<h2>VRANDA เผยตลาดบ้านพักตากอากาศหรูภูเก็ตยังฮอตไม่แผ่ว ล่าสุดโครงการ “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต” กระแสตอบรับดีจากนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมียม ชี้ ‘พันวา-อ่าวยน’ ขึ้นแท่นทำเลระดับลักชัวรีของภูเก็ต คาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2567 นี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต” (Veranda Villas &amp; Suites – Phuket) บ้านพักตากอากาศหรูตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแหลมพันวา หรือในพื้นที่ของ ‘พันวา-อ่าวยน’&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งเป็นทำเลระดับลักชัวรีของภูเก็ต เพราะมีโรงแรมและรีสอร์ตหรูที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในโซนนี้หลายแห่ง เป็นจุดชมวิวและจุดจอดเรือยอชต์ที่สวยงาม มีหาดทรายขาวและตั้งอยู่บนพื้นที่สโลปของภูเขา ทำให้ห้องพักส่วนใหญ่จะสามารถมองเห็นทะเลและมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้จากฝั่งนี้ ใกล้กับร้านอาหารชื่อดัง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูเก็ต อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ตและเมืองเก่า (old town) เพียง 15-20 นาที และห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต ราว 45 นาที&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถือเป็นโซนใหม่ของภูเก็ตที่มีความโดดเด่นด้านไลฟ์สไตล์ที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว และเป็นที่จับตามองของผู้ที่ชอบลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/49b5kvvmcomUTDMpZw44.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="49b5kvvmcomUTDMpZw44.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,558"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโครงการอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรมแรมใหม่ล่าสุดของวีรันดาที่เตรียมเปิดให้บริการในไตรมาส 4 นี้ ในชื่อ วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโต้กราฟ คอลเลกชัน (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection) ที่จะอยู่ภายใต้การบริหารงานของวีรันดาและได้แบรนด์โรงแรมระดับพรีเมียมในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล มาเป็นตัวชูโรงเพื่อรุกตลาดที่กว้างขึ้นด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการ “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต” (Veranda Villas &amp; Suites – Phuket) มีทั้งหมด 17 ยูนิต แบ่งเป็นพูลวิลล่า 6 หลัง และคอนโดมิเนียม 11 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการอื่นแล้วถือว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตที่น้อย เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มองมาบ้านพักตากอากาศเพื่ออยู่อาศัยเองหรือลงทุน ราคาขายเริ่มต้น 22.7 - 174 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/tshHQBiFozdVxkAFsicv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="tshHQBiFozdVxkAFsicv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,304"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม (Premium Traveler) มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เน้นหาประสบการณ์ที่แตกต่าง ใส่ใจวัฒนธรรมท้องถิ่น และอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งจากการทำรีเสิร์ชนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียมมีความพร้อมในการใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวมากขึ้นในปีหน้า อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากเท่ากับกลุ่มอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ทำเลพันวา-อ่าวยน จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นอย่างมาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งปัจจุบันโครงการมียอดขายไปแล้วกว่า 53% และยังคงมีผู้สนใจเข้าชมโครงการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบ้านตัวอย่างของโครงการก็ถูกจองซื้อไปแล้วด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มผู้ซื้อที่ซื้อวิลล่าทั้งหมดนั้นเป็นคนไทย และกลุ่มผู้ซื้อคอนโดฯ โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ คาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2567​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/Pi8z2mtsqBbjDsfynm8a.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Pi8z2mtsqBbjDsfynm8a.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="720,480"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เหตุผลที่ทำให้ภูเก็ตมีความน่าสนใจในช่วงหลายปีมานี้ เพราะเป็นเมืองแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม (multi-culture) ผสมผสานอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส มีรากวัฒนธรรมไทย จีน มุสลิม ที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนั้นภูเก็ตยังเป็นฮับของอีเวนต์มากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นเมืองที่รวมอาหารอร่อยหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารใต้ อาหารจีน ของหวานประจำถิ่น หรือร้านมิชลินไกด์ บาร์ระดับโลกที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากทั่วทุกมุมโลก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและมีโครงการคมนาคมขนส่งที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องอีกหลายโครงการ” ภวัฒก์กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ วีรันดาฯ ยังมีโครงการที่พักตากอากาศในทำเลอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการเปิดขาย ได้แก่ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน (Veranda Residence Hua Hin) คอนโดฯ พร้อมเข้าอยู่ใกล้กับเขาตะเกียบ วิวทะเลและภูเขา บรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหัวหิน บนพื้นที่โครงการ 11 ไร่ 5 อาคาร 270 ยูนิต แบบ 1-3 ห้องนอน และห้อง Penthouse ขนาดใหญ่ ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 95% เหลือเพียง 9 ยูนิตสุดท้ายก่อนปิดโครงการ ราคาเริ่มต้นที่ 6.1 - 34 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมถึงโครงการวีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ (Veranda Pool Villas Hua-Hin Cha-am) บ้านพักตากอากาศ บรรยากาศรีสอร์ตพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง โดยมีพูลวิลล่าขนาด 2-3 ห้องนอน และ Penthouse 5 ห้องนอน ภายใต้แนวคิด Exclusive Limited สังคมส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย เหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ซึ่งเฟสแรกของโครงการขายไปได้แล้วกว่า 72% ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 19.8 – 34.7 ล้านบาท เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/gardens-of-eden-phuket-phase-1-construction" alt="เริ่มสร้างแล้ว Gardens of Eden มิกซ์ยูสหรูใหม่ใน ‘ภูเก็ต’ ทุนจากดูไบ มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท">เริ่มสร้างแล้ว Gardens of Eden มิกซ์ยูสหรูใหม่ใน ‘ภูเก็ต’ ทุนจากดูไบ มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

บ้านพักตากอากาศภูเก็ตฮอตไม่แผ่ว! ‘วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต’ กระแสดี คาดโอน-รับรู้รายได้ไตรมาส 4/67 นี้

<h2>‘บมจ.วีรันดา รีสอร์ท’ หรือ VRANDA มั่นใจปี 2567 คาดผลประกอบการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังยุติรับรู้ผลขาดทุนจากธุรกิจร้านขนมหวานตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยการบันทึกด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดเพียงครั้งเดียว (One-time Non-cash) ส่งผลให้ปี 2567 จะไม่ขาดทุนจากธุรกิจร้านขนมหวานไตรมาสละประมาณ 8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 ด้านธุรกิจหลักโรงแรมขยายตัวต่อเนื่องรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรง เตรียมเปิดโรงแรมแห่งใหม่ในภูเก็ตและส่วนขยายโครงการ รีสอร์ทในสมุย รวมถึงโอนกรรมสิทธิ์โครงการในชะอำและภูเก็ต หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเตรียมยุติการรับรู้ผลขาดทุนจากธุรกิจร้านขนมหวานแบรนด์ “GRAM Pancakes และ PABLO Cheese tart” ที่ดำเนินการผ่านบริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทย่อยที่เป็นเจ้าของสัญญาแฟรนไชส์หลักตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 หลังจากที่พิจารณาปรับแผนการลงทุนในธุรกิจร้านขนมหวาน โดยจะบันทึกด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดเพียงครั้งเดียว (One-time Non-cash) ในไตรมาส 4/2566 ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัทฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจร้านขนมหวานประมาณ 24 ล้านบาท ซึ่งระหว่างนั้น บริษัทฯได้ปรับแผนการดำเนินงานเพื่อการลดขาดทุนอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยนับจากไตรมาส 1/2566 ได้ลดจำนวนสาขา“GRAM Pancakes” และ “PABLO Cheese tart” ก่อนจะบันทึกด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดเพียงครั้งเดียวในไตรมาสที่ 4/2566 ซึ่งจะมีผลทำให้ในแต่ละไตรมาสของปี 2567 หยุดรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนธุรกิจร้านขนมหวานเฉลี่ยไตรมาสละประมาณ 8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยก่อนหน้านั้น VRANDA ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญบริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มและเป็นเจ้าของสัญญาแฟรนไชส์หลักของร้านคาเฟ่และขนมหวานภายใต้แบรนด์ "GRAM Pancake” และ “PABLO Cheese tart" ในช่วงปลายปี 2562 และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งทางทีมผู้บริหารได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้มาโดยตลอด ทั้งการเพิ่มช่องทางเดลิเวอรี่และขยายสาขาเพื่อครอบคลุมพื้นที่และคิดค้นริเริ่มเมนูใหม่ๆ ให้เข้ากับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ถึงกระนั้นทางเจ้าของแฟรนไชส์หลักที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันได้ปิดสาขาแฟลกชิปหลักในเมืองโอซาก้า ส่งผลกระทบต่อความนิยมของแบรนด์ลดลงอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งปัญหาด้านเงินเฟ้อและราคาต้นทุนของวัตถุดิบที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงส่งผลให้บริษัทฯ ตัดสินใจยุติการประกอบกิจการในปี 2567 และนำมาสู่การบันทึกด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดเพียงครั้งเดียว (One-time Non-cash) ในไตรมาส 4/2566 ซึ่งทางบริษัทฯ ได้สื่อสารแก่นักลงทุนเป็นการทั่วไป (Public) ในการนำเสนอข้อมูลผลประกอบการใน Opportunity day ไตรมาส 3/2566 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2566 ไปแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายภวัฒก์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่ฟื้นตัวแรง โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดให้บริการโรงแรม-รีสอร์ท และโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ อาทิ การเปิดให้บริการโรงแรมวีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโต้กราฟ คอลเลกชัน (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection) จำนวน 159 ห้อง และส่วนขยาย ร็อคกี้ บูทีค รีสอร์ท-วีรันดา คอลเลกชัน สมุย (Rocky's Boutique Resort - Veranda Collection Samui) จาก 50 ห้องเป็น 70 ห้อง (+40%) ในไตรมาส 4/2567 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุยเพิ่มมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลอดจนการเปิดให้บริการโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์วีรันดาในแห่งอื่นๆ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ในปี 2567 โดยตั้งเป้ารายได้ของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของปีนี้ที่ 1,300 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากปี 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนโอนกรรมสิทธิ์พูลวิลล่าและวิลล่า ได้แก่ โครงการวีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ (Veranda Pool Villas Hua-Hin Cha-am) ซึ่งจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2567 และโครงการวีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต (Veranda Villas and Suites Phuket) ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 50% ปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างห้องตัวอย่างแล้ว คาดว่าจะพร้อมให้เข้าชมประมาณ เม.ย. 2567 และคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2567 โดยตั้งเป้ารายได้ของธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เติบโตกว่า 100% จากปี 2566 ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/hr/adecco-it-growth-in-labour-market-with-ai-trend" alt="ตลาดแรงงานคึกคัก ชิงทาเลนต์สายไอที ค่าตัวพุ่ง 1 แสนบาท">ตลาดแรงงานคึกคัก ชิงทาเลนต์สายไอที ค่าตัวพุ่ง 1 แสนบาท</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

VRANDA เตรียมปิดกิจการร้านขนม GRAM และ PABLO ในไทย หลังขาดทุนเดือนละ 8 ล้าน

<h2>บมจ.วีรันดา รีสอร์ท หรือ VRANDA ชี้ตลาดท่องเที่ยวปี 2567 สดใสรับแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว พร้อมมีปัจจัยบวกจากภาครัฐเกื้อหนุนเพียบ เตรียมเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโต้กราฟ คอลเลกชัน” 159 ห้อง และ ส่วนขยาย “ร็อคกี้ บูทีค รีสอร์ท – วีรันดา คอลเลกชัน สมุย” อีก 20 ห้อง ในไตรมาส 4/2567</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในปี 2567 มีทิศทางการเติบโตที่ดีจากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว และมีปัจจัยบวก เช่น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ อาทิ มาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจากจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ปรับยุทธศาสตร์สู่การท่องเที่ยวที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน โดยตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับปี 2562 หรือก่อนโควิด-19 ระบาด ที่เคยสร้างรายได้ถึง 3 ล้านล้านบาท และได้ตั้งเป้าหมายตำแหน่งทางการตลาดที่จะขับเคลื่อนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ จากรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นตามมาในปี 2567 อีก ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดท่องเที่ยวและตลาดโรงแรมและรีสอร์ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ธุรกิจของวีรันดาในเมืองท่องเที่ยวยังคงมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยได้เตรียมเปิดให้บริการโรงแรมวีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโต้กราฟ คอลเลกชัน จำนวน 159 ห้อง และ ส่วนขยาย ร็อคกี้ บูทีค รีสอร์ท – วีรันดา คอลเลกชัน สมุย จำนวน 20 ห้อง ในไตรมาส 4/2567 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุยเพิ่มขึ้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/Jgaa2Hx9c1HCdcezjrpK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Jgaa2Hx9c1HCdcezjrpK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="900,380" style="" data-index="0"></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ วีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ จำนวน 13 หลัง ซึ่งจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4/2566 ต่อเนื่องถึงปีหน้า และวีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต ประกอบด้วย วิลล่า 6 หลัง และคอนโดมิเนียม 12 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมประมาณ 840 ล้านบาท มียอดจองในงานเปิด Pre-sale แล้วกว่า 50% ปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างห้องตัวอย่างแล้วคาดว่าจะพร้อมให้เข้าชมประมาณ เม.ย. 2567 และคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2567​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/158Ap5wX5e7ZzY8s8BXd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="158Ap5wX5e7ZzY8s8BXd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="900,675" style="" data-index="1"></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับธุรกิจร้านขนมที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจซึ่งมีการตัดจำหน่ายมูลค่าความนิยม (Good will) จะสิ้นสุดภายในปีนี้ซึ่งจะทำให้ปี 2567 ไม่มีผลขาดทุนจากส่วนนี้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/UxNkFwAFw4wMYF3K2hT7.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UxNkFwAFw4wMYF3K2hT7.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="900,600" style="" data-index="2"></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VRANDA กล่าวต่อว่า บริษัทฯ เตรียมแผนทางเลือกสำหรับชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 มูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งออกไปเมื่อ พ.ย.2565 และจะครบกำหนดในต้นปี 2568 ได้แก่ การออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อนำมาชำระหุ้นกู้เดิม การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินใหญ่ที่สนับสนุนบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันยังมีระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่มาก รวมทั้งจากกระแสเงินสดจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการวีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ และ วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA โดยแนะนำซื้อในราคาเหมาะสมที่ 9.60 บาท โดยประเมินว่าผลการดำเนินงานกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับรายได้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะช่วยผลการดำเนินงานในช่วงปลายปี เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/booking-com-7-trends-for-travellers" alt="ท่องเที่ยวฟื้น Booking.com เผย 7 เทรนด์นักเดินทางปี 2567">ท่องเที่ยวฟื้น Booking.com เผย 7 เทรนด์นักเดินทางปี 2567</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

วีรันดา ชี้ท่องเที่ยวปี 67 สดใส เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ “ภูเก็ต” พร้อมเปิดห้องพักเพิ่มสมุย

<h2>เลือดผู้ประกอบการที่เข้มข้นของ วีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์ ได้ขับให้เขาลุกขึ้นสร้างธุรกิจโรงแรมหรูเป็นของตนเอง เขาเปรียบบริษัทเป็น “ปลาเร็ว” ที่มองหาโอกาสและจังหวะบนโลกการลงทุน วันนี้ วีรันดา รีสอร์ท กำลังฮึกเหิมขยายพอร์ตการลงทุน ไม่ว่ามองหาที่เปิดโรงแรมใหม่ สร้างเรสซิเดนซ์ขาย หรือร้านอาหาร หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ไม่นาน</h2>
ณ Club Signature Meeting Room ชั้น 25 ของโรงแรม โซ โซฟิเทล แบงค็อก เป็นจุดนัดพบของพวกเราทีมงาน Forbes Thailand กับ วีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ที่นี่ เป็นหนึ่งในโรงแรมแห่งความภาคภูมิใจของวีรวัฒน์ เนื่องจากเป็นโรงแรมแห่งที่ 3 ที่ได้บุกเบิกมา มีเอกลักษณ์ของการออกแบบ และเป็น โซ แบงค็อก แห่งเดียวในเมืองหลวงของไทย ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80% ถือเป็นความสำเร็จก้าวเล็กๆ และก้าวแห่งความมุ่งมั่นของหนุ่มวัย 48 หลังก่อตั้งบริษัทมากว่า 15 ปี

“มาถึงวันนี้ คงเป็นเพราะสายเลือดผู้ประกอบการที่ได้รับมาจากพ่อ อยากจะสร้างธุรกิจเป็นของตนเอง” เขาเกริ่น
<h2>15 ปี 5 โรงแรม</h2>
วีรวัฒน์เติบโตในครอบครัวนักธุรกิจ ที่บ้านทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและมีพี่เขยเป็นนักธุรกิจอย่าง วิชา พูลวรลักษณ์ เจ้าของ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดธุรกิจโรงภาพยนตร์ของประเทศ ในปี 2545 ในฐานะทำงานด้านวานิชธนกิจมาก่อน

วีรวัฒน์ได้เข้าช่วยนำเมเจอร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมทั้งช่วยงานด้านอื่นๆ ทั้งด้านการเงินและด้านการลงทุนสัมพันธ์ ทว่า เขากลับไม่พึงพอใจกับบทบาทนี้สักเท่าไรนัก เพราะส่วนลึกของชีวิตยังโหยหาที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

“เข้าสู่ธุรกิจโรงแรมแบบจับพลัดจับผลูมากกว่า” เขาบอกพร้อมรอยยิ้ม

<figure><img class="wp-image-22651 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/So-Sofitel-Bangkok-01.jpg" alt="วีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์" width="800" height="533" /><figcaption> โรงแรม โซ โซฟิเทล แบงค็อก</figcaption></figure>

<figure><img class="wp-image-22652 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/Veranda-Chiangmai-High-Resort-1-01.jpg" alt="" width="800" height="599" /><figcaption> วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่</figcaption></figure>

วีรวัฒน์ชิมลางธุรกิจโรงแรมมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2540 โดยเขาบริหารโรงแรมระดับ 3 ดาวของครอบครัวที่จังหวัดเชียงใหม่ (ปัจจุบันขายไปแล้ว) วันหนึ่งเมื่อมีทุนทรัพย์มากขึ้นก็เริ่มหาธุรกิจลงทุนในระยะยาว และธุรกิจโรงแรมก็แวบเข้ามาในความคิด เพราะมองว่าอนาคตน่าจะเติบโตไปด้วยดี ประกอบกับได้เรียนรู้งานในอุตสาหกรรมนี้มาก่อน และมีประสบการณ์ด้านการเดินทางด้วยตนเอง ทำให้ได้พบเจอโรงแรมที่มีดีไซน์หลากหลายขณะเข้าพัก ดังนั้น จึงคิดว่าอุตสาหกรรมนี้น่าสนใจ น่าสนุก น่าลงทุน ที่สำคัญคือ มีอะไรอีกมากที่สามารถต่อยอดได้ในระยะยาว

ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกทำธุรกิจนี้โรงแรมแห่งแรกของวีรวัฒน์ได้เปิดตัวขึ้นในปี 2547 ในนาม “วีรันดา รีสอร์ท หัวหิน” เขาบอกว่า เป็นโรงแรมแห่งความต่างที่ตั้งใจสร้างขึ้น โดยใช้ความรู้สึกนำเหตุผลทั้งปวง ไม่ได้เริ่มต้นโจทย์ที่ว่า ต้องเป็นโรงแรมไฮเอนด์ หรือระดับ 5 ดาว แต่เขาดูความต้องการของผู้เข้าพักมากกว่า ซึ่งต้องการพักกับโรงแรมที่ไม่เป็นเชน โดยมุ่งเน้นขาย “ประสบการณ์การเข้าพัก”

ปัจจุบันวีรันดา หัวหิน มีอัตราการเข้าพักมากกว่า 60% แม้เป็นตัวเลขไม่สูงมาก แต่ก็ประสบความสำเร็จในการกำหนดราคาห้องพักได้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะจากห้องพูล วิลล่า จากนั้น 4 ปีต่อมา วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮ รีสอร์ท ก็เปิดตัวขึ้น เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 มีขนาด 69 ห้อง ที่อำเภอหางดง ตามด้วย

ปี 2555 โรงแรม “โซ โซฟิเทล แบงค็อก” จำนวน 237 ห้อง และปี 2558 เข้าซื้อกิจการโรงแรม “ร็อคกี้ บูติค รีสอร์ท” ขนาด 50 ห้อง ที่เกาะสมุย และเปิดโรงแรม วีรันดา รีสอร์ท พัทยา ขนาด 145 ห้อง โรงแรมทั้ง 5 แห่งได้ตอกย้ำถึงก้าวแห่งความสำเร็จบนถนนสายนี้ของวีรวัฒน์

ระหว่างทางของการดำเนินธุรกิจโรงแรม วีรวัฒน์ยังได้ริเริ่มธุรกิจสร้างอาคารชุดพักอาศัยขาย โดยเริ่มแห่งแรกที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ในนาม “วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่” ในปี 2551 เป็นอาคารชุด low rise ตามด้วยแห่งที่ 2 “วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา” ประเภท high rise สูง 35 ชั้น มี 329 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.97 พันล้านบาท ปี 2557

<img class="alignnone wp-image-22650 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/วีรวัฒน์-องค์วาสิฎฐ์-วีรันดา-02.jpg" alt="วีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์" width="800" height="482" />

นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสทางธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม บวกกับความหลงใหลในการสร้างแบรนด์ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจขยายสู่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ สืบเนื่องจากเป็นผู้เล่นที่มาทีหลังและตลาดมีการแข่งขันสูง เขาจึงต้องคิดหาหนทางแจ้งเกิดให้กับแบรนด์ใหม่ของเขา แต่ต้องด้วยวิธีที่ร่วมสมัยและไม่ใช้ “เงิน” มาก ดังนั้น เขาจึงเลือกใช้ “พลัง” ของโซเชียลมีเดีย เข้าช่วย “แชร์” ช่วยขับเคลื่อน

เขาค้นพบว่า ทั้งกลุ่มคนพักและลูกค้า เป็น “micro influencer” ได้มาก เพราะทุกคนพร้อมจะแชร์ภาพและความประทับใจผ่านมือถือให้กับคนอื่นๆ ด้วยโจทย์นี้เอง เขาจึงเน้นการออกแบบร้านให้มี “signature” มีสไตล์ เพื่อสร้างแบรนดิ้ง ดึงดูดลูกค้า โดยร้านอาหารแห่งแรกของเขามีชื่อว่า “Skoop Beach Café” ปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ที่พัทยาและหัวหิน และในปีที่แล้ว ยังได้เปิดอีกแบรนด์ที่ชื่อ KOF ปัจจุบันมี 2 สาขา “โรงแรมเราเป็นที่รู้จัก ส่วนหนึ่งเพราะมีการแชร์ภาพและประสบการณ์พักบนโลกโซเชียล”

<figure><img class="wp-image-22648 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/Veranda-Resort-Hua-Hin-01.jpg" alt="วีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์" width="800" height="499" /><figcaption> วีรันดา รีสอร์ท หัวหิน</figcaption></figure>

เมื่อทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยดี ในปี 2561 วีรวัฒน์จับบริษัทแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว “เข้าตลาดฯ ก็เพื่อมีแหล่งระดมทุน พอมีไอเดีย มีโอกาส หรือจังหวะการลงทุน ก็สามารถลงมือทำได้เลย เป็นการสร้างความพร้อมให้บริษัท ทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือและได้เครดิตให้กับบริษัทในการลงทุนอีกด้วย”

“จุดเด่นของพวกเรา นอกเหนือจากการเป็น entrepreneur แล้ว เรายังมีความคล่องแคล่ว...เราเป็นองค์กรที่เป็นปลาเร็ว ใช้ความเร็ว...ใหญ่ไม่สำคัญเท่าเร็ว” วีรวัฒน์กล่าว

วันนี้ วีรันดาอยู่ในตลาดฯ ตามที่คาดหวัง และโรงแรมของวีรันดาก็ได้รับความชื่นชมถึงการดีไซน์และการบริการจากผู้เข้าพัก วีรวัฒน์บอกว่า รู้สึกดีใจกับความสำเร็จในวันนี้ ถือเป็นท่อน้ำเล็กๆ ที่ช่วยหล่อเลี้ยงให้เขาเดินหน้าพิชิตเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นต่อไป นั่นคือ สร้างแบรนด์โรงแรมของ “วีรันดา” ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติเข้ามาพัก

ภาพ: กิติเดช เจริญพร

<hr />

<a href="https://bit.ly/2kmIPNv">คลิกอ่านฉบับเต็ม “ “ปลาเร็ว” บนโลกการลงทุน หนทางของคนตัวเล็ก” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2kmIPNv"><img class="lazy alignnone wp-image-15976 lazy-loaded" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg" sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg 750w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER--229x300.jpg 229w" alt="" width="250" height="328" data-lazy-type="image" data-lazy-src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg" data-lazy-srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg 750w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER--229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" /></a>

"วีรวัฒน์ องค์วาสิฎฐ์" นำ วีรันดา สร้างโอกาสบนโลกการลงทุน

<h2>วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา เปิดตัว วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน คอนโดบีชฟร้อนท์พรีเมียม ด้วยงบลงทุนกว่า 2.5 พันล้านบาท บนที่ดินแปลงใหญ่ผืนสุดท้าย ริมชายหาดหัวหินกว่า 14 ไร่ โชว์จุดขายที่พักอาศัยริมชายหาดแห่งแรกที่มาพร้อมกับการบริการแบบโรงแรมตอกย้ำความเป็นมืออาชีพในการสร้างมุมมองการท่องเที่ยวสไตล์ ชิค &amp; ฮิป ตอบสนองไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนทุกรุ่นอย่างเหนือระดับ  ด้าน 2 กูรู กิติชัย เตชะงามเลิศ และ ถนอม เกตุเอม ร่วมเผยการเติบโตของหัวหินและเทรนด์การพักผ่อน</h2>
วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับโครงการวีรันดา รีสอร์ท หัวหิน, วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮ รีสอร์ท, วีรันดา รีสอร์ท พัทยา และ วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ในปีนี้ได้เปิดตัวโครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน คอนโดมีเนียมหรูบนชายหาดส่วนตัว ด้วยการลงทุนกว่า 2.5 พันล้านบาท บนพื้นที่หน้าหาดหัวหิน รวมกว่า 14 ไร่ พร้อมเสริมความโดดเด่นด้วยการเน้นพื้นที่ของแลนด์สเคป โดยมีสระว่ายน้ำเป็นองค์ประกอบหลักของพื้นที่

“ปัจจุบันคอนโดมิเนียมยังเป็นตลาดที่ขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อาทิ ริมทะเลหัวหิน และฝั่งเขาตะเกียบ เป็นต้น ตลาดหัวหินยังเติบโตขึ้นมาก เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้หัวหินคึกคักและหนาแน่นด้วยนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ดีมานด์ในทำเลนี้พุ่งสูงขึ้นตามอันดับ” วีรวัฒน์ กล่าวและเสริมถึงปัจจัยด้านการเดินทางโดยหัวหินมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้น อาทิ โครงการเส้นทางเรือเฟอร์รี่พัทยา-หัวหิน ที่จะช่วยย่นระยะการเดินจากพัทยาสู่หัวหิน โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-ระยอง โดยทั้งสองโครงการสำคัญนี้ไม่ห่างจากโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน มากนัก รวมไปถึงการผลักดันของรัฐบาลในการสร้างโครงการ มอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ ที่สร้างความเจริญในระยะยาว

ด้าน กิติชัย เตชะงามเลิศ นักลงทุนหุ้น-อสังหาริมทรัพย์ เผยว่า การเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนหัวหินในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตในระดับปานกลาง จากตัวเลขในปี 2555 ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหัวหินประมาณ 4 ล้าน 1 แสนคน ในขณะที่ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหัวหินเกือบ 5 ล้านคน Occupancy rate จากปี 2555 คิดเป็น 45.37% ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนในปี 2558 Occupancy rate คิดเป็น 65.70 % แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่พักในหัวหิน และการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“มุมมองการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เน้นที่การลงทุนในระดับ B+ ขึ้นไป ยังคงเดินหน้าได้ดี ทั้งการลงทุนเพื่อขายต่อ ต้องเล็งเห็นโอกาสของโครงการอสังหาฯ ที่คาดว่าจะมีราคาที่ขยับสูงขึ้น ในอนาคต สามารถสร้างผลกำไรได้ดี ส่วนด้านการลงทุนเพื่อการปล่อยเช่า ต้องวิเคราะห์ปัจจัยผลตอบแทน จากการเช่าให้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ สำหรับโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ก็เป็นหนึ่งในโครงการฯ อันดับต้นๆ ที่น่าลงทุนในขณะนี้ ทั้งเรื่องของทำเลที่ตั้ง ความโดดเด่นของดีไซน์ และการบริการที่จัดเป็น First Hotel Service Beachfront Design Residence แห่งแรก ซึ่งสร้างความแตกต่างจากอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ”

ด้าน ถนอม เกตุเอม บล็อกเกอร์ด้านการเงินและภาษีซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “บักหนอม” กล่าวเสริมถึงความนิยมในการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นทรัพย์สินโดยเฉพาะพื้นที่หัวหินและยิ่งถ้าเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการเข้าพักยิ่งสร้างจุดแข็งและความแตกต่างในการโครงการและผู้พัฒนา

ทั้งนี้ วีรวัฒน์ กล่าวเสริมถึงทิศทางการทำงานของวีรันดาฯ ที่ผ่านมาในการสร้างแบรนด์ DNA ของธุรกิจ โดยยกตัวอย่างถึงโครงการในอดีตอย่าง วีรันดา ชะอำ-หัวหิน บนพื้นรวม 10 ไร่ ในครั้งนั้นที่แม้สามารถสร้างห้องพักได้กว่า 300ห้อง แต่วันนั้นเขาเลือกสร้างเพียง 97 ห้อง และขยายสร้างพื้นที่ส่วนกลางในครอบคลุมการใช้สอย อาทิ พื้นที่สระว่ายน้ำ พื้นที่ส่วนกลาง

“ผมอาจไม่ค่อยคิดเหมือนคนอื่นๆ ที่มองการใช้งานพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด แต่เรามองที่พื้นที่อยากให้ห้องที่มีอยู่มีจุดด้อยน้อยที่สุด มีจุดที่เห็นวิวที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกถึงความเป็นวีรันดา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาแล้วและทำต่อไปเพราะนี้คือแบรนด์ DNA ของเรา” วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด กล่าว

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/c3442ec24d3d8d3645d8feedb587d75c.png" alt="" width="680" height="483" /><figcaption> (จากซ้าย) กิติชัย เตชะงามเลิศ, วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด และ ถนอม เกตุเอม</figcaption></figure>

วีรันดาฯ เชิญ 2 กูรูด้านการลงทุนพูดคุยทิศทางการลงทุนและการเติบโตหัวหินสู่บ้านพักตากอากาศตอบโจทย์คนเมือง

<h2>ธุรกิจรีสอร์ท-โรงแรม “วีรันดา” เปิดตัวโครงการ “วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน” คอนโดฯ ติดหน้าหาดหัวหิน-ติดเขาตะเกียบ เริ่ม 3.99 ล้านบาท ชูจุดขายที่ดินผืนใหญ่แปลงสุดท้ายบนหาดหัวหิน โบรกเกอร์ CBRE เผยซัพพลายคอนโดฯใหม่ติดหาดหัวหินหมดจากตลาด ขณะที่ห้องชุดรีเซลราคา 1-1.5 แสนบาท/ตร.ม.</h2>
วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด ผู้พัฒนารีสอร์ท โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ วีรันดา เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการใหม่ คือ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมบนเนื้อที่ 14 ไร่ จำนวน 263 ยูนิต ติดหาดหัวหินและเขาตะเกียบ หน้าหาดกว้าง 60 เมตร ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท

<img style="width: 680px; height: 430px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/6fd66b9cf7d3cd980de735aec56429f0.png" alt="" />

วีรวัฒน์กล่าวว่า คอนโดฯแห่งนี้มีจุดขายด้านทำเล เนื่องจากที่ดินแปลงใหญ่ที่ติดกับชายหาดหัวหินเหลือขายน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นแปลงเล็กและมีราคาแพงซึ่งจะทำให้ราคาขายห้องชุดแตะ 2 แสนบาท/ตร.ม.หากมีการพัฒนา ขณะที่วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.15 แสนบาทต่อตร.ม.เท่านั้น รวมถึงมีการออกแบบที่ดีเน้นการดีไซน์ เล่นระดับเหมือนภูเขาและมีพื้นที่สระว่ายน้ำรวม 4 ไร่

นอกจากนี้ ภายในบริเวณจะมีส่วนโรงแรมวีรันดา 3 ไร่ จำนวน 39 ห้อง ซึ่งทำให้ผู้ซื้อสะดวกสบายในการพักอาศัย สามารถใช้บริการรูมเซอร์วิสลักษณะเดียวกับโรงแรม และให้แขกของครอบครัวพักในโรงแรมได้

<img style="width: 680px; height: 430px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/be40c87008fd038c55c40f13afede250.png" alt="" />

รายละเอียดโครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน
<ul>
 	<li>เนื้อที่รวม 14 ไร่ แบ่งเป็น ที่พักอาศัย 11 ไร่ และโรงแรม 3 ไร่</li>
 	<li>ที่พักอาศัย 5 อาคาร 263 ยูนิต และโรงแรม 2 อาคาร 39 ห้อง</li>
 	<li>ความสูง 3, 4 และ 7 ชั้น</li>
 	<li>รูปแบบห้องชุด 1, 2, 3 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 41-148 ตร.ม.) ไฮไลต์ห้อง Penthouse และ Sky Pool Duplex 160-297 ตร.ม.</li>
 	<li>สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สตีมรูม สปา ที่จอดรถซูเปอร์คาร์</li>
 	<li>ราคา 9 หมื่น – 1.4 แสนบาทต่อตร.ม.</li>
 	<li>เปิดขาย เมษายน 2560 เริ่มก่อสร้าง Q1/61 สร้างเสร็จ Q4/62</li>
</ul>
<img style="width: 680px; height: 249px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/cf964680cbaccdcf46a584c3c750cc4c.png" alt="" />

วีรวัฒน์กล่าวว่า ธุรกิจหลักของวีรันดาฯยังคงเป็นการพัฒนาโรงแรมและรีสอร์ท หลังก่อตั้งมากว่า 13 ปีมีธุรกิจโรงแรมในพอร์ตแล้ว 5 แห่ง ได้แก่ แบรนด์วีรันดา รีสอร์ท ในหัวหิน เชียงใหม่ และพัทยา, โซ โซฟิเทล แบงค็อก และร็อคกี้บูติครีสอร์ท เกาะสมุย จำนวนรวมประมาณ 700-800 ห้อง โดยการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายครั้งนี้เป็นแห่งที่ 3 ต่อจากโครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มียอดขาย 80% ซึ่งมีกำหนดการสร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ Q2-Q3 ปีนี้

สำหรับรายได้บริษัทไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เฉพาะธุรกิจหลักคือโรงแรม-รีสอร์ทในปี 2560 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% เนื่องจากการท่องเที่ยวประเทศไทยยังเติบโตได้ดีและเศรษฐกิจภายในประเทศยังส่งเสริม ยกเว้นในบางจังหวัดที่มีซัพพลายโรงแรมจำนวนมากอาจเกิดปัญหาในการทำธุรกิจบ้าง และบริษัทอยู่ระหว่างหารือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปี

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/345a7be2e847394a168fbabc8b40d24a.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด (ซ้าย) และ อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด (ขวา)</figcaption></figure>

ด้าน อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนขายโครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน กล่าวว่า โครงการจะเปิดพรีเซลในวันที่ 22-23 เมษายนนี้ ที่โรงแรมโซ โซฟิเทล แบงค็อก คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ 30% ในวันพรีเซล และมียอดขาย 80-90% ภายใน 1 ปีหลังเปิดพรีเซล

เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากซัพพลายคอนโดฯ ติดหาดหรือใกล้หาดหัวหินมีเหลือน้อยมากจากซัพพลายสะสมประมาณ 9,900 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯสร้างเสร็จซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ 7-8 ปีก่อน เนื่องจากที่ดินเหลือน้อยไม่สามารถพัฒนาเพิ่มได้ ราคารีเซลคอนโดฯติดหาดหัวหินปัจจุบันอยู่ที่ 1-1.5 แสนบาทต่อตร.ม.

ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหินและชะอำ ยอดขายโครงการส่วนใหญ่อยู่ที่ 70-80% โดยพบว่าคอนโดฯติดหาดระดับพรีเมียมราคา 1 แสนบาท/ตร.ม.ขึ้นไปมีดีมานด์สูง ขณะที่ซัพพลายเหลือขายมักจะเป็นคอนโดฯระดับกลางราคาประมาณ 5-6 หมื่นบาท/ตร.ม. และไม่ติดชายหาด ซึ่งเปิดตัวจำนวนมากช่วงปี 2558 ทำให้การระบายซัพพลายกลุ่มตลาดนี้ทำได้ช้า

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events