<h2>Forbes Thailand รายงานจากงานประกาศรางวัล The Hotelier Awards 2017 ณ Studio City Hotel มาเก๊า รางวัลที่มอบให้กับบุคลากรยอดเยี่ยมในภาคการโรงแรมและบริการ แบ่งเป็นกลุ่มโรงแรมจากภูมิภาค Greater China ได้แก่ ประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน และสำหรับกลุ่มโรงแรมจากภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด รวมถึงเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น</h2>
รางวัล <a href="http://hotelierawards.com/">The Hotelier Awards </a>มีการมอบให้บุคลากรยอดเยี่ยม 14 ประเภทตำแหน่งในปีนี้ ตัวอย่างตำแหน่งที่มีการพิจารณา เช่น ผู้จัดการทั่วไป, เชฟ, กองเซียจ, การเงิน, อาหารและเครื่องดื่ม (F&amp;B) เป็นต้น อ่านรายชื่อผู้ชนะทั้งหมดด้านล่าง

Benoit C. Thebaut ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการ The Hotelier Awards 2017 เปิดเผยว่า รางวัลนี้ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2014 ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับภาคการโรงแรมและบริการให้เป็นสายอาชีพที่มีคุณค่า โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แรกเริ่มมีการให้รางวัลเฉพาะกลุ่มประเทศ Greater China ก่อนจะเพิ่มรางวัลเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชียขึ้นเมื่อปี 2016

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/e77a434145971df93f9506cb6648e527.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> Benoit C. Thebaut</figcaption></figure>

“จากการทำงานในภาคการโรงแรมและบริการมานานกว่า 15 ปีในประเทศจีน เราพบว่างานบริการเช่นนี้เป็นงานที่ขึ้นอยู่กับบุคลากรเป็นอย่างมาก หากบุคลากรมีความสามารถจะทำให้การบริการทุกอย่างดีเยี่ยม แต่ในเอเชียกลับยังไม่มีรางวัลใดที่มอบให้กับบุคลากรในสายงานโรงแรมและบริการ ดังนั้นเราจึงก่อตั้งงาน The Hotelier Awards ขึ้นเพื่อจะผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้ไปได้ไกลกว่าปัจจุบัน

และในปี 2017 มีประเภทตำแหน่งประเภทใหม่ที่มอบรางวัลเพิ่มเข้ามาคือ กลุ่ม Rising Stars ซึ่งจะมอบให้กับนักศึกษาฝึกงาน เพราะเราต้องการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าในสายอาชีพและทราบว่ามีอนาคตอันยาวไกลรออยู่ข้างหน้า” Benoit กล่าว

รางวัล The Hotelier Awards 2017 มีโรงแรมเข้าร่วมส่งผู้สมัครกว่า 900 คนจากแบรนด์โรงแรม 58 แบรนด์ จากนั้นทีมงานจะคัดเลือกใบสมัครเบื้องต้น ก่อนจะส่งต่อให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คนให้คะแนน จนได้ผู้เข้ารอบสุดท้ายในแต่ละประเภท ประเภทละ 5 คน เพื่อทำการสัมภาษณ์ในรอบชิงชนะเลิศ

<img style="width: 680px; height: 452px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8c86a25ee7fb58137e0e48087d750aab.png" alt="" />

สำหรับโรงแรมในประเทศไทย มีบุคลากรทั้งหมด 5 ท่านที่เข้ารอบสุดท้าย ได้แก่
<ol>
 	<li>Prasert Rungjaeng กงเซียจ จาก วนา เบลล์ เอ ลักชัวรี คอลเลคชั่น เกาะสมุย</li>
 	<li>Supapong Mekprasart หัวหน้าแผนกเครื่องดื่ม จาก แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ</li>
 	<li>Pinit Na Nakorn ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาบุคลากร จาก เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ</li>
 	<li>Sirikarn Anyamaneearmo Floral Designer จาก แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ</li>
 	<li>Suphaporn Khanthong Spa Therapist จาก เดอะ พาวิลเลี่ยน ภูเก็ต</li>
</ol>
Benoit กล่าวต่อว่า ในปี 2018 รางวัลนี้จะมีการจัดงานแยกจากกันระหว่างกลุ่มประเทศ Greater China กับกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งการประกาศรางวัลสำหรับกลุ่ม Greater China จะจัดขึ้นที่เมือง Shenzhen ประเทศจีน ส่วนการประกาศรางวัลของกลุ่มประเทศเอเชียจะจัดขึ้นในสิงคโปร์

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/af637c35ef0087b899cf0f696047bf5d.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> (ซ้าย) Benoit C. Thebaut และ (ขวา) Uday Verma</figcaption></figure>

Uday Verma ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตแก้วไวน์คริสตัลแบรนด์ ลูคาริส (Lucaris) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงาน The Hotelier Awards 2017 กล่าวว่า บริษัทเลือกสนับสนุนงานในครั้งนี้เนื่องจากเป็นงานที่รวมบุคลากรด้านการโรงแรมจากทั่วเอเชีย เป็นกลุ่มผู้ใช้และผู้ซื้อสำคัญของตลาดแก้วไวน์

ดังนั้นการเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนและได้นำผลิตภัณฑ์ของลูคาริสมาใช้ในงานกาล่าดินเนอร์ประกาศรางวัลถือเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าจะทำให้บุคลากรการโรงแรมได้สัมผัสและเข้าใจถึงคุณภาพของลูคาริสอันเป็นแบรนด์แก้วไวน์จากเอเชียว่ามีคุณภาพดีแข่งขันได้กับแบรนด์จากภูมิภาคยุโรป

&nbsp;

รายชื่อผู้ชนะรางวัล The Hotelier Awards 2017

Rooms Hotelier ASIA – Maria Judith S. Matubis, City of Dreams Manila, Philippines

Rooms Hotelier GREATER CHINA – Goncalo Monteiro, Four Seasons Hotel Macao, Cotai Strip

Corporate Hotelier – Walter Junger H12

Owner Representative GREATER CHINA – Park Li, The Ritz Carlton Beijing, Financial Street, China

Finance Hotelier ASIA – I Made Dwi Adnyana, Alila Villas Uluwatu, Indonesia

Finance Hotelier GREATER CHINA – Belinda Yuan, The Portman Ritz-Carlton, Shanghai, China

Human Resource Hotelier ASIA – Sariparmetha Kencana, Four Seasons Hotel, Jakarta, Indonesia

Human Resource Hotelier GREATER CHINA – Dundy Deng, Niccolo Chengdu, China

Concierge Hotelier ASIA – Stella Tan, Four Seasons Hotel, Jakarta, Indonesia

Concierge Hotelier GREATER CHINA – Freda Cheung, Four Seasons Hotel Macao, Cotai Strip

Food &amp; Beverage Hotelier ASIA – Denise Matthijsse, Fairmont Sanur Beach, Indonesia

Food &amp; Beverage Hotelier GREATER CHINA – Hildegard Anzenberger, The Langham Shenzhen, China

The Rising Star – Benita Nathania Bunawan, Blue Mountains International Hotel Management School at Torrens University, Australia

Sales &amp; Marketing Hotelier ASIA – Pearl P. Maclang, Marco Polo Davao, Philippines

Sales &amp; Marketing Hotelier GREATER CHINA – Cindy Zhang, Grand Kempinski Hotel Shanghai, China

Wellness &amp; Spa Hotelier ASIA – Dwi Santini, Mandapa a Ritz-Carlton Reserve, Indonesia

Wellness &amp; Spa Hotelier GREATER CHINA – Mary Yip, Studio City Macau

Technology Hotelier GREATER CHINA – Tom Du, New World Beijing Hotel, China

Unsung Hero ASIA – Michael G. Lumbres, City of Dreams Manila, Philippines

Unsung Hero GREATER CHINA – Teresa Huang, Intercontinental Sanya Resort, China

Chef Hotelier ASIA – Nguyen Cong Chung, Sheraton Hanoi Hotel, Vietnam

Chef Hotelier GREATER CHINA – Philippe Bruneau, W Guangzhou, China

General Manager ASIA – Ana Gorjao Henriques, Mandapa a Ritz-Carlton Reserve, Indonesia

General Manager GREATER CHINA – Janet McNab, Sheraton Grand Macao Hotel &amp; The St. Regis Macao

4 โรงแรมไทยเข้ารอบสุดท้ายเวทีสุดยอดบุคลากรโรงแรม-การบริการแห่งเอเชีย The Hotelier Awards 2017

<h2>มิชลิน ไกด์ เปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารที่พัก "มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ" ประจำปี 2561 มีร้านอาหารผ่านการคัดเลือกรวมทั้งสิ้น 98 ร้าน</h2>
Michael Ellis ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ "MICHELIN Guide" ทั่วโลก เปิดเผยว่า "การจัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ ฉบับปฐมฤกษ์ สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของมหานครแห่งนี้ และเป็นความภาคภูมิใจของ ทีมผู้ตรวจสอบมิชลินใช้เวลากว่า 8 เดือนในการตระเวณกินร้านอาหารทั่วกรุงเทพฯ การให้ดาวมิชลินมีหลักเกณฑ์การพิจารณาจากคุณภาพของวัตถุดิบ เทคนิคการปรุงอาหาร รสชาติอาหาร ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติของอาหาร"

ในส่วนของรางวัลยอดนิยมในหมู่เชฟและร้านอาหารอย่างรางวัล "บิบ กูร์มองด์" (ฺBib Gourmand)  ที่นำเสนออาหารคุณภาพในคุ้มค่าไม่เกิน 1,000 บาท มีร้านอาหารได้รับรางวัลทั้งสิ้น 35 ร้าน อาทิ บ้านใหญ่ผัดไทย, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ, เจ๊โอว เป็นต้น โดยรายชื่อร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินมีทั้ง 17 ร้านมีดังต่อไปนี้

<figure><img style="width: 680px; height: 501px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/00f551ed4460227735e206438d24c9dd.jpg" alt="" width="680" height="501" /><figcaption> Michael Ellis ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ "MICHELIN Guide" ทั่วโลก</figcaption></figure>

ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 3 ร้าน

1.GAGGAN
อาหารเชิงนวัตกรรม - หรูหรา
โดยเชฟชาวอินเดีย Gaggan Anand ได้สร้างชื่อของตัวเองจนเป็นที่รู้จักทั่วเอเชียด้วยการคว้าอันดับที่ 1 ของเอเชีย ถึง 3ปีซ้อน รวมถึงติดอันดับท๊อป 10 ของโลก จนสร้างปรากฏการณ์มากรุงเทพฯ ต้องมา Gaggan
สถานที่: 68/1 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ

2.LE NOEMANDIE
อาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย - หรูหรา
มีเชฟ Arnaud Dunand-Sauthier ยังเลือกวัตถุดิบจากบ้านเกิดมาทำอาหารจานใหม่อีกด้วย
สถานที่: โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล 48 ซอยโอเรียนเต็ลอเวนิว บางรัก กรุงเทพฯ

3.MEZZALUNA
อาหารเชิงวัฒนธรรม - หรูหรา
ร้านตั้งอยู่บนชั้น 65 ของโรงแรมเลอบัว เสิร์ฟอาหารสไตล์ยุโรปร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น

ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 14 ร้าน

1. Bo.lan
อาหารไทย-Rustic
จากตำราอาหารไทยสมัยโบราณออกมาและวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดี เข้าถึงรากเหง้าของอาหารไทยจากสองเชฟคู่ขวัญ ดวงพร ทรงวิศวะ (โบ) และ ดิลลัน โจนส์ (ลาน)
สถานที่: ซอยสุขุมวิท 53 ถนนสุขุมวิท วัฒนา กรุงเทพฯ

2. CHIM BY SIAM WISDOM
อาหารไทย - ดั่งเดิม
นำเสนอสำรับไทยที่ผสานความโบราณและความทันสมัยได้อย่างลงตัว
สถานที่: 66 ซอยสุขุมวิท 31 แยก 4 เขตวัฒนา

3. ELEMENTS
อาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย - ตกแต่งแบบร่วมสมัย
ร้านอาหารชั้น 25 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ อาหารของที่นี่เป็นแบบฟิวชั่นที่ผสามผสานระหวางอาหารฝรั่งเศสและอาหารญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน

4.Ginza Sushi ICHI
ซูซิ - ดั่งเดิม
ร้านซูซิพรีเมี่ยมตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเอราวัณ ใช้วัตถุดิบส่งตรงจากตลาดโตเกียวในทุกวัน

5. J’AIME by Jean-Michel Lorain
อาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย - ตกแต่งอย่างมีดีไซน์
ก่อตั้งโดย เชฟ Jean-Michel Lorain ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังที่เสิร์ฟอาหารเข้ากับวัฒนธรรมไทย
สถานที่: โรงแรมยู สาทร กรุงเทพฯ ซอยงามดูพลี ถนนพระราม 4 สาทร กรุงเทพฯ

6. L’ATELIER de Joël Robuchon
อาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย - ชิค
สุดยอดร้านอาหารฝรั่งเศสของเชฟ Joël Robuchon ที่เป็นร้านอาหารที่ครอบครองดาวมิชลินทั่วโลกมากที่สุด
สถานที่: MahaNakhon CUBE ถนนนราธิวาสฯ บางรัก กรุงเทพฯ

7. NAHM
อาหารไทย - ตกแต่งร่วมสมัย
ร้านอาหารไทยที่สามารถคว้าดาวมิชลินในต่างแดนและสร้างกระแสให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเชฟ David Thompson
สถานที่ : โรงแรม COMO Metropolitan Bangkok ถนนสาทรใต้ สาทร กรุงเทพฯ

8. PASTE
อาหารไทย - ตกแต่งร่วมสมัย
ร้านอาหารไทยดั้งเดิมในรูปแบบที่ทันสมัย ได้ เชฟ Jason Bailey และเชฟบี-บงกช สระทองอุ่น ร่วมกันสร้างเมนูทันสมัย
สถานที่: Gaysorn Village ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ

9. เสน่ห์จันทร์
อาหารไทย - หรูหรา
นำเสนออาหารไทยโบราณตำรับชาววังแท้ๆ เสิร์ฟทั้งอาหารไทยโบราณและสำรับไทยที่หารับประทานได้ยาก

10. SAVELBERG
อาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย - หรูหรา
ร้านอาหารฝรั่งเศสสัญชาติดัชต์ของเชฟ Henk Savelberg เน้นวัตถุดิบคุณภาพจากต่างประเทศ
สถานที่: Oriental Residence Bangkokถนนวิทยุ ปทุมวัน กรุงเทพฯ

11. SRA BUA by KIIN KIIN
อาหารไทยร่วมสมัย - ตกแต่งอย่างมีดีไซน์
ร้านอาหารไทยโลกใหม่สุดครีเอท มีเชฟ Henrik Yde Andersen ที่เคยคว้ามิชลินมาแล้วที่ Kiin Kiin เดนมาร์ก
สถานที่: โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ

12. Sühring
อาหารยุโรปร่วมสมัย - ตกแบบร่วมสมัย
ร้านอาหารเยอรมันแนวใหม่ของเชฟฝาแฝด Mathias Sühring และ Thomas Sühring
สถานที่: ซอยเย็นอากาศ 3 ถนนเย็นอากาศ ช่องนนทรี กรุงเทพฯ

13. UPSTAIRS AT MIKKELLER
อาหารเชิงนวัตกรรม - เรียบง่าย
ที่ร้านเสิร์ฟเพียงเซตเมนู 10 คอร์สเท่านั้น เจ้าของเป็นเชฟหนุ่มชาวเกาหลี ผู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากชิคาโก
สถานที่: ซอยเอกมัย 10 แยก 2 ถนนเอกมัย วัฒนา กรุงเทพฯ

14. เจ๊ไฝ
ร้านสตรีทฟู้ด รสชาติแบบครัวบ้านที่ล้ำลึกและวัตถุดิบคุณภาพ เมนูเด็ดเช่น ไข่เจียวปู ปูผัดผงกะหรี่ และโจ๊กแห้ง
สถานที่: สี่แยกสำราญราษฎร์ ถนนสำราญราษฎร์ พระนคร กรุงเทพฯ

มิชลิน ไกด์ ให้ดาวมิชลิน 17 ร้านอาหารในกรุงเทพฯ ด้าน เจ๊ไฝ ได้ 1 ดาวมิชลิน สร้างชื่อสตรีทฟู้ดไทย

&ldquo;ช้าง&rdquo; เบียร์สัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล คว้ารางวัล Thailand Country Winner ประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) สไตล์ Helles / M&uuml;nchner จากเวทีการประกวดเบียร์ระดับโลก World Beer Awards 2017 ที่จัดขึ้นโดย TheDrinksReport.com เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มอันดับ 1 ของโลก ถือเป็นเวทีการประกวดเบียร์ระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน การประกวดแบ่งเป็น 8 ประเภทหลักของเบียร์ ได้แก่ Dark Beer, Flavored Beer, Lager Beer, Pale Beer, Sour Beer, Specialty Beer, Stout &amp; Porter และ Wheat Beer รวมทั้งสิ้น 72 สไตล์ โดยในปีนี้มีผลิตภัณฑ์เบียร์เข้าร่วมประกวดถึง 1,900 แบรนด์ จากผู้ผลิตเบียร์กว่า 36 ประเทศทั่วโลก 
 
ทั้งนี้ หลังจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ชิมแบบปิดตา (Blind Taste) และให้คะแนนผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมประกวด โดยดำเนินการพิจารณา 2 รอบ จึงได้ตัดสินให้ &ldquo;ช้าง&rdquo; คว้ารางวัล Thailand Country Winner ในประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) สไตล์ Helles / M&uuml;nchner ซึ่งเบียร์ในสไตล์นี้เป็นเบียร์ที่มีสีทองโทนอ่อนถึงเข้ม มีความหวานของมอลต์ พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ และความขมเล็กน้อยจากดอกฮอปส์ รสชาติที่นุ่มนวล มีปริมาณแอลกอฮอล์โดยปริมาตร (ABV) ประมาณ 4.8-5.4% 
 
นอกจากนี้ ในวันที่ 21 กันยายน จะมีการตัดสินรอบสุดท้ายเพื่อคัดเลือกเบียร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกประจำปี 2017 (World&rsquo;s Best Beers 2017) ในประเภทต่างๆ ทั้ง 8 ประเภท ณ กรุงลอนดอน โดยงานนี้จะมีผู้ผลิตเบียร์ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวง และสื่อมวลชนจากนานาประเทศรวมกว่า 100 รายเข้าร่วมชิมและลงคะแนน สำหรับผู้ที่สนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a href="http://www.worldbeerawards.com/news/world-style-winners-and-country-winners-announced">www.worldbeerawards.com/news/world-style-winners-and-country-winners-announced</a>

“ช้าง” คว้ารางวัล Country Winner จากเวทีประกวด World Beer Awards 2017

เป็นที่ทราบกันแล้วว่า Donald Trump ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะขึ้นดำรงตำแหน่งในปี พ.ศ.2560 ในขณะที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง Barack Obama ที่ได้รับโหวตให้เป็นอีกประธานาธิบดี ที่ที่สุดของคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาใกล้ถึงวาระแห่งการอำลาตำแหน่ง หนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งพลเมืองของประเทศสหรัฐฯ รอคอยนั้นคือการมอบเหรียญอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด (Presidential Medal of Freedom) ให้แก่พลเรือนที่สร้างความมั่นคงและสนับสนุนผลประโยชน์ให้แก่ประเทศ

ในปีนี้มีพลเรือนที่ได้รับเหรียญ Presidential Medal of Freedom ถึง 21 คน ซึ่งในอดีตผู้ที่ได้รับเลือกให้ได้รางวัลเหรียญแห่งเกียรติยศนี้จะเป็นผู้ที่ทำความดีในต่อมนุษยชน ทั้งด้านการรณรงค์สิทธิต่างๆ  การส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงาม หรือการสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ

แต่ในปี 2559 นี้ ผ่านมุมมองแห่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ  Barack Obama ได้เลือกผู้ที่สร้างชื่อเสียงทางด้านกีฬาได้แก่ Michael Jordan, Kareem Abdul-Jabbar, Ernie Banks และ Vin Scully รวมไปถึงผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงดังต่อไปนี้ Ellen DeGeneres,  Lorne Michaels,  Tom Hanks และ Oprah Winfrey ให้ได้ขึ้นรับรางวัลเหรียญ Presidential Medal of Freedom รวมถึงมหาเศรษฐีอย่าง Bill และ Melinda Gates จากการทุ่มเททรัพย์สินและแรงกายที่มีต่อ มูลนิธิ Bill &amp; Melinda Gates Foundation ซึ่งพวกเขาก่อตั้ง

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/e2622c504ed396ff56bcbc212ee0f8e6.png" alt="" />

บรรยากาศภายในงานล้วนมีแต่ความประทับใจ ทุกคนต่างปลื้มปิติยินดีกับรางวัลที่พวกเขาได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ellen DeGeneres พิธีกรรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงผู้นี้ ก็ต้องกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กับความภาคภูมิใจกับงานที่เธอได้ทำให้กับสังคม

โดย Obama ได้กล่าวบางช่วงไว้ว่า “ทุกคนที่ได้รับรางวัลนี้ คือคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่พวกเข้าได้ร้อง เกมส์ที่พวกเขาได้เล่น เรื่องราวต่างๆ หรือหนังที่พวกเข้าได้แสดงไว้ พวกมันเป็นแรงบันดาลใจให้นึกถึงตัวเองและการเป็นประธานาธิบดีของประเทศนี้ พวกเขาเหล่านี้คือคนที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก”

โดย
กันต์พจน์ สุริวงศ์
<a href="https://ipricethailand.com/">iPrice Thailand</a>

ปีสุดท้ายกับพลเมืองในความทรงจำแห่ง Barack Obama ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ประเภท DJSI Emerging Markets ในกลุ่ม Oil &amp; Gas Refining &amp; Marketing ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

จากการดำเนินธุรกิจให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน และด้วยมาตรฐานการปฏิบัติงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ IRPC ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (DJSI) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ หรือ DJSI Emerging Market ในกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันและก๊าซ  ประจำปี 2016 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ดัชนีดังกล่าวเป็นเกณฑ์พิจารณาการลงทุนที่เป็นการยอมรับในระดับสากล ซึ่งผลจากการได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก DJSI นี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของ IRPC ในการดำเนินธุรกิจด้านปิโตรเคมีครบวงจร   บนความสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อเป็นองค์กรที่ยั่งยืนชั้นนำในระดับประเทศและระดับโลก

IRPC ให้ความใส่ใจกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนและดูแลอย่างเป็นธรรมตลอดการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ชุมชน คู่ค้า พนักงาน หรือแม้แต่แรงงานทั่วไปของบริษัท รวมถึงการสร้างให้พนักงานทุกระดับมีความตระหนักรับผิดชอบในหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ คำนึงถึงความปลอดภัย เลือกใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า มีความคิดสร้างสรรค์และริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้บริโภค เช่น การผลิตเม็ดพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน IRPC จึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีไปพร้อมกับสังคมและประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนตลอดไป

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events