<h2>ปี 2567 เมืองไทยประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 71,800 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 13% พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ปี 2568 บูสท์ความสุขของทุกคนผ่านความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ในปี 2567 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 71,800 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 13% เป็นการเติบโตในกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ Shield Life (ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบภายในระยะเวลาและประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์) เติบโต 42% และแบบประกันคุ้มครอง โรคร้ายแรง (รายเดี่ยว) เติบโต 24%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงขึ้นจาก 58 คะแนน เป็น 75 คะแนน ขณะที่ธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/Pq2KEs3PbjfZHGQ6ryxg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="Pq2KEs3PbjfZHGQ6ryxg.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้บริษัทมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2567 มากกว่า 350% สูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140% บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และความแข็งแกร่งทางการเงินจาก S&amp;P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ (Stable Outlook) และ Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA (tha) (Stable Outlook)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปี 2568 บริษัทยังคงตอกย้ำตัวตนในการเป็นแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการส่งมอบความสุขผ่านกลยุทธ์ Boost Your Happiness by Our People เดินหน้าพัฒนาองค์กรในทุกภาคส่วน ด้วยความเป็นมืออาชีพ ความโปร่งใสและความสะดวกสบาย และความไว้วางใจ (Commitment &amp; Trust) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต ประสบการณ์การบริการแบบไร้รอยต่อ และคำมั่นสัญญาตลอดชีวิต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาทุกภาคส่วน ด้วยการพัฒนาพนักงานและฝ่ายขายให้มีความสามารถรอบด้าน เพิ่มทักษะการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ผสมผสานอยู่ในทุกกระบวนการทำงาน (Data &amp; AI Literacy) ทักษะด้านการสื่อสารและการบริหาร (Soft Skills) ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Expert Knowledge) และความเชี่ยวชาญในหลายมิติ (Cross-Domain Expert Knowledge) โดยปัจจุบันบริษัทมีตัวแทน 15,000 คน และจะเพิ่มให้ได้เป็นขั้นต่ำ 20,000 คน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สาระกล่าวถึงธุรกิจประกันชีวิตว่าเป็นธุรกิจที่ให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าในระยะยาว บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) พร้อมสร้างความรู้ด้านการวางแผนการเงินและประกันภัย (Financial &amp; Insurance Literacy) ให้กับประชาชนทั่วไป และสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ภายในปี 2573 บริษัทมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ทั้งปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรโดยตรงและทางอ้อม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/Bj91WaLchnz6x3JZmbPJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="Bj91WaLchnz6x3JZmbPJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ในปีนี้เราตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีที่สีบานเย็นบานสะพรั่งทั่วประเทศ โดยเมืองไทยประกันชีวิตจะยกระดับความสุขให้กับทุกคน ทั้งลูกค้า พาร์ตเนอร์ พนักงาน ฝ่ายขาย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายต่างๆ” ผู้บริหาร MTL กล่าวในตอนท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/tgia-thailand-insurance-f-dec-2024" alt="ส.ประกันวินาศภัย เร่งคุยข้อสรุปประกันสุขภาพ CoPayment ที่ผู้ซื้อต้อง ‘ร่วมจ่าย’ เมื่อจะเคลมตามเงื่อนไข คาดเริ่มใช้ มี.ค. 68">ส.ประกันวินาศภัย เร่งคุยข้อสรุปประกันสุขภาพ CoPayment ที่ผู้ซื้อต้อง ‘ร่วมจ่าย’ เมื่อจะเคลมตามเงื่อนไข คาดเริ่มใช้ มี.ค. 68</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘เมืองไทยประกันชีวิต’ ปิดปี 67 เบี้ยรับรวมกว่า 7.18 หมื่นล้านบาท

“สาระ ล่ำซำ” เอ็กซ์ตรีมซีอีโอ รับความท้าทายใหม่ “เมืองไทยไลฟ์” The Visionary Executive

<div class="se-component se-video-container __se__float-none" contenteditable="false" style="width: 100%;"><figure style="width: 100%; height: 56.25%; padding-bottom: 56.25%; margin: 0px;"><iframe frameborder="0" allowfullscreen="" src="https://www.youtube.com/embed/xoiiv4d8w00" data-proportion="true" data-percentage="100%,56.25%" data-size="100%,56.25%" data-align="none" style="width: 100%; height: 100%;" data-index="1" data-file-name="xoiiv4d8w00" data-file-size="0" data-origin="100%,56.25%"></iframe></figure></div> ​​สาระ ล่ำซำ ทายาทรุ่น 3 และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เขาคือ 1 ในซีอีโอผู้ขึ้นชื่อเรื่องการปรับเปลี่ยนสร้างแบรนด์ใหม่ให้เป็นที่จดจำ ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใส มีชีวิตชีวาจากโลโก้สีชมพูบานเย็น และยังเน้นกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Data และ Mindset​

สาระ ล่ำซำ ขับเคลื่อน “เมืองไทยประกันชีวิต” ด้วย Data และ Mindset

<h2>นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2566 - สาระ ล่ำซำ เอ็กซ์ตรีมซีอีโอ รับความท้าทายใหม่ “เมืองไทยไลฟ์”</h2> สาระ ล่ำซำ เอ็กซ์ตรีมซีอีโอ รับความท้าทายใหม่ “เมืองไทยไลฟ์” - ด้วยมาดผู้บริหารหนุ่มที่มีความกระฉับกระเฉง มั่นใจ และยังมีไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์ตรีม เขาบอกเล่าเรื่องราวธุรกิจและความรู้ในด้านต่างๆ ได้อย่างรื่นรมย์ไม่มีติดขัด สะท้อนผลึกความคิดอันชัดเจน หนักแน่นด้วยเนื้อหาสาระและประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นในฐานะผู้นำบริษัทประกันชีวิตโลโก้สีบานเย็นสดใสที่อยู่คู่สังคมไทยมานานกว่า 72 ปีนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ Sino ผสานน่านน้ำการค้าโลก - ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดส่งออกและประสบการณ์ทำงานที่สั่งสมจากสายการเดินเรือยักษ์ใหญ่ร่วมทศวรรษสู่การจับมือเริ่มต้นธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ผงาดขึ้นแท่นผู้นำการขนส่งทางทะเลข้ามพรมแดนสหรัฐอเมริกาของไทยพิชิต จันทรเสรีกุล KCAR สปีดรถเช่าบริการไฮบริด - การเบนเข็มจากธุรกิจเช่ารถยนต์ระยะสั้นรุ่นบุกเบิกสู่การให้บริการสัญญาเช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานเจาะกลุ่มองค์กรยุคแรกของไทยและขยายธุรกิจรถมือสอง พร้อมยกระดับการบริการตอบดีมานด์รับเทรนด์โลกนพดล เจียรวนนท์ CP FOTON ปักธง Top 3 รถบรรทุก - หลังประสบความสำเร็จจากการนำข้าและจำหน่ายรถยนต์ MG ในไทยเป็นอย่างดีเมื่อ 4 ปีก่อน ล่าสุดเครือเจริญโภคภัณฑ์จึงรุกเข้าตลาดรถเชิงพาณิชย์ มั่นใจรถบรรทุก CP FOTON จะขึ้นแท่นเป็นอันดับ 3 ของไทยภายใน 3 ปีจักรกฤต เบเนเดทตี้ ขยายน่านน้ำใหม่ “อิตาเลเซีย” - ธุรกิจเทรดดิ้งสินค้านำเข้าจากอิตาลีคือจุดเริ่มต้นของบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชื่อดัง จากตัวแทนขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขยับสู่ธุรกิจนำเข้าไวน์ สุรา จากอิตาลี โดยล่าสุดยังได้พอร์ตสุราจากญี่ปุ่นมาเสริมทัพสร้างโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้นพบการจัดอันดับ “Asia’s Best Under A Billion 2023 ของ 200 บริษัทสวนกระแสอุปสรรคระดับโลก” และร่วมอ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจรวมถึงเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2566 และอ่านในรูปแบบ e-magazine <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/gNgj6uCKNibFLgYhsTHK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="gNgj6uCKNibFLgYhsTHK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/wKqJRfqLwAm42mbYK96T.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wKqJRfqLwAm42mbYK96T.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​

นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2566 - สาระ ล่ำซำ เอ็กซ์ตรีมซีอีโอ รับความท้าทายใหม่ “เมืองไทยไลฟ์”

<h2>สาระ ล่ำซำ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ประกาศว่าที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติลงทุนเพิ่ม 200 ล้านบาทในบริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด บริษัทในเครือซึ่งให้บริการธุรกิจนายหน้าประกันภัยภายใต้ชื่อ gettgo พร้อมมุ่งแตะเป้าเบี้ยประกันภัย 1,000 ล้านใน 3 ปี</h2>
ธนัท จักรวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงจุดประสงค์หลักในการลงทุนเพิ่มครั้งนี้ ธนัทชี้ว่า เป็นไปเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ได้รับความนิยมมากที่สุด ไม่ใช่แค่การซื้อแต่รวมไปถึงการขายและการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อย่างเช่น ประกัน นอกจากนี้ gettgoยังได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการกระจายผลิตภัณฑ์ประกันออนไลน์ให้กับกลุ่มเมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้งอีกด้วย

ด้านความคืบหน้าและผลงานของgettgo ตลอดปี 2563 ที่ผ่านมาได้เปิดตัวแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันสุขภาพและประกันชีวิตออนไลน์แบบตามใจสั่งที่ตอบโจทย์ทุกความง่ายในยุคที่อะไร ๆ ก็ต้องมีการ “personalized” หรือมีการเสนอสินค้าแบบเจาะใจและตรงใจผู้บริโภค นับเป็นแพลตฟอร์มประกันสุขภาพออนไลน์ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการสุขภาพให้สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพได้ตามวัตถุประสงค์ของตัวเอง หากใครสนใจสามารถเข้าใช้งานได้แล้ววันนี้อย่างเต็มรูปแบบที่ <a href="http://gettgo.com/health-insurance">http://gettgo.com/health-insurance</a>

นอกจากนี้ธนัท ยังได้เปิดแผนสำหรับอนาคตในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้ายอดเบี้ยประกันภัยที่ 1,000 ล้านบาท อันได้แก่

1.ปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และจำนวนพาร์ทเนอร์บริษัทประกันบนแพลตฟอร์มประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อก้าวสู่แพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่สุดในตลาด โดยปัจจุบันgettgo มีพาร์ทเนอร์อยู่ 7 บริษัท ได้แก่ เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันภัย เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ซิกน่าประกันภัย ฟอลคอนประกันภัย แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต เอ็ทน่า และในปี 2564 นี้ ทางgettgo ได้ตั้งใจที่จะหาคู่ค้าที่เป็นบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพชั้นนำเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์อีกด้วย

2.นำร่องพัฒนาแพลตฟอร์มประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้มีความฉลาดมากขึ้น โดยใช้ Aggregator Data ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าที่มีความต้องการและมีโปรไฟล์ที่แตกต่างกันได้ อีกทั้งgettgo ยังมุ่งเป้าเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกที่มีข้อมูลความสนใจของลูกค้าทั้งตลาดที่มาช่วยให้ระบบค้นหาประกันสุขภาพฉลาดมากยิ่งขึ้นและสร้างประสบการณ์ในการค้นหาประกันแบบใหม่ที่ทั้งง่าย เร็ว และดีที่สุด อีกด้วย

3.gettgoเตรียมเปิดตัวอีกหนึ่งแพลตฟอร์มขายประกันออนไลน์สำหรับนายหน้าประกันวินาศภัย เพื่อเข้ามาเป็นทั้งเครื่องมือและกำลังเสริมสำคัญที่คอยให้ความช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างนายหน้าทุกคนในการเปลี่ยนผ่านการขายประกันวินาศภัยจากยุคออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ และยังช่วยสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงขึ้นต่อไป

<figure><img class="wp-image-40726" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/gettgo_002.jpg" alt="" width="600" height="320" /><figcaption> ธนัท จักรวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด</figcaption></figure>

ธนัท กล่าวว่า “3 ปีที่ผ่านมาของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกๆ มิติซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีผู้ใช้งานเว็บไซต์เพิ่มขึ้นจากเพียงหลักหมื่นในตอนเริ่มต้น มาเป็นหลักล้านภายในเวลาไม่นาน ทำให้ทุกวันนี้ เรายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะไม่หยุดพัฒนาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันออนไลน์ที่ใช้งานง่ายและสะดวกสำหรับทั้งการซื้อและขายประกันให้กับคนไทย”

สุดท้ายนี้ จากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าคนไทยไม่เพียงให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังใส่ใจกับการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพผ่านการซื้อประกันสุขภาพควบคู่กันไปด้วย

ด้าน สาระ ได้กล่าวเสริมว่า “เมื่อผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพไปพร้อมๆ กับการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของโลกออนไลน์ สถานการณ์แบบนี้จึงเหมาะสมที่สุดกับการลงทุนในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันสุขภาพและประกันชีวิตออนไลน์ จึงถือได้ว่า gettgo เป็นเครื่องมือชั้นดีที่พร้อมเข้ามาตอบโจทย์ในยุคที่ไม่ว่าใครก็อยากเปรียบเทียบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”

ทั้งนี้ gettgoเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบประกันออนไลน์​ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด มีประกันออนไลน์ได้แก่ ประกันรถยนต์ ประกันเดินทาง ประกันที่อยู่อาศัย ประกันโควิด และล่าสุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 gettgo ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/motoring/%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%9F%E0%B8%B7.html">โตโยต้า คาดตลาดรถยนต์ฟื้น</a>
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>

gettgo ประกาศได้รับลงทุนเพิ่ม 200 ล้านบาทจากเมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง

<h2>“Benix" โบรกเกอร์ยุคดิจิทัลแห่งแรกในไทย จากการจับมือกันระหว่าง Humanica และ Fuchsia Venture Capital รวมทั้ง CXA Group ผสมผสานจุดแข็งด้านทรัพยากรบุคคล ธุรกิจนายหน้าประกันภัย และอินชัวร์เทคเอเชียก่อตั้งโบรกเกอร์แนวใหม่เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ Employee Benefits และ Wellness ครบวงจรในยุคดิจิทัล</h2>
ปราโมทย์ ศักดิ์กำจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนนิกซ์ จำกัด เปิดเผยถึงการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญของบริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีเอ็กซ์เอ กรุ๊ป และ บริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ซึ่งร่วมลงทุน 50 ล้านบาทก่อตั้ง บริษัท เบนนิกซ์ จำกัด (Benix) โบรกเกอร์แนวใหม่ยุคดิจิทัล บริการแพลตฟอร์มล้ำสมัยเพื่อบริหารจัดการสวัสดิการพนักงาน ผสานอีโคซิสเต็มต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ Wellness รวมถึงคอมมูนิตี้ที่มีประโยชน์สำหรับพนักงานอย่างครบวงจร

"เบนนิกซ์ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือธุรกิจและกิจการของคนไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในฐานะองค์กรที่ดูแลและใส่ใจพนักงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ ด้วยบริการรูปแบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ ครอบคลุมตั้งแต่การช่วยจัดการต้นทุนด้านสวัสดิการพนักงานที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีจนถึงการนำสวัสดิการแบบยืดหยุ่นเข้ามาใช้ เพื่อให้พนักงานมีทางเลือกมากขึ้น โดยสิ่งสำคัญคือ การให้สวัสดิการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของพนักงานที่หลากหลาย นอกเหนือจากสวัสดิการที่องค์กรจัดให้โดยตรงแล้ว เบนนิกซ์ยังคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล ผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Wellness ที่ช่วยให้พนักงานไปถึงเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ทั้งด้านสุขภาพและการเงินได้ในระยะยาว"

<figure><img class="wp-image-37629 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Benix09-002.jpg" alt="" width="600" height="400" /><figcaption> ปราโมทย์ ศักดิ์กำจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนนิกซ์ จำกัด</figcaption></figure>

สำหรับความแตกต่างของเบนนิกซ์อยู่ที่การยกระดับการบริหารจัดการด้านสวัสดิการพนักงาน ด้วยบริการที่ครอบคลุมครบถ้วน นับตั้งแต่การช่วยค้นหาแบบประกันกลุ่มที่เหมาะสม การให้คำปรึกษา สวัสดิการแบบยืดหยุ่นหรือ Flexi Benefit การเชื่อมต่อกับอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพ การประกันภัย และการเงินที่ให้ประโยชน์กับพนักงาน รวมถึงการบริหารจัดการสำหรับบริษัทที่ทำ self-insured

ขณะที่เบนนิกซ์คำนึงถึงปัจจัยหลัก ได้แก่ พนักงานสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวก และฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ผสมผสานและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกการบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกรวดเร็วและตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งทำให้เรื่องสวัสดิการที่มีความซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกขึ้นสำหรับองค์กร เพื่อให้องค์กรสามารถให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานอย่างเต็มที่

“นอกจากนี้ เรายังนำการวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วยให้นายจ้างสามารถบริหารงานด้าน HR ได้ดีขึ้น โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง ดังนั้น เบนนิกซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับระบบ HR  จึงสามารถให้บริการด้านสวัสดิการของพนักงานได้อย่างครบถ้วน ทั้งการประกันกลุ่ม สวัสดิการแบบยืดหยุ่น การบริหารจัดการสวัสดิการสำหรับบริษัทที่ทำ self-insured  การตรวจสุขภาพ Wellness Portal และร้านค้าออนไลน์ ซึ่งตอบโจทย์ครบในที่เดียว”

<figure><img class="wp-image-37633 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/สุนทร-เด่นธรรม-001.jpg" alt="" width="400" height="500" /><figcaption> สุนทร เด่นธรรม ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน)</figcaption></figure>

ด้าน สุนทร เด่นธรรม ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโซลูชั่น HR และ ERP ชั้นนำของไทยย้ำถึงการรวมความแข็งแกร่งและจุดเด่นของทั้ง 3 บริษัท ประกอบด้วย ฮิวแมนิก้า ผู้ให้บริการโซลูชั่น HR ที่ใหญ่ที่สุดของไทย ซีเอ็กซ์เอ กรุ๊ป อินชัวร์เทคที่ประสบความสำเร็จในประเทศสิงคโปร์ จีน และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย และ ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล บริษัทร่วมลงทุนของเมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง ที่มีความรู้ ความชำนาญ และเป็นผู้นำในเครือข่ายธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย

"เราทุกคนตระหนักดีถึงปัญหาที่ทุกคนกำลังเผชิญ จากการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมและความท้าทายที่เกิดจากการดิสรัปต์ของธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการเกิดขึ้นของโรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิด อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าพนักงานคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดที่จะนำพาองค์กรให้ก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ไปได้ ซึ่งสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พนักงานมีความสุขและทุ่มเทที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตไปข้างหน้า เรามั่นใจว่าเบนนิกซ์ จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ผ่านนวัตกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก” สุนทร กล่าว

<figure><img class="wp-image-37632 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/สาระ-ล่ำซำ-001.jpg" alt="" width="400" height="500" /><figcaption> สาระ ล่ำซำ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และกรรมการ บริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด</figcaption></figure>

ขณะที่ สาระ ล่ำซำ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และกรรมการ บริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด แสดงความมั่นใจในโอกาสและศักยภาพการเติบโตของธุรกิจด้านสุขภาพและประกันภัยในประเทศ ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์คุณค่าที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นบริการ digital-first เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้บริการและทำให้องค์กรเห็นถึงประโยชน์จากการลงทุนด้านสวัสดิการพนักงานได้อย่างชัดเจน ทั้งยังสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานเพิ่มมากขึ้น

“สิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้บริษัทประกันภัยและสถาบันการเงินสามารถพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมให้นายจ้างและพนักงานดูแลสุขภาพและปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้นผ่าน Incentive ต่างๆ นอกจากนี้ เบนนิกซ์ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน และนำเสนอโซลูชั่นให้แก่องค์กร ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย” สาระกล่าวถึงประโยชน์โดยรวมที่จะเกิดขึ้น

<img class="alignnone size-full wp-image-37630" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Benix11-01.jpg" alt="" width="600" height="400" />

ด้าน โรซาลีน เชา คู ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีเอ็กซ์เอ กรุ๊ป ผู้บุกเบิกและผู้นำในด้านอินชัวร์เทคของเอเชีย ประกาศความพร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มการบริหารจัดการสวัสดิการพนักงานร่วมมือกับพันธมิตรประเทศไทยเพื่อต่อยอดแพลตฟอร์มและนำเสนอบริการนวัตกรรมที่ครอบคลุมด้านการดูแลสุขภาพทั้งหมด ตั้งแต่การประกันภัย โทรเวชกรรม หรือ Telemedicine ระบบ e-pharmacy การให้คำปรึกษาโดยสถานพยาบาล ทันตกรรม การตรวจสุขภาพ ไปจนถึงบริการทางด้าน Wellness เช่น คลาสฟิตเนส และร้านอาหารเพื่อสุขภาพ

"นอกจากนั้น ยังสามารถนำข้อมูลขององค์กรด้านการดูแลสุขภาพและการรักษาโรค มาวิเคราะห์ต้นทุนและการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น เพราะเราต้องการให้พนักงานพึงพอใจกับสวัสดิการที่ได้รับจากองค์กร เรามั่นใจว่า ผู้ใช้บริการในไทยจะให้การตอบรับกับเบนนิกซ์เป็นอย่างดี” โรซาลีน ย้ำความมั่นใจในความร่วมมือสร้างความแตกต่างและการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต

&nbsp;

“Benix" โบรกเกอร์ยุคดิจิทัลแห่งแรกในไทย

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยนายชานนท์ เรืองกฤตยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และพันธมิตรที่มาจากหลากหลายวงการ สนับสนุนการจัดงาน “SingularityU Thailand Summit 2018” เป็นงานสัมมนาที่จะนำความรู้ด้านนวัตกรรมเข้าสู่ประเทศไทยผ่าน Singularity University (SU) ศูนย์รวมกลุ่มนักคิดและผู้นำด้านนวัตกรรมจาก Silicon Valley ที่มุ่งให้ความสำคัญในการรับมือกับความท้าทายระดับโลกต่างๆ ผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในด้านการสร้างนวัตกรรมและเชื่อมต่อไปสู่การสร้าง Ecosystem    ที่ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ งานดังกล่าว จัดขึ้นณ อาคาร 2  FYI Center  (แยกคลองเตย)

&nbsp;

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และพันธมิตร จัดงาน 'SingularityU Thailand Summit 2018' เตรียมรับมือโลกอนาคต

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จับมือกับดีแทค แอคเซอเลอเรท โดย แอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดิจิทัล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)  และ สมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายดีแทค แอคเซอเลอเรท  จัด  “โครงการ dtac  accelerate batch 5”  พร้อมสนับสนุนประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม ทุนประกันรวม 10 ล้านบาท และสนับสนุนการเข้าร่วม Tech Event ระดับโลก เพื่อร่วมพัฒนาและผลักดันสตาร์ทอัพประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนและสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก งานจัดขึ้น ณ ดีแทคเฮ้าส์  อาคารจัตุรัสจามจุรี (จามจุรีสแควร์)

<img style="width: 680px; height: 454px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/5670595df07537b76f193dde07499899.png" alt="" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events