&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เรือธงด้านการเงินการลงทุนภายใต้กลุ่ม SCBX เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายบริการด้านการเงินการลงทุนแบบครบวงจรอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดจับมือ บริษัท จิตตะ ดอทคอม จำกัด (Jitta) สตาร์ทอัพ WealthTech ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น ด้วย AI คัดหุ้น พื้นฐานดีราคาเหมาะสมตามหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investment) ร่วมเปิดตัวไอเดีย ลงทุนสุด เอ็กซ์คลูซีฟ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” ผ่านฟีเจอร์ Wealth Idea บนแอปพลิเคชัน InnovestX หวังช่วยเสริมอาวุธให้นักลงทุนหุ้นต่างประเทศของ InnovestX ซึ่งมีจำนวนลูกค้าเติบโตสูงกว่า 61% ในปี 2565 สามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสทำกำไรได้ในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พุฒิกานต์ เอารัตน์ Chief Digital Business Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด​ กล่าวว่า “ความต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก เห็นได้จากการเติบโตของฐานลูกค้าของ InnovestX ในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 61% เมื่อเทียบกับปี 2564 บริษัทจึงได้พัฒนาต่อยอดบริการ Wealth Idea ซึ่ง ได้รับความนิยมจากนักลงทุนของ InnovestX อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวไอเดียการลงทุนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับ บริษัท จิตตะ ดอทคอม จำกัด (Jitta) ภายใต้เพลย์ลิสต์ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยวิเคราะห์ และคัดสรรหุ้นสหรัฐฯ ตัวท็อป เป็นหุ้นที่มีคุณภาพเด่น มีรายได้และกำไรเติบโตดี ต่อเนื่อง ทั้งยังมี Market Cap สูง ตลอดจนมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุน มีโอกาสทำกำไรชนะดัชนีตลาดในระยะยาว เราเชื่อว่าบริการนี้จะช่วยเป็นไอเดียในการลงทุน หุ้นต่างประเทศและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพลย์ลิสต์ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” เป็นบริการที่ผสานระหว่างจุดเด่นของทั้ง InnovestX และ Jitta สองผู้ให้บริการด้านการลงทุนระดับประเทศ ผ่านฟีเจอร์ “Wealth Idea” เพลย์ลิสต์การลงทุน บนแอป InnovestX ที่คัดสรร และรวบรวมทุกไอเดียการลงทุนในทุกสินทรัพย์ จากทีมนักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน และถูกแบ่งออกเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน เข้ากับเครื่องมือ Jitta Ranking ของ Jitta ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ และคัดสรรหุ้นน่าลงทุนตามหลัก “ลงทุนในธุรกิจที่ดี ในราคาที่เหมาะสม”&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/bp1Nk9cfy5gbYYfiXqAp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="bp1Nk9cfy5gbYYfiXqAp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="2250,2250"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยคำนวณจาก Jitta Score ที่บ่งบอกถึงคุณภาพของธุรกิจ และ Jitta Line ที่แสดงมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นและผลประกอบการล่าสุด เพลย์ลิสต์ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” บนฟีเจอร์ Wealth Idea นี้จะเป็นไอเดียการลงทุน หุ้นต่างประเทศ ที่เหมาะกับทั้งนักลงทุนที่มีประสบการณ์การลงทุน และนักลงทุนหุ้นต่างประเทศมือใหม่ให้สามารถ ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุนได้ในระยะยาว โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ InnovestX มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยขยายศักยภาพและประสิทธิภาพการลงทุนให้แก่นักลงทุนสามารถต่อยอดเสริมพอร์ตลงทุนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จิตตะ ดอทคอม จำกัด กล่าวว่า “บริษัทมีความยินดีและตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ InnovestX และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมกันสร้างพื้นฐานที่ดี ให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้อย่างมีหลักการผ่านเครื่องไม้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ สามารถลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเท่าทันสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงและผันผวนรออยู่ ซึ่งในอนาคตบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพัฒนาต่อยอดความร่วมมือกันไปอีกขั้นเพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจและมีกำไรที่ยั่งยืน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับลูกค้า InnovestX และนักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ สามารถลงทุนได้ง่ายๆ ตามเพลย์ลิสต์ “คัดหุ้น สหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” ผ่านฟีเจอร์ Wealth Idea บนแอป InnovestX ได้แล้ววันนี้ที่นี่ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Direct Message Facebook InnovestX, Line OA: @InnovestX &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70364" alt="&quot;ออราเคิล&quot; เปิดตัว “X10M” แพลตฟอร์ม Oracle Exadata เจนใหม่ รองรับโหลดข้อมูลมากขึ้นในราคาเท่าเดิม">"ออราเคิล" เปิดตัว “X10M” แพลตฟอร์ม Oracle Exadata เจนใหม่ รองรับโหลดข้อมูลมากขึ้นในราคาเท่าเดิม</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

InnovestX จับมือ Jitta เปิดตัวไอเดียลงทุนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “คัดหุ้นสหรัฐฯ (US) แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking”

<h2>ทุกวันนี้ เชนร้านขายกาแฟขนาดเล็กอย่าง Dunkin Donuts กำลังได้รับความนิยมในตลาดหุ้น Wall Street ยิ่งกว่ายักษ์ใหญ่อย่าง Starbucks</h2>
ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปีจนถึงขณะนี้ ราคาหุ้นของ Dunkin Donuts เติบโต 8.13% ในขณะที่ราคาหุ้นของ Starbucks เพิ่มขึ้นเพียง 1.12% ซึ่งน่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ ของร้าน Starbucks และนักลงทุนผู้ภักดีที่มองว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่ควรถือระยะยาวใน Wall Street

<img style="width: 680px; height: 356px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4c6b3edd388e3a730304462ce8f18f6f.png" alt="" />

เรื่องราวที่กลับข้างกันในตลาดหุ้น Wall Street ของหุ้นทั้งสองจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ชั่วคราวหรืออะไรที่ต้องจับตาอย่างจริงจัง? เป็นเรื่องที่ตอบยากเหมือนกัน เพราะระยะเวลาเพียง 9 เดือนอาจยังไม่หนักแน่นพอที่จะตัดสินว่ากระแสในตลาดได้กลับข้างไปแล้วจริงๆ

แต่สิ่งที่สามารถกล่าวได้คือ Starbucks มาถึงขีดจำกัดและข้อได้เปรียบของการขยายสาขาแล้ว เพราะบริษัทมีสาขาถึง 2.7 หมื่นสาขาทั่วโลกและให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม 255 รายการ เปรียบเทียบกับ Dunkin Donuts ที่มีสาขาประมาณ 8 พันสาขาเท่านั้น และมีเมนูให้เลือกเพียง 32 รายการ

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c843e8ace658fcb9687931b6ac037d73.png" alt="" />

กล่าวโดยสรุปคือ Starbucks มีขนาดใหญ่เกินไปและหลากหลายเกินกว่าจะแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในธุรกิจร้านกาแฟ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่ Starbucks แทบจะเปิดอยู่ทุกหัวมุมถนน และนั่นสามารถอธิบายได้ว่าทำไมอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทถึงต่ำกว่าของ Dunkin Donuts อย่างมาก

ขณะเดียวกัน การแข่งขันจากคู่แข่งเกิดใหม่รอบโลก (ยกตัวอย่างเช่น Costa Café ในสหราชอาณาจักร หรือ Mikel Coffee ในยุโรปใต้และตะวันออกกลาง) กำลังท้าทายธุรกิจการเป็น “third place” หรือสถานที่ทางสังคมแห่งที่สามรองจากบ้านและที่ทำงาน/โรงเรียน หลักฐานที่เห็นเด่นชัดคือยอดขายที่เติบโตช้าลงของ Starbucks

<img style="width: 680px; height: 392px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b1de531d3c481abb9f35112b94f6ed32.png" alt="" />

ยักษ์ใหญ่อย่าง Starbucks กำลังเปลี่ยนจากบริษัทที่กำลังเติบโตสู่บริษัทที่ถึงจุดอิ่มตัวโดยมีช่องว่างให้เติบโตและทำกำไรเพิ่มได้น้อยนิด และนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่รบกวน “แรงผลักดัน” ของกลุ่มคนที่เคยไล่ซื้อหุ้นของ Starbucks ในช่วงหลายปีมานี้

กลุ่มคนเหล่านั้นจะเปลี่ยนมาไล่ซื้อหุ้นของบริษัทขนาดเล็กอย่าง Dunkin Donuts หรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป

เฉลย: ผมมีหุ้นใน DNKN

&nbsp;
แปลและเรียบเรียงจาก Tiny Dunkin Donuts Beats Mighty Starbucks โดย Panos Mourdoukoutas จากเว็บไซต์ Forbes.com

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events