<h2>แอสเซทไวส์ (ASW)&nbsp;ตอกย้ำความแข็งแกร่ง กางผลงาน 9 เดือนแรกปี 67&nbsp;กวาดยอดขาย 14,578&nbsp;ล้านบาท คิดเป็น 82% ของเป้าพรีเซลทั้งปี โครงการแนวราบ-คอนโดภูเก็ต THE TITLE&nbsp;CIELO&nbsp;RAWAI มาแรงดันยอดขายต่อเนื่อง คาดปลายปียอดนักท่องเที่ยวพุ่ง หนุนกำลังซื้อในประเทศ โอกาสดีอสังหาเมืองท่องเที่ยว เตรียมส่งแฟล็กชิปโปรเจ็กต์ทำเลจอมเทียน พัทยา ต้อนรับไฮซีซั่น ‘ควารัส จอมเทียน พัทยา’ โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence รองรับดีมานด์คอนโดพักตากอากาศ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;ASW เผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย. 2567) บริษัทมียอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด 14,578&nbsp;ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 24%&nbsp;และคิดเป็น&nbsp;82%&nbsp;ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีซึ่งตั้งไว้อยู่ที่ 17,800&nbsp;ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ผลงานดังกล่าวมาจากโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในไตรมาส 2/2567 และยังคงสร้างยอดขายต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล (The Arbor Ramintra-Watcharapol) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และโครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี (CHANN The Riverside Boromratchachonnani) มูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่สร้างยอดขายโดดเด่น คือ โครงการเดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE&nbsp;CIELO&nbsp;RAWAI)&nbsp;โครงการ Leisure Condominium ในทำเลภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,200&nbsp;ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;TITLE&nbsp;บริษัทย่อยในเครือ ที่ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยมจนมียอดขาย (Take up rate) ถึงกว่า 90% หลังเปิดขายได้เพียง 1 สัปดาห์​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/5dvxyeksLNCQ7apuVvvj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5dvxyeksLNCQ7apuVvvj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="2000,1125" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์&nbsp;กล่าวอีกว่า ทุกช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หนึ่งใน Key Engine ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.) นี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 12.22 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 20% และคาดว่าจะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศประมาณ 6.53 แสนล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 29%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทเชื่อมั่นว่าแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริโภคในประเทศมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งขึ้น และเป็นโอกาสอันดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะตามหัวเมืองท่องเที่ยว ในการเข้าถึงตลาดชาวต่างชาติที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยระหว่างท่องเที่ยวระยะสั้น และพักอาศัยแบบ Long stay ตามจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างอีอีซีและภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 นี้ บริษัทยังมุ่งหน้าตามกลยุทธ์&nbsp;The New Frontier&nbsp;พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอีอีซีและภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศ โดยเตรียมเปิดตัวแฟล็กชิปโปรเจ็กต์คือ โครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya)&nbsp;โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence ขนาด 5-3-76.1 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้ถนนสุขุมวิทและชายหาดจอมเทียน ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมสำหรับพักตากอากาศ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/sansiri-first-9-months-of-2024-performance" alt="แสนสิริอวดยอดขาย 9 เดือน 37,000 ล้านบาท โตแรง 10% YoY พร้อมลุยต่อ 16 โครงการไตรมาสสุดท้าย">แสนสิริอวดยอดขาย 9 เดือน 37,000 ล้านบาท โตแรง 10% YoY พร้อมลุยต่อ 16 โครงการไตรมาสสุดท้าย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

แอสเซทไวส์ย้ำแกร่ง 9 เดือนแรกปี 67 กวาดยอดขาย 14,578 ล้านบาท โตแรง 24% YoY

<h2>ASW โชว์ศักยภาพครึ่งปีหลัง ประเดิม Q3/67 โอนต่อเนื่องจากไตรมาส 2 กับ 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ ‘เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์’ แคมปัสคอนโดทำเลทองย่าน ม.กรุงเทพ ที่มียอดขาย 99% และ ‘เดอะ ไทเทิล ฮาโล 1’ Leisure Condo ภูเก็ต มียอดขายแล้วกว่า 93% มูลค่ารวม 5,037 ล้านบาท พร้อมเตรียมดันเพิ่ม 4 โครงการบ้าน-คอนโดสร้างเสร็จใหม่รับรู้รายได้ต่อเนื่อง เชื่อมั่นครึ่งปีหลังยังแกร่งหนุนรายได้ตามเป้า 8,700 ล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ หรือ We Build Happines เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส&nbsp;2/2567&nbsp;บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog)&nbsp;ทั้งหมด 23,678 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งหลังปี 2567 บริษัทจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากในไตรมาส 2/2567 ในโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,037 ล้านบาท​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/F6g63TXcFQUK9mYsF9Ut.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="F6g63TXcFQUK9mYsF9Ut.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="2248,1683" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"><figcaption><div>โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์</div></figcaption></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการแรกคือ ‘เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์’ (Kave Town Island) แคมปัสคอนโดบนทำเลศักยภาพ ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต ที่ประสบความสำเร็จทำยอดขายได้แล้วถึง 99% โดยในไตรมาส 2/2567 บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวไปแล้ว 34% และอีกหนึ่งโครงการคือ ‘เดอะ ไทเทิล ฮาโล 1’ (The Title HALO 1) Leisure Condominium ใกล้สนามบินภูเก็ต จำนวน 329 ยูนิต พัฒนาโดยบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ล่าสุด มียอดขายแล้วกว่า 93% ซึ่งบริษัทรับรู้รายได้ไปแล้ว 15% โดยทั้ง 2 โครงการจะเป็นแรงหลักในการขับเคลื่อนรายได้ในไตรมาส 3/2567​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/xAJfMcumBCmGNGu4UMYQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xAJfMcumBCmGNGu4UMYQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="6240,4160" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"><figcaption><div>โครงการเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องในโครงการที่สร้างเสร็จใหม่อีก 4 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา (Kave Pop Salaya) แคมปัสคอนโด จำนวน 237 ยูนิต ทำเลดีติดถนนใหญ่ ศาลายา-นครชัยศรี ใกล้ ม.มหิดล ศาลายา เพียง 5 นาที&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. โครงการเคฟ เอมบริโอ รังสิต (Kave Embryo Rangsit) แคมปัสคอนโด จำนวน 514 ยูนิต ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ม.ราชมงคล ธัญบุรี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และโครงการแนวราบที่เพิ่งเปิดพรีเซล จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล (The Arbor Ramintra-Watcharapol) โครงการบ้านเดี่ยวบรรยากาศธรรมชาติ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) จำนวน 127 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. โครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี (CHANN The Riverside Boromratchachonnani) บ้านเดี่ยวทำเลดีริมแม่น้ำท่าจีน จำนวน 112 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 15-30 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/uGqQVn6NaR62gxPPN6PX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="uGqQVn6NaR62gxPPN6PX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="2"><figcaption><div>กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์</div></figcaption></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;“6 เดือนแรกที่ผ่านมา เราเดินทางมาเกินครึ่งทางของเป้าหมายรายได้ทั้งปีแล้ว และสามารถทำ New High สร้างการเติบโตทั้งในแง่ยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ แม้เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ เรามั่นใจว่าในครึ่งปีหลังนี้ ASW จะยังคงรักษาผลงานได้เป็นอย่างดี ทั้งการรับรู้รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัย และ Recurring Income จากการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ จะช่วยขับเคลื่อนให้เราถึงเส้นชัยรายได้ 8,700 ล้านบาท” กรมเชษฐ์ กล่าว เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/it/xiaomi-q-2-2024-revenue-growth-yoy" alt="Xiaomi อวดรายรับ Q2/67 ทำนิวไฮที่ 8.89 หมื่นล้านหยวน โตเพิ่ม 32% YoY">Xiaomi อวดรายรับ Q2/67 ทำนิวไฮที่ 8.89 หมื่นล้านหยวน โตเพิ่ม 32% YoY</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘แอสเซทไวส์’ โชว์ศักยภาพ Q2/67 เผยยอด Backlog กว่า 2 หมื่นล้านบาท เตรียมดันเพิ่ม 4 โครงการสร้างเสร็จใหม่

<h2>‘แอสเซทไวส์’ ส่งคอนโดฯ แบรนด์เคฟ (KAVE) รุกฝั่งตะวันตก เตรียมเปิดโครงการ ‘เคฟ เจเนซิส นครปฐม’ มูลค่าโครงการกว่า 1,160 ล้านบาท แคมปัสคอนโดฯ ทำเลตรงข้ามเซ็นทรัล ใกล้ ม.ศิลปากร ราคาเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เดินหน้าสานต่อความสำเร็จกับแคมปัสคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคฟ (KAVE) หนึ่งในแบรนด์เรือธงที่สร้างความสำเร็จให้กับแอสเซทไวส์อย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยล่าสุดเตรียมเปิด โครงการใหม่ “เคฟ เจเนซิส นครปฐม” (Kave Genesis Nakhon Pathom) มูลค่าโครงการ 1,160 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ ตั้งอยู่บนทำเลไพรม์โลเคชั่น ติดถนนเพชรเกษมตรงข้ามเซ็นทรัล นครปฐม ซึ่งเปิดให้บริการไปเมื่อมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ใกล้มหาวิทยาลัยศิลปากรเพียง 5 นาที​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/G8EFnnj8CFcnRHPRFPXY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="G8EFnnj8CFcnRHPRFPXY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยจังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งเปรียบเสมือนประตูการเดินทางสู่ฝั่งตะวันตกที่สามารถเชื่อมต่อไปยังหลายจังหวัด นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงจากกรุงเทพฯ มาถึงตัวเมืองนครปฐม ที่จะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้นด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากปัจจัยการเจริญเติบโตของเมืองและการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้แนวโน้มราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลดังกล่าว มีอัตราการปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้โครงการเคฟ เจเนซิส นครปฐม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับอยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อลงทุน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการเคฟ เจเนซิส นครปฐม มีการออกแบบตัวอาคารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการนำกลิ่นอายของเมืองนครปฐม และรูปแบบสถาปัตยกรรมเรือนไทยภาคกลางมาผสมเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งในด้านการใช้พื้นที่และองค์ประกอบของอาคาร อาทิ Kave Club ที่ใช้สัดส่วนหลังคาจากอาคารเรือนเครื่องสับ ที่มีชานเป็นพื้นที่กิจกรรมเพื่อสะท้อนถึงวิถีชีวิตของไทย พร้อมนำลักษณะของฉนวนทางเดิน และฝาสำหรวดที่พาดผ่านทางเข้าด้านหน้าโครงการ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/4yCgT1C86NMwPKTZeBNn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4yCgT1C86NMwPKTZeBNn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมนำลายประจำยามมาปรับใช้เป็นสัญลักษณ์ โดยจะสอดแทรกอยู่ทั่วไปในบริเวณผนังบันได รวมถึงราวระเบียงของอาคารพักอาศัย โดยเน้นโทนสีธรรมชาติและใช้วัสดุพื้นถิ่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นางสาวพชร กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญด้านการออกแบบตกแต่งภายใน คือ การได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ทวารวดีในสมัยเก่าและนวัตกรรมใหม่ของการใช้ชีวิต มาประยุกต์ใช้ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Futuristic Element with Thai's twist”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/GBQ5NTQV1zqZGw731bpn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GBQ5NTQV1zqZGw731bpn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยเน้นใช้ลวดลาย สี และรูปทรง มาออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน อาทิ โถงลิฟต์ ที่ผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ โดยใช้ลวดลายอิฐผสมกับเอฟเฟกต์กระจกไล่ระดับสีและการเคลือบสีโครเมียม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 497px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/FFDjgttii7HQJvbrvoKi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="497px,348px" data-align="center" data-file-name="FFDjgttii7HQJvbrvoKi.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,504" data-origin="497px,348px" style="width: 497px; height: 348px;" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หรือห้อง Fitness ที่ใช้แสงนีออนและวัสดุสะท้อนแสงมาใช้ในการสร้างบรรยากาศ รวมถึงลวดลายของพื้นห้องที่นำองค์ประกอบของความเป็นไทยเข้ามาผนวก ตลอดจนห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังตกแต่งด้วยกระเบื้องคล้ายอิฐ สีฟ้า และสีพื้นผิวโบราณ เพื่อให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทยผสมเข้าไว้ด้วยกัน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/8MiH1RcSzwFTMgpMsT22.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8MiH1RcSzwFTMgpMsT22.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มยิ่งกว่าใคร โดยมอบความสนุกสนานเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ มากถึง 30 กิจกรรม* อาทิ สระว่ายน้ำที่จัดเต็มให้ถึง 2 สระ, CO-KITCHEN SPACE, LIVE TIKTOK STUDIO, READING LOUNGE, EXTREME EXERCISE STUDIO, ICONIC PLAY PARK ที่ซ่อนตัวอยู่ในทุกอาคาร และ Kave Club เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท*​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/L9NDmnU9pMDXhgd74Wsj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="L9NDmnU9pMDXhgd74Wsj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโครงการเคฟ เจเนซิส นครปฐม เป็นแคมปัสคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 3 อาคาร บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ จำนวน 579 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 21.30-35.00 ตร.ม. โดยเตรียมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 8-9 มิถุนายน 2567 เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/cpn-to-open-central-park-offices-in-q-2-2025" alt="เตรียมเปิด Central Park Offices ไตรมาส 2 ปีหน้า เผยค่าเช่า 1,000-1,500 บาท/ตร.ม./เดือน">เตรียมเปิด Central Park Offices ไตรมาส 2 ปีหน้า เผยค่าเช่า 1,000-1,500 บาท/ตร.ม./เดือน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘แอสเซทไวส์’ ลุยแคมปัสคอนโด เตรียมเปิดตัว ‘เคฟ เจเนซิส นครปฐม’ ใกล้ ม.ศิลปากร ราคาเริ่ม 1.79 ล้านบาท

<h2>ตลาดบ้านลักชัวรีดูเหมือนจะเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ดีเวลอปเปอร์หลายรายต่างก็ปรับมูฟเมนต์พัฒนาโปรดักต์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น รวมถึง “แอสเซทไวส์” ที่มีโครงการแฟล็กชิปอย่าง “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana)” บ้านหรูราคาเริ่มต้น 40-60 ล้านบาท ที่ล่าสุดเผยความคืบหน้าโครงการ มีการพัฒนาคลับเฮาส์สุดอลังการ 2 แห่งในโครงการ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;เปิดเผยว่า “ตลาดบ้านหรูยังคงเติบโตสวนทางตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยกว่า ประกอบกับซัพพลายในตลาดยังมีไม่มากเท่าโครงการในเซกเมนต์อื่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้สูงหรือ Wealth ให้ความสำคัญกับหลายปัจจัยที่มากกว่าแค่เรื่องดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก ทั้งยังต้องแวดล้อมด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สำคัญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/JoToN5iVQrKeR5tfy2L8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="JoToN5iVQrKeR5tfy2L8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div>กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) </div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ การออกแบบทุกพื้นที่ในบ้าน ยังต้องตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันของครอบครัวใหญ่ที่มีคนหลายเจนเนอเรชั่นอยู่ร่วมกัน ขณะเดียวกันเรายังพบว่าลูกค้า Wealth ยังต้องการ Living Fulfillment และมองหาโครงการบ้านหรูที่สามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับทั้งภายในบ้านและในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งโครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยหลังจากเปิดขายในเฟสแรกที่มีประมาณ 25 หลัง สามารถทำยอดขายกว่า 30% แล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จุดเด่นของโครงการดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา คือ คลับเฮาส์ 2 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 2,000 ตารางเมตร มูลค่ารวม 200 ล้านบาท​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/8osiCQh19souLFcm8r9N.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8osiCQh19souLFcm8r9N.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"><figcaption><div>The Social Club</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยแห่งแรก คือ The Social Club ตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการเพื่อรองรับแขกของลูกบ้าน โดยแยกสัดส่วนจากพื้นที่พักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด ซึ่งไฮไลต์คือห้อง Gentle Club ที่ประกอบด้วย Wine &amp; Cigar Room, Fine Dining Space, Tea Room &amp; Car Salon​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/UqkJcJw7HcJtUxhtXyQ6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UqkJcJw7HcJtUxhtXyQ6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"><figcaption><div>The Social Club</div></figcaption></figure></div> ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/GAriY3kAMXj9wsYo7pmQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GAriY3kAMXj9wsYo7pmQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"><figcaption><div>The Social Club</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนคลับเฮาส์อีกแห่งอยู่ในด้านในโครงการ ใช้ชื่อว่า The Residential Club สำหรับลูกบ้านได้มาผ่อนคลายและสังสรรค์กับหลากหลายสเปซ ไม่ว่าจะเป็น Private Chef’s Table Space, Private Spa Therapy, Residential Lounge, The Gym, Kids Club หรือ High Tea Pavilion และห้องออนเซ็น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/ZCbEzy75UH1ct7n4GNRh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ZCbEzy75UH1ct7n4GNRh.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"><figcaption><div>The Residential Club</div></figcaption></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/99dAP4GeaCdCnnEU93e9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="99dAP4GeaCdCnnEU93e9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"><figcaption><div>The Residential Club</div></figcaption></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ คลับเฮาส์ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานกับทุกเจนเนอเรชั่น โอบล้อมสวนสวยขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ มอบบรรยากาศเหมือนลูกบ้านได้เข้าพักในรีสอร์ตสุดหรู&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งยังมอบบริการ Living Fulfillment จากทีม Concierge Service บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมซัพพอร์ตลูกบ้านที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ ตั้งแต่งานด้าน Maintenance โดยผู้เชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้, บริการรถรับส่งสนามบิน บริการสปาที่บ้าน บริการจัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้ งานทำบุญเลี้ยงพระ การดูแลด้านสุขภาพ และอีกมากมาย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/VSJT3VyWkBe7D4yWn4Fu.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="VSJT3VyWkBe7D4yWn4Fu.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"><figcaption><div>The Residential Club</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในแง่ของทำเล โครงการ “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา” ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนาบนพื้นที่โครงการรวมกว่า 38 ไร่ สามารถเดินทางเชื่อมต่อ 3 ย่านสำคัญ อย่างถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, ถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนลาดพร้าว ทั้งยังใกล้ทางด่วนฉลองรัชเพียง 5 นาที และเดินทาง 15 นาทีถึงทองหล่อ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/5DtNsbsQ2ZGWHx5fWcXP.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5DtNsbsQ2ZGWHx5fWcXP.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="7"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไฮไลต์สำคัญอีกอย่างคือโครงการนี้มาพร้อมสระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัวทุกหลังจำนวน 106 หลัง ราคาเริ่มต้น 40-60 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 4,200 ล้านบาท ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 69 บาท ประกอบด้วยแบบบ้าน 3 ขนาด ได้แก่ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-แบบที่ 1 พื้นที่ใช้สอย 455 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดิน 60 ตารางวา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-แบบที่ 2 พื้นที่ใช้สอย 564 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ที่ดิน 75 ตารางวา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-แบบที่ 3 พื้นที่ใช้สอย 710 ตารางเมตร 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ จอดรถได้ 5-6 คัน ที่ดิน 90 ตารางวา​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/ed8WnNyVP933wy4YYVne.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ed8WnNyVP933wy4YYVne.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="8"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทำเลนี้ยังรายล้อมไปด้วย Lifestyle Hub ครบครัน ทั้งสถานศึกษาชั้นนำ, ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล อาทิ KIS International School, Shrewsbury International School, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา นับเป็นอีกหนึ่งไพรม์โลเคชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ กล่าวว่า ต้นทุนที่ดินในย่านนี้นับได้ว่าแพงมากจนไม่สามารถพัฒนาโครงการที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทได้ด้วยซ้ำ แต่ถึงแม้ที่ดินจะมีราคาสูง แต่การพัฒนาโครงการนี้ของแอสเซทไวส์ก็ไม่ได้ลดขนาดและฟังก์ชั่นของบ้านลง ทั้งยังมีคลับเฮาส์ 2 แห่งไว้ให้บริการลูกบ้านด้วย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/DxnbzBQkt2K5hsThvJmZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="DxnbzBQkt2K5hsThvJmZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="9"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราคาดว่าโครงการนี้จะขายได้ปีละ 25 ยูนิต และขายได้หมดภายใน 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ยังเดินหน้าพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนโครงการแนวราบอยู่ที่ 30% ของพอร์ตภายใน 3 ปี ทั้งนี้ ปัจจุบันแอสเซทไวส์มีโครงการแนวราบอยู่ในพอร์ต 3 โครงการ และตั้งเป้าเปิดอีก 3 โครงการในปีนี้” กรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/a-5-2-years-luxury-roadmap" alt="A5 กางแผนบุกตลาดบ้านลักชัวรี เตรียมเปิด 5 โครงการ มูลค่า 8,200 ล้าน">A5 กางแผนบุกตลาดบ้านลักชัวรี เตรียมเปิด 5 โครงการ มูลค่า 8,200 ล้าน</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

The Honor Yothinpattana บ้านหรูจากแอสเซทไวส์ มาพร้อม 2 คลับเฮาส์ฟังก์ชันแน่นมูลค่ารวม 200 ล้าน

<h2>“แอสเซทไวส์” มองโอกาสลงทุนอสังหาฯ ภูเก็ต พัฒนาโครงการใหม่เพียบใน 3 ปี มูลค่าโครงการรวม 40,000 ล้านบาท รองรับตลาดนักท่องเที่ยวฟื้นตัว เน้นกระจายความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยสูง กระทบกำลังซื้อ ปีนี้เปิดตัว 12 โครงการใหม่ ทั้งกรุงเทพฯ อีอีซี และภูเก็ต มูลค่ากว่า 25,920 ล้านบาท คาดปี 2568 รายได้แตะหมื่นล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตในอีก 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) มูลค่าโครงการรวม 40,000 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างน้อยปีละ 1-2 โครงการ จากปีนี้มีโครงการพร้อมเปิดขายในจังหวัดภูเก็ต รวม 4 โครงการ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา มูลค่า 4,500 ล้านบาท เปิดขายตั้งแต่ปี 2566 มียอดขายแล้ว 80% โครงการเดอะ ไทเทิล เฮริเทจ บางเทา มูลค่า 6,000 ล้านบาท เดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่า 4,000 ล้านบาท โครงการเดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/FRxPGTph4t1PzcZdxxsR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="FRxPGTph4t1PzcZdxxsR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ภูเก็ตเหมือนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตสูง จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 14 ล้านคนต่อปี มีทั้งกลุ่มที่มาท่องเที่ยวตามซีซั่น กลุ่มที่มาจากปัจจัยสงคราม และกลุ่มที่ต้องการย้ายมาอยู่ถาวร ถือเป็น New Frontiers และเป็นโอกาสของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูง รวมทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังทำให้อัตราการเติบโตของจีดีพีเป็นไปอย่างแคบๆ” กรมเชษฐ์กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แอสเซทไวส์ ขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตผ่านการเข้าซื้อกิจการบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต และร่วมพัฒนาโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว ลักชัวรี่พูลวิลล่า มูลค่าโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขาย 2,300 ล้านบาทในปีนี้ ทำให้บริษัทฯ มีโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ทั้งซื้อเพื่อพักผ่อน คอนโดมิเนียม และวิลล่าระดับลักชัวรี เป็นหนึ่งใน 3 กลยุทธ์สำคัญในปีนี้ ได้แก่ Excute, Expand และ Explore ที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อยังถูกกดดันด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง เปิดตัว 12 โครงการ มูลค่ากว่า 25,920 ล้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปีนี้ แอสเซทไวส์เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งหมด 12 โครงการ รวมมูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่า 21.820 ล้านบาท และโครงการบ้านแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 4,100 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขาย 17,800 ล้านบาท เติบโตประมาณ 8% จากปี 2566 และมีรายได้ 8,700 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมีสินทรัพย์รอการขายอยู่ 19,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 13,700 ล้านบาท อีอีซี 1,800 ล้านบาท และภูเก็ต 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567 – 2569​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/W5ZkmHzfWPX7X2HkQWwa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="W5ZkmHzfWPX7X2HkQWwa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ รวม 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,260 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่จะเปิดตัว 12 โครงการ และทำยอดขายในปี 2566 ได้ถึง 16,486 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย และเติบโตจากปี 2565 ถึง 16% โดย 10 ปีที่ผ่านมา แอสเซทไวส์มีการพัฒนาโครงการไปแล้ว จำนวน 62 โครงการ มูลค่า 82,000 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“แอสเซทไวส์ เริ่มจากการพัฒนาทาวเฮ้าส์เล็กๆ และเติบโตจากการขยายธุรกิจคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะแบรนด์ KAVE ATMOS และ MODIZ มาขยายธุรกิจบ้านแนวราบในช่วง 2 ปีหลังที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบกับเจอสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายของสินค้า กระจายความเสี่ยง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยยึด 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Location ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้อง แม่นยำ 2.Product ที่หลากหลาย และ 3.Price ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม” กรมเชษฐ์กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/aqhBZRwBfHCfF54tNi5n.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="aqhBZRwBfHCfF54tNi5n.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปี 2568 แอสเซทไวส์ คาดว่าจะมีรายได้แตะระดับ 10,000 ล้านบาท โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ต จะมีสัดส่วน 30% ของรายได้ อีก 50% มาจากธุรกิจคอนโดมิเนียม แนวราบอยู่ที่ 10% อีก 10% เป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น คอมมูนิตี้ มอลล์ แบรนด์ Mingle Mall แบรนด์ Well Aesthetic &amp; Wellness Center พื้นที่เช่าสำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทศูนย์สุขภาพและคลินิกด้านความงาม บนใจกลางย่านรัชดาภิเษก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุดขยายธุรกิจ มิงเกิ้ล สปอร์ต วิลเลจ (Mingle Sport Village at Rangsit) ศูนย์กีฬาในร่มเอาใจสายรักสุขภาพ รวมถึง Rocket Fitness โดยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในด้านการทำธุรกิจอสังหาฯ ที่ยาวนานกว่า 19 ปี ภายใต้การบริหารงานของ “บริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด” ในเครือแอสเซทไวส์ รวมถึง ZAAP World ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม และเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแอสเซทไวส์อีกด้วย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/Rson6edMgepqDh6K6yw7.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Rson6edMgepqDh6K6yw7.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ผมเชื่อว่าปีนี้ จะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเติบโตของแอสเซทไวส์ ทั้งการขยายธุรกิจสู่ทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการพัฒนาโครงการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต เพื่อมุ่งส่งมอบบ้านคุณภาพที่สร้างความสุขให้ลูกค้าอย่างแท้จริง จากกลยุทธ์ที่เราวางไว้ในปีนี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน” กรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/the-residences-38" alt="เครือบีทีเอสผนึกอนันดาฯ เปิดตัว “เดอะ เรสซิเดนเซส 38” เรสซิเดนซ์หรูติดรถไฟฟ้าทองหล่อ">เครือบีทีเอสผนึกอนันดาฯ เปิดตัว “เดอะ เรสซิเดนเซส 38” เรสซิเดนซ์หรูติดรถไฟฟ้าทองหล่อ</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

“แอสเซทไวส์” ขยายลงทุนภูเก็ตใน 3 ปี มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้าน กระจายความเสี่ยง รับเศรษฐกิจชะลอ

&nbsp; &nbsp; "แอสเซทไวส์" เดินหน้ารุกตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 เปิดตัวคอนโดมิเนียม 4 โครงการใหม่ ภายใต้ 3 แบรนด์ดัง KAVE, ATMOZ และ MODIZ มูลค่ารวม 6,450 ล้านบาท บน 4 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ศาลายา, บางแสน, ลาดพร้าว - วังหิน และเกษตร - ศรีปทุม เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกค้าทุกกลุ่ม มั่นใจดันเป้ายอดขายปีนี้โตตามเป้า 15,000 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/d7gCC6a14QBK2VPGgQSU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="d7gCC6a14QBK2VPGgQSU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1568,1046" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งปัจจัยบวกจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการท่องเที่ยวในประเทศที่โดดเด่นและคึกคัก จนส่งผลให้ไตรมาส 1 บริษัทสามารถกวาดยอดขายได้สูงถึง 3,495 ล้านบาท และเพื่อตอบรับดีมานด์กำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แอสเซทไวส์จึงเดินหน้าเปิดตัว 4 โครงการใหม่ 3 แบรนด์สำคัญ อย่าง เคฟ (KAVE), แอทโมซ (ATMOZ) และโมดิซ (MODIZ) บน 4 ทำเลศักยภาพ ศาลายา, บางแสน, ลาดพร้าว-วังหิน และเกษตร - ศรีปทุม มูลค่ารวมกว่า 6,450 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโครงการใหม่ทั้ง 4 โครงการ ประกอบด้วย&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/emkSGBXNzSEwnpc3fb6b.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="emkSGBXNzSEwnpc3fb6b.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1062" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. โครงการเคฟ ป็อป ศาลายา (Kave Pop Salaya) แคมปัสคอนโดสุดป๊อป ที่จะทำให้ชีวิตคนรุ่นใหม่ป๊อปมากกว่าใคร บนทำเลศักยภาพ ถนนศาลายา - นครชัยศรี เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 238 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ Pop art ยุค 70's เพียบพร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางถึง 26 รายการ จัดเต็มทั้ง Learn และ Play ตอบโจทย์ทุกโหมดการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร...ได้ทุกวัน ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท*​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/7NqgcDHnof518r5DFWaf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="7NqgcDHnof518r5DFWaf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="12000,8000" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน (Kave Coco Bangsaen) แคมปัสคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 974 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยตั้งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 200 เมตร มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่จัดหนัก จัดเต็มกว่า 40 รายการ และชายหาดส่วนตัว หนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้ชีวิตสุดมันส์แบบตะโกน ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท *​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/Xp7kinu4NP12KGDCtjTf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="Xp7kinu4NP12KGDCtjTf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="2048,1432" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. โครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน (Atmoz Palacio Ladprao-Wanghin) เป็นคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทสุดหรู มาพร้อมนิยามการอยู่อาศัยแบบ “YOUR PLACE IS YOUR PALACE” จำนวน 4 อาคาร 759 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพใจกลางลาดพร้าว ที่สามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่น ครบครันด้วยส่วนกลางขนาดใหญ่จัดเต็มกว่า 30 รายการ และพื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่ ที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตให้พิเศษมากกว่าเคย ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/363wmECoUtsJeWtso5xV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="363wmECoUtsJeWtso5xV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1520" style="" data-index="4"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. โครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม (Modiz Vault Kaset-Sripatum) คอนโดมิเนียมไฮไรส์ใหม่ล่าสุด จำนวน 2 อาคาร 798 ยูนิต 2,200 ล้านบาท ถือเป็นคอนโดมิเนียมหนึ่งเดียวในย่านเกษตร - ศรีปทุม ที่ตอบโจทย์ทุกความสมดุลในทุกด้าน LIVE - WORK - LEARN - RELAX และ SHOPPING โดยตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่ บนถนนเลียบคลองบางเขนตัดใหม่พหลโยธิน -วิภาวดี ซึ่งยังติดกับม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ม.ศรีปทุม เดินทางสะดวกสบาย เพียง 2 นาที ถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางบัว ครบครันด้วยส่วนกลางจัดเต็มกว่า 3 ชั้น ที่ตอบโจทย์ทุก Activity ได้ตลอดวัน ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ถ่ายทอดความตั้งใจและผ่านการคัดสรรในทุกๆ รายละเอียด ทั้งทำเล การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของเรา เพื่อให้พร้อมตอบโจทย์และสามารถใช้งานได้จริง โดยเชื่อมั่นว่าทั้ง 4 โครงการใหม่นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าดังเช่นที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งปีได้ตามเป้าหมาย 15,000 ล้านบาท ที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายกรมเชษฐ์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อนึ่ง แอสเซทไวส์ ได้กำหนดจัดงานใหญ่แห่งปี กับงาน “AssetWise EXPO’23” เพื่อแทนคำขอบคุณจากใจในโอกาสครบรอบ 19 ปี โดยนำคอนโดมิเนียม และบ้าน ทั้งโครงการใหม่และโครงการพร้อมอยู่ บนทำเลคุ้มค่า รวมกว่า 29 โครงการ นำเสนอพร้อมมอบดีลสุดพิเศษที่คุ้มค่าที่สุด โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 - 7 มิถุนายน ศกนี้ ณ ชั้น 1 โซน Bศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ที่สนใจโครงการภายใต้แบรนด์เคฟ, แอทโมซ และโมดิซ ทั้ง 4 โครงการใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.assetwise.co.th, โทร. 02-168-0000 หรือ Line: @assetwise &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/other/commentaries/insights/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81-etf-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A-warren-buffett" alt="เลือก ETF ให้ปังแบบฉบับ Warren Buffett">เลือก ETF ให้ปังแบบฉบับ Warren Buffett</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

“แอสเซทไวส์” เปิดตัว 4 โครงการใหม่บนทำเลทอง รุกตลาดอสังหาฯ 

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ สร้าง ASW โตสวนโควิดด้วย “สมดุลชีวิต-งาน”

<h2>‘แอสเซทไวส์’ ขยายแนวรุกธุรกิจอสังหาฯ หลังปี 2563 โตสวนวิกฤตโควิด คว้ารายได้กว่า 4,200 ล้านบาท สูงสุดรอบ 17 ปี เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ชิงตลาดช่วงพักฐาน ชู 4 กลยุทธ์ รับ Next Paradigm ของวงการที่อยู่อาศัยหลังโควิด-19</h2>
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 สถานการณ์โควิด-19 เป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นเดียวกัน ในประเทศไทย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เรื่องสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การบังคับใช้หลักเกณฑ์การให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) และโควิด-19 ซึ่งเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจต้องปรับตัวครั้งใหญ่

“แต่สำหรับแอสเซทไวส์ ถือเป็นปีแห่งโอกาสและการเติบโต โดยมีรายได้และกำไรสูงสุด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 17 ปี จากการพัฒนาโครงการไปแล้ว 33 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 30,400 ล้านบาท” กรมเชษฐ์กล่าว

ในปี 2563 บริษัทรับรู้รายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการต่างๆ ที่มียอดโอนรวม 6,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 4,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับปี 2562 ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 44.2 จากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีผลกำไรสุทธิ 871 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 20.6 ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

กรมเชษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้บริษัทสามารถฝ่าวิกฤตมาได้ เกิดจากวัฒนธรรมองค์กรที่มีไดนามิคสูง และเน้นกลยุทธ์ 3 ด้านหลัก คือ Focus มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งทำเล การพัฒนาโครงการและบริการต่างๆ Flexibility การปรับตัวอย่าวรวดเร็วให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และเปิดรับแนวทางการทำงานใหม่ๆ และ Fast Move นำกลยุทธ์และแผนงานไปปฏิบัติอย่างรวดเร็ว รับมือกับการแข่งขันที่รุนแรง

<img class="alignnone size-full wp-image-42926" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/กรมเชษฐ์-วิพันธ์พงษ์.jpg" alt="" width="600" height="399" />

เปิด 6 โครงการใหม่มูลค่ากว่าหมื่นล้าน

สำหรับปี 2564 แอสเซทไวส์ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,850 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเคฟ ศาลายา (Kave Salaya) โมดิซ ไรห์ม คลาวด์ (Modiz Rhyme Cloud) แอทโมซ บางนา (Atmoz Bangna) เคฟ เอวา (Kave Ava) โมดิซ ศรีราชา (Modiz Sriracha) และโครงการแนวราบ 1 โครงการ คือ บ้านภูริปุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Homeoffice Ladprao 41)

นอกจากนี้ จะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,694 ล้านบาท และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ต่อเนื่องในปี 2564 – 2566 คิดเป็นมูลค่า 7,848 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทในปี 2564 นี้

“ธุรกิจอสังหาฯในปีนี้ อยู่ในช่วงปรับฐาน จากปีที่ผ่านมา มีการเปิดโครงการน้อย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทยอยระบายสต็อกเกือบหมด เชื่อว่ายังมีโอกาสทางการตลาดให้เราแทรกเข้าไปได้ โดยเฉพาะทำเลที่บริษัทให้ความสำคัญ จะเน้นทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง” กรมเชษฐ์กล่าว

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าโครงการที่เปิดใหม่ทั้ง 6 โครงการ อยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่บริษัทให้ความสำคัญ เช่น โครงการเคฟ ศาลายา คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล และกระจายไปยังทำเลใหม่ๆ เช่น บางนา และศรีราชา โดยไม่เข้าไปแข่งขันในพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีการแข่งขันสูง แต่ยังเน้นแนวรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า รวมทั้งแพคเกจราคาที่เหมาะสม

ชูกลยุทธ์ Next Paradigm

กรมเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดขาย IPO ให้นักลงทุนทั่วไปได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งในปี 2564 บริษัทยังคงมุ่งพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการและรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งดำเนินการตามกลยุทธ์สำคัญ ภายใต้แนวคิด “The NEXT Paradigm” ที่ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต หลังสถานการณ์โควิด-19

สำหรับแนวคิด The Next Paradigm เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลักสำคัญ ได้แก่

Facilities for New Lifestyle : ในโลกยุคใหม่ “บ้าน” มีความสำคัญยิ่งขึ้น คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น ทั้งทำงาน ทำกิจกรรม และพักผ่อน ดังนั้นพื้นที่ส่วนกลาง คือ หัวใจสำคัญ บริษัทจะมุ่งเน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางให้รองรับทุกทุกกิจกรรม ทั้ง Co-working space ห้องประชุม ห้องสมุด และห้องพักผ่อน

Health Concern : แอสเซทไวส์ต่อยอดการดูแลสุขภาพของลูกบ้าน ด้วยการเพิ่ม “Health Station” ขึ้น พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ในการตรวจสุขภาพเบื้องต้นไว้ให้แก่ลูกบ้าน ได้แก่ Tytocare ซึ่งเป็นอุปกรณ์ออนไลน์ที่แพทย์ใช้ตรวจทราบอาการของผู้ป่วยผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างเรียลไทม์ รวมถึง เครื่อง BMI (เครื่องตรวจวัดค่าดัชนีมวลกาย) เครื่อง AED (เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ) และเครื่องวัดความดันชนิดสอดแขน

Innovation for Living : แอสเซทไวส์เสาะหานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดทั้งความสุขและความสะดวกสบายในที่พัก ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth Sound System เพื่อการฟังเพลงในห้องพัก พื้นที่สำหรับกิจกรรม e-sports ไปจนถึงการใช้ออนไลน์แอพพลิเคชั่นต่างๆ

Strengthen Sustainability : แอสเซทไวส์ได้จัดทำโครงการหลายอย่างเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยจัดอบรมการคัดแยกขยะ และการจัดการขยะอันตรายให้แก่นิติบุคคล พนักงาน ลูกบ้าน จัดทำพื้นที่วางถังขยะ และคัดแยกทิ้งขยะไว้อย่างชัดเจน และโครงการปันโลหิตเพื่อรับบริจาคโลหิตช่วยผู้ป่วย เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณา เพื่อตอกย้ำความแตกต่างของทั้งสามแบรนด์หลักของแอสเซทไวส์ ได้แก่ โมดิซ แอทโมซ และเคฟ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” โดยมี อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2563 เป็นพรีเซนเตอร์

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%94.html">กรุงไทยพานิชประกันภัย ดัน 3 กลยุทธ์ ปรับแนวคิดการดำเนินธุรกิจ</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

"แอสเซทไวส์" ชู Next Paradigm ชิงตลาดอสังหาฯ

ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) นำโดย แอนดี้ เฉี่ย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) จับมือ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด นำโดย กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ร่วมลงนามในการสนับสนุนสินเชื่อมูลค่า 1.3 พันล้านบาท  เพื่อพัฒนาโครงการเคฟทาวน์ รังสิต คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-รังสิต โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากถึง 20 โซน พร้อมคอมมูนิตี้ มอลล์ด้านหน้าโครงการ ตอบรับครบทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

ยูโอบี จับมือ แอสเซทไวส์ เซ็นสัญญาสนับสนุนสินเชื่อโครงการคอนโด เคฟทาวน์ รังสิต

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์  ตอกเข็ม "แอสเซทไวส์" ใน New CBD

<h2>แอสเซทไวส์ อสังหาฯ ย่านสะพานใหม่-รัชดาฯ เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีหน้า วางเป้าปี 2561 รับรู้รายได้ก้าวกระโดด 4,000 ล้านบาท กางแผนเปิดตัว 6 โครงการ คว้าที่ดินห่างโรงพยาบาลศิริราช 600 เมตรจับกำลังซื้อแพทย์พยาบาล-นักศึกษาม.ธรรมศาสตร์</h2>
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดตัวโครงการรวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,445 ล้านบาท อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม Wynn โชคชัยสี่ คอนโดฯ Kave ม.กรุงเทพ รังสิต คอนโดฯ Brown พหลโยธิน-สะพานใหม่ โดยทำยอดขายรวม 3,336 ล้านบาท รับรู้รายได้ไป 829 ล้านบาท และมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็กล็อก) รวม 5,508 ล้านบาท

สำหรับปี 2561 บริษัทวางแผนเปิดตัว 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,000-5,000 ล้านบาท อาทิ คอนโดฯ Brown ห้วยขวาง ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ Glam ลาดพร้าว 71 ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท คอนโดฯ Atmoz ลาดพร้าว 15 ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขาย 4,200 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดรับรู้รายได้ที่จะก้าวกระโดดขึ้นมานั้นเกิดจากแบ็กล็อกที่จะโอนในปีนี้ราว 4,000 ล้านบาท

<figure><img style="width: 680px; height: 488px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/045a2d232cd7883b99d32f0ae397ce07.png" alt="" width="680" height="488" /><figcaption> (ซ้าย) กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด</figcaption></figure>

นอกจาก 3 โครงการดังกล่าว แอสเซทไวส์ยังมีอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง คือ คอนโดฯ Brown ศิริราช-อิสรภาพ มูลค่าโครงการ 600-700 ล้านบาท เนื้อที่ 1 ไร่ ทำเลติดถนนใหญ่ห่างจากรพ.ศิริราช 500-600 เมตร ซึ่งกำลังออกแบบโครงการ คาดว่าจะก่อสร้างเป็นอาคารสูง 8 ชั้น ราคาเริ่มต้นราว 2 ล้านกว่าบาท หวังจับกลุ่มแพทย์ พยาบาล รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะเปิดตัวได้ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือยังอยู่ระหว่างคัดเลือกที่ดิน

กรมเชษฐ์ กล่าวต่อว่า แอสเซทไวส์วางแผนการเติบโตปี 2560-2564 ต้องการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% โดยในปี 2564 วางเป้ายอดขายที่ 7,500 ล้านบาท ซึ่งทำให้มองว่าบริษัทต้องการระดมทุนเพื่อแข่งขันในตลาด รวมถึงการผลักดันให้ระบบภายในบริษัทมีมาตรฐาน ดึงดูดให้มืออาชีพเข้ามาร่วมงานด้วยมากขึ้น จึงตัดสินใจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปัจจุบันมีที่ปรึกษาทางการเงินคือเอเชียพลัส คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ช่วงต้นปี 2562 และเปิดขาย IPO ช่วงไตรมาส 3-4/62

“ตอนนี้ที่ดินในเมืองแพงมาก สมมติถ้าเราต้องการที่ดินย่านสุขุมวิท 2 ไร่ อาจจะต้องลงทุนซื้อที่ดินไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้าน ถ้าเราไม่มีแหล่งเงินทุนนอกจากธนาคาร เงินทุนของเราคงซื้อไม่ได้ นอกจากนี้ผมยังอยากให้บริษัทได้สร้างระบบภายในที่ชัดเจน ทำให้บริษัทแข็งแกร่ง และมีทีมงานที่เชี่ยวชาญมากขึ้น”

<figure><img style="width: 680px; height: 520px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/cf79fab3df5064047716cd12647ad699.png" alt="" width="680" height="520" /><figcaption> แผนการเติบโตปี 2560-64 ของแอสเซทไวส์</figcaption></figure>

กรมเชษฐ์มองว่า แม้จะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ แล้ว แต่ช่วง 3 ปีแรกบริษัทจะยังเน้นแนวทางเดิมคือการลงทุนกลุ่มคอนโดมิเนียม low rise (ความสูง 8 ชั้น) เป็นหลัก และถ้าหากมีโอกาสซื้อที่ดินก็สนใจที่จะพัฒนาคอนโดฯ high rise ในกลุ่มราคาที่เหมาะสมกับทำเล (ปัจจุบัน คอนโดฯ ส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในกลุ่มราคา 6.5 หมื่น – 1 แสนบาท/ตร.ม.) รวมถึงการพัฒนาโครงการแนวราบซึ่งบริษัทเน้นการพัฒนาโครงการขนาดเล็กแต่อยู่ในทำเลใกล้เมืองซึ่งเป็นตลาดระดับบน อย่างที่ผ่านมาบริษัทเคยพัฒนา The Honor ประดิษฐ์มนูธรรม และปีนี้จะมีโครงการ Glam ลาดพร้าว 71

ในขณะที่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า ในช่วงแรกจะยังไม่มีการลงทุน แต่อยู่ในความสนใจระยะยาว ส่วนโครงการในต่างจังหวัดเชื่อว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน

<figure><img style="width: 680px; height: 383px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f438b0a29d356f90f0df1dfed270b8c7.png" alt="" width="680" height="383" /><figcaption> Brown ห้วยขวาง คอนโดฯ โครงการแรกของแอสเซทไวส์ที่จะเปิดตัวปีนี้</figcaption></figure>

“จุดขายของเราที่เป็นรายเล็กจะสู้กับรายใหญ่อย่างไร เรามองที่คุณภาพและการบริการหลังการขาย การก่อสร้างเราใช้วิศวกรบริษัทเดียวกับรายใหญ่ เช่น วิศวภัทร์ คุณภาพเราจึงเทียบเท่า และมีแผนก QC (ควบคุมคุณภาพ) ตรวจสอบอีกครั้ง ปัจจุบันเรามียูนิตที่เป็น zero defect (การก่อสร้างที่ไม่มีจุดผิดพลาด) ในจุดใหญ่ๆ ประมาณ 80% ของยูนิตทั้งหมด นอกจากนี้นิติบุคคลเราเลือกใช้บริษัทที่มีชื่อเสียงเพื่อป้องกันปัญหาการบริหารผิดพลาด เช่น QPM หรือพลัส พร็อพเพอร์ตี้” กรมเชษฐ์กล่าว

ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาแอสเซทไวส์ยังเสริมเรื่องการบริการหลังการขาย โดยจัดตั้ง Asset Wise Club ให้ลูกบ้านเป็นสมาชิกเพื่อรับสิทธิทำกิจกรรมร่วมกัน เน้นหนักด้านสุขภาพ ตั้งแต่การออกแบบโครงการ เช่น สระว่ายน้ำโครงการต้องมีความยาวเหมาะสมกับการออกกำลังกายได้จริง มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิในห้องชุดเพื่อให้พัดลมดูดอากาศทำงานอัตโนมัติ และล่าสุดจับมือกับสตาร์ทอัพ MeID (มี ไอดี) และ Xiaomi พัฒนา smart watch เฉพาะให้กับลูกบ้าน

&nbsp;

Forbes Facts

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ก่อตั้งบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ในปี 2547 เริ่มต้นจากการพัฒนาโครงการแนวราบในโซนรามอินทรา ก่อนจะเริ่มพัฒนาคอนโดมิเนียมอย่างจริงจังเมื่อปี 2556 จนถึงปัจจุบัน บริษัทมีพอร์ตโครงการแนวสูงราว 90% ขณะที่โครงการแนวราบลดเหลือ 10%

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events