี้ เปิดดีลเด็ดโปรโดนใน Shopee 9.9 ตั้งเป้าดันยอดขายออนไลน์โตกว่า 2 เท่า

<h2>ทุกครั้งที่เราดูรีวิวการตกแต่งบ้าน การรีโนเวทบ้าน ทุกคนคงเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะมีพื้นที่เป็นของตัวเอง พื้นที่ที่เป็นตัวเรา หลายครั้งเรามีภาพในหัวที่อยากได้ แต่ความต้องการจะปรับปรุงพื้นที่ของบ้านไม่ใช่เรื่องที่คนคนเดียวจะตัดสินใจได้ สิ่งสำคัญที่สุดของการรีโนเวทพื้นที่ของบ้าน คือ ความคิดเห็นของทุกคนในบ้าน ที่ต่างมีไลฟ์สไตล์และความชอบไม่เหมือนกัน&nbsp; </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้น เรื่องเล็กๆ อาจจะไม่เล็กสมชื่อก็ได้ เพราะการรีโนเวทบ้าน ไม่ใช่เรื่องของคนๆ เดียว แต่เป็นเรื่องของ “เรา” เพราะนอกจากจะได้บ้านใหม่ที่สวย เป็นบ้านที่เราอยากอยู่แล้ว ยังช่วยให้สมาชิกทุกคนในครอบครัว อยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างมีความสุข การทำภาพพื้นที่ที่เราต้องการในความคิดของเราออกมาให้ทุกคนในบ้านเข้าใจ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการรีโนเวทพื้นที่บ้าน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วันนี้ แบรนด์ผู้นำวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านที่คนไทยคุ้นเคยที่ให้บริการมากว่า 40 ปี และมีความน่าเชื่อถือทั้งในเรื่องคุณภาพและการบริการมานานหลายทศวรรษอย่าง “บุญถาวร” เข้าใจถึงปัญหาสุดคลาสสิกที่ครอบครัวส่วนมากต้องเผชิญ เมื่อต้องออกความคิดเห็นเพื่อรีโนเวทหรือตกแต่งพื้นที่ในบ้าน และเพื่อไขความต้องการของทุกสมาชิกภายในบ้าน จึงได้ร่วมมือกับ วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย ต่อยอดมุมมองครั้งใหม่ให้สุดเฟรช จากมุมมองการเลือกดีไซน์ชีวิตที่เป็นตัวเองและเลือกอยู่อย่างที่อยาก “LIVE YOUR WAY” สู่เรื่องราวครั้งใหม่ที่มากระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวมากขึ้นและอบอุ่นขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพราะบุญถาวรเชื่อว่า การอยู่อาศัยร่วมกันอย่างมีความสุขทำได้ง่ายและเกิดได้จริง เพียงแค่เริ่มต้นจากการพูดคุยบนความเข้าใจกัน เพื่อให้ทุกคน “LIVE OUR WAY อยากอยู่อย่างนี้…ด้วยกัน” โดยชวนคนไทยลุกขึ้นมาปรับปรุงพื้นที่อยู่อาศัย ให้บ้านถูกใจทุกคนที่อยู่ร่วมกัน ผ่านกิจกรรม “Door Poster” โปสเตอร์ขนาดเท่าประตูจริง ออกแบบโดยทีม Room Stylist จาก EVERYROOM ของบุญถาวร ให้คุณนำไปติดประตูเพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการพูดคุยกับคนที่บ้าน ให้มองเห็นภาพตรงกันว่าอยากอยู่อย่างไหนด้วยกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย Door Poster จะเข้ามาเป็นสื่อกลางที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นพูดคุยเรื่องบ้านให้เห็นภาพตรงกันมากที่สุด ด้วยการออกแบบพื้นที่ที่เกิดจากความต้องการง่ายๆ ผ่านการตอบคำถามสั้นๆ ในเว็บไซต์ ที่ทุกความอยากจะถูกออกแบบเป็นห้องตามความต้องการของคุณ โดยทีม EVERYROOM ทีมบริการออกแบบห้องจากบุญถาวร พร้อมให้คุณรับ Door Poster ฟรี ไปติดประตูห้องเพื่อเริ่มพูดคุยได้เลย และพิเศษสำหรับผู้โชคดี 300 ท่าน ลุ้นรับ Door Poster ขนาดเท่าประตูจริง ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ทั้งนี้ เมื่อตกลงกับที่บ้านได้แล้วว่า อยากอยู่อย่างไหน…ด้วยกัน และอยากรีโนเวทห้องเก่า เป็นห้องใหม่ตามที่บุญถาวรออกแบบไว้ให้ ก็สามารถสแกน QR Code ที่ติดอยู่ตรงลูกบิดประตู เพื่อเข้ามาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่านเว็บไซต์บุญถาวรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตรงใจ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชนัส ชูชาติ รองกรรมการผู้จัดการสายงาน Digital Business &amp; Branding บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด กล่าวว่า&nbsp;ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อัตราการย้ายออกจากบ้านของคนไทยลดลง ด้วยมุมมองและบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้มีความต้องการอยู่ร่วมกันมากขึ้น บริบทของ “บ้าน” ได้รับการยกระดับความสำคัญในการเป็นพื้นที่แห่งความสุขมากยิ่งกว่าก่อน ทั้งยังเป็น “เซฟโซน” ที่ดีต่อใจของหลายๆ คน เป็นทั้งที่พักพิง ศูนย์รวมความบันเทิง สถานที่ทำงาน และการพักผ่อน ดังนั้น “ชีวิตที่มีความสุข” เริ่มจากบ้าน และบ้านตามอุดมคติ คือ บ้านที่สงบร่มเย็นเป็นสุข ส่งเสริมความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว และสามารถเป็นพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนได้ด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อบ้านมีสมาชิกเพิ่มขึ้น หรือบ้านเริ่มเก่าลง การปรับพื้นที่และการตกแต่งใหม่ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น “บุญถาวร” เข้าใจดีถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว รักอิสระ กล้าแสดงความคิดเห็น จึงอยากเชิญชวนทุกคนหันมาพูดคุยกันง่ายๆ เรื่องบ้าน ให้เห็นภาพตรงกันมากที่สุด เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการดีไซน์พื้นที่บ้านด้วยกัน จึงเป็นที่มาของ “LIVE OUR WAY อยากอยู่อย่างนี้…ด้วยกัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภาคย์ วรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย กล่าวสรุปว่า&nbsp;จาก Data เทรนด์การรีโนเวทพื้นที่อยู่อาศัยสูงขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราอยากพาแบรนด์บุญถาวรเข้าไปอยู่ในเทรนด์ที่จะสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และสามารถสร้าง Brand Love กับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้ ไอเดีย Door Poster เกิดจากการทำความเข้าใจกระบวนการและ Insight ของการปรับปรุงพื้นที่บ้านของคนไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เราชูประเด็นการพูดคุยเรื่องการปรับปรุงบ้านเป็นหัวใจของไอเดีย ทำอย่างไรที่แบรนด์จะสามารถช่วยให้การพูดคุยเรื่องการรีโนเวทบ้านง่ายขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น ก่อนที่เราจะนำไปสู่การช่วยให้มันเกิดขึ้นได้อย่างที่คุณและคนในครอบครัวต้องการ Door Poster เป็นไอเดียที่ไม่ง่ายในการทำให้เกิดขึ้น ต้องมีการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย ทั้งฝั่งลูกค้า ฝั่งสต๊อกสินค้า ฝ่ายดีไซน์อย่าง EVERYROOM ที่ต้องทำงานร่วมกับ AI ในการสร้างภาพ Door Poster ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ทั้งหมดนี้ คือ ความร่วมมือจากหลายฝ่ายของบุญถาวรกับสีสันความสนุกที่เราลุยมาด้วยกัน ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/vgYvH9yWR3BssGd6qok2.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="vgYvH9yWR3BssGd6qok2.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1920,1080"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มาร่วมออกแบบและลุ้นรับ Door Poster ขนาดเท่าประตูจริงฟรี เพื่อนำไปเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยกับครอบครัวที่คุณรัก ได้ที่ https://www.boonthavorn-liveourway.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 21 กันยายน 2566 เพราะ “บุญถาวร” อยากให้ทุกคน “LIVE OUR WAY อยากอยู่อย่างนี้…ด้วยกัน” &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70863" alt="&quot;เซ็นทรัล&quot; ส่งเมกะแคมเปญ “CENTRAL ALL THE DREAMS” อัปลุค แผนกบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า รับเทรนด์แต่งบ้าน">"เซ็นทรัล" ส่งเมกะแคมเปญ “CENTRAL ALL THE DREAMS” อัปลุค แผนกบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า รับเทรนด์แต่งบ้าน</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

บุญถาวร ชวนเปิดประตูสู่แคมเปญใหม่ LIVE OUR WAY อยากอยู่อย่างนี้…ด้วยกัน

<h2>'บุญถาวร' ค้าปลีกวัสดุตกแต่งบ้านแบบครบวงจร บุกตลาดหาดใหญ่ จับมือพันธมิตรทางธุรกิจเปิดโมเดลแฟรนไชส์ต่อเนื่องเป็นสาขาที่ 2 “บุญถาวร 3KHomeBase” ถือเป็นสาขาแรกของภาคใต้อย่างเป็นทางการ</h2>
สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยี บริษัท บุญถาวร เซรามิค จำกัด เผยภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่หาดใหญ่จะฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 2-3 ของปี 2561 โดยที่อยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยวราคา 3-4 ล้านบาท กำลังไปได้ดี ส่วนในกลุ่มคอนโดฯ ในภาคใต้มีโครงการขึ้นมากกว่า 50 อาคาร รวมกว่า 6,900 ยูนิต ยังมีปัจจัยบวกงบประมาณภาครัฐอัดฉีดเริ่มส่งผลกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน และประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงมีความต้องการในการเข้ามาอยู่อาศัย ทั้งเรียนหนังสือ ทำงาน และทำธุรกิจ

คาดหาดใหญ่ประตูสู่ภาคใต้

“ด้วยแรงหนุนจากแผนพัฒนาโครงการคมนาคมของรัฐ ทั้งโครงการขนส่งมวลชนด้วยระบบราง หรือ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" เชื่อมใจกลางเมืองหาดใหญ่กับสนามบิน รวมถึงแผนพัฒนา เพื่อยกระดับท่าอากาศยานหาดใหญ่เป็นประตูสู่ภาคใต้สุดของไทย ดังนั้นจึงเล็งเห็นโอกาสขยายตลาดมายังหาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรม การศึกษา โรงพยาบาล ศูนย์กลางราชการ และการท่องเที่ยว” สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กล่าวและเผยว่า

การขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่องการจับมือกับพันธมิตรเจ้าใหญ่ของหาดใหญ่อย่าง ทรีเค โฮมเบส เปิดแฟรนไชส์สาขา 2 แต่ถือว่าเป็นสาขาแรกของภาคใต้ เป็นการผสานความร่วมมือสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่า สู่ความเป็นศูนย์กระจายสินค้าสู่กลางภาคใต้ ด้วยเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นผนึกกำลัง เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตยั่งยืนและเพิ่มความสามารถและแข่งขันในตลาด

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/741fb3b350fd0df2ad7f65024ff3f491.jpg" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยี บริษัท บุญถาวร เซรามิค จำกัด</figcaption></figure>

โดยจุดเด่นของบุญถาวรภายใต้โมเดลนี้ คือ การเสริมกำลังให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ในด้านเทคโนโลยี ระบบบริหารร้านค้าปลีก ระบบโลจิสติกส์ เพื่อช่วยในการเช็คสต๊อกสินค้า รวมถึงการขนส่งของจากคลังสินค้าที่มีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ตลอดจนมีบริการออกแบบการดีไซน์ตัวอย่างห้องต่างๆ (3D Design) เข้ามา เพื่อเสริมไอเดียให้กับลูกค้าในการตกแต่งบ้าน ควบคู่กับร่วมนำสินค้าเข้ามาขายในโชว์รูมแห่งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น

“เราใช้งบประมาณการลงทุนในการรีโนเวท บุญถาวร 3KHomebase กว่า 70 ล้านบาท เริ่มดำเนินการรีโนเวทตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – มกราคม 2561 เป็นเวลา 4 เดือน โดยจับกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ เจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา ดีไซน์เนอร์ สถาปนิก ตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบและพิถีพิถันการเลือกวัสดุตกแต่งบ้าน” สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กล่าว

<figure><img style="width: 300px; height: 354px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c0e63a1f36c1b04d6c82a93d23221526.jpg" alt="" width="300" height="354" /><figcaption> กิตติพล วิจิตรคุณากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานวางแผน บริษัท ทรีเค โฮมเบส จำกัด</figcaption></figure>

ด้าน กิตติพล วิจิตรคุณากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานวางแผน บริษัท ทรีเค โฮมเบส จำกัด กล่าวว่า “แม้ในปีนี้ คาดการณ์ว่าตลาดวัสดุตกแต่งและก่อสร้าง ยังคงชะลอตัว ด้วยราคายางพาราและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามตลาดลูกค้ากลุ่มบน ยังคงมีกำลังซื้อ มีการก่อสร้างหรือปรับปรุงที่อยู่อาศัย และซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้านอย่างต่อเนื่อง”

ลูกค้าที่เคยได้รับสิทธิพิเศษจากทาง 3KHomeBase ก็ยังคงได้รับความพิเศษเช่นเดิม และสามารถได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีก จากรายการส่งเสริมการขายของบุญถาวร ผ่านโปรโมชั่นต่างๆ และรอยัลตี้โปรแกรมผ่านทางบัตรสมาชิกบุญถาวร แฟมิลี่ อีกด้วย สอดรับกับเป้าหมายหลักของการจับมือกับทางบุญถาวร ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าเท่านั้น แต่เรามองถึงการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในพื้นที่ให้มากขึ้น แม้ตอนนี้จะเป็นอันดับ 1 อยู่ แต่ก็ไม่หยุดพัฒนาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่ทางบุญถาวรเองมีสินค้ามาเพิ่มช่วยตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างมาก

นอกจากนี้ ทาง 3KHomeBase ยังมีการทำแผนพัฒนาด้านบริการเพิ่มเติม อาทิเช่น บริการ Interior@Home ซึ่งเป็นบริการส่งสถาปนิกไปออกแบบ วัดหน้างานฟรีถึงบ้าน

แผนผนึกทั่วไทย บุญถาวร จับมือ ทรีเค โฮมเบส เปิดแฟรนไชส์บุญถาวรสาขาสอง ตั้งเป้าศูนย์กลางค้าปลีกภาคใต้

<h2>บุญถาวร เผย โมเดลแฟรนไชส์ ยุคไทยแลนด์ 4.0 นำเทคโนโลยี นวัตกรรม สร้างธุรกิจและวงการวัสดุตกแต่งบ้านยั่งยืน แบ่งปั่น Share Economy และแนวคิดเสริมศักยภาพร้านค้าปลีกท้องถิ่น พร้อมเผยแผนขยายสาขายัง สงขลา นครราชสีมา และลพบุรี”</h2>
บุญถาวร ผูกมิตรกับธุรกิจในท้องถิ่นและสร้างธุรกิจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ทุ่มงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท รีโนเวท บุญถาวร ปีนัง จังหวัดพิษณุโลก เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธันวาคม 2560 เป็นโมเดลแฟรนไชส์ของบุญถาวรสาขาแรกในประเทศไทย รับรองลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้รับเหมา นักออกแบบ ผู้ชื่นชอบการตกแต่งบ้าน ทั้งในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงในภาคเหนือตอนล่าง

สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยี บริษัท บุญถาวร เซรามิค จำกัด (ซ้ายจากรูป) กล่าว “บุญถาวรตั้งใจมาสร้างศูนย์รวมวัสดุตกแต่งบ้านครบวงจร โดยเลือกพื้นที่ในจังหวัดที่มีร้านค้าวัสดุท้องถิ่นที่มีศักยภาพซึ่งพิษณุโลกก็เป็นหนึ่งในจังหวัดเป้าหมายแรกของเราเพราะมีศักยภาพเศรษฐกิจขยายตัวตลาดอสังหาฯ ก็มีโอกาสเติบโตมากอีกทั้งมีการค้าขายกันมานานกว่า 10 ปี กับทางปีนังค้าวัสดุก่อสร้าง”

โมเดลแฟรนไชส์ ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ไม่ใช่แค่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเท่านั้น แต่เป็นการปรับตัวให้ธุรกิจและวงการวัสดุตกแต่งบ้านอยู่ได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นเรื่องของการ Share Economy ซึ่งถือว่าเป็นวิธีคิดแบบใหม่สำหรับวงการค้าปลีกวัสดุตกแต่งบ้าน เพราะทำให้ร้านค้าปลีกของท้องถิ่นมีศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้น ทั้งทางด้านเทคโนโลยี การจัดการเรื่องคลังสินค้า การขนส่ง รวมถึงระบบการบริหารหน้าร้าน

“การร่วมมือกับหจก.ปีนังค้าวัสดุก่อสร้าง 1996 ซึ่งถือเป็นร้านค้าปลีกวัสดุท้องถิ่นที่มีศักยภาพ เปิดเป็นโมเดลตั้งต้นสู่การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด โดยการเพิ่มทางเลือกในการหาซื้อวัสดุตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น” สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กล่าว

ด้าน สุนทร วชิราศรีศิริกูล รองประธานกรรมการ หจก.ปีนังค้าวัสดุก่อสร้าง 1996 เปิดเผยว่า “เราเปิดธุรกิจและให้บริการมาตั้งแต่ปี 2531 โดยมีการปรับปรุงและพัฒนามาตลอด ถือเป็นร้านวัสดุก่อสร้างร้านแรกและร้านเดียวของจังหวัดพิษณุโลกที่มีความทันสมัยที่สุดในภาคเหนือ ความร่วมมือกับบุญถาวรครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม ทั้งในแง่ของสินค้า บริการ และระบบขนส่ง ตลอดจนการนำเทคโนโลยีรวมถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่บุญถาวรเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำตลาดของไทยมาช่วยสนับสนุนให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้บริโภค เป็นอีกก้าวแห่งการพัฒนาสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มตัว”

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events