<h2>พนักงาน Google ทั่วโลกนัดประท้วงยื่นข้อเรียกร้อง 6 ข้อให้บริษัทปรับปรุงนโยบายต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศและเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง ภายใต้แคมเปญ ‘Google Walkout’ การประท้วงนี้เกิดจากความไม่พอใจทั่วองค์กรหลังการเปิดเผยว่า Andy Rubin หนึ่งในผู้ก่อตั้งและอดีตผู้พัฒนาระบบ Android ได้รับค่าจ้างลาออกสูงถึง 2.9 พันล้านบาทเพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาการล่วงละเมิดทางเพศ</h2>
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 เวลา 11.10น. เป็นวันดีเดย์ของแคมเปญประท้วงต่อการล่วงละเมิดทางเพศภายในองค์กร Google ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกในเวลาเดียวกันไล่ตามไทม์โซน โดยเริ่มต้นที่ Google ประจำประเทศญี่ปุ่นในกรุง Tokyo เป็นแห่งแรก ขณะที่ Google สิงคโปร์นั้นมีผู้ร่วมแคมเปญนับร้อยคน และไล่ไปจนถึง Google ใน Zurich, Berlin, Paris และ London

สำนักข่าว The New York Times รายงานว่าแคมเปญในวันนี้น่าจะมีสำนักงานของ Google เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 60% ของทั้งหมด และมีพนักงานร่วมประท้วงไม่ต่ำกว่า 1,500 คน

พนักงานทั้งพนักงานประจำและสัญญาจ้างที่เข้าร่วมการประท้วงจะวางใบปลิวข้อความว่า “ฉันไม่อยู่ที่โต๊ะเพราะฉันขอเดินออกไปร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกับพนักงาน Google คนอื่นๆ เพื่อประท้วงต่อการล่วงละเมิดทางเพศ การปฏิบัติที่ผิด และขาดความโปร่งใส และวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน”

<figure><img style="width: 638px; height: 479px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/dadce730eb22de4d4f9f8ee352434004.jpg" alt="" width="638" height="479" /><figcaption> บรรยากาศ Google Walkout ที่สิงคโปร์</figcaption></figure>

สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า การประท้วง Walkout for Real Change ครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่สื่อ The New York Times ตีแผ่ประเด็น Google จ่ายค่าชดเชยลาออกให้กับ Andy Rubin ไป 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท) หนึ่งในผู้ก่อตั้งและอดีตผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Android ไปตั้งแต่ปี 2014 แต่กลับปกปิดรายละเอียดข้อกล่าวหาการละเมิดทางเพศที่ทำให้เขาต้องลาออกจากบริษัท ซึ่ง Rubin เองยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/news-detail.php?did=2838">Google ไล่ออกพนักงาน 48 คนในช่วง 2 ปี จากกรณีอื้อฉาวล่วงละเมิดทางเพศ</a></li>
</ul>
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม 2018 Sundar Pichai ซีอีโอ Google เพิ่งเปิดเผยว่าบริษัทได้ไล่พนักงาน 48 คนออกจากองค์กรจากกรณีล่วงละเมิดทางเพศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 13 คนในนั้นเป็นพนักงานระดับผู้จัดการอาวุโส แต่กลับไม่มีการรายงานเรื่องราวดังกล่าวเลย ซึ่งทำให้เกิดการเรียกร้อง 6 ข้อในแคมเปญนี้ ได้แก่
<ol>
 	<li>การบังคับให้ตกลงไกล่เกลี่ยเป็นการภายในในกรณีล่วงละเมิดทางเพศและแบ่งแยกทางเพศในปัจจุบันและอนาคต ต้องหยุดลงทันที</li>
 	<li>บริษัทต้องให้คำมั่นเพื่อหยุดการจ่ายค่าจ้างและโอกาสการทำงานที่ไม่เท่าเทียมกัน</li>
 	<li>รายงานต่อสาธารณะอย่างเปิดเผยเมื่อมีเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ</li>
 	<li>ช่องทางการรายงานการล่วงละเมิดทางเพศนิรนาม โดยมีขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นแบบแผนเดียวกันทั่วโลก</li>
 	<li>ยกระดับให้ CDO-ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความหลากหลายในองค์กร ให้สามารถรายงานตรงต่อ CEO และสามารถให้คำแนะนำโดยตรงแก่บอร์ดบริหาร</li>
 	<li>ให้มีตัวแทนของพนักงานอยู่ในบอร์ดบริหารด้วย</li>
</ol>
สำนักข่าว BBC รายงานว่า การบังคับตกลงไกล่เกลี่ยเป็นการภายในนั้น เป็นข้อสัญญาที่มักจะปรากฏในสัญญาจ้างงานของพนักงาน Google โดยกำหนดให้ข้อขัดแย้งใดๆ ภายในองค์กรต้องมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันเป็นการภายในมากกว่าจะใช้วิธีการตามปกติอย่างเช่นกระบวนการทางการศาล 

<figure><img style="width: 638px; height: 479px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b5d29ea1bbfa9822f87826fb461b3d1d.jpg" alt="" width="638" height="479" /><figcaption> บรรยากาศการประท้วงใน Zurich</figcaption></figure>

<figure><img style="width: 638px; height: 479px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/90e09702b26d0f110afeac9244405f29.jpg" alt="" width="638" height="479" /><figcaption> Google Walkout Berlin</figcaption></figure>

ทั้งนี้ ซีอีโอ Pichai มีการออกแถลงการณ์ทางอีเมลตอบความไม่พอใจของพนักงานเมื่อเย็นวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ว่า “ผมเข้าใจดีถึงความโกรธและความผิดหวังที่ทุกคนรู้สึก ผมรู้สึกเช่นเดียวกันและสัญญาอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันให้กรณีนี้คืบหน้า หลังจากที่ถูกชะลอกระบวนการมานานเกินไปแล้วในสังคมของเราและรวมถึงที่ Google นี้ด้วย พนักงานของเราได้ให้แนวคิดที่ช่วยพัฒนาองค์กรและนโยบายบริษัทให้ก้าวหน้า ซึ่งเรากำลังเปิดรับความคิดเห็นทั้งหมดเพื่อนำแนวคิดทั้งหมดที่นำเสนอไปใช้เป็นข้อปฏิบัติจริง”

ขอบคุณภาพจาก: Twitter @GoogleWalkout

ที่มา:
<ul>
 	<li><a href="https://www.theguardian.com/technology/2018/nov/01/google-walkout-global-protests-employees-sexual-harassment-scandals?CMP=twt_gu">https://www.theguardian.com/technology/2018/nov/01/google-walkout-global-protests-employees-sexual-harassment-scandals?CMP=twt_gu</a></li>
 	<li><a href="https://www.bbc.com/news/technology-46054202">https://www.bbc.com/news/technology-46054202</a></li>
 	<li><a href="https://www.theverge.com/2018/11/1/18051026/google-walkout-sexual-harassment-protest">https://www.theverge.com/2018/11/1/18051026/google-walkout-sexual-harassment-protest</a></li>
</ul>

Google Walkout: พนักงาน Google ทั่วโลกนัดประท้วงต่อต้านการละเมิดทางเพศในองค์กร

<h2>Google เผยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้สั่งปลดพนักงาน 48 คน เหตุมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในองค์กร</h2>
Google บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เผยแพร่แถลงการณ์ของ Sundar Pichai ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ระบุว่าบริษัทกำลังดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อพนักงานที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับใดก็ตาม

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Google สั่งปลดพนักงานกว่า 48 ตำเเหน่ง ในจำนวนนี้เป็นผู้บริหารระดับอาวุโสถึง 13 คน ซึ่งเป็นผลจากการถูกกล่าวหาว่าได้กระทำพฤติกรรมที่เป็นการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศต่อเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา

“เราจริงจังอย่างยิ่งที่จะทำให้มั่นใจว่าสถานที่ทำงานของเราเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” Pichai กล่าวเเละขอให้มั่นใจว่าบริษัทได้พิจารณาทุกข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งจะมีการตรวจสอบเเละจัดการอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่าพนักงานซึ่งต้องออกจากบริษัทด้วยเรื่องดังกล่าว ไม่ได้รับเงินชดเชยย้อนหลังแม้แต่คนเดียว เพื่อตอบโต้รายงานข่าวของ The NewYork Times

โดยรายงานของ <a href="https://www.nytimes.com/2018/10/25/technology/google-sexual-harassment-andy-rubin.html">The NewYork Times</a> เปิดเผยว่า Andy Rubin หนึ่งในผู้ก่อตั้งเเละพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ได้ลาออกจาก Google เมื่อปี 2014 เเละได้รับเงินชดเชยก้อนโตกว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 2.9 พันล้านบาท) เป็นข้อเสนอของ Larry Page ซีอีโอ Google ในขณะนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงต้องการรักษาทรัพย์สินสำคัญของบริษัทอย่างระบบปฏิบัติการเเอนดรอยด์เอาไว้

สำหรับ Andy Rubin ถูกสื่อกล่าวหาว่าได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อพนักงานหญิงของ Google ที่โรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อปี 2013 อย่างไรก็ตาม Rubin ยืนกรานปฏิเสธข้อครหาทั้งหมด โดยทีมประชาสัมพันธ์ของเขาออกมาชี้เเจงถึงสาเหตุที่ลาออกจาก Google ว่า Rubin ต้องการออกมาเพื่อสร้างสตาร์ทอัพใหม่ของตัวเอง

ทั้งนี้ Alphabet บริษัทแม่ของ Google รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3/2018 มีรายได้รวม 3.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจโฆษณา คิดเป็น 86% ของรายได้รวม ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Other Bets รายได้อยู่ที่ 146 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เเต่ส่วนนี้ก็ยังขาดทุนถึง 727 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา
<ul>
 	<li>https://www.apnews.com/06bbde4e7ba449089a62d8d351ecbe8c</li>
 	<li>https://www.nytimes.com/2018/10/25/technology/google-sexual-harassment-andy-rubin.html</li>
 	<li>https://www.theverge.com/2018/10/25/18024654/alphabet-google-q3-2018-earnings-ad-business-booming</li>
</ul>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events