<h2>ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย ปักหมุดแบรนด์ 'Somerset' ย่านสุขุมวิท 71 มั่นใจทำเลที่พักตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ คาดครึ่งหลังปี 68 ยอดจองห้องพักแน่นไม่ต่ำกว่า 80% </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คณิต แสงมุกดา&nbsp;ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและลาว&nbsp;ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย เผยถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมเดิมในย่านสุขุมวิท 71 เพื่อทำการปรับปรุงรูปโฉมใหม่ให้กลายมาเป็น 'Somerset Sukhumvit 71' แบรนด์โรงแรมที่พักในระดับสากลภายใต้การดูแลของบริษัท ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย ทั้งนี้จากความร่วมมือดังกล่าว เป็นผลมาจากการมองเห็นศักยภาพของทำเลที่ตั้งในย่านนี้ที่มีความโดดเด่น เพราะอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนและยังใกล้กับถนนเส้นสุขุมวิทที่มีรถไฟฟ้า BTS และถนนเพชรบุรี, อยู่ไม่ไกลจากสถานี Airport Link ที่เชื่อมต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายและรวดเร็ว และยังใกล้กับสนามกีฬาหรือสถานที่จัดงานคอนเสิร์ตต่างๆ จึงเหมาะเป็นตัวเลือกด้านที่พักสำหรับเหล่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากลด้วยราคาที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งแล้ว จุดเด่นสำคัญที่ทำให้โรงแรม&nbsp;'Somerset สุขุมวิท 71' แตกต่างจากที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ก็คือ จากเดิมธุรกิจของเราเติบโตมาจากการให้บริการ Service Apartment สำหรับการเข้าพักระยะยาว หลังจากนั้นเราจึงขยายมาเป็นรูปแบบ hybrid ด้วยการให้บริการที่พักสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่เหมาะสมในแต่ละสาขา เรามีห้องพักให้เลือกหลากหลายสไตล์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า เริ่มตั้งแต่ Deluxe ต่อเนื่องไปจนถึง 1 หรือ 2-Bedroom พร้อมห้องครัว&nbsp;จึงเหมาะสำหรับลูกค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางคนเดียว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือแม้กระทั่งการมาพักแบบครอบครัวที่สามารถเลือกเข้าพักได้ทั้งในแบบระยะสั้นและระยะยาว" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/armPVtdYQ6UW4m2fu4cR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="armPVtdYQ6UW4m2fu4cR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; บรรยากาศอันสวยงาม ผ่อนคลาย จากการเลือกใช้โทนสีขาวละมุน ตัดกับสีเขียวและน้ำตาล รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ทำจากไม้ ถือเป็นตัวสะท้อนคอนเซ็ปต์ให้กลุ่มลูกค้าผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และสุขภาพ (Wellness) ซึ่งถือเป็นเทรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกต่างตระหนักถึงและให้ความสำคัญ ทางโรงแรมเองจึงได้เลือกใช้คียการ์ดที่ทำจากไม้ไผ่,&nbsp;ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบบเติมเพื่อลดการใช้พลาสติก,&nbsp;เครื่องใช้ในห้องน้ำจากวัสดุธรรมชาติทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น แปรงสีฟัน หวี และมีดโกน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเลือกใช้ไฟ&nbsp;LED เพื่อประหยัดพลังงานในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น&nbsp; &nbsp; ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโรงแรมแห่งนี้ ก็ยังมีสระว่ายน้ำ ร้านอาหาร และ Rooftop Bar บาร์บนดาดฟ้าที่สามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสวยงามของกรุงเทพทั้งกลางวันและยามค่ำคืน เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการปาร์ตี้สังสรรค์ได้เป็นอย่างดี ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/qzDXrfL7Xg4bV4Y5nFVy.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="qzDXrfL7Xg4bV4Y5nFVy.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/3d6NrMgAZ2Cc8umEjJ6z.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="3d6NrMgAZ2Cc8umEjJ6z.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/XxPhMZgdR5Uff7PvuWaN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="XxPhMZgdR5Uff7PvuWaN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและลาว&nbsp;ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย ยังบอกเล่าเพิ่มเติมด้วยว่า&nbsp; "หลังการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการนับตั้งแต่ 10 ธันวาคมปลายปีก่อนก็ได้กระแสตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี โดยลูกค้าของเราจะเน้นในกลุ่มนักธุรกิจเป็นหลัก รวมถึงเหล่านักเดินทางท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มที่เรียกว่า Bleisure ซึ่งหมายถึงกลุ่มนักเดินทางที่เน้นการทำงาน, ติดต่อธุรกิจ ควบคู่ไปกับทริปการเดินทางท่องเที่ยวไปในตัว ซึ่งหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในครั้งนี้ เรามั่นใจว่าผลตอบรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 จะมียอดนักท่องเที่ยวจองห้องพักมากขึ้นเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 80% จากจำนวนห้องพักทั้งหมดที่มีอยู่ 141 ห้องได้อย่างแน่นอน"&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน มีแบรนด์โรงแรมที่พักทั้งหมดที่อยู่ภายในการบริหารของบริษัท&nbsp;ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย จำนวน 28 แห่ง, จำแนกออกเป็นโรงแรมทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 23 แห่ง ซึ่งในส่วนของแบรนด์ Somerset นี้ มีจำนวนทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่สาขา เอกมัย, ทองหล่อ. อโศก, พระราม 9 (รัชดา), สวนพลู, สุขุมวิท 71, ศรีราชา, พัทยา, และที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/BkPDJbFvowWXMtTnF4oX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BkPDJbFvowWXMtTnF4oX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/aHPzLX6yoSSLrZeTC6vu.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="aHPzLX6yoSSLrZeTC6vu.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div> ภาพ : Somerset Sukhumvit 71&nbsp; เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/travel/benefits-of-the-white-lotus-koh-samui-accommodation-searches-increase-by-12-percent" alt="อานิสงส์ The White Lotus ซีซั่น 3 อโกด้าเผย ‘เกาะสมุย’ สุดฮอต ยอดค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น 12%">อานิสงส์ The White Lotus ซีซั่น 3 อโกด้าเผย ‘เกาะสมุย’ สุดฮอต ยอดค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น 12%</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

แอสคอทท์ ปักหมุด 'Somerset สุขุมวิท 71' มั่นใจทำเลตอบโจทย์นักท่องเที่ยว คาดครึ่งหลังปี 68 ยอดจองห้องพัก 80%

<h2>‘แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ (Marriott Executive Apartments)’ ประกาศขยายธุรกิจในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ใหม่ล่าสุด 2 แห่งในกรุงเทพฯ ปักหมุดสุขุมวิท 101 และสุขุมวิท 50 รองรับเทรนด์การเข้าพักระยะยาว ชูแนวคิดใหม่ของที่พักระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาสำหรับนักเดินทางที่มองหาความแตกต่าง รวมถึงผู้บริหารองค์กร กลุ่มผู้ร่วมประชุม นักท่องเที่ยวพร้อมครอบครัว และ Digital Nomads ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เดนิส ริชเชอร์ (Denis Richter) กลุ่มผู้จัดการทั่วไป ของ แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 101 และแมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 50 เปิดเผยว่า ขณะนี้ “แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 101 และ แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 50 สองโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในเครือ แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ ได้เปิดประตูต้อนรับผู้เข้าพักอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งนักเดินทางต่างชาติ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กลุ่มเป้าหมายหลักของทั้งสองโครงการใหม่ ประกอบไปด้วยชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย นักเดินทางเพื่อธุรกิจระยะยาว ครอบครัว และ Digital Nomads ซึ่งกลุ่มนี้ต้องการมากกว่าการเข้าพักในโรงแรมทั่วไป พวกเขาต้องการสถานที่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน มีความยืดหยุ่นและพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขา​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/MFVzdjGtfaMpqV2uyNpD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="MFVzdjGtfaMpqV2uyNpD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"><figcaption><div>เดนิส ริชเชอร์</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ทั้งสองแห่งมีจุดเด่นที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ ด้วยการนำเสนออพาร์ทเมนท์พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีห้องครัว พื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง และบริการระดับโรงแรม 5 ดาว เช่น บริการทำความสะอาด และพนักงานต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ สำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจ โครงการทั้งสองแห่งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ ห้องประชุม และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สำหรับกลุ่มครอบครัว มีพื้นที่ส่วนกลางกว้างขวาง สระว่ายน้ำ ห้องสำหรับครอบครัว และสามารถเดินทางไปโรงเรียนนานาชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวได้อย่างสะดวก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เดนิสกล่าวว่า “ปัจจุบันนักเดินทางและคนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของการพัฒนา แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ เราเน้นการสร้างทางเลือกที่พักที่แตกต่างจากคอนโดมิเนียมหรือโรงแรม ซึ่งแมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 101 และ แมริออท เอ็คเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 50 พร้อมที่จะมอบนิยามใหม่ของการเข้าพักระยะยาว และมอบประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใครในใจกลางเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาของประเทศไทย ด้วยที่พักที่ยอดเยี่ยม ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก และตั้งอยู่บนทำเลที่ดี เราเชื่อมั่นว่า จะดึงดูดนักเดินทางกลุ่มเป้าหมายและตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกที่พักระยะยาวที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน”​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/pUfTowd4rj91oRfBSNSB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="pUfTowd4rj91oRfBSNSB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"><figcaption><div>แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 101</div></figcaption></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/AHkU1LmqihQD4VirPXpB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AHkU1LmqihQD4VirPXpB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"><figcaption><div>แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 101</div></figcaption></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขุมวิท 101&nbsp;ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทางใต้ของสุขุมวิท ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ไบเทค, True Digital Park และเมกาบางนา นอกจากนี้ ยังใช้เวลาเพียง 40 นาทีจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปุณณวิถีเพียง 300 เมตร 7 สถานีจากอโศก และ 5 สถานีจากทองหล่อ ประกอบด้วยห้องพัก 140 ห้อง ตั้งแต่สตูดิโอขนาด 35-39 ตารางเมตร ห้องสวีทหนึ่งห้องนอนขนาด 45-55 ตารางเมตร ไปจนถึงอพาร์ทเมนท์สองห้องนอนขนาด 74-101 ตารางเมตร&nbsp; &nbsp; ห้องพักทุกห้องกว้างขวางและสะดวกสบาย แบ่งสัดส่วนเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ทำงาน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก ได้แก่ Wi-Fi, ทีวีจอแบนขนาด 55 นิ้ว, เครื่องซักผ้า และหลายห้องมีระเบียงส่วนตัวพร้อมวิวเมืองที่ไม่เหมือนใคร บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขมวิท 50 ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุชเพียง 800 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น บริษัท สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม และแหล่งบันเทิงได้อย่างสะดวก ให้บริการห้องพักที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างพิถีพิถัน มีตั้งแต่สตูดิโอไปจนถึงห้องสวีทแบบ 3 ห้องนอน รวม 72 ห้อง มอบความสะดวกสบายเสมือนบ้านหลังที่สอง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอย่างไร้ที่ติ ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายในพื้นที่นั่งเล่นที่แยกเป็นสัดส่วน พื้นที่เตรียมอาหารในห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน และเพลิดเพลินไปกับการเข้าพักระยะยาวอย่างอิสระ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/EYoBf82kKLzC4U68sKUo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EYoBf82kKLzC4U68sKUo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="3"><figcaption><div>แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขมวิท 50</div></figcaption></figure></div>​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/VK5Pnprzk5vUQdFah7UK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="VK5Pnprzk5vUQdFah7UK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="4"><figcaption><div>แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ แบงคอก สุขมวิท 50</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้ง 2 โครงการยังยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เข้าพัก ด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ฟิตเนสเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง บริการอาหารอันเลิศรสตลอดทั้งวันที่ห้องอาหาร บิสโทร เอ็ม (Bistro M) รวมถึงห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เหมาะสำหรับการประชุมและกิจกรรมขนาดเล็กได้อย่างลงตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกเหนือจากแมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์สองแห่งที่เพิ่งเปิดใหม่แล้ว นักเดินทางยังสามารถสัมผัสบรรยากาศบ้านหลังที่สองได้ที่อีก 4 ทำเลสำคัญในกรุงเทพฯ ได้แก่ แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ สาทร วิสต้า (Marriott Executive Apartments, Sathorn Vista), แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ สุขุมวิท ปาร์ค (Marriott Executive Apartments, Sukhumvit Park), แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ สุขุวิท ทองหล่อ (Marriott Executive Apartments Bangkok, Sukhumvit Thonglor) และแมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ กรุงเทพ ทาวน์ฮอล์ สุขุมวิท (Marriott Executive Apartments, Bangkok Townhall Sukhumvit) เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/travel/centara-life-adjusts-flexible-time-for-customers-check-in-out-24-hours" alt="'เซ็นทารา' ออกกฎใหม่สู้ศึกโรงแรม ลูกค้า 'เซ็นทารา ไลฟ์' เช็กอิน-เช็กเอาท์ได้ 24 ชม.">'เซ็นทารา' ออกกฎใหม่สู้ศึกโรงแรม ลูกค้า 'เซ็นทารา ไลฟ์' เช็กอิน-เช็กเอาท์ได้ 24 ชม.</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘แมริออท’ ขยายธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เปิด 2 โครงการใหม่รับเทรนด์เข้าพักระยะยาว ปักหมุดสุขุมวิท 101 และสุขุมวิท 50

<div>
<h2 class="ace-copy-paste-skip-this-tag">วี พร็อพเพอร์ตี้ น้องใหม่ตลาดอสังหาฯ พัฒนาคอนโดมิเนียมแห่งที่ 4 ‘เวอร์เทียร์’ ใกล้บีทีเอสพระโขนง ขยับหนีทำเลที่ดินแพงย่านทองหล่อ-พร้อมพงษ์ วางวิสัยทัศน์เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ เจาะกลุ่มนักลงทุนย่านสุขุมวิท ระดมทุนในตลาด mai ปี 2562</h2>
</div>
พรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดพรีเซลคอนโดมิเนียม เวอร์เทียร์ ทำเลริมถนนสุขุมวิท ระยะ 50 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ในวันที่ 3-4 พ.ย.นี้

โดยโครงการเวอร์เทียร์ เป็นคอนโดฯ บนที่ดิน 1 ไร่ อาคารสูง 31 ชั้น และที่จอดรถชั้นใต้ดิน 6 ชั้น จำนวนห้องชุด 227 ยูนิต ห้องชุดแบบ 1-3 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 28-86 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาทต่อยูนิต หรือเฉลี่ยทั้งโครงการ 2 แสนกว่าบาทต่อตร.ม.

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/fd40046903e0b5b9b14c7e9600c35d33.jpg" alt="" width="638" height="500" /><figcaption> โครงการเวอร์เทียร์ คอนโดฯ high rise ย่านพระโขนง</figcaption></figure>

“ที่ผ่านมาบริษัทเลือกดูที่ดินย่านทองหล่อ-พร้อมพงษ์ แต่ตอนนี้ที่ดินย่านทองหล่อจนถึงพร้อมพงษ์มีราคาสูงมากถึง 2 ล้านบาทต่อตร.ว. ทำให้การพัฒนาโครงการต้องขายในราคา 3 แสนบาทต่อตร.ม. ซึ่งมองว่าแพงเกินไป แต่แปลงนี้บริษัทได้มาในราคาต่ำกว่า ทำให้พัฒนาโครงการในราคา 2 แสนกว่าบาทต่อตร.ม.ได้ และเชื่อว่าย่านพระโขนงมีความพร้อม จากการที่มีคอมมูนิตี้ มอลล์ใหม่ๆ เข้ามา เช่น Summer Hills”

พรชัยให้ความเห็นว่า ที่ดินและโครงการที่ราคาสูงขึ้นในย่านทองหล่อ-พร้อมพงษ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนปล่อยเช่าได้รับผลตอบแทนการเช่า (rental yield) ต่ำลงอยู่ที่ราว 4% เพราะราคาค่าเช่ายังอยู่ที่ราว 1,000 บาท/ตร.ม./เดือน 

ขณะที่ย่านเอกมัย-พระโขนง เนื่องจากราคาห้องชุดยังไม่สูง จึงยังได้รับผลตอบแทนการเช่าที่ 6-7% อยู่ แม้ว่าราคาค่าเช่าจะต่ำกว่าย่านทองหล่อ-พร้อมพงษ์ที่ประมาณ 800 บาท/ตร.ม./เดือน

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c6928b2d5f37d8d50839fb57089b9fd6.jpg" alt="" width="638" height="336" /><figcaption> ภาพตัวอย่างโครงการเวอร์เทียร์</figcaption></figure>

ซีอีโอวี พร็อพเพอร์ตี้กล่าวต่อว่า บริษัทวางกลยุทธ์พัฒนาคอนโดฯ กลุ่มราคาประมาณ 1 แสนบาทต่อตร.ม.ขึ้นไป และเน้นกลุ่มนักลงทุนปล่อยเช่า โดยที่ผ่านมามีผู้ซื้อที่เป็นนักลงทุนประมาณ 60% ของโครงการ

ดังนั้นในระยะ 5 ปีจากนี้ บริษัทจะยังเน้นการลงทุนบริเวณสุขุมวิทตั้งแต่สถานีพร้อมพงษ์ถึงอ่อนนุชเป็นหลัก เพราะเป็นย่านที่มีตลาดผู้เช่าโดยเฉพาะผู้เช่าชาวญี่ปุ่น และเชื่อว่ายังคงมองหาที่ดินที่เหมาะสมได้

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/91d5b943d5b49d63b1ebcbb237a83d46.jpg" alt="" width="638" height="503" /><figcaption> พรชัย เลิศอนันต์โชค ซีอีโอ วี พร็อพเพอร์ตี้</figcaption></figure>

สำหรับแผนพัฒนาโครงการ ปี 2561 บริษัทมีการเปิดตัวรวม 2 โครงการมูลค่ารวม 3,880 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดฯ ไอคอน สุขุมวิท 77 มูลค่า 1,380 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 80% และคอนโดฯ เวอร์เทียร์ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้มียอดขายรวม 1,800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 2,300 ล้านบาท จากโครงการ วีธารา สุขุมวิท 36 ที่กำลังอยู่ระหว่างโอนกรรมสิทธิ์

ส่วนปี 2562 บริษัทมีที่ดินพร้อมขึ้นโครงการ 3 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ ย่านสุขุมวิท 2 โครงการ และโครงการแนวราบเป็นบ้านเดี่ยว 4 ชั้นระดับไฮเอนด์ย่านอ่อนนุช 20 ยูนิต ราคา 25-35 ล้านบาทต่อหลัง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาโรงแรมระดับ 4 ดาวเป็นรายได้ค่าเช่าอีกทางหนึ่ง

วี พร็อพเพอร์ตี้ยังอยู่ระหว่างเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปีหน้า โดยมี บล.เออีซี (AECS) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เนื่องจากต้องการระดมเม็ดเงินราว 2,000 ล้านบาทเป็นทุนในการซื้อที่ดินพัฒนาโครงการ

&nbsp;

Forbes Facts
<ul class="listtype-bullet listindent1 list-bullet1">
 	<li>วี พร็อพเพอร์ตี้เป็นบริษัทที่ผันตัวจากการค้าอัญมณีโดยก่อตั้งเมื่อปี 2552 อย่างไรก็ตาม พรชัยกล่าวว่าปัจจุบันตนได้เลิกทำกิจการอัญมณีแล้วเนื่องจากเห็นโอกาสกำไรที่มากกว่าในธุรกิจพัฒนาจัดสรร</li>
 	<li>โครงการที่ผ่านมาของวี พร็อพเพอร์ตี้ ได้แก่ เอช สุขุมวิท 43, วีธารา สุขุมวิท 36, ไอคอน สุขุมวิท 77 และเวอร์เทียร์เป็นโครงการล่าสุด</li>
</ul>

วี พร็อพเพอร์ตี้เจาะนักลงทุนย่านสุขุมวิท ชี้ที่ดินทองหล่อ-พร้อมพงษ์ต้นทุนสูง ผลตอบแทนการเช่าต่ำลง

<h2>ไซมิส แอสเสท เตรียมเปิดตัว 3 คอนโดมิเนียมและ Mix-used มูลค่ารวม 1.47 หมื่นล้านบาท วางเป้ายอดขายปี 2561 ไม่ต่ำกว่า 7 พันล้าน เตรียมตัวจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีหน้า</h2>
ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2561 บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 แห่งรวมมูลค่าประมาณ 1.47 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะ คอลเลคชั่น สุขุมวิท 16 มูลค่าโครงการ 4.7 พันล้านบาท, คอนโดมิเนียม-ออฟฟิศบิลดิ้งใกล้สถานี MRT รัชดาภิเษก มูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม-ออฟฟิศบิลดิ้งติดถนนพระราม 9 มูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท

โดยโครงการแรก เดอะ คอลเลคชั่น สุขุมวิท 16 เป็นการแตกแบรนด์ใหม่ของบริษัทเนื่องจากเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี แปลงที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ ทำเลในซอยสุขุมวิท 16 ห่างจากสถานี BTS อโศกประมาณ 500-600 เมตร ฝั่งตรงข้ามสวนเบญจกิตติ พัฒนาเป็น 2 อาคาร โดยมีอาคารหลักสูง 41 ชั้น ห้องชุดจำนวน 443 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 33-135 ตร.ม. ส่วนอาคารรองจะเป็นตึกเตี้ยซึ่งยังไม่เปิดเผยรายละเอียดฟังก์ชันการใช้งาน

ขจรศิษฐ์กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งมั่นให้เป็นคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์จึงมีการใช้วัสดุและอุปกรณ์จากต่างประเทศ เช่น ชุดครัว Snaidero จากอิตาลี, เครื่องครัว Kuppersbusch จากเยอรมัน, สุขภัณฑ์จาก Hansgrohe ที่มีการสั่งทำสีพิเศษโรสโกลด์มาใช้ในโครงการ

<figure><img style="width: 638px; height: 638px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c44741526e72867daa64ec16e7d1f20d.jpg" alt="" width="638" height="638" /><figcaption> โมเดลจำลอง โครงการเดอะ คอลเลคชัน สุขุมวิท 16</figcaption></figure>

นอกจากนี้ ในแง่การบริการยังแก้ปัญหาการพักอาศัยของลูกค้าซื้ออยู่เองกับลูกค้านักลงทุนปล่อยเช่า เพราะเดอะ คอลเลคชั่นจะมีการแยกส่วนกลางบางส่วน เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ออกเป็นส่วนของพื้นที่ low zone (ชั้นต่ำกว่าชั้น 20) กับ high zone (ชั้น 20 ขึ้นไป) โดยเน้นให้นักลงทุนปล่อยเช่าลงทุนในชั้น 20 ขึ้นไปเนื่องจากไซมิส แอสเสทจะเสริมบริการกึ่งโรงแรม เช่น รับซักรีด ทำความสะอาดห้อง รูมเซอร์วิส ให้กับพื้นที่ high zone

เดอะ คอลเลคชั่นวางราคาเฉลี่ย 2.4 แสนบาทต่อตร.ม. และเริ่มต้น 6.2 ล้านบาทต่อยูนิต พร้อมการันตีรายได้จากการเช่า (rental yield) 5% 2 ปี โดยมีลูกค้าวางเงินจำนงจองซื้อมาแล้วประมาณ 100 ยูนิต และจะเปิดขายจริงวันที่ 24 พ.ย.นี้ โดยเอ็มดีไซมิสคาดหวังจะทำยอดขายได้ 60-70% ตั้งแต่วันเปิดตัว

<figure><img style="width: 638px; height: 438px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/3221b11574b5d04cfe617a342f296974.jpg" alt="" width="638" height="438" /><figcaption> ภาพจำลอง facade ของเดอะ คอลเลคชัน สุขุมวิท 16 แยกเป็นห้องชุดยูนิตมีระเบียงกับไม่มีระเบียง</figcaption></figure>

สำหรับอีก 2 โครงการเตรียมเปิดตัว ได้แก่ แปลงที่ดิน 2 ไร่ 90 เมตรจากสถานี MRT รัชดาภิเษก มูลค่าโครงการ 4-5 พันล้านบาท วางแผนออกแบบเป็น 3 อาคารผสมผสานตึกเตี้ยและตึกสูง มีทั้งคอนโดมิเนียมเสริมด้วยออฟฟิศบิลดิ้งและส่วนร้านอาหาร คาดว่าจะใช้แบรนด์ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีฟซึ่งราคาอยู่ในช่วง 1.5-2 แสนบาทต่อตร.ม.

อีกแปลงหนี่งเป็น ที่ดินเนื้อที่ 13 ไร่ บนถนนพระราม 9 ระยะห่าง 500 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า รฟม. (รถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี) มูลค่าโครงการราว 8 พันล้านบาท ออกแบบเป็นโครงการ Mix-used คอนโดฯ-ออฟฟิศ-รีเทล เช่นกัน คาดว่าคอนโดฯ นี้จะเป็นแบรนด์ไซมิสซึ่งราคาอยู่ในช่วง 1 แสนกว่าบาทต่อตร.ม.

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4fe6e91ae3f6dccb145cd53048f84a5c.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด</figcaption></figure>

ขจรศิษฐ์กล่าวว่า ปี 2561 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 7 พันล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ราว 4 พันล้านบาทจากคอนโดฯ ที่โอนในปีนี้ เช่น บลอสซัม คอนโด แอท สาทร-เจริญราษฎร์ มูลค่า 2 พันล้านบาท, ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีฟ สุขุมวิท 31, บลอสซัม คอนโด แอท แฟชั่น บียอนด์ (เฟส 2) หากเป็นไปตามเป้า จะเป็นการเติบโตของบริษัทเนื่องจากปี 2560 ไซมิสทำยอดขายได้ 5 พันล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 1.6 พันล้านบาท

ทั้งนี้ แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยได้เอเซีย พลัสเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและจะเข้าไฟลิ่งภายในปี 2562

Forbes Facts
<ul>
 	<li>ก่อนหน้านี้ไซมิส แอสเสทมี<a href="http://www.forbesthailand.com/news-detail.php?did=2029http://www.forbesthailand.com/news-detail.php?did=2029">แผนร่วมทุนกับธนาคาร Standard Chartered Singapore เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานบริเวณถนนรามอินทรา</a> แต่ขจรศิษฐ์กล่าวว่าแผนดังกล่าวถูกชะลอออกไปก่อนเนื่องจากบริษัทเองยังไม่พร้อมลงทุน แต่การเจรจาร่วมทุนกับนักลงทุนรายเดิมยังคงอยู่</li>
 	<li>ไซมิสยังมีการร่วมทุนกับบริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัดในโครงการบ้านเดี่ยวต้านแผ่นดินไหว ไซมิส คิน รามอินทรา 64 ซึ่งเอ็มดีไซมิสยอมรับว่ายอดขายที่เข้ามาค่อนข้างช้ากว่าที่คาดแต่ยังมีดีมานด์เข้ามาต่อเนื่อง</li>
</ul>

ไซมิส แอสเสทเปิด 3 โครงการคอนโดฯ – Mix-used โค้งท้ายปี วางเป้ายอดขาย 7 พันล้าน

<h2>หัวใจสำคัญของการออกแบบโครงการโนเบิล นอกจากการเลือกทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมือง อย่างโครงการ NOBLE BE19 ที่ใกล้ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท และโครงการ NOBLE BE33 ที่ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ซึ่งจะทำให้ผู้อาศัยได้รับความสะดวกสบายแบบชีวิตใจกลางเมืองที่แท้จริง</h2>
ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความสงบของที่อยู่อาศัยได้อย่างยอดเยี่ยม ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ในแง่ของการใช้งานก็เป็นอีกอย่างที่โดดเด่นซึ่งโนเบิลเองก็ให้ความสำคัญมากเช่นกัน การปะติดปะต่อฟังก์ชันของสิ่งหนึ่งให้เชื่อมไปสู่อีกสิ่งจนลงตัว จึงไม่ได้ต่างไปจากการรักษา mood and tone รวมของทุกสิ่งให้สอดคล้องกัน และนอกเหนือจากการออกแบบสถาปัตยกรรมที่พิถีพิถันแล้ว ยังคำนึงถึงการคัดสรรวัสดุและอุปกรณ์ โดยล่าสุดได้มีการอัพเกรด เพื่อให้การใช้ชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นของวันจนสิ้นสุดวันในโครงการ NOBLE BE19 และ NOBLE BE33 นั้นสมบูรณ์แบบมากที่สุด

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/a03ae625c7f99ede6a70fd6fcf0f1f9e.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> โครงการ NOBLE BE19</figcaption></figure>

<img style="width: 680px; height: 446px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/37a7bae7f3a01fc32ec15beaca9ec0b2.png" alt="" />

เริ่มจากโครงการ NOBLE BE19 ที่เน้นไปที่แบรนด์เยอรมัน โดยเริ่มจากแบรนด์เก่าแก่กว่า 200 ปีของการทำเซรามิคอย่าง Duravit สู่การทำสุขภัณฑ์คุณภาพ รุ่นที่ใช้ในโครงการออกแบบโดย Matteo Thun ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Beauty of Reduction” การออกแบบที่บางเฉียบที่สุด และลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็น จนเกิดเป็น unusual elegant อีกทั้งยังประหยัดกว่าในทุกการใช้งาน โดยใช้น้ำเพียงแค่ 3/4 ลิตรต่อการกดหนึ่งครั้ง คงคอนเซ็ปต์เส้นสายที่เรียบง่ายแต่ไม่เหมือนใครของสุขภัณฑ์เซรามิคภายใต้แบรนด์ Duravit ทั้งหมด

<img style="width: 680px; height: 461px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/35fd28ea11319c9bdb6bf6d29c72ca73.png" alt="" />

อีกแบรนด์หนึ่งที่ใช้ในการออกแบบภายในในครั้งนี้คือ hansgrohe ที่โดดเด่นในเรื่องของการผลิตสุขภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าเป็น Shower craftsmanship โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมสุขภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ สำหรับ NOBLE BE19 นั้นให้ฝักบัว Raindance ที่มีการปล่อยน้ำ 3 ระดับคือ Rain Air เป็นสายน้ำที่ผสมกับฟองอากาศ, Rain และ Whirl เป็นสายน้ำที่ช่วยในการนวดเพื่อผ่อนคลาย เพื่อสุนทรีย์ในการอาบน้ำ รวมถึง Quick clean technology ของหัวก๊อกของ hansgrohe ที่สามารถกันการเกาะของตะกรันและคราบน้ำเมื่อใช้ในระยะยาว และ shape ของฝักบัว และก๊อกน้ำ ที่น้อยแต่โดดเด่น อิงไปกับคอนเซ็ปต์ของ unusual elegant

<img style="width: 350px; height: 514px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/95882be653ed1931646ae6b91907e3eb.png" alt="" />

อีกแบรนด์เยอรมันสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวนั้น ทางโครงการได้คัดสรรจาก Küppersbusch และ TEKA ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งฟอร์มและฟังก์ชั่น เป็นการลุนทุนในคุณภาพระยะยาว และมีการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม รวมถึงมีการใส่ระบบ home automation ที่จะให้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุกบริบทของชีวิต

<img style="width: 350px; height: 525px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b5a3e3e9f423e507161f89482c91a091.png" alt="" />

&nbsp;

&nbsp;

<figure><img style="width: 680px; height: 622px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/2ae209a86989d68f2492aeb6f43e7b86.png" alt="" width="680" height="622" /><figcaption> โครงการ NOBLE BE33</figcaption></figure>

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4d1dd508160b64456cd77a2d192a4205.png" alt="" />

สำหรับโครงการ NOBLE BE33 เป็นการออกแบบที่คงจุดเด่นจากภายนอกสู่ภายใน ด้วยชุดตู้เสื้อผ้าที่ใช้ Element ของกรอบอลูมิเนียมสี Copper ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโครงการ ต่อเนื่องไปถึงการออกแบบห้องน้ำด้วยโทนสี Beige ตกแต่งด้วยลวดลายของกระเบื้องพื้นผนัง เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และอ่างอาบน้ำที่ทำโดยหินธรรมชาติ พร้อมสุขภัณฑ์จาก TOTO แบรนด์ระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี

<img style="width: 350px; height: 525px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/dfba58b743766db64280f5911f3622f0.png" alt="" />

TOTO เป็นแบรนด์ที่สามารถผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นและความเป็นสากลได้อย่างกลมกลืน เช่นการคำนึงถึงการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบครึ่งเคาน์เตอร์ (Semi Recessed Lavatory) และชุดอ่างอาบน้ำ Customize Compact Size สไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงฝารองนั่งอัตโนมัติ (Washlet) ที่มาควบคู่กับห้องชุดทุกห้อง เพื่อตอบโจทย์ความเป็นย่าน Japanese ของพร้อมพงษ์

<img style="width: 680px; height: 454px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/3f17e6483375c11e464cf60279911d5e.png" alt="" />

สำหรับชุดครัวของโครงการนั้น ออกแบบให้เป็นสไตล์ luxury สีขาว ปิดผิวด้วย PVC Membrane ซึ่งผิวมีความเรียบ ไร้รอยต่อ ท็อปครัวกรุด้วยวัสดุหินควอชซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวภายใต้แบรนด์ Smeg จากอิตาลี ที่มี Technology with Style เป็นกุญแจหลักในการคิดค้นและออกแบบ โดยมีสตูดิโอเพื่อศึกษาวิจัยการออกแบบเป็นของตัวเอง ภายใต้การสนับสนุนโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ce2906352a5b72cbe083b6ab5ab28eb6.png" alt="" />

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/229d8f17b83933c21bda17a6590b81bb.png" alt="" />

สำหรับโครงการ Noble BE33 นั้นจัดให้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างครบครันภายใต้แบรนด์ Smeg โดยจุดเด่นนั้นมีการใช้ตู้เย็น และเตาอบไมโครเวฟแบบ Built-in รวมถึงเตาไฟฟ้า เตาดูดควัน การออกแบบทั้งหมดได้คำนึงถึงการใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะใน Unit ขนาดกี่ตารางเมตรก็จะมีฟังก์ชั่นครบครันเท่ากัน

ทั้งหมดนี้เพื่อให้ดีไซน์สามารถตอบโจทย์ทุกรายละเอียดการใช้ชีวิตในโครงการของโนเบิลได้อย่างสมบูรณ์แบบและลงตัวที่สุด เชิญสัมผัสความโดดเด่นทางด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งสองโครงการ NOBLE BE19 และ NOBLE BE33 ได้ที่สำนักงานขาย NOBLE REMIX ชั้น G (BTS ทองหล่อ ทางออก 2) รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่ <a href="https://goo.gl/8Pp8dn">https://goo.gl/8Pp8dn</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events