<h2>‘เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป’ (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกา G-SHOCK ส่งแคมเปญเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกีฬา จับมือพันธมิตรใหม่ ONE Championship ดึง ‘ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน’ นักมวยชื่อดังระดับโลกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์นาฬิกาสุดแกร่งทนทาน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด เผยว่า ตลาดนาฬิกาในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม G-SHOCK ยังคงเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในตลาดไทย เพราะจุดเด่นด้านความทนทานต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนัก การออกแบบหลากหลาย มีหลายรุ่นหลากราคาให้เลือกตั้งแต่ราคาย่อมเยาจนถึงรุ่นพรีเมียม ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่มองหานาฬิกาแฟชั่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน ทำให้ G-SHOCK ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในตลาดนาฬิกาเมืองไทย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 514px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/C3RxbjciQ2eJquY2nfdr.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="514px,343px" data-align="center" data-file-name="C3RxbjciQ2eJquY2nfdr.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="514px,343px" style="width: 514px; height: 343px; transform: rotate(0deg);" data-index="0"><figcaption style="margin-top: 0px;"><div>จิตรฤดี พนิตพล</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับแผนการตลาด G-SHOCK ในช่วงปลายปีถึงปี 2568 จะเน้นใช้ Brand Ambassador ที่มี DNA สอดคล้องกับแบรนด์มาช่วยตอกย้ำจุดเด่นและถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ที่เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นการทำการตลาดผ่าน FAMS (FASHION, ART, MUSIC, SPORT) เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างลึกซึ้งและต่อเนื่อง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในกิจกรรมกีฬาและความทนทานของนาฬิกา รวมถึงการพัฒนานาฬิกาใหม่ที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ด้วยชื่อเสียงของ G-SHOCK ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งที่ไร้ขีดจำกัดและผู้คนทั่วโลกยอมรับมายาวนานกว่า 43 ปี ประกอบกับประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ G-SHOCK ในภูมิภาคเอเชีย จึงทำให้ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าเจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง” จิตรฤดีกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จิตรฤดี ระบุอีกว่า “กลุ่มคนรักกีฬาเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้นจึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในกลุ่มนี้ เนื่องจากพวกเขามีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ รวมถึงความทนทานและดีไซน์ที่มีสไตล์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ G-SHOCK จึงเปิดตัว ‘ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน’ ยอดมวยชาวไทยแชมป์โลก คิกบ็อกซิ่ง เฟเธอร์เวต เฉพาะกาล ในฐานะ Brand Ambassador นาฬิกา G-STEEL GM-2110D Metal Series​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/RLpG5bbc3DPF6vPPHxnM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="RLpG5bbc3DPF6vPPHxnM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยเป็นตัวแทนของคุณค่าหลักของแบรนด์อย่างชัดเจน นั่นคือ ความแข็งแกร่ง ความอดทน และสไตล์ที่โดดเด่น ซึ่งตรงกับจุดเด่นของนาฬิกา G-SHOCK ที่มีความทนทานและพร้อมลุยทุกสถานการณ์ ผ่านแคมเปญใหม่ TOUGH LIKE YOU ที่ได้แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่อย่างซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จและมีวินัยเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราว สร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/cDe5Pkac8MFfVn7UMZZp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="cDe5Pkac8MFfVn7UMZZp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับนาฬิกาไอคอนิกรุ่น G-STEEL GM-2110D Metal Series (10,900 บาท) เป็นรุ่นที่ลงตัวระหว่างไลฟ์สไตล์แฟชั่นและความแกร่งตามแบบฉบับของ G-SHOCK ตัวเรือนเป็นโลหะที่มีดีไซน์หรูหราและแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการสวมใส่ในโอกาสพิเศษ ทำให้ตอบโจทย์ทั้งในแง่การใช้งานและความโดดเด่นในสไตล์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/SYjQ7bHRK1tppkjDxNEq.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="SYjQ7bHRK1tppkjDxNEq.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จับมือเป็นพันธมิตรสนับสนุนการแข่งขันของ ONE Championship เวทีมวยระดับโลกที่มีฐานแฟนคลับที่เข้มแข็ง มุ่งสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬา ซึ่งสอดคล้องกับคาแร็กเตอร์ของ G-SHOCK ที่มีความเป็นสปอร์ตและทนทาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยในไตรมาสสุดท้ายนี้คาดว่าจะเห็นผลจากแคมเปญและการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปีหน้า บริษัทวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ ที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์กับแบรนด์ G-SHOCK ให้ชัดเจนและเป็นที่จดจำ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/why-does-central-chidlom-use-chidlom-pink" alt="ทำไมต้อง ‘Chidlom Pink’ ? เจาะลึกการปรับโฉม ‘เซ็นทรัลชิดลม’ ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี">ทำไมต้อง ‘Chidlom Pink’ ? เจาะลึกการปรับโฉม ‘เซ็นทรัลชิดลม’ ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ตอกย้ำความแข็งแกร่งทนทานของ G-SHOCK! CMG ผนึก ONE Championship ดึง ‘ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา หลังจากองค์กรศิลปะการต่อสู้รายใหญ่ระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ (ONE) ได้ขยายฐานทัพมาจัดศึก ONE ลุมพินี ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ประเทศไทย เป็นประจำช่วงค่ำทุกวันศุกร์ ทำให้เกิดการปลุกกระแสมวยไทยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่เว้นแม้แต่คนเจนใหม่ที่ไม่เคยคิดเข้าสนามมวย หรือคนรุ่นเก๋าที่อาจจะเลิกดูมวยไปแล้ว ต่างก็หันมาให้ความสนใจมวยไทยมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่เพียงเท่านั้น การสตรีมมิง (ถ่ายทอดสด) รายการ ONE ลุมพินี (ทุกวันศุกร์) รวมถึง ONE Fight Night (ทุกเดือน) ซึ่งเป็นการจัดแข่งขันศิลปะการต่อสู้หลากหลายรูปแบบทั้ง มวยไทย คิกบ็อกซิ่ง และ MMA ล้วนเป็นที่ถูกอกถูกใจของแฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยพิจารณาจากฐานแฟนคลับของ ONE ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในสื่อโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นสื่อโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิงรายใหญ่ของโลกต่างก็เลือกที่นำรายการของ ONE ไปเผยแพร่ให้แก่สมาชิกที่ตนมีอยู่ในมือได้รับชม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือแพลตฟอร์มยักษ์สัญชาติอเมริกัน Prime video (ไพร์มวิดีโอ) ซึ่งถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแพลตฟอร์มที่มีการสตรีมมิงรายการกีฬาการต่อสู้ ด้วยฐานสมาชิกที่มีมากถึง 200 ล้านแอ็กเคานต์ ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ ONE เริ่มถ่ายทอดสดรายการ ONE Fight Night นัดแรก ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.65 เป็นต้นมาจนปัจจุบัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทางฝั่งประเทศจีนซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่ของโลก มีสองแพลตฟอร์มยักษ์ที่ติดอันดับ 2 และ 3 ในกลุ่มแพลตฟอร์มที่มีการสตรีมมิงรายการกีฬาการต่อสู้ ได้แก่ค่าย Tencent (เทนเซนต์) และ iQIYI (อ้ายฉีอี้) ซึ่งมีฐานสมาชิกทั่วโลก 124 ล้านแอ็กเคานต์ และ 108 ล้านแอ็กเคานต์ ก็เป็นพันธมิตรกับ ONE&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนั้นยังมีแพลตฟอร์มใหญ่อีกหลายค่าย อาทิ ABEMA (อะเบมา) จากญี่ปุ่น, beIN Sports (บีอิน สปอร์ตส) จากกาตาร์, Disney+ Hotstar (ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์) จากอินเดีย, Globoplay (โกลโบเพลย์) จากโปรตุเกส ซึ่งติดอันดับ 4-7 ในกลุ่มแพลตฟอร์มที่มีการสตรีมมิงรายการกีฬาต่อสู้ โดยทั้งหมดมีฐานสมาชิกรวมกัน 218 ล้านแอ็กเคานต์ ล้วนแล้วแต่จับมือเป็นพันธมิตรกับ ONE เช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากข้อมูลอ้างอิงดังกล่าวจะเห็นว่า การที่ ONE จับมือกับแพลตฟอร์มสตรีมมิงกีฬาการต่อสู้ยักษ์ใหญ่หลายค่ายระดับท็อป 10 ของโลก ทำให้ปัจจุบัน ONE มีศักยภาพเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั่วโลกได้สูงถึง 650 ล้านแอ็กเคานต์ ซึ่งมาจากฐานสมาชิกของแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยยังไม่รวมกับกลุ่มผู้ชมที่มาจากสื่อพันธมิตรอื่น ๆ อันเป็นผลดีต่อกีฬามวยไทย นักมวยไทย ค่ายมวยไทย ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงบรรดาธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน ล้วนจะได้รับผลดีจากการที่มวยไทยขยายปีกไปถึงผู้ชมมหาศาลทั่วโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่สำคัญการที่ ONE รุกหนักในการผลักดันมวยไทยนี้ ทำให้เกิดการแข่งขันจากผู้ประกอบการประเภทเดียวกัน โดยต่างก็พยายามพัฒนารูปแบบรายการ สถานที่จัดการแข่งขัน รายได้และรางวัลนักกีฬาเพื่อให้เกิดการจูงใจ ไปจนถึงความพยายามที่จะนำรายการไปเผยแพร่สู่ผู้ชมต่างประเทศเช่นกัน อย่างเมื่อไม่นานมานี้รายการ RWS ซึ่งเป็นโปรโมชันจัดการแข่งขันมวยไทย ได้จับมือกับค่ายสตรีมมิงสัญชาติอังกฤษอย่าง DAZN (ดะโซน) ซึ่งมีฐานสมาชิก 15 ล้านแอ็กเคานต์ เชื่อว่านี่เป็นแนวโน้มที่ดีของกีฬามวยไทย หากกลุ่มผู้ประกอบการช่วยกันคนละไม้คนละมือพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อผลักดันกีฬามวยไทยให้มีภาพลักษณ์ที่โปร่งใส ยุติธรรม และคงความเป็นศิลปะการต่อสู้ที่งดงามในสายตาผู้ชมทั่วโลกได้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/07/QMfHiRNNHmFH9N3kEZhZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="QMfHiRNNHmFH9N3kEZhZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1280,1280" style="" data-index="0"></figure></div> ข้อมูลอ้างอิงจาก Nielsen และ FlixPatrol &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

ONE รุกหนักผลักดันมวยไทยสู่ผู้ชมทั่วโลก เจาะกลุ่มสมาชิกแพลตฟอร์มยักษ์ทะลุ 650 ล้านแอ็กเคานต์

<h2>วัน แชมเปียนชิพ ขึ้นแท่นอันดับ 4 ของโลก ในฐานะสื่อกีฬาที่มียอดผู้ชมออนไลน์สูงสุดในปี 2019 จากการจัดอันดับของ Tubular Labs</h2>
Tubular Labs เผยการจัดอันดับ สื่อกีฬาที่ผู้ชมผ่านออนไลน์มากที่สุดในโลก โดยใช้การวัดผลระดับโลกสำหรับสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (YouTube, Facebook, Instagram ฯลฯ) โดย ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอ ONE Championship เผยว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะแจ้งให้ทราบว่า วัน แชมเปียนชิพ ติดอันดับ 4 ของโลก ในฐานะองค์กรสื่อทรัพย์สินกีฬาที่มียอดผู้ชมออนไลน์สูงสุดในปี 2019 จากจำนวนทั้งสิ้นกว่า 5,000 องค์กร จากการจัดอันดับของ Tubular Labs ซึ่งเป็นผู้นำด้านข้อมูลและการวัดผลระดับโลกสำหรับสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (YouTube, Facebook, Instagram ฯลฯ) เช่นเดียวกับ Nielsen ซึ่งเป็นผู้นำเรื่องข้อมูลวัดผลทางโทรทัศน์"

ONE Championship ก่อตั้งมาแล้วแปดปีครึ่ง ในช่วง 3 ปีแรก ชาตรีและทีมงานต้องประสบความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน ขาดผู้สนับสนุนและคนที่เข้าใจ ทำให้ในช่วงแรกๆ มีคนที่คอยตั้งแง่ สงสัย และมีอคติ ตราหน้าว่าถ้าผมไม่บ้า เพี้ยน ก็โง่มาก แต่วันนี้ของ ONE Championship คือสื่อทรัพย์สินกีฬาระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีการออกอากาศไปกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

"ภารกิจของเราคือการปลดปล่อยซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริงเพื่อจุดประกายความหวัง ความเข้มแข็ง ความฝัน และแรงบันดาลใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ ผมทุ่มเททุกอย่างในทุกๆ วัน เพราะผมอยากสร้างแรงผลักดันเชิงบวกต่อคนนับพันล้านชีวิตทั่วโลก และเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น ผมอยากสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คน ให้กล้าที่จะฝันมากขึ้น ลงมือทำให้มากขึ้น และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น จำคำของผมไว้ นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของเราเท่านั้นครับ" ชาตรี กล่าวถึงความสำเร็จครึ่งสำคัญ


ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ Tubular Labs พบว่า ONE Championship ติดอยู่อันดับที่ 4 ด้วยจำนวนยอดวิวมากถึง 5.6 พันล้านครั้ง ซึ่งทิ้งห่างอันดับ 3 NFL จากวงการอเมริกันฟุตบอลที่มียอดวิวจำนวน 6 พันล้านครั้ง โดยอันดับ 1 ได้แก่ WWE แห่งวงการมวยปล้ำ มียอดวิวมากถึง 1.5 หมื่นล้านครั้ง ส่วนอันดับที่ 2 ได้แก่ NBA แห่งวงการบาสเกตบอลที่มียอดวิว 1.03 หมื่นล้านครั้ง

<img class="alignnone wp-image-29946 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/วัน-แชมเปียนชิพ-03.jpg" alt="&quot;วัน แชมเปียนชิพ&quot; ยึดอันดับ 4 สื่อกีฬาที่มียอดผู้ชมออนไลน์สูงสุดในปี 2019" width="590" height="351" />

&nbsp;

<hr />

<article id="post-29724" class="post-29724 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-commentaries category-insights tag-11449 tag-11235">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail"><article id="post-29253" class="post-29253 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-marketing category-news tag-covid-19 tag-11199 tag-11378">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail"><article id="post-28930" class="post-28930 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-news category-other tag-covid-19 tag-2543 tag-3025 tag-11235">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</article></div>
</article></div>
</article>&nbsp;

&nbsp;

"วัน แชมเปียนชิพ" ยึดอันดับ 4 สื่อกีฬาที่มียอดผู้ชมออนไลน์สูงสุดในปี 2019

<h2 class="p1">ชาตรี ศิษย์ยอดธง พลิกเกม วัน แชมเปียนชิพ (ONE) รับมือโควิด-19 ทุ่มกว่า 300 ล้านบาท จัดแข่งขัน The Apprentice: ONE Championship Edition ในระบบปิด ย้ำจุดแข็งแพลตฟอร์มองค์กรสื่อระดับเอเชีย ปลุกพลังนักต่อสู้ สร้างแรงบันดาลใจกว่าพันล้านคนทั่วโลก</h2>
วัน แชมเปียนชิพ (ONE) องค์กรสื่อกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปเอเชีย ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมกว่า 2.7 พันล้านคนในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การนำของ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ได้รับคัดเลือกจาก Forbes ให้เป็นหนึ่งใน “ผู้ประกอบการแห่งอนาคตของทวีปเอเชีย” กำลังเผชิญความท้าทายอีกครั้งจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
ชาตรี กล่าวว่า ช่วงเวลานี้ถือเป็นสภาวะที่ยากลำบากสำหรับรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ที่มีทั้งการปิดกั้นพรมแดนและปิดประเทศ แต่โชคดีที่ ONE Championship เป็นธุรกิจที่มีแพลตฟอร์มขนาดใหญ่และประสิทธิภาพสูง แต่เรายังคงผลักดันการเติบโตในทุกตัวชี้วัดที่สำคัญทั้งหมด เช่น การเข้าถึงผู้ชม, ความถี่ และการมีส่วนร่วม ผ่านเนื้อหารายการและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา
“โควิด-19 ทำให้การจัดกิจกรรมของเรามีความยุ่งยากมากขึ้น แต่เรายังมีแหล่งผลิตเนื้อหาขนาดใหญ่ ที่คอยผลักดันการเติบโตของผู้ชมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและสื่อดิจิทัล รวมถึงแพลตฟอร์มดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์" ชาตรีระบุ
<img class="alignnone size-full wp-image-28179" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/CHATRI-03.jpg" alt="" width="720" height="479" />
ที่ผ่านมา ONE ได้รับเรตติ้งสูงสุดในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และได้รับการกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วทั้งทวีปเอเชีย ด้วยการเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ในการสะท้อนคุณค่าของเอเชีย ประกอบด้วย นักกีฬาระดับเวิลด์คลาส และโปรดักชั่นระดับโลก ในฐานะองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ONE จัดการแข่งขันครอบคลุมทุกประเภทของกีฬาศิลปะการต่อสู้ ทั้ง มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน, คาราเต้, ปันจักสีลัต, สานต่า, เลทเว่ย, เทควันโด, ปล้ำจับล็อก (Submission Grappling) และอื่นๆ
โดยอีเวนต์ของ ONE ได้จัดขึ้นในหลายสนามแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดทั่วทั้งเอเชีย และยังได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กรที่มีรายชื่อใน Fortune 500 เช่น Disney, Marvel, LG, Sony, Facebook, Haier, Kawasaki, L’Oreal, Casio, Bayer, Shiseido, Grab, Singtel ฯลฯ ที่มุ่งให้ความสำคัญทั้งในกีฬาศิลปะการต่อสู้และอีสปอร์ต วัน แชมเปียนชิพ จึงเป็นผู้ผลิตรายการกีฬาที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงผู้ใหญ่
สำหรับรายการ The Apprentice: ONE Championship Edition ถือเป็นซีรีส์ที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ONE Championship ที่นำเสนอภารกิจและของซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง ที่พิชิตความยากจน ความยากลำบาก จนบรรลุความใฝ่ฝันได้สำเร็จ รายการ The Apprentice ซีซั่นนี้ จะไม่ได้มีแค่ซีอีโอทั้ง 12 คนที่จะมารับเชิญเป็นคณะกรรมการ แต่จะนำเสนอถึงความท้าทายทางธุรกิจที่ยากที่สุด เพื่อทดสอบมันสมองอันเฉียบแหลมด้านธุรกิจ รวมถึงความท้าทายด้านกีฬาสุดโหด ทดสอบความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจของผู้แข่งขันด้วย
"The Apprentice: ONE Championship Edition จะเป็น The Apprentice เวอร์ชั่นที่โหดหินที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการเท่าที่เคยมีมา" ชาตรีกล่าว
นอกจากนั้น แชมป์โลกของ ONE Championship จะเข้ามามีส่วนร่วมแข่งขันในความท้าทายด้านกีฬานี้ร่วมกับผู้แข่งขัน 16 คน โดยผู้ชนะจะได้รับข้อเสนอมูลค่า 250,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อทำงานที่ ONE Championship ในฐานะผู้ช่วยของชาตรี
“พวกคุณคาดหวังได้เลยว่าจะได้เห็นความตื่นเต้นเร้าใจ การเดิมพันสุดดราม่า และความพลุ่งพล่านทางอารมณ์ จากบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้ง 16 คนที่จะช่วงชิงโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่" ชาตรีกล่าวถึงไฮไลท์สำคัญของรายการในปีนี้
<img class="alignnone size-full wp-image-28178" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/CHATRI-02.jpg" alt="" width="720" height="480" />
ขณะเดียวกัน ซีอีโอของ ONE ยังกล่าวด้วยว่า รายการ The Apprentice: ONE Championship Edition จะเป็นซีรีส์แรกของหลายรายการในรอบหลายปีที่อาจจะได้เห็น The Apprentice Thailand รวมถึงประเทศหลักๆ ในภูมิภาคเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, จีน, เวียดนาม ฯลฯ ที่ ONE Championship ดำเนินงานอยู่แล้ว โดยใช้เม็ดเงินลงทุนทั้งหมดในโครงการระยะยาวนี้ราวสิบล้านเหรียญ หรือประมาณ 300 ล้านบาท
ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ชาตรีเห็นว่า ข้อดีของ The Apprentice: ONE Championship Edition คือการเป็นรายการแรกที่ไม่ต้องมีการจัดแบบรายการสด ซึ่งจุดนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของรูปแบบธุรกิจที่ยืดหยุ่นของ ONE Championship และรายการนี้จะดำเนินการต่อ 100% โดยไม่กังวลเรื่องไวรัสโคโรน่า 
“ในทางกลับกัน กิจกรรมของเราที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนี้คือการจัดแข่งขันศิลปะการต่อสู้ เนื่องจากรัฐบาลต่างพากันปิดประเทศ แต่ ONE Championship มีความสามารถในการจัดแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบในสนามปิด เพื่อส่งต่อให้แฟนๆ นับล้านได้รับชมการถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วโลกเหมือนเดิม”
ชาตรี กล่าวว่า บรรดาแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ทำให้ทีมงานของ ONE ที่มาจากทั่วทุกมุมโลก สามารถทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีผู้สมัครจำนวนหลายพันคนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับรายการ แม้จะยังไม่เริ่มทำการตลาด ซึ่งในเดือนเมษายน จำนวนผู้สมัครน่าจะเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากก่อนจะเริ่มการถ่ายทำรายการ The Apprentice: ONE Championship Edition ในช่วงเดือนมิถุนายน
นอกจาก ONE Championship จะเดินหน้าเปิดตัวรายการใหม่ The Apprentice: ONE Championship Edition และอื่นๆ บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ทางดิจิทัล เช่น วิดีโอเกมบนโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบัน วัน แชมเปียนชิพ มีสำนักงานในประเทศสิงคโปร์, Tokyo, New York, Los Angeles, Shnghai, Milan, Beijing, กรุงเทพฯ, Manila, Jakarta และ Bangalore ตลอดจนมีผู้ลงทุนอย่าง Sequoia Capital, Temasek Holdings, GIC, Iconiq Capital, Greenoaks Capital, และ Mission Holdings
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก ชาตรี ผู้มีความมุ่งมั่นต่อสู้มาตลอดชีวิต ยังคงยืดหยัดในภารกิจของการนำเสนอชีวิตจริงของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้จุดประกายโลกด้วยความหวัง ความฝัน แรงบันดาลใจ และความแข็งแกร่ง จะเดินหน้าเผยแพร่เรื่องราวของพวกเขา ซึ่งอาจสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกให้กล้าฝัน กล้าลงมือทำ และกล้าที่จะเป็น
“ด้วยพลังของสื่อ การเล่าเรื่องอย่างน่ามหัศจรรย์ และความงดงามของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ นี่คือโอกาสอันล้ำค่าที่จะร่วมเฉลิมฉลองคุณค่า จุดประกายความฝัน เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนในชาติ และเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีขึ้น”
นี่คืออีกหนึ่งความฝันและความมุ่งหวังของ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้สร้างให้ทวีปเอเชียเป็นบ้านของศิลปะการต่อสู้ พร้อมประกาศการรวมตัวร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี และคุณค่า เพื่อสานต่อความฝันในการรวมโลกทั้งใบเข้าด้วยกันผ่านการเชิดชูสมบัติทางวัฒนธรรมร่วมกันอย่างกลมเกลียว
&nbsp;
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม <a href="https://forbesthailand.com/people/forbes-life-people/%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5-%e0%b8%a8%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%98%e0%b8%87.html">ชาตรี ศิษย์ยอดธง สังเวียนหมื่นล้าน ONE Championship</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ กดติดตามได้ที่ Facebook Fanpage: Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events