<h2>เริ่มแรก James Litinsky ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์แค่อยากถอนทุนคืนจากการลงทุนในพันธบัตรบางตัวที่มีปัญหาเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเขาสามารถทำเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจากแร่หายาก และยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ให้กับประเทศสหรัฐฯ โดยได้รับความช่วยเหลือจากจีนอีกต่างหาก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;James Litinsky เดินทางไปดูเหมืองขุดแร่หายาก Mountain Pass เมื่อปี 2015 เพราะเป็นห่วงเงินลงทุน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ของเขาเข้าไปซื้อพันธบัตรด้อยคุณภาพที่ออกโดย Molycorp ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองแห่งนี้เอาไว้ แต่พอได้เห็นสถานที่จริงเขาต้องทึ่งไปกับความใหญ่โตมโหฬารของเหมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาเหนือทะเลทราย Mojave ในรัฐ California และการเป็นแหล่งแร่โลหะสำคัญทางยุทธศาสตร์บางชนิดเพียงแห่งเดียวในสหรัฐฯ เช่น นีโอไดเมียมที่ใช้ผลิต “แม่เหล็กแรงสูง” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่อง MRI ฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์และเครื่องบินรบ ซึ่ง Litinsky บอกว่า “ผมติดใจเลย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังจากนั้น 2-3 เดือน Molycorp ได้ยื่นเรื่องเข้ากระบวนการล้มละลาย และ Litinsky ทุ่มเดิมพันลงไปด้วยการพยายามฟื้นธุรกิจเหมืองแห่งนี้ควบคู่กับการพลิกฟื้นสถานะการเงินลงทุนของนักลงทุนของเขา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เรื่องการทำเหมืองหรือวิชาเคมีเกี่ยวกับแร่หายากที่ซับซ้อนแล้วยังไง?&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถึงแม้คำว่าแร่ “หายาก” จะมีที่มาจากความยากในการสกัดแร่และทำให้บริสุทธิ์แล้วยังไง?&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถึงแม้ตอนที่เขาได้เหมืองแห่งนี้มาในปี 2017 มันจะถูกลดขนาดลงจนเป็นเพียงหลุมลึก 600 ฟุตที่มีน้ำขังอยู่ 30 ล้านแกลลอนแล้วยังไง?&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เขามีวุฒิปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์จาก Yale พ่วงด้วยปริญญาสาขากฎหมายและ MBA จาก Northwestern ซึ่งทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวเอง และมั่นใจว่าตัวเลขของเหมืองแห่งนี้น่าสนใจมากพอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;80% ของแร่หายากทั้งหมดในโลกนี้มาจากการขุดและทำให้บริสุทธิ์ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เหงื่อตกเพราะโลหะที่ผลิตจากแร่หายากมีความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมและกองทัพอย่างมาก ดังนั้น Litinsky จึงคาดเอาไว้แต่แรกแล้วว่า ถ้าเขาเข้ามาทำธุรกิจแร่หายาก เขาน่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ซึ่งก็ปรากฏว่าเขาก็ได้รับการสนับสนุนตามคาดเป็นวงเงินสูงถึง 105 ล้านเหรียญจากทั้งรัฐบาลของ Trump และ Biden แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจมากกว่านั้นก็คือ การได้รับการสนับสนุนจากทางฝั่งจีนด้วย ซึ่งนอกจากจะให้การสนับสนุนทางการเงินและช่วยสร้าง Mountain Pass ให้กลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้งแล้ว ยังเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทแฟนพันธุ์แท้อีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถึงแม้หนทางจะไม่ได้ราบรื่นไปทั้งหมด แต่ก็นับได้ว่าเดิมพันของเขาให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และทำให้สินทรัพย์สุทธิของ Litinsky ในวัย46 ปี มีมูลค่าอย่างน้อย 400 ล้านเหรียญจากการประเมินโดย Forbes ทั้งนี้เขาได้ลดขนาดของ JHL Capital Group กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ Chicago ซึ่งในช่วงจุดสูงสุดเคยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสูงถึง 2 พันล้านเหรียญ และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ซีอีโอของ MP Materials ซึ่งกิจการของเหมือง Mountain Pass กำลังไปได้สวย ในขณะที่โรงงานใน Fort Worth รัฐ Texas ก็กำลังจะเสร็จ ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะแปรรูปแร่หายากให้เป็นโลหะชนิดประสิทธิภาพสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังจากที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ผ่านการระดมทุนในรูปแบบ SPAC เมื่อปี 2020 ด้วยการขายราคาหุ้นละ 10 เหรียญ และระดมทุนมาได้ 545 ล้านเหรียญ โดยราคาหุ้น MP วิ่งขึ้นไปถึง 56 เหรียญเพราะราคาผงนีโอไดเมียมและเพรซีโอดิเมียมซึ่งเป็นผลผลิตที่มีมูลค่าสูงที่สุดของบริษัทพุ่งขึ้นไปถึง 150,000 เหรียญต่อตัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่หลังจากนั้นผลผลิตจากจีนก็ทะลักเข้ามาในตลาดและได้ฉุดให้ราคาในปัจจุบันกลับลงมาเหลือเพียง 1 ใน 3 ของระดับสูงสุด ส่งผลให้ราคาหุ้น MP กลับลงมาอยู่ที่ 15 เหรียญ แต่ถึงกระนั้นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market cap) ของ MP ยังอยู่ที่ 2.4 พันล้านเหรียญ ซึ่งทำให้หุ้น 11% ที่ Litinsky ถืออยู่มีมูลค่า 265 ล้านเหรียญ และยังทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ของเขามีกำไรมากขึ้นอีกด้วย เรื่อง: Chris Helmanเรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยาภาพ: Trevor Paul เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/world/america/how-zyn-conquered-american-tobacco-market" alt="สู่อาณาจักร Zyn แต่งกลิ่นนิโคตินบรรจุซอง ชิงส่วนแบ่งตลาดยาสูบสหรัฐฯ">สู่อาณาจักร Zyn แต่งกลิ่นนิโคตินบรรจุซอง ชิงส่วนแบ่งตลาดยาสูบสหรัฐฯ</a>​ ​<a href="https://www.mebmarket.com/?action=book_details&amp;book_id=348467" alt="อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในรูปแบบ e-magazine">อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://pintobook.com/ebooks/67a0860bf03db35918fd5a01" alt="https://pintobook.com/ebooks/67a0860bf03db35918fd5a01" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/NDcnECzam27mf4Wkhwo8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="NDcnECzam27mf4Wkhwo8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="550,731" data-image-link="https://pintobook.com/ebooks/67a0860bf03db35918fd5a01" style="width: 300px; height: auto;" data-index="0"></a></figure></div>

James Litinsky รวยด้วยแร่หายาก พร้อมกำลังหนุนจาก 2 ยักษ์ใหญ่

<h2>ทองแดง แร่ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรมและกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนจนอาจจะยิ่งหายากขึ้นไปอีกเมื่อการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) กระตุ้นให้ความต้องการทองแดงเพิ่มขึ้นสูงถึง 72% ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก BHP บริษัทขุดแร่ยักษ์ใหญ่ของโลก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Vandita Pant ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ BHP เผยกับสำนักข่าว Financial Times ว่า แม้ความต้องการทองแดงที่จะนำไปสร้างดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับ AI ยังคิดเป็นสัดส่วนต่ำกว่า 1% ในปัจจุบัน แต่จะเพิ่มเป็น 6-7% ภายในปี 2050 ตามการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;BHP ยังคาดการณ์ว่า ความต้องการทองแดงทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 52.5 ล้านตันต่อปีก่อนปี 2050 เทียบกับ 30.4 ล้านตันต่อปีในปี 2021&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ภาวะขาดแคลนทองแดงก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่อุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้แร่ชนิดนี้ อีกทั้งบรรดาผู้เชี่ยวชาญสินค้าโภคภัณฑ์ต่างมองว่าจะเกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ราคาทองแดงจะพุ่งสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยทองแดงเป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายภาคส่วนธุรกิจ ตั้งแต่ก่อสร้างไปจนเครื่องจักรกล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าจำนวนทองแดงคงคลังทั่วโลกแตะจุดต่ำสุดเมื่อปีที่ผ่านมานับจากปี 2008 และจำนวนเหมืองแร่ในปัจจุบันไม่อาจเติมเต็มความต้องการทองแดงทั้งหมดได้ เหมืองใหม่ก็ไม่สามารถเริ่มดำเนินงานได้เร็วพอ เพราะปกติแล้วต้องใช้เวลาถึง 15 ปีในการเปิดเหมืองใหม่หนึ่งแห่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถานการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมาดันราคาทองแดงให้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจจีนที่ซบเซาจนความต้องการทองแดงในแดนมังกรลดลง จะทำให้ราคาซื้อขายทองแดงในตลาดโลกตกลงมาอยู่ที่ 9,207 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองแดงอาจพุ่งทะลุ 15,000 เหรียญต่อตันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หากภาวะขาดแคลนยังคงทวีความรุนแรง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Financial Times รายงานว่า อุตสาหกรรมแร่ได้มีการหันมาควบรวมและเข้าซื้อกิจการเพื่อเพิ่มผลผลิต ยกตัวอย่างกรณีของ BHP ที่จับมือกับ Lundin Mining ในเดือนกรกฎาคมเพื่อซื้อ Filo บริษัทสำรวจหาแหล่งแร่ในราคา 3 พันล้านเหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม AI จะยิ่งเพิ่มความต้องการทองแดงในท้องตลาด เพราะแร่ชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับระบบไฟฟ้าในดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังขยายจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a href="https://markets.businessinsider.com/news/commodities/copper-shortage-commodity-price-artificial-intelligence-outlook-data-centers-ai-2024-9" alt="AI will nearly double demand for copper, which is already facing a global shortage">AI will nearly double demand for copper, which is already facing a global shortage</a>​ภาพ: Pixabay เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/travel/global/10-most-affordable-countries-to-live-expat-insider-2024" alt="10 อันดับประเทศที่ค่าครองชีพเป็นมิตรกับชาวต่างชาติที่สุดในโลก">10 อันดับประเทศที่ค่าครองชีพเป็นมิตรกับชาวต่างชาติที่สุดในโลก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AI กระตุ้นดีมานด์ทองแดง คาดราคาอาจพุ่งทะลุ 15,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในอนาคตอันใกล้

<h2>พืชเล็กจิ๋วและกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอุปสรรคของการทำเหมืองแร่ลิเธียมในรัฐ Nevada ซึ่งเตรียมผลิตแร่สำคัญนี้ในปริมาณที่มากพอจะรองรับรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 50 ล้านคัน และแล้วผู้ก่อตั้งก็พบวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะแก๊งรักษ์โลก นั่นคือเข้าเป็นพวกเดียวกัน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Bernard Rowe นักธรณีวิทยาสายสำรวจและซีอีโอของ Ioneer บริษัทเหมืองแร่สัญชาติออสเตรเลียกล่าวด้วยความตะลึงว่า “Rhyolite Ridge เป็นแหล่งแร่ที่น่าทึ่ง หาที่ไหนบนโลกไม่มีแล้ว”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rowe ในวัย 56 ปี มาที่รัฐ Nevada เพื่อสำรวจแร่ทองคำและทองแดงแล้วก็ได้พบ The Ridge แนวหินภูเขาไฟที่โผล่ออกมาทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐ เขาเก็บตัวอย่างแร่ไปตรวจสอบและพบว่ามีลิเธียมและโบรอนที่มีความเข้มข้นสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังจากพบสิ่งนี้เขารีบโทรหาเพื่อนชื่อ James Calaway ซึ่งเป็นชาว Texas ที่ทำธุรกิจเหมืองลิเธียมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในอาร์เจนตินา หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดในปี 2017 พวกเขาก็ได้สิทธิ์ในการขุดแร่ใน Esmeralda County ของรัฐ Nevada มากพอที่จะผลิตลิเธียมกว่า 100,000 ตันต่อปี ซึ่งเพียงพอที่จะผลิตแบตเตอรี่ให้ iPhone หลายพันล้านเครื่องและรถยนต์ไฟฟ้าหลายล้านคัน ตอนนี้เหลือแค่เริ่มขุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rhyolite Ridge ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐบาลกลางซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักจัดการที่ดินของกระทรวงมหาดไทย แต่เมื่อคิดถึงการที่จีนครองตลาดลิเธียมอยู่ (สกัดแร่ได้ 75% ของปริมาณที่ผลิตได้ทั้งโลก 1 ล้านตันในปี 2023) Calaway ประธานของ Ioneer เชื่อว่าโครงการของเขาจะเอื้อประโยชน์ในแง่การเมือง เพราะปัจจุบันสหรัฐฯ ยังผลิตได้เพียง 7,000 ตันต่อปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยังมีเรื่องยุ่งยากนั่นคือ ดอกไม้ทะเลทรายสูง 6 นิ้วสีเหลืองที่ชื่อว่า ทีมส์บัควีท (Tiehm’s buckwheat หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Eriogonum tiehmii) ใจกลางของพื้นที่ 900 เอเคอร์ที่มีไม้ล้มลุกหายากพันธุ์นี้อยู่ตรงจุดที่ Ioneer ตั้งใจจะทำเหมืองพอดี บริษัทจึงต้องช่วยกันหาทางออกร่วมกับนักพฤกษศาสตร์ด้านพืชทะเลทราย รวมถึงนักวิจัยจาก University of Nevada เพื่อวางแผนการขุดและ “ย้าย” ต้นไม้หลายพันต้นไปยังภูมิประเทศที่คล้ายคลึงกันในบริเวณใกล้เคียง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ผลการวิเคราะห์ของเราบอกว่ามันน่าจะได้ผล” Calaway กล่าว แต่เขาไม่มีโอกาสได้ลองเลย เพราะหลังจากต้นไม้พื้นเมืองนี้ 40% หรือประมาณ 17,000 ต้นล้มตายอย่างปริศนาในฤดูร้อนปี 2020 นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็ได้ยื่นคำร้องให้ขึ้นบัญชีมันในฐานะพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ส่วน Ioneer ยังเดินหน้าส่งแผนการทำเหมืองที่ปรับใหม่ตอนต้นปี 2022 หลายเดือนต่อมาองค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐ (USFWS) ได้กำหนดให้ทีมส์บัควีทเป็นพืชใกล้สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัญหาดอกไม้ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ Calaway กลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ผู้กำหนดนโยบายต้องเผชิญ ใครจะชนะระหว่างกระแสรักษ์โลก 2 สาย เมื่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องหนึ่งกลายเป็นขัดแย้งกับอีกเรื่องหนึ่ง&nbsp;การขุดแร่ เช่น ลิเธียม นีโอไดเมียม และดิสโพรเซียม ให้เพียงพอสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะคุ้มค่าพอให้ฆ่าพืชเล็กๆ 44,000 ต้นที่เติบโตกลางทะเลทราย Nevada หรือไม่ เราควรสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งหรือไม่หากมันทำให้วาฬและนกทะเลตาย และถ้าเป็นแบบนั้นวาฬตายกี่ตัวถึงจะถือว่ามากเกินไป&nbsp; &nbsp;&nbsp;“ทุกคนอยากให้มันสำเร็จเพื่อประโยชน์ของโลก” Calaway กล่าว ซึ่งรวมถึงรัฐบาลของ Biden ซึ่งประกาศในปี 2023 ว่า จะให้ Ioneer กู้เงิน 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับโครงการนี้หากได้รับใบอนุญาต แต่เสียงร้องระงมของฝ่ายคัดค้านเหมือง ซึ่งรวมถึงศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพในเมือง Tucson รัฐ Arizona ก็ดังเกินกว่าจะเพิกเฉยได้ “มันเสี่ยงเกินไปที่รัฐบาลจะเซ็นอนุมัติ” Calaway คร่ำครวญ “ทีแรกผมเกลียดต้นไม้นี้เอามากๆ เลย”&nbsp; &nbsp;&nbsp;Calaway วัย 66 ปี ไม่ใช่เป็นแค่ผู้บริหารบริษัทพลังงานชาว Texas ประเภทที่เอะอะก็ชอบด่าพวกเสรีนิยม แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นเจ้าของบ่อน้ำมัน แต่เขาก็ยังเป็นสมาชิกตลอดชีวิตของสมาคมเพื่อการพัฒนากลุ่มคนผิวสีแห่งสหรัฐฯ (NAACP) และเป็นประธานกรรมการผู้ดูแลผลประโยชน์ของ Aspen Institute ที่เอียงซ้าย&nbsp; &nbsp;&nbsp;Calaway จบปริญญาสาขาเศรษฐศาสตร์จาก UT Austin และปริญญาโทสาขาปรัชญาจาก Oxford ในปี 1981 ก่อนที่จะทำงานเป็นผู้บริหารในบริษัทเหมืองแร่และบริษัทพลังงานลมหลายแห่ง เขากล่าวว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาของ Ioneer เรื่องต้นบัควีทจำเป็นต้องมีการปรับกรอบความคิดเสียใหม่ “เราเปลี่ยนจากความรู้สึกเกลียดชังที่สิ่งนี้เป็นอุปสรรคสำหรับเรามาเป็นการโอบรับต้นไม้นี้มาเป็นสัญลักษณ์แทน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราตัดสินใจว่าเราจะรับผิดชอบดูแลต้นไม้เหล่านี้ พอตัดสินใจแบบนั้นแล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป” Ioneer ออกแบบบ่อเหมืองใหม่และใช้นโยบาย “ห้ามแตะต้อง” อย่างเข้มงวด โดยกำหนดเขตกันชนกว้างหลายร้อยฟุตล้อมรอบทุกอย่างยกเว้นต้นไม้เพียงนิดหน่อย และแทนที่จะปล่อยให้บรรดาต้นทีมส์บัควีทกลายเป็นเกาะที่ถูกล้อมด้วยเหมืองหินตัดยอด พวกเขาก็เลื่อนพื้นที่ปฏิบัติงานบางส่วนออกไปอีกครึ่งไมล์ นอกจากนี้ ก็ยังดำเนินโครงการด้านชีววิทยาอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/asia/edgar-sia-ii-hotel-101-doubledragon-may-2024" alt="Edgar Sia II เจ้าสัวฟิลิปปินส์ กับเป้าหมายปั้นเชนโรงแรมระดับโลก">Edgar Sia II เจ้าสัวฟิลิปปินส์ กับเป้าหมายปั้นเชนโรงแรมระดับโลก</a> ​<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/5a9d7700-b8a3-44da-8f71-dc089d9916d2" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px; width: 300px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/R8MfG78G1DDN61cDbP7t.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="R8MfG78G1DDN61cDbP7t.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="320,420" style="width: 300px; height: auto;" data-index="0"></figure></div>

พลังงานในดงดอกไม้ เมื่อพืชใกล้สูญพันธุ์เบ่งบานบนแหล่งแร่ลิเธียม

<h2>ท่ามกลางความต้องการโลหะสำหรับใช้ในงานไฟฟ้า เช่น ทองแดงและนิกเกิลที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเจ้าพ่อเหมืองแร่ Robert Friedland ทะยาน 17% มาอยู่ที่ 2.7 พันล้านเหรียญ </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Robert Friedland&nbsp;วัย 73 ปี คือเศรษฐีผู้มั่งคั่งอันดับ 16 ของสิงคโปร์&nbsp;เขาคือ&nbsp;ผู้ก่อตั้ง Ivanhoe Mines&nbsp;ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Toronto และ Ivanhoe Electric ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ New York เขาเป็นชาวอเมริกันแต่กลายเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในสิงคโปร์มายาวนาน และยังรับหน้าที่บริหารการลงทุนในสำนักงานครอบครัวด้วย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในรอบปีที่ผ่านมาบริษัททั้งสองแห่งต่างมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มการผลิต โดยมีเป้าหมายที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนและผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อปีที่แล้ว Ivanhoe Mines ขยายกำลังการผลิตของเหมืองทองแดง Kamoa-Kakula ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 3 เท่าตัว จนมีกำลังการผลิตกว่า 330,000 ตัน และสามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 434 ล้านเหรียญเมื่อปี 2022 จาก 45 ล้านเหรียญในปีก่อนหน้า โดยมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็นปีละกว่า 620,000 ตันภายในปีหน้าด้วยความร่วมมือกับ Zijin Mining ของจีนและรัฐบาลคองโก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/kSC6FVgmv4hcLHVjarmJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="kSC6FVgmv4hcLHVjarmJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Friedland ทำรายได้มหาศาลจากนิกเกิลแคนาดา นอกจากนี้ ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้นพบทองแดงจำนวนมากในมองโกเลียและคองโก ในปี 2022 Friedland นำ Ivanhoe Electric บริษัทสำรวจทองแดง นิกเกิล และโลหะอื่นๆ ที่หลายคนมองว่าเป็นรากฐานของเศรษฐกิจสีเขียวนั้นเข้าจดทะเบียนในตลาดทรัพย์ และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Maaden บริษัทเหมืองแร่ของรัฐซาอุดีอาระเบียเข้าซื้อหุ้น Ivanhoe Electric ไป 9.9% ในราคา 127.1 ล้านเหรียญ โดยบริษัททั้งสองแห่งมีแผนที่จะร่วมกันพัฒนาโครงการเหมืองแร่ในซาอุดีอาระเบีย ปัจจุบันเขามีอายุ - J. B. &nbsp; เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/world/asia/vikrom-kromadit-2023-heroes-of-philanthropy" alt="“วิกรม กรมดิษฐ์” ติดทำเนียบมหาเศรษฐีใจบุญแห่งปี 2023">“วิกรม กรมดิษฐ์” ติดทำเนียบมหาเศรษฐีใจบุญแห่งปี 2023</a>​​<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/e05f13b4-8402-40df-acea-d1073274e800" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events