<h2>กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป เผยผลประกอบการที่มั่นคงที่สุดในประวัติการณ์ตลอด 27 ปีที่ผ่านมา เปิดผลกำไรสูงสุดในรายงานประจำปี สำหรับปีงบประมาณ 2566/67 กว่า 5.52 หมื่นล้านบาท (1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่รายได้รวมทั้งหมด 7.39 แสนล้านบาท (2.22 หมื่นล้านเหรียญ) ซึ่งเติบโตขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป สร้างผลกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBITDA) อย่างมั่นคงถึง 24% ซึ่งคิดเป็นกว่า 1.72 แสนล้านบาท (5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้นราว 9.97 พันล้านบาท (0.3 พันล้านเหรียญ) จากปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้สะท้อนถึงการมุ่งเน้นธุรกิจในด้านประสบการณ์ลูกค้า นวัตกรรม ดิจิทัล และความยั่งยืน ซึ่งทำให้การดำเนินงานในทุกพื้นที่เป็นระบบ คล่องตัว และตอบโจทย์ทุกความต้องการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเติบโตดังกล่าวถือเป็นการปูทางสำหรับอนาคตของธุรกิจสายการบินที่ได้ให้บริการกับผู้โดยสารกว่า 40 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2566/67 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 26% จากปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รายได้จากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 19% โดย 21% ของยอดดังกล่าวมาจากการบรรจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 83% สะท้อนถึงการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทในตลาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซาอัด เชอริดา อัล-คาบี รัฐมนตรีพลังงานและประธานกรรมการ กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป กล่าวว่า “ผลประกอบการประจำปีล่าสุดอันเป็นที่น่าพึงพอใจนี้ เป็นผลลัพธ์จากความยืดหยุ่นและความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของกาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป ที่สามารถปรับตัวเข้ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้สำเร็จ นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงการเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิศวกร บาดร์ โมฮัมเหม็ด อัล-เมียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า “ผลประกอบการที่มั่นคงเหล่านี้ตอกย้ำถึงพันธกิจและแนวทางอันแน่วแน่ที่นำมาซึ่งความก้าวหน้าของกลุ่มสายการบินตลอดปีงบประมาณ 2566/67”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การให้ความสำคัญกับการทำกำไร ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่องได้รับการเสริมสร้างจากโครงการเชิงกลยุทธ์ในการขยายเครือข่ายและเพิ่มจำนวนฝูงบิน ซึ่งช่วยให้เรามีรายได้และกำไรสูงที่สุดในประวัติการณ์ของสายการบิน ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทในการมอบสิ่งที่ดีที่สุด เรายังคงครองตำแหน่งสายการบินที่ผู้โดยสารทั่วโลกเลือกใช้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ความสำเร็จที่น่าทึ่งนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของครอบครัวกาตาร์ แอร์เวย์สทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อบรรลุเป้าหมายในครั้งนี้ เราจะใช้ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นแรงผลักดันสู่ความสำเร็จในครั้งต่อๆ ไป”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีในปี 2567 ของการให้บริการกาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก สายการบินยังคงครองตำแหน่งผู้ขนส่งคาร์โกทางอากาศชั้นนำของโลก ด้วยการมุ่งเน้นด้านดิจิทัล ความยั่งยืน และการเติบโต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดคาร์โกถึง 7.1% ในปีงบประมาณ 2566/67 เพิ่มขึ้น 0.04% จากปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กาตาร์ เอ็กเซ็กคูทีฟ (QE) ยังคงสร้างผลประกอบการทางธุรกิจที่มั่นคงในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ในฐานะผู้ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวเพียงหนึ่งเดียวที่บริหารและอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของสายการบินเชิงพาณิชย์อย่างครบวงจร จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ 2566/67 ทาง QE พบว่าจำนวนกลุ่มผู้โดยสารที่เช่าเครื่องบินเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจได้เพิ่มขึ้นกว่า 17% พร้อมกับชั่วโมงบินที่เพิ่มขึ้นกว่า 21% แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของลูกค้าที่มั่นคง โดยเฉพาะในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กาตาร์ แอร์เวย์ส ได้ขยายเครือข่ายเส้นทางการบินมากกว่า 170 จุดหมายปลายทางในปีงบประมาณ 2566/67 โดยเพิ่มจุดหมายปลายทางใหม่ เช่น เมืองอัลอูลา เนออม และทาบุค ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมืองลียง และ โตโลซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมืองเมดัน ประเทศอินโดนีเซีย และ เมืองตราบซอน ประเทศตุรกี ตลอดทั้งปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีการกลับมาเปิดให้บริการไปยังจุดหมายปลายทาง 14 แห่ง ได้แก่ เมืองบาห์เรน ประเทศบาห์เรน เมืองเบอร์มิงแฮม ในสหราชอาณาจักร เมืองปักกิ่ง เฉิงดู และ ฉงชิง ในประเทศจีน เมืองดาเวา ในประเทศฟิลิปปินส์ โตเกียว ฮาเนดะ และ โอซาก้า ในประเทศญี่ปุ่น เมืองมาราเคช ประเทศโมร็อกโก เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมืองรัสอัลคายมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเมืองยั่นบู ประเทศซาอุดีอาระเบีย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทีมพาณิชย์ของทางสายการบินมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยการมอบการบริการที่แปลกใหม่และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของรายได้และส่วนแบ่งตลาด อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำชื่อเสียงของกาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ปในด้านความเป็นเลิศ จากการได้รับรางวัล ‘สุดยอดสายการบินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง' ในงาน World Airline Awards 2023 ที่ขึ้นจัดโดย Skytrax&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายกับผู้คนทั่วโลก ทางแบรนด์ยังคงเน้นย้ำความเป็นผู้นำในโลกโซเชียลในช่วงปีงบประมาณ 2566/67 ทำให้สายการบินยังครองอันดับหนึ่งในทุกช่องทาง ด้วยผู้ติดตามรวมกว่า 47 ล้านคน และเป็นสายการบินที่มีจำนวนผู้ติดตามมากที่สุดในโลกทั้งบน Facebook YouTube และ TikTok เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/global/2024-world-airline-awards" alt="10 อันดับ สายการบินที่ดีที่สุดในโลก ปี 2024 โดย Skytrax">10 อันดับ สายการบินที่ดีที่สุดในโลก ปี 2024 โดย Skytrax</a>​​​<a href="https://web.facebook.com/ForbesThailandMagazine/?_rdc=1&amp;_rdr" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘กาตาร์ แอร์เวย์ส’ ทุบสถิติ 27 ปี หลังทำกำไรกว่า 5.52 หมื่นล้านบาท

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"สายการบินกาตาร์" ได้เปิดตัวเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว Gulfstream G700 ในงาน Paris Air Show ครั้งที่ 54 โดย&nbsp;H.E.Mr. Akbar Al Baker ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เปิดตัวเครื่องบินเจ็ทธุรกิจ Gulfstream G700 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับสถิติความเร็วใหม่ที่ 0.90 มัค (Mach) ที่สามารถเดินทางจากซาวาน่า (Savannah) ไปยังปารีส (Paris) ในเวลาเพียง 7 ชั่วโมง 19 นาที โดยเครื่องบิน G700 จะเข้าประจำการในฝูงบินเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรูบริการของ Qatar Executive ซึ่งหลังจากที่ Qatar Executive ซึ่งเป็นบริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสุดหรูของ Qatar Airways Group ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ G700 ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2019 เป็นต้นมา Qatar Executive ตั้งเป้าที่จะขยายฝูงบินปัจจุบันเพิ่มอีกจำนวน 10 ลําในอนาคตอันใกล้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยการจัดแสดงครั้งนี้ ได้รับเกียรติเข้าร่วมพิธีจาก H.E. Jassim bin Saif bin Ahmed Al Sulaiti รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของกาตาร์, H.E. Sheikh Ali bin Jassem Al-Thani เอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ประจำฝรั่งเศส, Eng. Badr Mohammed Al Meer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด และ Mark Burns ประธานบริหารบริษัท Gulfstream Aerospace&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในระหว่างขั้นตอนการทดสอบการบิน Gulfstream G700 ได้แสดงถึงประสิทธิภาพและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ที่ทำสถิติความเร็วได้ที่ 0.89 มัค (Mach) ในการเดินทางระหว่างสะวันนา (Savannah) และกรุงโตเกียว (Toyko) ซึ่งเป็นประสิทธิภาพที่โดดเด่นและทำให้ G700 แตกต่างจากเครื่องบินอื่นๆ ในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ G700 ยังมีคุณสมบัติที่น่าประทับใจ เช่น การออกแบบห้องโดยสารที่หรูหรา ระบบอิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบิน รวมถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยที่เหนือกว่า และด้วยเครื่องยนต์ Pearl 700 จำนวนสองเครื่องที่ได้รับการพัฒนาโดย Rolls-Royce และพิสัย (Range) สูงถึง 7,500 ไมล์ทะเล (nautical miles)/ 13,890 กิโลเมตร ที่ 0.85 มัค (Mach) หรือสูงถึง 6,400 นาโนเมตร/ 11,853 กิโลเมตร ที่ 0.90 มัค (Mach) &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/gnvjt7H3ex9mTxrJJbwd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="gnvjt7H3ex9mTxrJJbwd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1379,893" style="" data-index="0"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของการบริการลูกค้าของ กาตาร์ แอร์เวย์ส การออกแบบภายในห้องโดยสารได้ผ่านการพิจารณาอย่างพิถีพิถัน โดยการออกแบบที่เน้นความกว้างขวาง คล่องตัวและนวัตกรรมที่ทันสมัย พร้อมกับห้องครัวขนาดใหญ่พิเศษ ที่พักสำหรับลูกเรือและพื้นที่ใช้สอยมากถึง 5 บริเวณ และหน้าต่างบานใหญ่พร้อมนวัตกรรมแสงที่ระดับความดันลดลง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร G700 ยังมีประสิทธิภาพในการเดินทางระยะไกลพิเศษ สามารถครอบคลุมเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ รวมถึงเที่ยวบินตรงจากโดฮา (Doha) ไปยังนิวยอร์ก (New York) ในเวลา 13.5 ชั่วโมง และจากโดฮา (Doha) ไปยังโซล (Seoul) ในเวลา 8 ชั่วโมง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;H.E. Mr. Akbar Al Baker ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า "เครื่องบิน G700 คือสุดยอดของการเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทธุรกิจ ที่มอบประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าของ Qatar Executive ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล้ำสมัย นวัตกรรมเครื่องมือการบิน การกำหนดค่าห้องโดยสารขั้นสูง (Cabin Configuration) และประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่เหนือชั้น ทําให้เครื่องบิน G700 เป็นผู้นำแห่งจุดเปลี่ยนในอุตสาหกรรมการบินอย่างแท้จริง เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เพิ่มเครื่องบินเจ็ทธุรกิจ G700 สู่ฝูงบินของ Qatar Executive ในปีนี้ และมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับผู้โดยสารของเรา" &nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70337" alt="&quot;ลัมโบร์กินี&quot; จัดทริปพิเศษ &quot;Lamborghini Club Thailand Bull Run at Pattaya&quot; รับซัมเมอร์">"ลัมโบร์กินี" จัดทริปพิเศษ "Lamborghini Club Thailand Bull Run at Pattaya" รับซัมเมอร์</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

"สายการบินกาตาร์" เปิดตัวเครื่องบินเจ็ท Gulfstream G700 

<h2>สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เปิดตัวเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เชียงใหม่-โดฮา ถือเป็นเส้นทางที่ 4 ภายในประเทศ อัคบาร์ อัล บาเกอร์ ซีอีโอ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ย้ำเชื่อมั่นไทยและเผยผลประกอบการแดนบวกประจำปี 2017 ด้าน ยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดินทางแสดงความยินดีแนะผู้ประกอบการท้องถิ่นรับมือนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก</h2>
อัคบาร์ อัล บาเกอร์ ซีอีโอ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เผยเชียงใหม่ถือเป็นเส้นทางการบินลำดับที่ 4 ในประเทศไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ด้วยบริการจำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เครื่องบินแอร์บัส A300-200 ช่วยเพิ่มความต้องการของผู้โดยสารทั่วทั้งเครือข่ายการบิน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกไกลในการเดินทางมาพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ โดยผู้โดยสารจากสนามบินเชียงใหม่สามารถเดินทางต่อเส้นยังจุดหมายปลายทางกว่า 150 แห่งทั่วโลก ผ่านศูนย์กลางการบินอันทันสมัย ณ กรุงโดฮา นอกจากนั้น เรายังมีแผนการเพิ่มเส้นทางการบินลำดับที่ 5 ไปยังพัทยา-โดฮา ในวันที่ 28 มกราคม 2018

ด้านยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดบริการเส้นทางบินใหม่การทำแคมเปญยุทธศาสตร์เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศกับสายการบินที่มีศักยภาพระดับโลกมีความสำคัญยิ่งในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความต้องการของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาสู่จังหวัดเชียงใหม่ดินแดนแห่งวัฒนธรรมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมทั้งสร้างความมั่งคั่งให้แก่ภูมิภาคด้วยเช่นกัน”

สุนทร ชัยยินดีภูมิ เอกอัครราชฑูตไทยประจำรัฐกาตาร์ กล่าว “เส้นทางใหม่นี้จะช่วยเพิ่มระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกาตาร์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ปัจจุบันคนไทยกว่า 3,400 คนอาศัยอยู่ในประเทศกาตาร์ โดย 1,224 คน ทำงานกับสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส”

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/8ed221af7686f5e07b55346c70995dad.jpg" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> ธรรมเนียมต้อนรับปฐมฤกษ์ด้วยการพ่นน้ำยังตัวเครื่อง</figcaption></figure>
<h2>20 ปี สายการบินกาตาร์</h2>
อัคบาร์ อัล บาเกอร์ ซีอีโอ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เผยหลังจากก่อตั้งในปี 1997 จากการให้บริการเครื่องบินเพียง 4 ลำ เราเติบโตและได้รับรางวัลการันตีจากหลายสถาบัน สำหรับผลประกอบการประจำปี 2017 สายการบินกาตาร์ มีผลกำไรที่ 541 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ประจำปีเพิ่มขึ้น 10.4 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 21.7 เปอร์เซ็นต์จากปีต่อปี ทั้งนี้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อกิโลเมตรที่ 21.9 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นจำนวน 185,208 คน ในปี 2016 สายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 1.86 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ  ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ 209 ลำ

นอกจากนี้ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ยังให้บริการขนส่งคาร์โก้ โดยให้บริการขนส่งคาร์โก้ครั้งแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ มีฝูงบินคาร์โกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ให้บริการขนส่งสินค้ากว่า 60 ปลายทางทั่วโลก โดยปัจจุบันมีฝูงบินประกอบไปด้วย Boeing 777 Freighters จำนวน 13 ลำ Airbus A330 Freighters 8 ลำ และ Boeing 747-8 Freighter 1 ลำ พร้อมตั้งเป้าขยับฝูงการบินคาร์โกที่ใหญ่สู่อันดับ 2 ของโลก ในปีหน้า

<img style="width: 680px; height: 383px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/3d53a63c4710b3c7ed34481ec49b4301.jpg" alt="" />

โดยแผนการลงทุนและขยายเส้นทางปี 2018 สายการบินกาตาร์ฯ ยังมีแผนขยายเครือข่ายการบินระดับโลกเพิ่มเติมจากเดิมที่ให้บริการใน 6 ทวีป กว่า 150 เส้นทางบิน โดยเส้นทางการบินใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดในปีหน้ากว่า 30 เส้นทาง อาทิ แคนเบอร์ร่า ประเทศออสเตรเลีย, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย, ซาน ฟรานซิสโก สหรัฐฯ, ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล

<figure><img style="width: 680px; height: 296px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/31731cccb86bd47e9b1206b69be8284d.jpg" alt="" width="680" height="296" /><figcaption> โลโก้ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท กาตาร์</figcaption></figure>

กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ของ กาตาร์ กรุ๊ป นั้น อัคบาร์ อัล บาเกอร์ เผยถึงการขยายสาขาโรงแรมกว่า 50 แห่ง ทั่วโลก และการสร้างธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการถูกกลุ่มประเทศอาหรับตัดความสัมพันธ์นั้นแน่นอนว่าเราต้องมีต้นทุนการบินที่สูงขึ้น แต่จากผลประกอบการที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าเรายังทำรายได้ดี “แม้ว่าเราได้ผลกระทบแต่เรายังคงแนวแน่วและมุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจและการขยายธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจนมากขึ้น” ปัจจุบันกลุ่มกาตาร์ฯ ยังเป็นพันธมิตรใน ONEWORLD ในการร่วมบินกับพันธมิตรสายบินอื่นๆ พร้อมกับการลงทุนร่วมในสายการบิน อาทิ Cathay Pacific, British Airways

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events