<h2>ข้าราชการออกไป เหล่าเศรษฐีพันล้านเข้ามาแทน ไม่ใช่แค่ Elon Musk เท่านั้น Trump ได้แต่งตั้งบรรดาเศรษฐีพันล้านให้เข้ามารับตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในรัฐบาลของเขา ไม่ว่าจะเป็น Howard Lutnick ผู้ที่จะมาต่อกรกับสงครามการค้า หรือ Stephen Feinberg ในการทำสงครามจริงๆ Kelly Loeffler ให้เข้ามาบริหารหน่วยงานเล็กๆ หรือ LindaMcMahon ที่จะมารับหน้าที่ยุบหน่วยงานขนาดใหญ่ นั่นยังไม่รวมถึง Tilman Fertitta และ Warren Stephens ที่กำลังจะได้รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตอย่างสบายๆ ในอิตาลีและสหราชอาณาจักรตามลำดับ</h2> Howard Lutnickรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ความมั่งคั่ง: 3.2 พันล้านเหรียญแหล่งที่มา: การเงิน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักสู้แห่ง Wall Street กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งของชาวอเมริกันหลังเหตุการณ์ 9/11 โดยเขาสามารถสร้างทีมที่มีพนักงานกว่า 14,000 คนขึ้นมาใหม่หลังจากสูญเสียพนักงานไปมากกว่า 650 คนที่สำนักงานของ Cantor Fitzgerald ใน World Trade Center เขาทำสิ่งนี้ได้ด้วยการผสมผสานระหว่างความเฉลียวฉลาด ความโลภ และการข่มขู่ตามคำบอกเล่าของอดีตเพื่อนร่วมงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ผู้คนกลัวเขามาก” คนหนึ่งกล่าว “ฉันเคยเห็นการกลั่นแกล้งด้วยตาตัวเอง” ฝ่ายที่ปกป้องเขา กล่าวว่า บางคนอาจไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับเขา ปัจจุบันในฐานะทีมงานของ Trump เขากำลังหันเป้าโจมตีไปยังประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ “ประเทศเหล่านี้พึ่งพาเศรษฐกิจของอเมริกา” เขากล่าว “พวกเขาควรต้องเริ่มให้ความนับถือเรา และจะต้องทำเดี๋ยวนี้เลย” Stephen Feinbergรองรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมความมั่งคั่ง: 5 พันล้านเหรียญแหล่งที่มา: ไพรเวทอิควิตี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เจ้าพ่อไพรเวทอิควิตี้รายนี้เคยเข้าร่วมกองทัพผ่านโปรแกรม ROTC ขณะศึกษาอยู่ที่ Princeton เขาได้พยายามผสมผสานความรักชาติเข้ากับผลกำไร เขาเคยจ้าง Dan Quayle อดีตรองประธานาธิบดี และ John Snow อดีตรัฐมนตรีการคลัง จากนั้นเข้าซื้อกิจการ Chrysler พร้อมกับเสนอภาพลักษณ์ว่าเป็นการตอบแทนประเทศ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องเข้าไปอุ้มกิจการในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก ล่าสุด Feinberg ได้หันมาลงทุนในบริษัทด้านกลาโหม รวมถึงธุรกิจดาวเทียมและโดรน Linda McMahonรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการความมั่งคั่ง: 3 พันล้านเหรียญแหล่งที่มา: ธุรกิจมวยปล้ำ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;World Wrestling Entertainment (WWE) ซึ่งเธอร่วมก่อตั้งกับสามีเศรษฐีพันล้าน Vince McMahon เคยจัด WrestleMania ที่ Trump Plaza ใน Atlantic City เมื่อปี 1988 และ 1989 Linda เคยลงสมัครวุฒิสภาสหรัฐฯ 2 ครั้งในรัฐ Connecticut บริจาคเงินมากกว่า 40 ล้านเหรียญให้กับการรณรงค์หาเสียงของ Trump เป็นหัวหน้าสำนักงานธุรกิจขนาดย่อม (SBA) ในรัฐบาล Trump ชุดแรก และเคยนั่งคณะกรรมการบริษัทแม่ของTruth Social ในด้านการศึกษานั้น เธอเคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการของ Sacred Heart University เป็นเวลา 14 ปี และเคยเป็นสมาชิกคณะกรรมการด้านการศึกษาระดับรัฐใน Connecticut เป็นเวลา 1 ปี Steven Witkoffทูตพิเศษประจำตะวันออกกลางความมั่งคั่ง: 2 พันล้านเหรียญแหล่งที่มา: อสังหาริมทรัพย์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Witkoff เป็นเพื่อนกับ Trump มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 สมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน New York ปัจจุบันเขายังมีสินทรัพย์ใน Los Angeles และ Florida ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเขาด้วย Witkoff ได้ส่วนแบ่งรายได้จากโครงการคริปโตของ Trump ที่ชื่อ World Liberty Financial และเมื่อไม่นานมานี้เขายังอยู่ระหว่างการเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ในนามของ Trump Jared Isaacmanผู้บริหาร NASAความมั่งคั่ง: 1.5 พันล้านเหรียญแหล่งที่มา: ธุรกิจชำระเงิน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เขาสร้างความมั่งคั่งจากบริษัท Shift4 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบชำระเงินที่ถูกใช้งานโดยธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมในสหรัฐฯ ถึง 1 ใน 3 แต่สิ่งที่เขาหลงใหลจริงๆ คือ ท้องฟ้าและดวงดาว จากการได้ใบอนุญาตนักบินตอนอายุ 22 ปี ไปจนถึงการก่อตั้งกองทัพอากาศเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ซึ่งขายให้กับ Blackstone ไปปี 2019) และเป็นพลเรือนคนแรกที่เดินในอวกาศ Isaacman พร้อมแล้วสำหรับบทบาทใหม่ของเขา: “ตอนนี้เรายังอยู่แค่ในยุคพี่น้องตระกูล Wright ของการบินอวกาศของมนุษย์เท่านั้น” Kelly Loefflerหัวหน้า Small Business Administrationความมั่งคั่ง: 1.3 พันล้านเหรียญแหล่งที่มา: การเงิน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภรรยาของเศรษฐีพันล้าน Jeff Sprecher ซึ่งเป็นซีอีโอของ Intercontinental Exchange โดย Loeffler เคยทำงานด้านสื่อสารที่บริษัทของสามีมานานถึง 16 ปี ในปี 2018 เธอพยายามเปิดตัวบริษัทคริปโตของตัวเองในชื่อ Bakkt แต่ในปี 2019 โครงการนี้ขาดทุนไป 33 ล้านเหรียญโดยไม่สร้างรายได้เลย ช่วงปลายปีนั้นเองเธอก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ เรียบเรียง: พินน์นรา วงศ์วิริยะ และเบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตรภาพ: Guerin Blask เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/people/30-under-30/pavin-chayavivatkul-tbc-save-the-world-aluminium-loop" alt="ภวินท์ ชยาวิวัฒน์กุล โปรเจกต์รักษ์โลก “Aluminium Loop”">ภวินท์ ชยาวิวัฒน์กุล โปรเจกต์รักษ์โลก “Aluminium Loop”</a>​ ​<a href="https://www.mebmarket.com/ebook-366034-Forbes-Thailand-May-2025" alt="​อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine">​อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://www.mebmarket.com/ebook-366034-Forbes-Thailand-May-2025" alt="https://www.mebmarket.com/ebook-366034-Forbes-Thailand-May-2025" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/JqtARBAL351v8rSiQyD3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="JqtARBAL351v8rSiQyD3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" data-image-link="https://www.mebmarket.com/ebook-366034-Forbes-Thailand-May-2025" origin-size="300,394" style="width: 300px; height: auto;" data-index="0"></a></figure></div>
<div style="display:none;"><a href="https://demo.sanagustin.ac.id/" rel="dofollow">pg slot</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://demo.sanagustin.ac.id" rel="dofollow">scatter hitam</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://demo.sanagustin.ac.id/" rel="dofollow">mahjong ways</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://demo.sanagustin.ac.id" rel="dofollow">mahjong ways 2</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://demo.sanagustin.ac.id" rel="dofollow">mahjong ways 3</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://demo.sanagustin.ac.id" rel="dofollow">slot gacor</a></div>

เหล่าคนใหญ่คนโตของ Trump เมื่อบรรดามหาเศรษฐีอเมริกัน เข้าร่วมทำเนียบรัฐบาล

<h2>SCB Financial Markets (SCB FM) มองครึ่งหลังปี 2568 เงินบาทไทยอาจกลับมาแข็งค่าพร้อมประเทศอื่นในภูมิภาค สวนทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนลง มีแนวโน้มเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดทุนและตลาดพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้น แนะจับตาผลเจรจาการค้าและนโยบายทรัมป์</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เงินบาทในปีนี้ยังคงผันผวนสูง โดยในปีนี้เงินบาทเคยอ่อนค่าไปแตะระดับสูงสุดที่ราว 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะกลับมาแข็งค่าแตะระดับต่ำสุดที่ราว 32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเปลี่ยนแปลงถึง 7.4% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน ความผันผวนนี้มาจากทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูงต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม สำหรับครึ่งหลังของปี 2568 ค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยมาจากปัจจัยสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่&nbsp; &nbsp; 1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ: ช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในช่วงขาขึ้นหรือ Bull Market มีนักลงทุนต่างชาตินำเงินเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์สหรัฐฯ จำนวนมาก แต่ด้วยผลกระทบจากนโยบายภาษีทรัมป์ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องแนวทางการรับมือในกรณีที่สหรัฐฯ ขาดดุลการคลังมากขึ้น ต่อเนื่องไปจนถึงการปรับฐานลดลงของตลาดอันเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่สั่นคลอน และการปรับตัวลดลงของตัวเลขเศรษฐกิจบางตัว ทำให้เงินค่าดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง&nbsp; &nbsp; 2. ค่าเงินในภูมิภาคแข็งขึ้น: ค่าเงินบาทมักมีแนวโน้มแข็งค่าไปพร้อมๆ กับค่าเงินอื่นๆ ในภูมิภาค อาทิ ดอลลาร์ไต้หวัน เยนญี่ปุ่น และวอนเกาหลีใต้&nbsp; &nbsp; 3. ราคาทองคำกลับมาสูงขึ้นบางช่วง: ค่าเงินบาทไปมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับราคาทองคำสูงกว่าประเทศอื่น โดยเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เงินบาทก็มักแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย&nbsp; &nbsp; 4. เงินทุนเคลื่อนย้าย: เมื่อนักลงทุนเริ่มเทขายสินทรัพย์ในตลาดสหรัฐฯ โดยหันไปกระจายความเสี่ยงสู่ตลาดเอเชียและยุโรป ทำให้ไทยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/ZdG8hC8Y7pj4x32MgRkA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ZdG8hC8Y7pj4x32MgRkA.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"><figcaption><div>วชิรวัฒน์ บานชื่น</div></figcaption></figure></div> ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนลงในปีนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สหรัฐฯ ต้องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยวชิรวัฒน์อธิบายว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 110 จุดเมื่อก่อนหน้านี้มีความ Overvalue หรือก็คือแข็งค่าเกินปัจจัยโครงสร้างเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ถึง 15% เนื่องมาจากการขาดดุลการค้าในฐานะผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลกที่นำเข้ามากกว่าส่งออก นำมาสู่นโยบายภาษีสุดโต่งของทรัมป์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ลดลงและเริ่มมีการขายต่อเนื่องมาเรื่อยๆ อย่างกรณีของจีนที่ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ โดยหันมาสะสมทองคำแทนตั้งแต่ยุคทรัมป์ 1.0 ล่าสุดญี่ปุ่นก็เริ่มเทขายสินทรัพย์สหรัฐฯ เพื่อมาถือสัดส่วนสินทรัพย์ในประเทศของตัวเองมากขึ้น โดยภาพรวมแล้ว SCB FM จึงมองว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะอ่อนค่าต่อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อนึ่ง ยังมีนักลงทุนภาคเอกชนที่เข้ามาลงทุนในสหรัฐฯ อยู่ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ไม่ได้สูญเสียความสำคัญและจะยังคงสถานะ reserve currency อยู่โดยมีสัดส่วนที่ 58.2% ในขณะที่เงินยูโรอยู่ที่ 19.8% และเงินหยวนของจีนอยู่ที่ 2.1% ทั้งนี้การถือครองเงินยูโรและเงินหยวนในฐานะ reserve currency มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ไทยได้รับอานิสงส์เงินทุนเคลื่อนย้าย แต่ไม่มาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากสหรัฐฯ ย่อมต้องมีจุดหมายปลายทางอื่น นั่นก็คือเอเชียและยุโรป โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังโควิด-19 ผ่านพ้นไป การค้าของประเทศในเอเชียเติบโตขึ้น สิ่งหนึ่งที่เห็นคือรายการฝากเงินในสกุลเงินต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย กล่าวคือมีการซื้อขายแต่ไม่ได้แลกเงินกลับมาเป็นสกุลเงินท้องถิ่น (local currency) ถ้าในปีนี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนลง ก็มีแนวโน้มการแลกเงินกลับมาเป็นสกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินเหล่านี้อาจแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน มันคือการที่ตลาดปรับมุมมองการลงทุน” วชิรวัฒน์กล่าว พร้อมชี้ให้เห็นภาพว่าที่ผ่านมา นักลงทุนเคยโฟกัสกับตลาดสหรัฐฯ แต่ตอนนี้กลับกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เคยอยากถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ตอนนี้กลับอยากดึงเงินกลับเข้ามาในประเทศมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไทยถือครองสินทรัพย์ต่างประเทศในสัดส่วนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก เงินที่จะดึงกลับมาจึงมีน้อย ขณะเดียวกันความน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติก็อยู่ในระดับต่ำเช่นกัน สะท้อนจากสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลไทยของนักลงทุนต่างชาติที่มีเพียงราว 9.8% เท่านั้น ต่ำกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งสัดส่วนพันธบัตรรัฐบาลไทยในดัชนี JPMorgan Government Bond Index-Emerging Markets ยังถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ 8.8% จึงทำให้แนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้ายที่จะไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย อาจไหลเข้าไทยไม่มากนัก SCB FM จึงมองกรอบเงินบาทที่ราว 31.50 - 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปีนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของไทย 2 ปีคาดจะอยู่ที่ 1.25-1.45% และ 10 ปีจะอยู่ที่ 1.55-1.80% ณ สิ้นปีนี้ ขณะเดียวกัน SCB FM มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ ในขณะที่มุมมองตลาดคาดการณ์ไว้ที่อย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ช่วงเดือนตุลาคมไปที่ 1.25%​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/kLVXXu7gybZbnUy6gnqd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="kLVXXu7gybZbnUy6gnqd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"><figcaption><div>แพทริก ปูเลีย</div></figcaption></figure></div> SCB พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ช่วยบริหารสภาพคล่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในโอกาสนี้ แพทริก ปูเลีย รองผู้จัดการใหญ่ Head of Financial Markets Function และ Head of Private Banking Relationship ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เน้นย้ำบทบาทของ SCB FM ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางการเงินกับลูกค้าธุรกิจ นักลงทุนสถาบันและลูกค้ารายย่อย โดยนำเสนอ 5 ผลิตภัณฑ์และบริการหลัก ประกอบด้วย&nbsp; &nbsp; 1. ธุรกิจอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง อาทิ FX Forward และ FX Options ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจของลูกค้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงด้านค่าเงินจากการค้าระหว่างประเทศ&nbsp; &nbsp; 2. การขยายผลิตภัณฑ์ FX และคู่สกุลเงินใหม่ เพื่อรองรับสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ของประเทศปลายทาง สำหรับลูกค้าที่กำลังขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคและตลาดเกิดใหม่&nbsp; &nbsp; 3. ช่องทางดิจิทัล อาทิ FX Online และ FX API ที่สามารถเชื่อมต่อธุรกรรม FX เข้ากับระบบ Treasury ของลูกค้าได้โดยตรง เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศ และการซื้อขายพันธบัตรในตลาดรอง (Secondary Bond) ผ่านแอป SCB Easy เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับลูกค้ารายย่อย&nbsp; &nbsp; 4. ผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Structured Notes ที่ออกแบบโดยอิงกับหลากหลายสินทรัพย์ อาทิ ค่าเงิน หุ้น และอัตราดอกเบี้ย เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันของลูกค้า&nbsp; &nbsp; 5. บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-FCD) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การบริหารความเสี่ยงด้วย FX อาจจะไม่เพียงพอในการเติมเต็มโอกาสให้แก่ ลูกค้าธุรกิจ นักลงทุนสถาบันและลูกค้ารายย่อย SCB Financial Markets จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นการสร้างผลตอบแทนที่ยอมรับได้ เพื่อบริหารสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ผสานกับศักยภาพทางเทคโนโลยีดิจิทัลภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ซึ่งทั้ง 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ และเรามีแผนเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง” แพทริกกล่าว ภาพ: SCB Financial Markets เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/hsbc-family-owned-businesses-in-asia-june-2025" alt="HSBC เผยผลวิจัย ธุรกิจครอบครัวเอเชียอยาก ‘ส่งต่อ’ ธุรกิจให้ทายาท แต่เกินครึ่งยังไม่มีแผนจริงจัง!">HSBC เผยผลวิจัย ธุรกิจครอบครัวเอเชียอยาก ‘ส่งต่อ’ ธุรกิจให้ทายาท แต่เกินครึ่งยังไม่มีแผนจริงจัง!</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

SCB มองค่าเงินบาทอาจแข็งขึ้นสูงสุด 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปีนี้ แนะจับตาผลเจรจาการค้าและนโยบายทรัมป์

<h2>ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์แห่งชัยชนะของ Donald Trump ในคืนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่เขากำลังเอ่ยถึงบรรดาบุคคลที่ช่วยผลักดันให้เขากลับมาสู่วงการการเมืองอีกครั้งอย่างน่าทึ่ง ฝูงชนต่างพร้อมใจกันระเบิดเสียงร้องตะโกนเป็นเสียงเดียว E-LON! E-LON! E-LON!</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ที่นี่มีดาวดวงใหม่ ดาวดวงนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว Elon” Trump พรั่งพรูออกมาก่อนจะร่ายยาวถึงบุคคลผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคนนี้ “อภิมหาอัจฉริยะ” ผู้ซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีวัย 78 ปี สัญญาจะให้อำนาจอย่างมหาศาลเพื่อพลิกโฉมนโยบายของประเทศและการใช้สอยงบประมาณรัฐบาลกลางสหรัฐฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Musk โด่งดังและร่ำรวยที่สุดในบรรดาพันธมิตรผู้รายล้อม Trump ซึ่งคณะคนสนิทใกล้ตัวว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ยุคใหม่สมัย 2 ส่วนหนึ่งประกอบไปด้วย Joe Rogan นักจัดรายการพอดแคสต์, Vivek Ramaswamy เศรษฐีพันล้านธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ และ Dana White กรรมการผู้จัดการใหญ่ของศึกประลองศิลปะการต่อสู้อย่าง UFC คาดว่าบางคนจะได้เก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี ส่วนคนอื่นๆ อาจจะได้รับมอบหมายหน้าที่อันทรงอิทธิพลเสียยิ่งกว่า คือการเป็นคนหลังบ้านของ Trump ที่ทำหน้าที่คอยพยักเพยิดเวลาเขาเล่นกอล์ฟ รับประทานอาหารร่วมโต๊ะที่คฤหาสน์ Mar-a-Lago หรือชี้ชวนกันรับชมช่อง Fox News&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่นี่ไม่ใช่งานง่ายอย่างที่คิด เพราะถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก Brookings Institution รัฐบาล Trump สมัยแรกมีอัตราการเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากถึง 92% ผู้นำสหรัฐฯ คนนี้ใช้ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติหมดไปถึง 4 คน และยังเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารถึง 7 คน รวมถึง Anthony Scaramucci ผู้โชคร้ายที่ได้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติเพียง 11 วันเท่านั้น ไม่นับรวมบรรดาที่ปรึกษาภายนอกอื่นๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามความพึงพอใจของประธานาธิบดีได้ถี่พอๆ กัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามบรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ต่างเรียงแถวกันเข้ามาให้ได้เลือกสรรอย่าง John Paulson และ Scott Bessent เจ้าพ่อกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เป็นตัวเก็งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลังในช่วงแรกต่างก็ประกาศตัวพร้อมช่วย Musk ตัดลดการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ผมอยากมีส่วนร่วมในภารกิจนี้ ไม่ว่าจะในฐานะคนในหรือคนนอก” นี่คือคำกล่าวของ Bessent ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยทำงานกับพ่อมดการเงินอย่าง George Soros ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตตัวยงที่ชาว MAGA หวาดกลัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน Ramaswamy และ Robert F. Kennedy Jr. ที่ต่างเคยหมายมั่นตำแหน่งตัวแทนพรรคเพื่อก้าวสู่การลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนจะเปลี่ยนใจคุกเข่ายอมสวามิภักดิ์ต่อ Trump ดูท่าจะหวังอะไรมากกว่าเพื่อน ถึงขั้นมองไปที่อำนาจในการยกเครื่องหน่วยงานของรัฐทั้งกระบิ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย Kennedy ผู้มีแนวคิดต่อต้านวัคซีนและเชื่อในทฤษฎีวิทยาศาสตร์เทียมเกี่ยวกับการต่อต้านการผสมฟลูออไรด์ลงไปในน้ำดื่มคือผู้ที่ต้องการจะดูแลการสาธารณสุขของประเทศ พร้อมประกาศกร้าวว่าจะ “กวาดล้างการทุจริต” ในสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วน Ramaswamy ประกาศไว้ว่า จะปิดฉากการทำหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ลงทั้งกระทรวง (คาดว่าแต่ละรัฐจะยังคงดูแลด้านนี้ต่อไปเอง) หมายเหตุ: บทความนี้แปลมาจาก Forbes ฉบับเดือนธันวาคม ปี 2024-เดือนมกราคม ปี 2025 เรื่อง: JOHN HYATT เรียบเรียง: วินิจฐา จิตร์กรีภาพ: ELON MUSK โดย Nathan Laine/Bloomberg เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/world/america/how-zyn-conquered-american-tobacco-market" alt="สู่อาณาจักร Zyn แต่งกลิ่นนิโคตินบรรจุซอง ชิงส่วนแบ่งตลาดยาสูบสหรัฐฯ">สู่อาณาจักร Zyn แต่งกลิ่นนิโคตินบรรจุซอง ชิงส่วนแบ่งตลาดยาสูบสหรัฐฯ</a>​ ​<a href="https://www.mebmarket.com/ebook-353931-Forbes-Thailand-March-2025" alt="อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine">อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine</a>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px; width: 300px;"><a href="https://www.mebmarket.com/ebook-353931-Forbes-Thailand-March-2025" alt="https://www.mebmarket.com/ebook-353931-Forbes-Thailand-March-2025" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/hkg9142rXR8ppMWSwFfW.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="hkg9142rXR8ppMWSwFfW.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="300,394" data-image-link="https://www.mebmarket.com/ebook-353931-Forbes-Thailand-March-2025" style="width: 300px; height: auto;" data-index="0"></a></figure></div>
<div style="display:none;"><a href="https://aprof.unse.edu.ar/" rel="dofollow">slot gacor</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://aprof.unse.edu.ar/" rel="dofollow">slot gacor maxwin</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://aprof.unse.edu.ar/" rel="dofollow">slot gacor hari ini</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://aprof.unse.edu.ar/" rel="dofollow">slot gacor 2025</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://aprof.unse.edu.ar/" rel="dofollow">slot gacor gampang menang</a></div>

จักรวาลใหม่ใต้เงา Trump เปิดสายสัมพันธ์แห่งอำนาจเบื้องหลังเวทีการเมืองสหรัฐฯ

8 สัปดาห์แรกของรัฐบาล Trump 2.0 มหาเศรษฐีอเมริกันคนไหนมั่งคั่งลดลงมากที่สุด?

การตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อรักษาหลักเสรีภาพ

<h2>วงการเงินคริปโตถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกหลังจากประธานาธิบดี Biden ออกคำสั่งพิเศษฉบับใหม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเงินคริปโต แท้จริงแล้วความรู้สึกดีๆ นั้นเกิดขึ้นผิดที่ผิดทาง</h2>
เป็นเวลาหลายเดือนที่แวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลเฝ้ารออย่างกระวนกระวายในระหว่างที่รัฐบาลของประธานาธิบดี Biden ตระเตรียมคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับมาตรการของภาครัฐในการกำกับดูแลการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสินทรัพย์ที่เป็นเงินคริปโต โดยภายในเวลา 5 ปีมูลค่าตามราคาตลาดขยายตัว 300 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

สาวกเงินคริปโตหวั่นใจว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะใช้กฎหมายกดดันภาคอุตสาหกรรมนี้อย่างหนัก หากแต่คำสั่งที่ออกมานี้ดูเหมือนจะวางกรอบการทำงานอันสมเหตุสมผลในการจัดการกับปรากฏการณ์ดังกล่าว ผู้เกี่ยวข้องกับวงการเงินคริปโตหลายต่อหลายคนรับรู้ว่าจะมีการออกกฎระเบียบบางอย่าง และต่างก็รู้สึกยินดีที่รัฐบาลลุงแซมจะดำเนินการอย่างมีเหตุมีผลและมีความรับผิดชอบ

ถึงแม้จะมีคำปลอบประโลมซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความต้องการ “เสริมพลังความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในระบบการเงินโลกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยีและทางเศรษฐกิจ” หากแต่สมมติฐานซึ่งบอกเป็นนัยของคำสั่งพิเศษนี้ก็คือ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากว่ารัฐบาลกลางทั้งหมดไม่ได้มีบทบาทในการกำกับดูแล ความจริงแล้วเป็นการสร้างให้เห็นภาพว่า โลกใบใหม่แห่งเงินคริปโตนี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงขั้นสุด ไม่ใช่เพียบพร้อมไปด้วยโอกาสมหาศาล

ผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะมองสิ่งที่ไม่คุ้นเคยอย่างมีอคติซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ลองดูรายชื่อหน่วยงานรัฐซึ่งคำสั่งของประธานาธิบดี Biden กำหนดให้มีบทบาทอย่างใดอย่างหนึ่งอันได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารกลางสหรัฐ คณะกรรมาธิการการค้า สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สภานโยบายภายในประเทศประจำทำเนียบขาว สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม สำนักบริหารและงบประมาณ เป็นต้น

คณะกรรมาธิการจากภาครัฐและคณะผู้ทำการศึกษาจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนเป็นพิษเป็นภัยต่อการค้นพบที่ยิ่งใหญ่อันน่าตื่นตาตื่นใจ อุตสาหกรรมยานยนต์และอินเทอร์เน็ตจะพัฒนามาได้ถึงเพียงนี้หรือ ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทในระดับเดียวกันกับที่ต้องการเข้ามากำกับดูแลเงินคริปโต

ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ยุ่งเหยิงและคาดเดาไม่ได้ ความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา ความผิดพลาดมีอยู่ดาษดื่น พัฒนาการและความก้าวหน้ามาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ นักต้มตุ๋นและพวกสิบแปดมงกุฎมีอยู่รอบตัว ไม่ว่าเราจะเพียรพยายามทำในสิ่งที่มีอยู่เดิมหรือสิ่งใหม่ๆ ก็ตามที

แนวคิดหนึ่งในคำสั่งพิเศษฉบับนี้ที่ต้องปัดตกไปก็คือ แนวคิดที่กำหนดให้ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางขึ้นมา คุณจะไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวของความเป็นส่วนตัวทางการเงินเลยถ้าหากใช้เงินดิจิทัลสกุลดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลสามารถตามรอยทุกการจับจ่ายของคุณได้

เจ้าหน้าที่รัฐผู้มีอำนาจกำกับดูแลภาคเศรษฐกิจจะพยายามควบคุมภาคเศรษฐกิจโดยการออกคำสั่งกำหนดปริมาณการใช้จ่ายและการลงทุนในระดับที่ตนต้องการ และทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่า คุณจะปฏิบัติตามในสิ่งที่กำหนด โดยอาจถึงขั้นกำหนดวันหมดอายุของสกุลเงินนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

คำสั่งพิเศษดังกล่าวยังเผยความลับของภัยคุกคามร้ายแรงที่ฝ่ายบริหารมองเห็นในสกุลเงินดิจิทัลที่มีกลไกการคงมูลค่า (stablecoin) ซึ่งวิวัฒนาการเป็นสกุลเงินทางเลือกไปจนถึงสกุลเงินของรัฐบาล “นั่นก็คือสกุลเงินที่เป็นอิสระเป็นแกนกลางของระบบการเงินซึ่งขับเคลื่อนได้ดี นโยบายเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ”

คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีฉบับนี้เป็นเหมือนกับหมาป่าในคราบลูกแกะน้อย

การต่อสู้ทางการเมืองและทางกฎหมายครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า...

&nbsp;

เรียบเรียง: ริศา

อ่านเพิ่มเติม:
<ul id="crumbs">
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/commentaries/investment-outlook/%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88.html">ปีการลงทุนที่ท้าทายที่สุดในทศวรรษ</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c.html">ไขรหัสลับเบื้องหลังความสำเร็จ “ธุรกิจพรีออเดอร์”</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/news/other/10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0.html">10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3x7rNE6">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/3x7rNE6"><img class="lazy alignnone wp-image-65278 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-780x1024.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-768x1008.jpg 768w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-780x1024.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/FB109-EBOOK-RES150-1-768x1008.jpg 768w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events