<div>
<h2 class="ace-copy-paste-skip-this-tag">กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เกาะกระแส Wellness Economy และการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ดึงตัว Raymond Chong อดีตซีอีโอสมิติเวชกลับมาช่วยเปิดตลาด 'เวชศาสตร์การป้องกันและชะลอวัย' บนที่ดินหมื่นล้านที่ซื้อมาจากตระกูลโพธิรัตนังกูร</h2>
</div>
หากใครมีโอกาสผ่านไปแถวถนนวิทยุ อันเป็นที่ตั้งเดิมของโรงแรมปาร์คนายเลิศตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นไดโนเสาร์ตัวใหญ่ยืนเด่นอยู่หน้าป้ายสถานที่แห่งใหม่ “BDMS Wellness Clinic” ที่มาพร้อมกับคำขวัญ “Predict, Prevent, Personalize”

BDMS Wellness Clinic หรือ “ศูนย์ความเป็นเลิศของการมีสุขภาพดี” สร้างขึ้นบนที่ดินผืนงามริมถนนวิทยุมูลค่ากว่า 10.8 หมื่นล้านบาทที่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS ทำสัญญาซื้อจากตระกูลโพธิรัตนังกูรในปลายปี 2559 เพื่อพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BDMS เชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้คุ้มค่ากับราคาที่ดินแพงหูฉี่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อตารางวาแห่งนี้

นั่นคือการเข้าจับตลาด “เวชศาสตร์การป้องกันและชะลอวัย” (Preventive &amp; Regenerative Medicine) ที่กำลังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ตามการเติบโตของประชากรผู้สูงวัย เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์

Raymond Chong ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด เปิดเผยกับ Forbes Thailand ว่า กลุ่ม BDMS ได้เปิดแผนกเวชศาสตร์ชะลอวัยที่โรงพยาบาลกรุงเทพและรพ.สมิติเวชเมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้ว โดยการตัดสินใจทุ่มทุนสร้างศูนย์เฉพาะทางในครั้งนี้ เพราะเล็งเห็นศักยภาพของตลาดสุขภาพที่เน้นทางด้านการป้องกันก่อนที่จะเจ็บป่วย ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอัตราตัวเลขสองหลัก

“20 ปีก่อนไม่มีใครตรวจสุขภาพประจำปี วันนี้ทุกโรงพยาบาลมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 100 กว่าคนต่อวัน แม้เรื่องนี้จะยังเป็นของใหม่แต่ผมมั่นใจภายใน 5-10 ปี ทุกคนต้องทำ wellness checkup” ซีอีโอ BDMS Wellness Clinic กล่าว

<figure><img style="width: 638px; height: 452px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c7ca5e5c8a16b3e640d113da9a5bc5ce.jpg" alt="" width="638" height="452" /><figcaption> Raymond Chong ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด</figcaption></figure>

รายงานศึกษาของ Global Wellness Institute ประเมินมูลค่าตลาด wellness ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 3.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 โดยในส่วนของ “เวชศาสตร์การป้องกันและชะลอวัย” มีการเติบโตสูงถึง 23.5% ในระหว่างปี 2556-2558

Chong ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและซีอีโอ บมจ.สมิติเวช หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำในเครือข่าย BDMS ระหว่างปี 2548-2555 ได้รับคำเชิญจากนพ.ปราเสริฐให้กลับมาร่วมงานกับกลุ่ม BDMS อีกครั้ง หลังจากที่ได้ลาออกไปร่วมงานกับบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ในประเทศมาเลเซียเป็นเวลาประมาณ 5 ปี 

โดยขณะนี้เขากำลังทบทวนแผนธุรกิจและงบลงทุนของ BDMS Wellness Clinic รวมทั้งพยายามเชื้อเชิญนายแพทย์ชั้นนำจากทั่วโลกให้เข้ามาร่วมทีมแพทย์และทีมอาร์แอนด์ดี ภายใต้เป้าหมายในการสร้าง BDMS Wellness Clinic ให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศของการมีสุขภาพที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

“อุตสาหกรรม medical tourism ของประเทศไทยใหญ่ที่สุดในเอเชียอยู่แล้ว ในเอเชียมีแค่เพียงเกาหลีที่แข่งกับเราได้ แต่ถ้าเฉพาะด้าน surgery ผมคิดว่าเราใหญ่สุดด้วยจำนวนคนไข้ 4 ล้านคนต่อปี” Chong กล่าว

<img style="width: 638px; height: 638px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/74f01c559be1948f4fe905cf2b82b81f.jpg" alt="" />

BDMS Wellness Clinic กำหนดแพ็กเกจการให้บริการการตรวจสุขภาพเชิงลึกหรือ “wellness checkup” ในอัตราตั้งแต่ 70,000-80,000 บาทขึ้นไป โดยจะเป็นการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ที่ครอบคลุมไปถึงการตรวจฮอร์โมน สารอาหาร และการตรวจลึกลงไปถึงระดับพันธุกรรม และการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะให้เวลาแก่ผู้รับบริการถึง 1 ชั่วโมงเต็ม แตกต่างจากการตรวจสุขภาพทั่วไปซึ่งแพทย์มักจะให้คำปรึกษาเพียงแค่ไม่กี่นาที

Dr. Jiri Dvořák อดีตประธานฝ่ายแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หนึ่งในทีมแพทย์ระดับสากลที่ได้เข้ามาร่วมงานกับ BDMS Wellness Clinic ในฐานะแพทย์ประจำคลินิกระบบกล้ามเนื้อและกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า BDMS Wellness Clinic เดินตามแบบของคลินิกด้านเวชศาสตร์การป้องกันและชะลอวัยในบางประเทศ เช่น เยอรมนี และออสเตรีย แต่มีสิ่งที่ที่อื่นไม่มีคือขีดความสามารถในการวินิจฉัยสุขภาพในระดับพันธุกรรมที่ทำให้สามารถ “คาดการณ์” (predictive) ความเสี่ยงหรือโอกาสการเกิดโรคภัยของผู้เข้ารับบริการในอนาคตได้

นอกจากนี้ BDMS Wellness Clinic ยังเน้นการให้บริการการแพทย์ โดยอาศัยการดูแลแบบองค์รวมที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล (personalized) ที่พร้อมให้บริการกับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก

Chong กล่าวว่าในเบื้องต้นกลุ่มเป้าหมายของ BDMS Wellness Clinic คือคนอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีการศึกษาสูงและมีประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง อาทิ ซีอีโอและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งรู้จักและคุ้นเคยศาสตร์ของการฟื้นฟูและชะลอวัยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว รวมทั้งกลุ่มผู้มีรายได้ระดับสูงที่เคยไปใช้บริการด้านนี้ในต่างประเทศ

“ผมคิดว่าในอนาคตการป้องกัน (ก่อนเจ็บป่วย) จะเป็นสิ่งที่สำคัญ คนจะยินดีจ่ายเงินเพื่อการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีความสุขและแข็งแรง ดังนั้นตลาดนี้จะใหญ่มาก” Chong กล่าวในที่สุด

&nbsp;

ภาพ: BDMS Wellness Clinic

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events