<h2>"ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล" เป็นที่รู้จักในบทบาทผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท คอสโม กรุ๊ป ผู้ผลิตและส่งออกกล่องบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์วางแสดงสินค้า นาฬิกา เครื่องประดับ สำหรับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก แต่หมวกอีกใบที่สร้างความสุขตลอด 70 ปีให้กับชายผู้นี้ คือการถ่ายภาพ ซึ่งภาพนับหมื่นภาพในวันนี้ ไม่สามารถประเมินค่าได้</h2>
<strong>ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล</strong> เป็นน้องคนสุดท้องของตระกูลมหาดำรงค์กุลรุ่นบุกเบิกธุรกิจนาฬิกาในประเทศไทยในนามบริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ซึ่งตระกูลมหาดำรงค์กุลเริ่มตั้งหลักได้ จึงส่งชัยโรจน์ไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ที่ London University ประเทศอังกฤษ และได้มีโอกาสเรียนสาขาถ่ายภาพที่ Saint Martin's School of Art ประเทศอังกฤษควบคู่ไปด้วย เนื่องจากรักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ

<span style="color: #993300;">“ผมต้องเรียนให้ได้ลำดับที่หนึ่งถึงห้าพี่ของผมถึงจะซื้อกล้องถ่ายรูปไห้”</span> ชัยโรจน์เล่าถึงความหลังสมัยไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ และจากกล้องตัวนั้น ทำให้เขามีรายได้จากการถ่ายภาพเป็นครั้งแรกอย่างไม่ตั้งใจ จากการฝึกถ่ายภาพในพาร์ค 3 แห่งที่ประเทศอังกฤษ ได้แก่ London Fields, Hyde Park และ Kensington Park ซึ่งภาพเหล่านั้นถูกใจครอบครัวชาวอังกฤษที่มาพักผ่อนหย่อนใจในพาร์คจนต้องขอซื้อไปเก็บไว้ และถูกว่าจ้างให้ถ่ายภาพมากขึ้น จนทำให้ชัยโรจน์มีรายได้ที่มากพอจะซื้อรถสปอร์ตได้ 1 คันในสมัยนั้น

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-65727" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/ชัยโรจน์-มหาดำรงค์กุล_0701.jpg" alt="" width="650" height="434" />
<h3>การถ่ายภาพ คือความสุข</h3>
การถ่ายภาพกระตุ้นให้นักธุรกิจอย่าง ชัยโรจน์ ให้มีชีวิตชีวา ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา เขาให้ความสำคัญและแบ่งสรรเวลาอย่างจริงจังไม่แพ้ธุรกิจหลักอย่าง บริษัท คอสโม กรุ๊ป ทุกสัปดาห์หลังเลิกจากงานประจำ เขาจะสะพายกล้องไปถ่ายภาพร่วมกับสมาคมช่างภาพ แต่ละสถานที่ที่ไป แม้จะยากลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยหวั่น

ชัยโรจน์ เล่าว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งต้องเดินทางเข้าไปในป่าที่ลึกมากเพื่อจะให้ได้ภาพ แสง และมุมที่ต้องการเดินทางเข้าไปไกลมากจนเมื่อถ่ายภาพเสร็จไม่รู้ว่าจะเดินทางกลับออกมาได้อย่างไร

<span style="color: #993300;">“สำหรับผม การถ่ายภาพเหมือนได้ผ่อนคลาย ยิ่งภาพที่ได้เป็นภาพที่เรียกว่า Pictorial Art ก็จะยิ่งมีกำลังใจ หรืออย่างภาพชุดเห็ด ต้องใช้เวลาถ่ายถึง 4 ปี”</span> ชัยโรจน์เล่าพร้อมกับหัวเราะกับความพยายามสมัยหนุ่มที่บุกตะลุยเข้าไปถ่ายภาพเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ

ชัยโรจน์ กล่าวว่า สำหรับเขาการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่ชอบ การถ่ายภาพเป็นสิ่งที่รัก การทำธุรกิจที่ชอบทำให้ตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุด การบริหารจัดการ การมอบหมายงานให้กับพนักงาน ทุกรายละเอียดต้องให้ความสำคัญ เวลาว่างก็ไปถ่ายภาพ กับกลุ่มสมาคมช่างภาพ ทำในสิ่งที่รักกับคนที่ชอบเหมือนๆ กัน ทำให้สนุก ได้ผ่อนคลาย และกระตุ้นให้มีพลังใจ พลังกายที่จะกลับมาทำงานต่อให้สำเร็จ

ทุกวันนี้ ในวัย 85 ปี ชัยโรจน์ ยังเข้าบริษัทเกือบทุกวันเพื่อประชุมร่วมกับทีมบริหาร ซีอีโอ ของคอสโม กรุ๊ป และกรรมการบริหาร ประกอบด้วยทายาททั้ง 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ เกรซ มหาดำรงค์กุล

เกรซ เล่าว่า คุณพ่อ (ชัยโรจน์) มีความเป็นห่วงธุรกิจ ไม่เคยขาดการไปออฟฟิศ แม้กระทั่งช่วงโควิด และพูดเสมอว่าต้องการให้ลูกๆ ดูแลอาณาจักรธุรกิจของคอสโม กรุ๊ปให้เติบโตต่อไป ซึ่งตน พี่สาว และน้องชาย ก็ช่วยกันบริหารงาน แม้ช่วงโควิดจะได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากสินค้าที่คอสโม กรุ๊ปผลิตเป็นสินค้าลักชัวรี แต่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและอยากสร้างความสุขให้คุณพ่อด้วยการจัดแสดงงานภาพหาดูยากที่สะสมไว้ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา และภาพส่วนหนึ่งถูกจัดแสดงไว้ที่บริษัท คอสโม กรุ๊ป
<h3>จากงานอดิเรกสู่ช่างภาพระดับโลก</h3>
เส้นทางการถ่ายภาพของ ชัยโรจน์ นั้น ไม่ใช่แค่เป็นงานอดิเรกธรรมดา หลายภาพได้รับรางวัลระดับโลกซึ่งในวงการสมาคมถ่ายภาพทั้งในและต่างประเทศ ชื่อ ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล ปรากฏบ่อยครั้งในฐานะผู้ได้รางวัล และร่วมนิทรรศการภาพถ่ายทั่วประเทศ อาทิ รางวัลประกวดภาพถ่ายทั่วประเทศ ครั้งที่ 19 ปี 2543 รางวัลตุ๊กตาทองประเภทภาพสี ชื่อภาพ “เขิน” สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ รางวัลภาพชุดยอดเยี่ยมในประเทศการประกวดภาพสไลด์ นานาชาติครั้งที่ 14 ในปี 2544

ตลอดจนได้รับรางวัลจากสมาคมถ่ายภาพสยามคัลเลอร์สไลด์ ให้เป็น PSA : World Top Ten Photographer Ranking 1st of 2006 PT – Color Print รวมถึงได้รับมอบเกียรติคุณทางการถ่ายภาพมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PSA 5 Stars Photographer 2009 ของสมาคมถ่ายภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (PSA - Photographic Society of America) ซึ่งเป็นการประกวดภาพทั่วโลกสะสมคะแนนจากระดับดาวที่ 1-5 โดยชัยโรจน์เป็นเพียงหนึ่งในสองคนไทยที่ได้ถึงดาวที่ 5 ของสมาคมถ่ายภาพแห่งอเมริกา

ชัยโรจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันการถ่ายภาพที่เป็น Pictorial Art ไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่เป็นภาพถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ความหมายของภาพ Pictorial Art คือการถ่ายภาพที่มีวิจิตรศิลป์ งดงามและเล่าเรื่องได้ หมายถึงการการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาพเดียว

ภาพ Pictorial Art ที่เขาประทับใจมาก คือ ภาพพระธุดงค์ปักกลด และภาพที่สอง คือภาพเรือสุพรรณหงส์ในงาน APEC ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีพระบรมราชานุญาตให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในช่วงกลางคืน

<span style="color: #993300;">“ภาพเรือสุพรรณหงส์มีผมคนเดียวที่ได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุด จากช่างภาพชาวไทยและต่างประเทศหลายสิบคนที่ไปถ่ายครั้งนั้นในการประชุม APEC จนกระทรวงต่างประเทศต้องมาขอซื้อให้เป็นภาพประวัติศาสตร์”</span> ชัยโรจน์เล่าอย่างภูมิใจ

นอกจากนี้ มีโอกาสได้ตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถ่ายภาพกรณียกิจต่างๆ เพื่อจัดทำหนังสือครบรอบ 72 พรรษา ซึ่งส่วนหนึ่งสำนักราชเลขาธิการ ได้ขอภาพถ่ายไปแสดงในงานนิทรรศการครบรอบ 90 พรรษาในเดือนสิงหาคม 2565 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจและเป็นความทรงจำที่ประทับใจของชัยโรจน์และตระกูลมหาดำรงค์กุลเป็นอย่างยิ่ง
<h3>ถ่ายทอดวิชาถ่ายภาพ Pictorial Art</h3>
ทุกวันนี้ ชัยโรจน์สนุกกับการเป็นวิทยากรพิเศษถ่ายทอดความรู้ทางการถ่ายภาพ และแนะแนวการศึกษาให้นักเรียนมัธยมปลายตามโรงเรียน รวมไปถึงสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เพื่อสอนให้คนรุ่นหลังรู้จักและเข้าใจศาสตร์ของ Pictorial Art ขณะที่รูปภาพกว่าหมื่นภาพที่สะสมไว้กว่า 70 ปีที่ผ่านมา วางแผนมอบให้หอสมุดแห่งชาติเพื่อสาธารณประโยชน์

“ผมอยากให้ลูกหลานได้เห็นแบบเดียวกับที่เราเคยเห็น รถราง ตึกสองชั้น ไม่มีตึกสูง ภาพงานประเพณีอย่างวิ่งควายชลบุรี วัวเทียมเกวียน หรือภาพนครวัด เดี๋ยวนี้ไม่มีช่างแกะสลักได้ ผมนำออกมาจัดแสดง แล้ววันหนึ่งจะมอบให้หอสมุดแห่งชาติ ซึ่งเขามีที่เก็บรักษาอย่างดี เป็นการทำคุณประโยชน์ดีกว่าเก็บไว้เอง หลายภาพไม่ได้ออกสู่สายตาเลย ภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ ณ เวลานั้น ซึ่งมันผ่านไปแล้ว เป็นประวัติศาสตร์แล้ว” ชัยโรจน์กล่าวทิ้งท้าย
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่<span style="color: #003300;"> <a style="color: #003300;" href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a></span>

</div>
</div>

‘ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล’ กับภาพถ่าย 70 ปีที่ประเมินค่าไม่ได้

<h2>ป่าจากดอกบร็อคโคลี่ถนนหนทางจากเครื่องขูดอาหาร หรือลู่แข่งจากโดนัท คุณอาจถูกสั่งสอนไม่ให้เล่นกับอาหารแต่ไม่ใช่กับ Yuliy Vasilev ช่างภาพท่องเที่ยวและอาหาร ที่เปลี่ยนอาหารเป็นภาพสวยๆ</h2>
<strong>Yuliy Vasilev</strong> ถือเป็นช่างภาพที่ได้รับรางวัลมากกว่า 130 รางวัล และภาพถ่ายของถูกแสดงโชว์มาแล้วตามงานนิทรรศการในทั่วโลก โดยภาพ “broccoli forest” เป็นหนึ่งในภาพที่ได้รับรางวัลจาก The prestigious Creative Photo Of The Year 2020 Siena Awards และเหรียญทองแดงจาก the International Federation of Photographic Art หรือ FIAP

นอกจากสถานะช่างภาพแล้ว Yuliy ยังเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Photoclub BGArt กลุ่มที่รวบรวมช่างภาพชาวบัลแกเรีย ที่ชนะในรายการ FIAP’s World Cup for clubs เมื่อปี 2018

สำหรับภาพถ่ายหลายๆ โปรเจคของ Vasilev มักเกี่ยวข้องกับอาหารและรวมไปถึง <strong>"THE (p)LAST(ic) SUPPER"</strong> ที่สร้างสรรค์จากพลาสติก

“ตั้งแต่ปี 1950 มีพลาสติกมากว่า 8.3 พันล้านตันที่ผลิตมาอย่างต่อเนื่องแต่มีเพียงร้อยละ 9 เท่านั้นที่ถูกนำมารีไซเคิล “เรากินในสิ่งที่เราเป็น” วลีฮิตแห่งยุคนี้จะเปลี่ยนไปถ้าเราหยุดสร้างมลพิษให้กับโลกของเราด้วยพลาสติก เมนูโปรดสำหรับเด็กๆ อาจจะไม่ต่างไปจากอาหารให้ภาพต่างๆ ก็เป็นไปได้" <strong>Yuliy Vasilev</strong>

<figure><img class="wp-image-33407 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/5e048fdf6da8e-bpfull-300x300.jpg" alt="" width="300" height="300" /><figcaption> <strong>Yuliy Vasilev</strong></figcaption></figure>

&nbsp;
<p class="fs-headline speakable-headline font-base font-size"><strong>โปรเจค Foodtopia</strong></p>
<img class="alignnone wp-image-33408" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0.jpg" alt="" width="600" height="385" />

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-33409" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x001.jpg" alt="" width="600" height="865" />

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-33410" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0002.jpg" alt="" width="600" height="863" />

<img class="alignnone wp-image-33411" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0003.jpg" alt="" width="600" height="865" />

<img class="alignnone wp-image-33412" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0004.jpg" alt="" width="600" height="864" />

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-33413" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0005.jpg" alt="" width="600" height="865" />

&nbsp;

<strong>"THE (p)LAST(ic) SUPPER"</strong>

<img class="alignnone wp-image-33414" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0006.jpg" alt="" width="600" height="355" />

<img class="alignnone wp-image-33415" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0007.jpg" alt="" width="600" height="365" />

<img class="alignnone wp-image-33416" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/960x0008.jpg" alt="" width="600" height="363" />

เรียบเรียงจาก: 10 Funny Photos Of Food From Prizewinning ‘Foodtopia’ Project เผยแพร่บน Forbes.com

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

รูปสนุกๆ ที่ได้รับรางวัลจากทั่วโลก โดย Yuliy Vasilev

<h2><span style="font-size: 20px;">เอลิส ไพรเวต ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในเมืองไ<wbr />ทย แบรนด์กล้องซูเปอร์พรีเมียมคลาส<wbr />สิก “Leica” (ไลก้า) ปิดยอดขายปี 2560 ทะลุเป้า 300 ล้านบาท เน้นกลยุทธ์สร้างสร้างความภักดี<wbr />ต่อแบรนด์ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตร<wbr />ง พร้อมเปิด “Leica Gallery Bangkok” (ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก) แห่งแรกในเมืองไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อ<wbr />นผลงานของศิลปินในเมืองไทยสู่สา<wbr />ยตาชาวโลก คาดกระตุ้นเป้าปลายปีโตเกิน 500 ล้าน</span></h2>
<strong>ดนัย สรไกรกิติกูล</strong> กรรมการผู้จัดการ <strong>บริษัท เอลิส ไพรเวต จำกัด</strong> เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรน<wbr />ด์กล้อง ไลก้า ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2559 ในปีแรกสามารถปิดยอดจำหน่ายได้ 150 ล้านบาทตามเป้าหมาย และปลายปี 2560 ที่ผ่านมา สรุปตัวเลขยอดขายที่ 300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100%

ที่ผ่านมาเน้นการใช้กลยุทธ์สร้า<wbr />งความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และก<wbr />ลุ่มผู้ใช้ผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยตรง เพื่อสร้างความจงรักภักดี หรือ Brand respect ให้เกิดขึ้น โดยกลุ่มผู้ใช้งานไลก้าในปัจจุ<wbr />บันจะแบ่งออกเป็น กลุ่มผู้ใช้เดิม ที่เอลิสฯ ยังรักษาฐานไว้อย่างเหนีย<wbr />วแน่น พร้อมกับขยายฐานกลุ่มใหม่ ให้สามารถเรียนรู้การใช้งานตัวผ<wbr />ลิตภัณฑ์เมื่อมีการซื้อสินค้า

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ef85405497676a8d8cbc458471b54324.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> ดนัย สรไกรกิติกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอลิส ไพรเวต จำกัด บริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้องไลก้า</figcaption></figure>

ดนัยกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจัด 3 กลยุทธ์หลักเพื่อสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ได้แก่

<strong>1.Leica Academy (ไลก้า อะคาเดมี)</strong> ที่ให้ผู้ใช้งานไลก้า สามารถมาเรียนรู้ผ่านเวิร์คช็อป<wbr />ในขั้นต่างๆ ของการถ่ายภาพทั้งขั้นเริ่มต้น ไปจนถึงระดับแอดวานซ์ โดยมีช่างภาพมืออาชีพมาเป็นผู้อ<wbr />บรม

<strong>2.กิจกรรมต่างๆ</strong> อาทิ ทริปการถ่ายภาพในแบบฉบับของไลก้<wbr />า ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระ<wbr />หว่างผู้ใช้กับแบรนด์

<strong>3.ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก</strong> ที่ดำเนินการเปิดเป็นแห่งที่ 19 ของโลก และแห่งที่ 4 ของเอเชีย รองจาก Tokyo, Kyoto ประเทศญี่ปุ่น และประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแสดงผลง<wbr />านของช่างภาพระดับโลก รวมทั้งผลงานของช่างภาพไทยที่จะ<wbr />ได้มีโอกาสนำมาแสดงและผลักดันไป<wbr />สู่เวทีระดับโลก

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/56a0b19f04f1670f83839937ef9dc36c.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> ไลก้า แกลลอรี แบงค็อก เปิดเข้าชมทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.</figcaption></figure>

โดยผลงานแรกที่จะจัดแสดงในไลก้า แกลลอรี แบงค็อก บนชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษร วิลเลจ แยกราชประสงค์นั้น ได้รับเกียรติจาก <strong>Nick Ut</strong> ช่างภาพระดับโลกชาวเวียดนาม เจ้าของรางวัล Pulitzer (พูลิตเซอร์) ที่นำผลงานกว่า 25 ภาพ ซึ่งมีคุณค่าทางศิลปะและประวัติ<wbr />ศาสตร์มาแสดงในนิทรรศการ <strong>“My Story by Nick Ut” </strong>โดยมีภาพไฮไลต์คือ “The Terror of War” มาร่วมแสดงถึง 30 เมษายน 2561

“สำหรับเป้าหมายในปีนี้ หวังว่าจะยังสามารถรักษากลุ่มผู้<wbr />ใช้เดิม พร้อมกับเพิ่มกลุ่มผู้ใช้ใหม่<wbr />ให้เพิ่มขึ้น โดยคาดยอดขายไว้ที่ 500 ล้านบาท และตั้งเป้าครองใจกลุ่มผู้ใช้งา<wbr />นกล้องระดับซูเปอร์ลักชัวรีผ่า<wbr />นกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งกลยุทธ์ด้านราคาที่เทียบ<wbr />เท่ากับต่างประเทศ” ดนัยกล่าวทิ้งท้าย

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/98d17d6d38272bcc644a5400a0a144a3.png" alt="" />

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4dc9d8884f5e532cc482e3d7b391d047.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> The Terror of War ภาพไฮไลต์ของนิทรรศการ My Story by Nick Ut</figcaption></figure>

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f3f9660b276f7328c0d77c495bc533b9.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> ไลก้า สโตร์ ชั้น 2 เกษร วิลเลจ</figcaption></figure>
<p class="m-1890121276742751611m2853554622108843103m5311481469857642049m-6590137432174609182m4028804304585507045gmail-body" style="margin-bottom: .0001pt; background: white;"></p>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events